War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2269
ตอนที่ 2,269 : ยืมหอกคืนสนองผู้ใช้! “เจ้า…ฆ่าลูกชายของข้างั้นเหรอ?!” หลังมองไปยังต้วนหลิงเทียน อาวุโสวังเซียนสัญจรเฉินตงก็ตะโกนออกมาเสียงเย็น ยังดังลั่นปานฟ้าร้อง! พาลให้แก้วหูหลายคนโดยรอบปวดแปลบไม่น้อย!! ต้วนหลิงเทียนไม่ทันได้ตอบคำอะไรเฉินตง ชายชราที่เป็นผู้นำหน่วยลาดตระเวนใหม่ที่พึ่งมาถึง ก็เร่งกล่าวรายงานเฉินตงหมายเอาหน้าออกมาทันที “เรียนอาวุโสเฉินตง มันเป็นคนฆ่าเฉินอันบุตรชายท่านจริงๆขอรับ…ทั้งฟังจากรายงานของติงเจี้ยนหง เห็นชัดว่ามันมิได้เคลื่อนไหวอะไร หากแต่อาศัยการแผ่พุ่งพลังป่นร่างเฉินอันลูกท่านจนไม่เหลือแม้แต่ซาก!!” เรียกว่าผู้นำหน่วยลาดตระเวนใหม่คนนี้ คล้ายกลัวโลกหล้ายังวุ่นวายไม่พอจริงๆ “อาวุโสเฉินตง ชายคนนี้หาญกล้าฆ่าเฉินอันลูกท่านหน้าวังเซียนสัญจรเรา เห็นชัดว่าไม่เพียงแต่มันไม่แยแสวังเซียนสัญจรของพวกเรา แต่ยังไม่เห็นท่านอยู่ในสายตา” นอกจากชายชราผู้นำหน่วยแล้ว คนในหน่วยยังเร่งราดรดน้ำมันลงกองเพลิงเพิ่มไปอีก! ทันใดนั้นลูกตาเฉินตงก็หดเล็กลง ใบหน้ายิ่งมายิ่งมืดมนดำคล้ำ! ทั่วร่างปรากฏกลิ่นอายพลังเยียบเย็นแผ่ออก ทำให้ทุกคนโดยรอบรู้สึกเสมือนตกอยู่ในหล่มน้ำแข็ง! “ไอ้หนู! เจ้ามันรนหาที่ตาย!!” แววตาที่มองจ้องต้วนหลิงเทียนของเฉินตง ฉายชัดถึงเจตนาฆ่าฟัน มันตะคอกออกมาเสียงเย็นด้วยอำมหิต พลังเซียนต้นกำเนิดเริ่มลุกโชนขึ้นมาท่วมร่างดั่งเพลิงไฟ! “ท่านพ่อ…เสียงคนผู้นี้น่ารำคาญยิ่ง…” ทว่าทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงเจื้อยแจ้วหนึ่งดังขึ้น ดึงดูดความสนใจของทุกคนไปทันที เป็นต้วนซือหลิงที่ถูกอุ้มอยู่ในวงแขนต้วนหลิงเทียนกล่าวออก หน้าตายังมุ่ยลงคล้ายกกำลังขุ่นเคืองใจ ตอนนี้ต้วนซือหลิงชักสีหน้าคล้ายผู้ใหญ่ตัวน้อย ขมวดคิ้วย่นเป็นปมมองเฉินตงด้วยสีหน้าท่าทีรำคาญ “ซือหลิงคนดีรำคาญมันหรือ…เช่นนั้นพ่อทุบตีมันให้หนีไปเลยดีหรือไม่?” ได้ยินคำของต้วนซือหลิง ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองกล่าวเสียงเบากับลูกน้อยพลางลูบหัวนางอย่างอ่อนโยน แต่ต้นจนจบต้วนหลิงเทียนไม่ได้เหลือบแลเฉินตงเลย ทำราวกับมันเป็นอากาศธาตุ! “โอหังนัก!!” และแทบจะพอดีกับที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ ชายชราผู้นำหน่วยลาดตระเวนพลันมองต้วนหลิงเทียนพร้อมตะโกนกล่าวออกเสียงเหี้ยม! “ไอ้หนู เจ้าอาศัยว่าเจ้าเป็นยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 5เปลี่ยนหรือเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนแล้วจักสามารถเพิกเฉยท่านผู้อาวุโสเฉินตงแห่งวังเซียนสัญจรของพวกเราได้หรือ?” “เจ้ามันช่างโง่เขลาเบาปัญญานัก หารู้ไม่ว่าท่านผู้อาวุโสเฉินตงของพวกเราคือยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน…อย่าได้กล่าวถึงเรื่องเจ้าเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนเลย วันนี้ต่อให้เจ้าเป็นยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนเจ้ากก็หนีความตายไม่พ้น!!” ฟังจากคำของชายชราผู้นำหน่วยลาดตระเวนแล้ว เห็นได้ชัด…มันคิดว่าต้วนหลิงเทียนต้องถูกฆ่าตายวันนี้แน่ๆ! “เฮอะ! มิน่าแปลกใจเลยที่มันหาญกล้าก่อการอุกอาจเช่นนี้ ที่แท้พลังฝึกปรืออยู่เหนือเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน” ขณะเดียวกัน เฉินตงก็อดไม่ได้ที่จะพ่นลมสบถออกมาอย่างดูแคลน กล่าวปรามาสค่อนแคะออกว่า “วันนี้ต่อให้เจ้าเป็นยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน…ข้าก็อาศัยเพียงกระบวนท่าเดียวฆ่าเจ้า!!” อาศัยเพียงกระบวนท่าเดียวฆ่าเจ้า! ต้องกล่าวเลยว่าคำพูดของเฉินตงนั้นอหังการมาก! อย่างไรก็ตามสำหรับศิษย์วังเซียนสัญจรแล้ว ล้วนเป็นวาจาไม่แปลกปลอมอันใด เพราะพวกมันเชื่อว่าเฉินตงมีพลังสามารถกระทำเช่นนั้นได้จริงๆ ‘หากข้ารู้ว่าอาวุโสเฉินตงจะมาที่นี่ ข้าคงไม่บดขยี้ป้ายหยกสื่อสารนั่นเพื่อแจ้งให้อาวุโสคนอื่นทราบให้เปลืองหรอก…’ ติงเจี้ยนหงลอบกล่าวในใจ “สารเลวน้อยตายเสีย!!” สิ้นคำ ร่างเฉินตงก็ปะทุพลังเหี้ยมหาญ มวลอากาศรอบกายแตกระเบิดออกทันใด! พร้อมกันกับเสียงแหวกฝ่าอากาศฉับไว ยังปรากฏพายุใต้ฝุ่นลูกเขื่องหนึ่งที่สภาวะคล้ายดั่งมังกรพิโรธ พุ่งเข่นฆ่าสังหารไปทางต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราด!! และเหนือพายุใต้ฝุ่นที่ดั่งมงกกรพิโรธนี้ กลับปรากฏกร่างเฉินตงยืนสองมือไพร่หลังเหยียบลมท่องวายุไปอย่างสง่างามน่าเกรงขาม ประหนึ่งจักพรรดิทอดตามองใต้หล้า!! ทั้งหมดอุบัติขึ้นในเวลาชั่วพริบตาเท่านั้น! ขณะที่ร่างเฉินตงไหววูบเลือนหายไป ศิษย์วังเซียนสัญจรเพียงรู้สึกเสมือนมีสายลมแรงตีปะทะใบหน้า และพริบตาต่อมาร่างเฉินตงก็ไปผุดโผล่อยู่ไม่ไกลต้วนหลิงเทียนแล้ว พลังเซียนต้นกำเนิดยังปะทุออกมาอย่างมหาศาล ผนึกควบรวมเป็นมวลพลังน่าพรั่นพรึงในฝ่ามือ! ทันใดนั้น! ปงงงงง!! เสียงดังสนั่นจากการตบฟาดฝ่ามือออกดังขึ้น!ปรากฏมวลพลังมหาศาลปานน้ำป่าไหลหลากโถมเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนด้วยพลังทำลายล้างหาใดเปรียบอย่างเกรี้ยวกราด!! ฝ่ามือสังหารกระบวนนี้ สภาวะพลังมาได้รุนแรงนัก!! ปง! ปง! ปง! ปง! … มวลพลังเซียนต้นกำเนิดทำลายล้างมหาศาลถาโถมมาปานน้ำป่าไหลหลาก! นอกจากเสียงระเบิดดังสนั่นตอนแรกแล้ว ยังพาลให้อากาศตามรายทางแตกระเบิดส่งเสียงดังสนั่นลั่น!! เมื่อเห็นมวลพลังเซียนต้นกำเนิดทำลายล้างอันน่ากลัวห่างร่างต้วนหลิงเทียนไม่ไกล ติงเจี้ยนหงผู้นำหน่วยลาดตระเวนหน่วยหนึ่งของวังเซียนสัญจรอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ‘นับว่ากรรมตามสนองแท้ๆ…ก่อนหน้านี้เจ้าหนุ่มชุดม่วงนั่นป่นร่างเฉินอันจนไม่เหลือแม้แต่ซาก คราวนี้บิดาของเฉินอันก็กำลังจักป่นร่างมันจนไม่เหลือแม้แต่ซาก…’ ‘ไม่เพียงแต่มันจักตาย…กระทั่งลูกสาวกับสตรีทั้ง 2ก็ไม่พ้นตายตกไปกับมันด้วย เวรกรรม…’ ในขณะที่ความคิดดังกล่าวผุดขึ้นในหัวติงเจี้ยนหงและดวงตาของมันกกำลังเจือไปด้วยความเวทนาสงสารนั้น… อยู่ดีๆสองตาของมันก็จำต้องเบิกโพลง ความเวทนาสงสารสลายหาย…ถูกแทนที่ด้วยความประหลาดใจอึ้งทึ่ง! และตอนนี้ไม่ใช่แค่เพียงติงเจี้ยนหงเท่านั้น ลูกตาศิษย์วังเซียนสัญจรในหน่วยลาดตระเวนทั้งหมด ไม่เว้นชายชราผู้นำอีกหน่วยก็หดหยีลงทันที เผยออกถึงความตกใจและไม่อยากจะเชื่อพร้อมเพรียง!! ไฉนอาการของพวกมันจึงเป็นเช่นนี้น่ะหรือ? ทั้งหมดเพราะเรื่องราวที่อุบัติขึ้นในชั่วพริบตาก่อนที่มวลพลังทำลายล้างของติงเจี้ยนหงจะโถมทำลายร่างต้วนหลิงเทียน! ในช่วงเวลาที่มวลพลังทำลายร้างของเฉินตงเจียนถล่มใส่ร่างต้วนหลิงเทียนนั้น อยู่ดีๆรอบกายต้วนหลิงเทียนก็อุบัติวังวนพลังหนึ่งขึ้นจากความว่างเปล่า วังวนพลังดังกล่าวยังหมุนคว้างเร็วรี่ เปล่งพลังดูดรั้งอันน่าพรั่นพรึงประหนึ่งจะกลืนกินได้ทั้งสวรรค์และโลก! และมวลพลังที่โถมมาปานน้ำป่าไหล่หลากของเฉินตงนั้น ไม่ทันได้โถมทำลายใส่ร่างต้วนหลิงเทียนก็ถูกวังวนพลังดูดรั้งอันน่ากลัวนั่นสูบกลืนเข้าไปฮวบๆ! “เป็นไปได้ยังไง!?” ฉากเรื่องราวเบื้องหน้าทำให้สีหน้าเฉินตงเปลี่ยนไปมหันต์ มันพยายามกระตุ้นพลังเซียนต้นกำเนิดในร่างให้ปะทุขึ้นอีกครั้ง ตาบฟาดพลังฝ่ามือระลอกสองไปหมายหนุนเสริมมวลพลังเบื้องหน้า!! ยังปะทุพลังชั่วชีวิตออกไป! พลังเซียนต้นกำเนิดหลั่งไหลออกจากร่างเฉินตงไปหนุนเสริมปานห่าพิรุณกระหน่ำ ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด! ‘เกือบได้แล้ว…’ หลังดูดกลืนพลังของเฉินตงไปพักหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนอาศัยหนึ่งห้วงคิดก็ควบคุมวังวนพลังดูดรั้งอย่างแยบคาย ทันใดนั้นเอง วังวนพลังดูดรั้งท่ามกลางความว่างเปล่าก็หมุนคว้างทวนทิศทันที!! และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่วังวนพลังดังกล่าวหมุนคว้างทวนทิศ คลื่นพลังมหาศาลที่โถมมาดั่งห่าพุริณกระหน่ำระลอกที่สองของเฉินตง ก็จำต้องปะทะกับมวลพลังมหาศาลขุมหนึ่งทันที!! ทันใดนั้น เปรี๊ยงงงงงงงงง!! เสียงระเบิดดังขึ้น พื้นเบื้องล่างถึงกับปริแตก มวลพลังอันมหาศาลสองขุมปะทะกันอย่างจัง ความว่างเปล่า ณ จุดปะทะสะท้านสะเทือนปานจะปริฉีกได้ทุกเวลา! พร้อมกันกับที่มวลพลังปะทะกันอย่างจัง ก็อุบัติสายลมรุนแรงกวาดพัดออกไปรอบทิศทางดั่งมหาพายุ!! ปง! ปง! ปง! ปง! ปง! ปง! … หลังเสียงดังสนั่นลั่นขึ้นในอากาศ พลังเซียนต้นกำเนิดระลอกที่ 2 ของเฉินตงก็กำลังจะแพ้พ่ายมวลพลังมหาศาลที่ถูกคายออกมาจากวังวนพลังที่หมุนทวนทิศนั่นของต้วนหลิงเทียน!! และอันที่จริงมวลพลังมหาศาลที่วังวนพลังทวนทิศคายออก ก็คือพลังกระบวนท่าทั้งหมดของเฉินตง!! นี่เป็นการลงมือที่ต้วนหลิงเทียนพึ่งฉุกคิดขึ้นมาและลองใช้ออก! เมื่อพลังของเฉินตงเข้าถึงระยะสำแดงเดชของปฐมเวทย์กลืนกิน ต้วนหลิงเทียนก็ลองใช้วังวนพลังดูดรั้งเพื่อกลืนกินพลังของอีกฝ่าย! ตอนแรกต้วนหลิงเทียนคิดจะกลืนกินพลังกระบวนท่าของเฉินตงมาเพิ่มพูนพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่าง แต่ไม่ทันไรเขาก็พบว่า พลังของศัตรูนั้น ช่างแตกต่างจากพลังวิญญาณฟ้าดินบริสุทธิ์ เขาไม่อาจใช้พลังเหล่านั้นมาแปรเปลี่ยนหนุนเสริมพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของเขาได้เลยจึงได้แต่อาศัยเคล็ด ‘ยืมหอกคืนสนองผู้ใช้’ เท่านั้น!! ยิ่งไปกว่านั้นมวลพลังที่ปฐมเวทย์กลืนกินจากพลังของศัตรู ก็ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป มันจะเริ่มสลายหายไปทุกขณะ… สุดท้ายต้วนหลิงเทียนจึงได้แต่ใช้ปฐมเวทย์กลืนกินในรูปแบบใหม่ ยืมหอกสนองคืนผู้ใช้ และแน่นอนว่าเมื่อใช้ในรูปแบบนี้ก็ทำให้พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของเขาไม่ได้เพิ่มพูนอะไร ทำให้ระดับพลังของเขาเสียเปรียบอีกฝ่ายอยู่บ้าง จึงมีพลังบางส่วนที่กลืนกินไม่หมด!! ทว่าแม้จะเสียเปรียบ แต่การกระทำเช่นนี้ก็ทำให้สภาวะพลังกระบวนท่าของเฉินตงสูญสิ้นไปไม่น้อย “ปราการเต่าทมิฬ!” ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนก็เร่งใช้เวทย์พลังป้องกันสืบต่อ เงาร่างเต่าทมิฬตัวเขื่องปรากฏกคลุมครอบต้วนหลิงเทียนกับพวกเอาไว้ทันที หยุดพลังฝ่ามือของเฉินตงที่หลงเหลือจากการกลืนกินไม่หมดได้อย่างง่ายดาย… “แย่แล้ว!!” เมื่อเห็นว่าพลังเซียนต้นกำเนิดในร่างลดฮวบๆไปเจียนไม่เหลือ หากแต่อีกฝ่ายคล้ายไม่ได้รับอันตรายใดๆแม้แต่น้อย กระทั่งคล้ายไม่ได้สูญเสียพลังไปมากกมาย หน้าเฉินตงก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสีไปใหญ่หลวง!! จังหวะนี้หากมันยังไม่รู้ว่าได้เตะ ‘ตอเหล็ก’ เข้าให้แล้ว เกรงว่าชีวิตที่อยู่มาหลายปีคงสูญเปล่า!! ชายหนุ่มผู้นี้ไหนเลยจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนหรือขอบเขตเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนได้!! อีกฝ่ายสมควรเป็นตัวตนที่พลังฝึกปรืออยู่เหนือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน!! หาไม่แล้วคงไม่สามารถใช้วิธีการลงมืออันน่ากลัว ดูดกลืนพลังของมันให้ย้อนมาทำร้ายมันเองได้แบบนี้!! “ข้าคือผู้อาวุโสของวังเซียนสัญจร! หากเจ้ากล้าฆ่าข้า…วังเซียนสัญจรไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่!!” เมื่อเห็นสายตาเย็นชาที่ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองมาทางมัน สีหน้าเฉินตงก็เปลี่ยนเป็นหวาดผวา เร่งคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ!! ตอนนี้เฉินตงเสมือนคนกำลังจะจมน้ำ พยายามไขว่คว้าฟางเส้นสุดท้าย และฟางช่วยชีวิตของมันก็คือวังเซียนสัญจร “อ่อ วังเซียนสัญจรจะปล่อยข้าไปหรือไม่ ข้าไม่ลำบากให้อาวุโสเฉินตงเป็นห่วงหรอก…” ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มออกมาบางๆหลังได้ยินคำของเฉินตง ทันใดนั้นเขาพลันยกมือขึ้น ปรากฏพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดปะทุออกขุมใหญ่ มวลพลังควบรวมก่อเกิดกระบี่พลังมีสภาพฉับไว พุ่งทะยานเข้าใส่เฉินตงอย่างดุร้าย!! วินาทีนี้หลังปะทุพลังออกไป 2 ระลอก พลังเซียนต้นกำเนิดในร่างเฉินตงก็ตกฉวบไปไม่มีเหลือ กระทั่งเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนก็สามารถฆ่ามันได้!! นับประสาอะไรกับกระบี่พลังมีสภาพอันร้ายกาจจากต้วนหลิงเทียน!! เปรี๊ยงงงง!! ยามเมื่อกระบี่พลังมีสภาพพุ่งทะยานแหวกความว่างไปฉับไวทะลวงเข้าร่างเฉินตงจนเกิดการระเบิดขึ้น ความว่างเปล่า ณ จุดนั้นก็สะเทือนจนภาพเรื่องราวบิดเบือน! ส่วนด้านเฉินตงนั้น ได้อันตรธานหายไปกับแรงระเบิดอย่างไร้ร่องรอย… คงเหลือก็แต่แหวนพื้นที่วงหนึ่ง ที่กำลังร่วงตกลงมาในอากาศ… วูบ! พลังไร้สภาพขุมหนึ่งฉกแหวนที่กกำลังร่วงตก ให้ลอยเข้าไปหาต้วนหลิงเทียน… มองไปยังร่างชายหนุ่มชุดม่วงที่หงายมือรับแหวนพื้นที่อย่างไร้เรื่องราว ศิษย์วังเซียนสัญจรในจุดเกิดเหตุได้แต่เผยสีหน้าหวาดผวาพรั่นกลัวเท่านั้น…
คอมเม้นต์