War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2268
ตอนที่ 2,268 : อาวุโสวังเซียนสัญจร! ชายวัยกลางคนผู้นำหน่วยลาดตระเวนของวังเซียนสัญจรมองต้วนหลิงเทียนอย่างเลื่อนลอย ลึกลงไปในแววตาของมันนอกจากความหวาดกลัวแล้วยังเผยความหวาดผวาเหลือเชื่อ! ความหวาดกลัวนั้นเกิดจากพลังฝีมืออันร้ายกาจของชายหนุ่มชุดม่วง ความหวาดผวาเหลือเชื่อเกิดจากเรื่องที่เห็นอีกฝ่ายหาญกล้าฆ่าคนวังเซียนสัญจร หน้าวังเซียนสัญจรแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่มันเห็นคนกล้าฆ่าศิษย์วังเซียนสัญจรหน้าวังอย่างอุกอาจแบบนี้! ถึงแม้ว่าในประวัติศาสตร์ของวังเซียนจะมีคนบ้าคลั่งเช่นนี้อยู่บ้าง แต่ไร้ซึ่งข้อยกเว้นใด้ๆคนบ้าคลั่งเหล่านั้นล้วนถูกยอดฝีมือของวังเซียนสัญจรฆ่าหมดสิ้น! ‘เฉินอันไม่พ้นต้องกล่าววาจาใดไม่เข้าหูเจ้าหนุ่มผู้นี้แน่…สิ่งที่ทำให้เจ้าหนุ่มชุดม่วงผู้นี้มีโมโหมิพ้นฝาแฝดคู่นั้น’ ‘หรือ…ฝาแฝดคู่นั้นจะเป็นสตรีของมัน’ ศิษย์หนุ่มที่เหลือฉุกคิดได้ถึงบางสิ่ง มันย่อมรู้จักนิสัย เฉินอัน ศิษย์วังเซียนสัญจรที่ถูกฆ่าตายไปดี ด้วยเหตุนี้มันจึงรู้ว่าไม่พ้นอีกฝ่ายบังเกิดตัณหาหลังได้เห็นสตรีงามหมดจดทั้ง 2 แน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกไร้ภูมิหลังแล้ว เฉินอัน ไม่เคยเห็นหัวใดๆ… ‘เฉินอันมันคงเห็นว่า ในเมื่อคนพวกนี้คิดมาเข้าร่วมวังเซียนสัญจร ไม่พ้นพวกเจ้าหนุ่มชุดม่วงคงเป็นแค่ปีศาจมนุษย์ไร้ภูมิหลัง…แต่เกรงว่าร้อยพันหมื่นคาดมันก็ไม่เคยคิดว่าวันนี้จะเตะเอาเข้าเตอเหล็ก!’ ศิษย์หนุ่มหน่วยลาดตระเวนที่เหลือของวังเซียนสัญจรได้แต่ลอบไว้อาลัยให้เฉินอันที่ตกตายอย่างลับๆ ขณะเดียวกัน ยามมองไปยังชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าอีกครั้ง แววตาก็เผยความหวาดกลัวจับใจ ชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ร้ายกาจมาก! มันไม่เห็นว่าอีกฝ่ายลงมืออย่างไรด้วยซ้ำ อาศัยแค่การแผ่พุ่งพลังออกจากร่างกลับเข่นฆ่าเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย ไม่ต่างใดจากตัดหญ้าฆ่าไก่! ‘ชายหนุ่มชุดม่วงคนนี้กระทั่งพี่เจี้ยนหงยังไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบโต้…แถมพี่เจี้ยนหงก็นับเป็นยอดฝืมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยน ในเมื่อไม่อาจตอบสนองใดได้แบบนี้…น่ากลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่แค่ยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยน!’ ‘เช่นนั้นเกรงว่าชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้อาจจะเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน กระทั่งเผลอๆอาจจะเป็นถึงเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน!’ ศิษย์หนุ่มหน่วยลาดตระเวนลอบอนุมานในใจ ‘อย่างไรก็ตามต่อให้มันเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนก็เท่านั้น…กล้าฆ่าศิษย์วังเซียนสัญจรอย่างอุกอาจหน้าวังเซียนสัญจรแบบนี้ อย่างไรวันนี้มันก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต! ไม่มีทางรอดพ้นความตายไปได้!!’ คิดถึงตรงนี้ ศิษย์หนุ่มวังเซียนก็ไม่คิดสงสัยแม้แต่น้อย ยามมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง แววตายังฉายชัดถึงความเวทนาสงสาร ปกติแล้วหากเป็นยอดฝีมือที่มีพลังฝึกปรือตั้งแต่เซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนขึ้นไป ขอเพียงมีใจอยากเข้าร่วมวังเซียนสัญจร และเป็นมนุษย์สายเลือดบริสุทธิ์ย่อมสามารถเข้าร่วมได้ทันที! กระทั่งสำหรับผู้เข้มแข็งเช่นนี้ วังเซียนสัญจรยังให้การต้อนรับและดูแลอย่างดี อนิจจาการกระทำของชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้า ในระดับหนึ่งเสมือนตบหน้าลูบคมวังเซียนสัญจรเข้าให้แล้ว หากวังเซียนสัญจรไม่ฆ่าอีกฝ่ายเสีย ก็เสมือนถูกหมิ่นหยามศักดิ์ศรีให้อัปยศอดสูแล้วไม่ตอบโต้!หากเรื่องนี้แพร่ออกไปไม่พ้นได้เสื่อมเสียชื่อเสียง!! เช่นนั้นมันไม่คิดว่าวันนี้ชายหนุ่มชุดม่วงจะรอดชีวิตไปได้ “หากเจ้าคิดจะเรียกใครมา ก็รีบๆเรียกเข้าเถอะ…ป้ายหยกสื่อสารนั่นไม่ใช่เจ้ากำมันอยู่นานแล้วหรือไง?” ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองศิษย์วังเซียนสัญจรที่เป็นชายวัยกลางคนด้วยสายตาเฉยเมย กล่าวออกเสียงเรียบ ราวกับพูดถึงเรื่องธรรมดาๆ ในเผ่าปีศาจนั้นไร้ผู้บำเพ็ญเต๋า จึงไม่มียันต์สื่อสารอะไร อย่างไรก็ตามเผ่าปีศาจยังมีสิ่งของอย่างป้ายหยกสื่อสาร แม้นี่จะไม่ใช่สิ่งที่เผ่าปีศาจผลิตขึ้นมาเอง แต่ในเมื่อตอนนี้อีกฝ่ายได้ยึดครองภูมิภาคเบื้องล่างเอาไว้แล้ว ของแบบนี้ไหนเลยจะหายาก “เจ้า…” ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ลูกตาชายวัยกลางคนศิษย์วังเซียนสัญจรก็หดเล็กลงทันที มันไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะพบเห็นเรื่องที่มันลอบกำป้ายหยกสื่อสารไว้ในมือ!! เหตุผลที่มันไม่ใช้ป้ายหยกสื่อสารนี่เพื่อเรียกคนมาแต่แรก ไม่ใช่ว่าไม่อยากใช้! แต่มันกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายพบเห็นยามที่มันบดขยี้ป้ายหยก!! ถึงตอนนั้นด้วยพลังฝีมืออันร้ายกาจของชายหนุ่ม ไม่เพียงแต่จะทำลายพลังอาคมสื่อสารที่พุ่งออกไปได้ทัน กระทั่งชีวิตของมันคงไม่อาจรักษาเอาไว้ได้! ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มเบื้องหน้าสูงต่ำเพียงใดมันก็ได้เห็นกับตา! พลังระดับนั้นคิดฆ่ามันย่อมง่ายดายดั่งตัดหญ้าฆ่าไก่! ด้วยกริ่งเกรงพลังฝีมือของชายหนุ่มชุดม่วง มันจึงไม่กล้าทำลายป้ายหยกสื่อสาร เพียงรอเวลาให้หน่วยลาดตระเวนอื่นผ่านมาทางนี้และดึงความสนใจของชายหนุ่มชุดม่วงไป มันค่อยบดป้ายหยกสื่อสาร กระทั่งยังจะส่งเสียงผ่านพลังให้อีกหน่วยรู้เรื่อง ทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ใหชายหนุ่มชุดม่วงหยุดสัญญาณอาคมที่จะส่งไป แต่ไม่คิดเลย ชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ได้ค้นพบว่ามือมันถือป้ายหยกสื่อสารไว้แต่แรก เพียงแค่ยังไม่ได้ใช้… “หากเจ้าคิดจะเรียกใครมา ก็รีบๆเรียกเข้าเถอะ” ขณะเดียวกันวาจาสบายๆของต้วนหลิงเทียนพลันดังขึ้นในหูมันอีกครั้ง แต่มันก็ยังไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆ ผู้ใดจะไปรู้ว่าอีกฝ่ายจะหยุดสัญญาณอาคม แล้วฆ่ามันทันทีหรือไม่? “ติงเจี้ยนหง ไฉนพวกเจ้าเหลือกันอยู่สองคนเล่า หืม? แล้วเจ้าพวกนี้เป็นผู้ใดกัน?” ในขณะที่ศิษย์ชายวัยกลางคนของวังเซียนสัญจร ติงเจี้ยนหง กำลังลำบากใจ เสียงชราหนึ่งพลันดังมาแต่ไกล ทำให้ติงเจี้ยนหงบังเกิดความโล่งใจไม่น้อย ในที่สุดหน่วยลาดตระเวนหน่วยอื่นของวังเซียนสัญจรก็มาถึงเสียที! วูบ! วูบ! วูบ! พร้อมกันกับเสียงของสายลมแว่วดัง ปรากฏร่าง 3ร่างขึ้น เป็นชายชรา ชายกลางคน และชายหนุ่ม ในบรรดาทั้ง 3 มีชายชราเป็นหัวหน้า และผู้ที่กล่าวถามเมื่อครู่ก็เป็นมัน แกร่ก! ในขณะที่ต้วนหลิเทียนหันไปมอง 3 ร่างผู้มาใหม่อย่างไม่รู้ตัว ติงเจี้ยนหงที่เฝ้ารอโอกาสนี้มานานก็เร่งบดขยี้ป้ายหยกสื่อสารในมือทันที! เมื่อป้ายหยกดังกล่าวแตกก็ปรากฏพลังอาคมขุมหนึ่ง พุ่งทะยานขึ้นฟ้าไปดั่งลำแสงเลี้ยวหายไปในวังเซียนสัญจร!! วูบ! วูบ! วูบ! ความเคลื่อนไหวของแสงอาคมสื่อสารไม่ใช่เรื่องเล็ก ทำให้หน่วยลาดตระเวน 3 คนผู้มาใหม่หน้าเปลี่ยนสีไปทันที และตอนนี้พอเห็นว่าติงเจี้ยนหงที่บดขยี้ป้ายหยกไปก็แลดูสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่ ผู้มาใหม่จึงเห็นชัดว่าอีกฝ่ายสมควรตกที่นั่งลำบาก! นอกจากนั้นปกติแล้วหน่วยลาดตระเวนจะมีทั้งสิ้น 3คน ทว่าตอนนี้นอกจากหัวหน้าอย่างติงเจี้ยนหงแล้ว ก็เหลือคนในหน่วยลาดตระเวนแค่คนเดียวเท่านั้น… “ทุกคน…เจ้าหนุ่มชุดม่วงผู้นี้พึ่งฆ่าเฉินอัน!” ตอนนี้เองเสียงของติงเจี้ยนหงพลันดังขึ้นในหูของหน่วยลาดตระเวนทั้ง 3 ที่พึ่งมาถึง น้ำเสียงไม่แปลกปลอมของติงเจี้ยนหง ย่อมทำให้หน้าทั้ง 3 เปลี่ยนสีไปทันที “ตอนมันลงมือ ข้าไม่มีแม้แต่โอกาสจะตอบโต้ด้วยซ้ำ…กว่าข้าจะรู้ตัวร่างเฉินอันก็แหลกสลายไปไม่เหลือแม้แค่ซาก จะเหลือก็แต่แหวนพื้นที่เท่านั้น” “อีกทั้งแต่ต้นจนจบมันเพียงยืนนิ่งๆมิได้เคลื่อนไหวอันใด…ข้าสงสัยว่าอย่างน้อยๆมันจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน…กระทั่งอาจเป็นได้ถึงเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน!” ก่อนที่ทั้ง 3 ผู้มาใหม่จะทันได้ฟื้นตัว ติงเจี้ยนหงก็ส่งเสียงผ่านพลังไปกล่าวบอกพวกมันอีกรอบ ยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน? เซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน!? จังหวะนี้ทั้ง 3 พากันตกใจนัก ร่างของพวกมันแข็งเกร็งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เพราะในบรรดาพวกมันผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างชายชราผู้เป็นหัวหน้าหน่วย ก็เป็นแค่ยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนเท่านั้น ไม่ต้องกล่าวถึงตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนเลย กระทั่งแค่ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 5เปลี่ยนก็ฆ่าพวกกมันได้ง่ายๆแล้ว! ตอนนี้เองสายตาของต้วนหลิงเทียนพลันละจากทั้ง 3 หันกลับมามองติงเจี้ยนหง เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนมองมา ติงเจี้ยนหงก็รู้สึกหวาดกลัวอีกครั้ง แต่มันก็อดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้ พอคิดว่าอย่างไรก็ได้ส่งสัญญาณออกไปแล้ว ตอนนี้แม้มันจะตาย แต่มันก็ตายอย่างคุ้มค่า ในขณะที่ติงเจี้ยนหงคิดว่าคงเหลือเพียงหนทางตายสถานเดียว และทำได้แค่รอเวลาตายนั้น เสียงเกียจคร้านของต้วนหลิงเทียนพลันดังขึ้น และสร้างความตกตะลึงให้ติงเจี้ยนหงนัก “ข้าให้เจ้าบดป้ายหยกสื่อสารนั่นตั้งนานแล้ว แต่เจ้าพึ่งมาทำมันตอนนี้…หรือเจ้ากังวลว่าข้าจะขัดขวางอาคม? หรือเจ้าคิดว่าข้าจะฆ่าเจ้าถ้าทำแบบนั้น?” นี่คือคำพูดของต้วนหลิงเทียน ‘อะไร…มันไม่กลัวข้าส่งข่าวงั้นเหรอ?’ จังหวะนี้ต่อให้ความรู้สึกติงเจี้ยนหงจะช้าเพียงใด มันก็ยังตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ ด้วยเหตุนี้ใจของติงเจี้ยนหงจึงเต้นไปไม่เป็นจังหวะในใจยังอดสับสนไมได้ ‘เจ้านี่มันไม่กลัวตายหรือไร?’ ‘ที่แท้มันไปเอาความมั่นใจมากจากที่ใดกันแน่ ถึงได้กล้ากระทำเช่นนี้?’ … ในขณะที่ติงเจี้ยนหงกำลังงุนงง เสียงปานฟ้าร้องหนึ่งก็ดังมาแต่ไกล “อันเอ๋อ!!” เสียงที่ดังปานฟ้าร้องนี้นอกจากโทสะแล้วยังเต็มไปด้วยความเศร้าโศกถึงขีดสุด ‘จริงสิ ไฉนข้าถึงลืมมันไปได้?’ ได้ยินเสียงดังกล่าว สองตาติ้งเจี้ยนหงพลันลุกวาวขึ้นมาทันที ราวกับมันพึ่งนึกอะไรขึ้นได้ บิดาของ เฉินอัน คนในหน่วยลาดตระเวนที่ถูกชายหนุ่มชุดม่วงฆ่าตายไป จะอย่างไรก็คือชนชั้นอาวุโสของพวกมัน! อีกทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่พลังฝึกปรือบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนแล้ว! “อาวุโสเฉินตง!” “อาวุโสเฉินตง!” … ไม่นานชายวัยกลางคนรูปร่างปานกลางที่เหินมาจากกฟ้าไกล ก็บรรลุถึงเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆ มันหันไปมองติ้งเจี้ยนหงและคนอื่นๆของวังเซียนสัญจรเป็นการทักทายทันที สาเหตุที่ชายวัยกลางคนผู้นี้รุดร่างมาที่นี่ นอกจากเรื่องลูกชายที่ตายตกแล้ว เพราะการรวมตัวของคนกลุ่มนี้ดึงดูดสายตาของมัน และชายวัยกลางคนผู้นี้ก็คืออาวุโสวังเซียนสัญจร เฉินตง! นอกจากนั้นมันยังเป็นบิดาของเฉินอันที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าทิ้งไปก่อนหน้า “ติงเจี้ยนหง! ข้าจำได้ว่าลูกชายของข้าอยู่หน่วยลาดตระเวนเดียวกันกับเจ้าไม่ใช่หรือไร…แล้วลูกข้าไปอยู่ที่ใด?” เฉินตงเพิกเฉยการทักทายทั้งหมด เพียงมองจี้ถามติงเจี้ยนหงออกมาเสียงเย็น สายตายังมากอำมหิตนัก “เรียนอาวุโสเฉินตง…เฉินอันถูกฆ่าตายแล้ว” สายตาเยียบเย็นของเฉินตง ย่อมทำให้ติงเจี้ยนหงรู้สึกเหน็บหนาวนัก ราวกับตกลงไปในหล่มน้ำแข็งก็ไม่ปาน หากแต่มันยังกัดฟันตอบกลับไป ขณะที่มันกัดฟันตอบ ศีรษะยังหันไปชำเลืองมองต้วนหลิงเทียน “เจ้า…ฆ่าลูกชายของข้างั้นเหรอ!?” ทันใดนั้นสายตาของเฉินตงก็ละออกไปทำให้ติงเจี้ยนหงรู้สึกโล่งใจนัก และขณะที่ติงเจี้ยนหงรู้สึกโล่งใจ เฉินตงก็หันไปมองจ้องต้วนหลิงเทียน!
คอมเม้นต์