War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2188
ตอนที่ 2,188 : เบาะแสเค่อเอ๋อแม่ลูก “ระหว่างเราก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอันใด?” ได้ยินประโยคนี้ของต่งหยวนจิ้น ต้วนหลิงเทียนอดยิ้มไม่ได้ “เจ้าส่งคนไปหาโอกาสฆ่าข้า…แต่มาตอนนี้เจ้าบอกว่าระหว่างเราไม่มีเรื่องบาดหมาง? หรืเจ้าคิดว่า…ทั้งหมดนี่เกิดจาก ต่งหลิน ลูกชายเจ้าคนเดียว? ดังนั้นระหว่างเจ้ากับข้าจึงถือว่าไม่มีเรื่องบาดหมาง?” “ใช่ๆ!” ต่งหยวนจิ้นเร่งพยักหน้ารับ “ต่งหยวนจิ้น หากเจ้ายอมรับความตายอย่างมีศักดิ์ศรี บางทีข้าอาจจะยังให้ความเคารพเจ้าบ้าง…” ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเบา และเมื่อพูดจบเขาก็ลงมือทันที ซู่มม!! เป็นต้วนหลิงเทียนยกมือขึ้นมาสะบัดออกไปเบาๆราวปัดแมลงวัน หากแต่พลังเซียนสุริยันมหาศาลขุมหนึ่งพลันปะทุระเบิดออกจากฝ่ามือ ก่อเกิดเป็นหัตถ์พลังมีสภาพสีทองสว่างเจิดจ้า แหวกอากาศตรงเข้าใส่ร่างต่งหยวนจิ้น! “ไม่..!!” กว่าต่งหยวนจิ้นจะทันได้ตอบสนองเรื่องราว หัตถ์พลังมีสภาพของต้วนหลิงเทียนก็อยู่เบื้องหน้าเจียนถึงตัวมันอยู่รอมร่อ! และไม่ทันที่มันจะได้กล่าวจบคำ หัตถ์พลังก็ตบฟาดเข้าร่างมันทันที!! ตูมมมมมม!! เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วแผ่นฟ้า ร่างต่งหยวนจิ้นถูกพลังฝ่ามือของต้วนหลิงเทียนระเบิดสังหารตกตายคาที่! ทันใดนั้นฉากเรื่องราวเหนือฟ้ากลายเป็นเงียบงันไร้สำเนียง… ถึงแม้ว่าหลายต่อหลายคนจะเตรียมใจรับฉากเรื่องราวเบื้องหน้าไว้บ้างแล้ว… อย่างไรก็ตามพอได้เห็นภาพต้วนหลิงเทียนป่นร่างต่งหยวนจิ้นในฝ่ามือเดียวจริงๆ พวกมันก็อดตื่นตระหนกกันไม่ได้ ต่งหยวนจิ้นคนนั้น จะพูดอย่างไรมันก็คือรองจ้าวหอคุมกฏ เป็นตัวตนระดับสูงคนหนึ่งของลัทธิบูชาไฟ สถานะของมันเรียกว่าเทียบได้กับผู้อาวุโสเพลิงทอง มีหน้ามีตาเหนือกว่าต่งหลินบุตรชายนัก อย่างไรก็ตาม ตัวตนเช่นนี้เพียงแค่ต้วนหลิงเทียนบอกว่ามันต้องตาย มันก็ต้องตายจริงๆ! “ต้วนหลิงเทียน! เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ข้าจะเข้าพบท่านจ้าวลัทธิเพื่อรายงานโดยตรง! ให้ท่านจ้าวลัทธิออกหน้าเพื่อหอคุมกฏของพวกเราเป็นการส่วนตัว!!” เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนยังคงฆ่าต่งหยวนจิ้นรองจ้าวหอคุมกฏของมันอย่างไม่เกรงกลัว ในฐานะจ้าวหอคุมกฏแล้ว เหลิ่งอิงย่อมบังเกิดความคับแค้นใจถึงขีดสุด มันมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย็นชาปานมีดดาบ!! เรียกว่าหากสายตาของมันฆ่าคนได้ ไม่ทราบต้วนหลิงเทียนจะตายไปกี่รอบ! “ตามใจท่าน” อย่างไรก็ตาม ได้ยินคำพูดของเหลิ่งอิง ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงไม่หวั่นเกรง ยังยักไหล่กล่าวตอบไปด้วยสีหน้าสบายๆ คล้ายไม่ได้แยแสแม้แต่น้อย ว่าจ้าวหอคุมกฏจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องถังซวนหรือไม่… และอันที่จริงเขาก็ไม่กลัวแม้แต่นิดเดียว! “หึ!” เห็นทีท่าดังกล่าวเหลิ่งอิงก็ได้แต่พ่นลมออกจมูกเสียงเย็น จากนั้นก็เหินร่างขึ้นฟ้าหายลับไปในม่านเมฆ หลังม่านเมฆบนฟ้าสูงสุด ย่อมเป็นสถานที่อยู่ของจ้าวลัทธิบูชาไฟ… “เจียงฉิน!” หลังจากที่เหลิ่งอิงจากไป สายตาต้วนหลิงเทียนก็เบนไปตกยังร่างเจียงฉินอีกครั้ง ก่อนที่จะเรียกชื่อมันออกมาเสียงดัง ด้านเจียงฉินได้ยินดังนั้นก็หวาดกลัวจนตัวสั่น หน้ามันซีดลงแทบไร้สีเลือด มันไม่ทราบจริงๆว่าไฉนดาวมฤตยูดวงนี้ถึงได้เรียกชื่อมัน? อีกฝ่ายคิดทำอะไรมันกันแน่? ในใจมันได้แต่ลอบภาวนาอธิษฐานให้ตัวเอง… หวังว่าดาวมฤตยูดวงนี้จะทุบตีมันเบาๆพอหอมปากหอมคอ มันทำใจเตรียมพร้อมรับการทุบตีเรียบร้อย… อย่างไรก็ตามวินาทีต่อมามันก็พบว่าเป็นมันคิดมากไปเอง อีกฝ่ายไม่ได้คิดจะทำร้ายมันแต่จากสายตาไม่พ้นคิดจะใช้มันทำงานอะไรบางอย่าง “ข้าอยากพบก่านหรูเยี่ยน” ต้วนหลิงเทียนที่มองเจียงฉินอย่างเฉยเมย พลันกล่าวออกเบาๆ ด้วยน้ำเสียงไม่อนุญาตให้ขัดใจ “ก่านหรูเยี่ยน?” ได้ยินคำสั่งของต้วนหลิงเทียน ลูกตาเจียงฉินก็หดเล็กลงทันใด จากนั้นมันก็ถามออกมาอย่างไม่รู้ตัว “เจ้า…เจ้ารู้จักก่านหรูเยี่ยนด้วยหรือ?” “นางเป็นสหายข้า” ต้วนหลิงเทียนมองจ้องเจียงฉินเขม็งพลางกล่าว ทันใดนั้น เจียงฉินคล้ายถูกอัสนีฟาดผ่า คนนิ่งอึ้งไปทันใด ต้วนหลิงเทียนคนนี้ ที่แท้เป็นสหายกับก่านหรูเยี่ยนงั้นเหรอ!? มาตอนนี้… มันพลันตระหนักได้ทันทีว่า…ไม่พ้น 9 ใน 10 ส่วนที่ต้วนหลิงเทียนทุบตีทำร้ายมันก่อนหน้า ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเห็นหน้ามันแล้วขัดใจขวางหูขวางตาอะไรหรอก! แต่เป็นเพราะมันเป็นคนที่จับก่านหรูเยี่ยนไปขังในหอคุมกฏ!! ถึงแม้ว่ามันจะกระทำตามหน้าที่ และไม่ได้ทำเพราะความต้องการส่วนตัว ทว่าเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนคิดทำอะไรสักอย่างเพื่อสหายก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ไม่ยาก “นำทางไป!” เมื่อเห็นเจียงฉินนิ่งค้างตัวแข็งทื่อไปราวท่อนไม้ ต้วนหลงเทียนก็กล่าวสั่งออกมาเสียงแข็งปานตะคอกด้วยความรำคาญ เสียงต้วนหลิงเทียนพอดังเข้าหูเจียงฉิน ก็เสมือนน้ำเย็นถังใหญ่ราดรดลงหัว ปลุกสติเจียงฉินทันที พอมันรู้สึกตัวมันก็เร่งมองไปยังต้วนหลิงเทียนพลางกล่าวออกด้วยรอยยิ้มขื่นขมอับจน “เรื่องของก่านหรูเยี่ยนค่อนข้างซับซ้อนอยู่บ้าง…นางถูกใต้เท้าจ้าวลัทธินำตัวออกจากหอคุมกฏเมื่อไม่นานมานี้เอง…” “ท่านจ้าวลัทธิพาตัวนางไปหรือ?” ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วกล่าวถามออกมาเสียงเข้ม “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เจียงฉินย่อมรู้เป็นธรรมชาติ ว่าสายตาที่มองมาเยียบเย็นนี้ของต้วนหลิงเทียนหมายความว่าอะไร…เป็นสายตาเดียวกันกับที่อีกฝ่ายใช้มองต่งหยวนจิ้นก่อนฆ่าคน! เช่นนั้นมันจึงไม่กล้าละเลย เร่งตอบคำถามของต้วนหลิงเทียนอย่างไม่กล้ารอช้าหรือคิดปิดบังอะไร “ข้าได้ยินมาว่า ธิดาเทพเป็นคนขอให้ท่านจ้าวลัทธิพาตัวนางไป…ส่วนรายละเอียดอื่นใด ข้าเองก็ไม่รู้ชัด…” “ธิดาเทพ?” ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วเป็นปม “ธิดาเทพคนไหนอีก?” แวบแรกเขาก็คิดว่าธิดาเทพที่เจียงฉินกล่าวสมควรเป็น เค่อเอ๋อ ภรรยาเขา แต่พอคิดอีกทีก็พบว่าไม่น่าใช่เพราะเค่อเอ๋อเองก็สมควรถูกขังอยู่ในหอคุมกฏเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นฟังจากที่เจียงฉินกล่าว ดูเหมือนก่านหรูเยี่ยนจะถูกจ้าวลัทธิบูชาไฟพาตัวไป เพราะคำสั่งของธิดาเทพคนนั้นด้วยซ้ำ…! แต่ทว่าพอฉุกคิดได้ว่าสำหรับลัทธิบูชาไฟตอนนี้ เค่อเอ๋อ ภรรยาเขาสมควรเป็นคนบาป! คงยากที่จะได้รับการนับหน้าถือตาหรือมีสิทธิ์มีเสียงอะไรอีก นับประสาอะไรกับเรียกร้องอะไรแบบนี้จากจ้าวลัทธิบูชาไฟ… เกรงว่าแม้นางจะเรียกร้อง แต่จ้าวลัทธิบูชาไฟก็คงไม่สนใจ “เจียงฉิน ระวังปากของเจ้า!” รองจ้าวหอคนอื่นๆเมื่อเห็นว่าเจียงฉินกำลังจะเปิดเผยเรื่องของธิดาเทพออกมา ก็หน้าเปลี่ยนสีเร่งกล่าวตะโกนออกมาเสียงเข้มทันที ต้องทราบด้วยว่า เรื่องที่ธิดาเทพถูกจ้าวลัทธิพาตัวออกจากหอคุมกฏนั้น เป็นเรื่องที่รู้กันในหมู่ระดับสูงของลัทธิบูชาไฟแค่ไม่กี่คนเท่านั้น… ถึงแม้ว่าตัวถังซวนเองจะไม่ได้กำชับว่าห้ามแพร่งพรายเรื่องราวนี้ออกไป ทว่าต่อให้ไม่ต้องมีการกล่าวเตือนไว้แต่แรก ทั้งหมดก็รู้ดีว่าเรื่องพรรค์นี้ไม่ควรเปิดเผยต่อสาธารณะ! ในลัทธิบูชาไฟรู้กันดีว่าธิดาเทพที่หายตัวไปเมื่อหลายปีก่อนนั้น ตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากคนบาป และก่อนหน้านี้นางก็ถูกขังไว้ในหอคุมกฏเพื่อรอให้จ้าวลัทธิบูชาไฟออกจากการปิดด่านเพื่อตัดสินโทษของนาง ทว่าตอนนี้แม้จ้าวลัทธิบูชาไฟจะออกจากการปิดด่านมาสักพักแล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววจะตัดสินโทษนางแต่อย่างไร… ไม่เพียงไม่ตัดสินโทษ… กระทั่งยังพาธิดาเทพออกจากหอคุมกฏด้วยตัวเองด้วยซ้ำ…! หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป แน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของจ้าลัทธิบูชาไฟอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงตอนนั้นไม่พ้นต้องมีคนกล่าวนินทาลับหลังแน่นอน ว่าจ้าวลัทธิบูชาไฟไม่สนใจกฏอันใด ใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อความต้องการส่วนตัว นู่นนี่นั่น ฯลฯ ถึงแม้ว่าในฐานะจ้าวลัทธิบูชาไฟ ถังซวนเองคิดจะทำอะไรย่อมไม่มีใครในลัทธิบูชาไฟกล้าขัดใจ ทั้งตัวมันเองก็ไม่มีใครมาบังคับให้ทำตามกฏได้…แต่นี่ก็เป็นเรื่องราวภายใน! หากเรื่องแบบนี้ล่วงรู้ถึงหูคนนอก ไม่ทราบทุกคนจะมองลัทธิบูชาไฟเป็นอะไร… ในฐานะ 1 ใน 3 ลัทธิอันเป็นมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบน ลัทธิบูชาไฟเองก็ต้องรักษาภาพพจน์และชื่อเสียงอันดีงามไว้เช่นกัน “ขะ…ข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว!” เมื่อได้ยินคำเตือนของรองจ้าวหอคุมกฏอีกคน เจียงฉิน ก็นึกถึงความสำคัญเรื่องนี้ขึ้นมาได้ สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที เมื่อครู่ด้วยเพราะตัวมันหวาดกลัวต้วนหลิงเทียนจับใจ พอถูกต้วนหลิงเทียนจี้ถาม มันก็เผลอตอบไปตามตรง โดยที่ไม่ทันได้คิดอะไรทั้งสิ้น… ตอนนี้พอได้ยินเสียงเตือนของรองจ้าวหอคุมกฏที่เหลือ มันจึงรู้ตัวทันทีว่าเมื่อครู่เป็นมันวู่วามไปขนาดไหน “ธิดาเทพ? ธิดาเทพอันใดหรือ?” เช่นนั้นมันก็ได้แต่ตีหน้ามึนกับคำถามของต้วนหลิงเทียนออกมา… “เฮอะ!” เมื่อเห็นว่าเจียงฉินหาเรื่องบ่ายเบี่ยงกันต่อหน้าต่อตา ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเย็นด้วยความไม่พอใจ ทำให้เจียงฉินบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง ยังคิดจะรีบกล่าวอธิบายให้ต้วนหลิงเทียนฟังด้วยการส่งเสียงผ่านพลังทันที อย่างไรก็ตามไม่ทันที่เจียงฉินจะได้ส่งเสียงอะไร มันก็พบว่าร่างต้วนหลิงเทียนวูบหายไปจากสายตามันเสียแล้ว ไปปรากฏตัวอีกที ก็อยู่เบื้องหน้ารองจ้าวหอคุมกฏที่ตะโกนเตือนเมื่อครู่ “ในเมื่อเจ้าไม่ให้มันพูด…เช่นนั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว!” ต้วนหลิงเทียนมองรองจ้าวหอคุมกฏเบื้องหน้าด้วยสายตาเฉยชา เสียงกล่าวยังเยียบเย็นจับใจ ขณะเดียวกันจิตสังหารอำมหิตอันน่าสะพรึงกลัวขุมหนึ่งก็เอ่อล้นออกจากร่าง แผ่ไปปกคลุมครอบร่างรองจ้าวหอผู้นั้นทันที รองจ้าวหอคุมกฏที่เหลือไม่คิดไม่ฝันเลยว่าการตะโกนกล่าวเตือนเจียงฉินเมื่อครู่ จะทำให้มันประสบเภทภัยเหนือคาดคิดแบบนี้! เมื่อสบสายตาเย็นชาราวไม่เห็นมันเป็นตัวอะไร ทั้งน้ำเสียงเยียบเย็นกับจิตสังหารที่แผ่ออกจากร่างต้วนหลิงเทียน มันก็หวาดกลัวจนตัวสั่น ยิ่งนึกถึงเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนลงมือฆ่าคนอย่างไรก่อนหน้า ความกล้าสุดท้ายในใจก็ไม่มีเหลือ… จากนั้นมันก็ได้แต่ยอมกล่าวทุกอย่างออกมาแต่โดยดี “ธิดาเทพที่ว่า…ก็เป็นธิดาเทพคนเดียวกันกับที่ถูกขังในหอคุมกฏเมื่อหลายปีก่อน” “นางเป็นคนที่ขอให้จ้าวลัทธิบูชาไฟช่วยก่านหรูเยี่ยนออกจากที่คุมขังแล้วพาไปอยู่กับนาง…” แน่นอนว่าถึงแม้มันจะยอมคายเรื่องราวออกมาแต่โดยดี แต่มันก็ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ เลือกที่จะใช้การส่งเสียงผ่านพลังบอกต้วนหลิงเทียน ‘เค่อเอ๋อ?’ ได้ยินคำของรองจ้าวหอคุมกฏคนนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ขมวดคิ้วหน้านิ่ว กล่าวออกเสียงต่ำว่า “อย่าได้คิดโกหกข้า…เท่าที่ข้ารู้มาธิดาเทพเองก็ไม่ใช่ถูกขังอยู่ในหอคุมกฏด้วยรึไง? ตอนนี้เจ้ายังกล้าบอกว่าเป็นนางที่ขอให้จ้าวลัทธิบูชาไฟช่วยก่านหรูเยี่ยนจากหอคุมกฏ?” “ขะ..ข้ามิได้โกหก! ข้าไม่กล้าโกหกเจ้า!!” รองจ้าวหอคุมกฏเร่งกล่าวตอบออกมาอย่างร้อนใจ “เป็นธิดาเทพคนนั้นจริงๆ และตอนนี้นางก็มิได้ถูกขังอยู่ในหอคุมกฏแล้ว…” หลังจากนั้นพักหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็ได้รับทราบสถานการณ์ความเป็นไปของเค่อเอ๋อกับลูกสาวคร่าวๆ จากรองจ้าวหอคุมกฏ ‘ตกลงตอนนี้พวกนางแม่ลูกอยู่ในสถานที่บ่มเพาะของถังซวน…ก่านหรูเยี่ยนเองก็อยู่ที่นั่นด้วย?’ ต้วนหลิงเทียนไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าภรรยาและลูกสาวที่เขาฝันถึงทุกค่ำคืนนั้นอยู่ในสถานที่ๆเขาพึ่งแวะไปมา…แน่นอนว่าไม่อาจกล่าวว่าแวะไปได้ เอาเป็นว่าเขาไปหยุดหน้าประตูที่นั่นพักหนึ่งแล้วกัน สถานที่แห่งนั้นก็คือสถานที่บ่มเพาะของจ้าวลัทธิบูชาไฟ เกาะที่ลอยอยู่สูงสุดเหนือน่านฟ้ากลางดินแดนศักดิ์สิทธิ์! ‘ถ้างั้นหมายความว่า…ตอนที่ข้าตะโกนเรียกถังซวน พวกนางก็สมควรได้ยินเสียงข้าด้วยเช่นกัน?’ คิดถึงจุดนี้ ลมหายใจต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเป็นเร่งร้อนขึ้นมา ฟุ่บบ! เมื่อรู้ว่าเค่อเอ๋อกับลูกสาวไม่ได้อยู่ในหอคุมกฏแต่เป็นเกาะส่วนตัวของถังซวน ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดจะรั้งอยู่สืบไป คนทะยานร่างขึ้นฟ้าไปทันที มุ่งหน้าไปยังเกาะสูงสุดไล่หลังจ้าวหอคุมกฏเหลิ่งอิงไปติดๆ… และเมื่อต้วนหลิงเทียนเหินร่างทะยานผ่านทะเลเมฆไปสักพัก จนมาถึงด้านนอกเกาะส่วนตัวของถังซวน เขาก็ทันได้เห็นเหลิ่งอิงที่กำลังกล่าวฟ้องเรื่องเขากับจ้าวลัทธิบูชาไฟพอดี “ท่านจ้าวลัทธิ ศิษย์ที่แท้จริงต้วนหลิงเทียนก่อการอุกอาจบุกรุกเข้าเขตหวงห้ามหอคุมกฏ กระทั่งฆ่ารองจ้าวหอคุมกฏของข้าแบบนี้! นับว่าพฤติกรรมของมันเลวร้ายเกินเยียวยา!!”
คอมเม้นต์