War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2176
ตอนที่ 2,176 : ปะทะหงอวิ๋น! “นี่นับเป็นครั้งแรกเลยจริงๆ ที่ข้าได้เห็นศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟหยิ่งผยองถือดีต่อหน้าข้าเช่นนี้หลังจากที่ข้าทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน และกลายเป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟ!” เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกผิด สีหน้าหงอวิ๋นยิ่งมายิ่งมืดคล้ำดำลงเรื่อยๆ เสียงยังเย็นลงทุกขณะ! ท้ายประโยคยังเย็นเสียจนจะแช่แข็งผู้คนในรัศมีพันลี้! “วันนี้ด้วยเห็นแก่หน้าจ้าวลัทธิข้าจะไม่ฆ่าเจ้า…แต่ข้ายังจักสักสอนบทเรียนให้เจ้าหลาบจำ! ว่าเกิดเป็นคนต้องรู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่อย่างไร!” และแล้วหงอวิ๋นก็ไม่คิดระงับโทสะอีกต่อไป ทันทีที่เสียงกล่าวเยียบเย็นดังจบคำ แม้ร่างบางยังแน่นิ่งไม่เห็นว่าลงมือ หากแต่มีพลังกดดันไร้สภาพที่มองไม่เห็นขุมหนึ่งระเบิดออกจากร่างบาง! แผ่พุ่งถล่มไปทางต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราดปานมังกรคุ้มคลั่ง!! พลังกดดันไร้สภาพที่ไม่อาจแลเห็นนี้ เต็มไปด้วยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ไม่ใช่ชั่ว แม้จะห่างไกลจากพลังที่แท้จริงของหงอวิ๋น หากแต่คลื่นพลังไร้สภาพดังกล่าวก็มากพอจะสยบผู้ฝึกตนที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนทั้งหลายให้ทรุดลงทันที! และต่อให้เป็นเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน แต่ถ้าไม่เตรียมตัวรับมือให้พร้อมแต่แรก ก็ยังต้องบาดเจ็บภายในไม่น้อย! พริบตาที่มวลพลังไร้สภาพปะทุแผ่พุ่งออกไป หงอวิ๋นก็แสยะยิ้มเยียบเย็น คล้ายนางได้เห็นภาพต้วนหลิงเทียนถูกซัดปลิดปลิวจนร่ำร้องโอดโอยก็ไม่ปาน ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้พิทักษ์สื่อเฟิงหรือผู้พิทักษ์ชิงหั่ว ก็รู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนไม่น่าจะรับการลงมือครั้งนี้ของหงอวิ๋นได้ไหว! อย่างไรก็ตามเรื่องราวจะเป็นดั่งที่พวกมันคิดไว้แน่หรือ? ซัววว!! ในขณะที่มวลพลังไร้สภาพไม่อาจมองเห็นของหงอวิ๋นใกล้บรรลุถึงตัวต้วนหลิงเทียน และห่างจากต้วนหลิงเทียนแค่ไม่กี่ช่วงตัว เจียนซัดกระแทกเข้าร่างต้วนหลิงเทียนนั้นเอง… ทันใดนั้น! “เหอะ!” ต้วนหลิงเทียนพลันแค่นคำสบถออกมาเสียงเย็นคำหนึ่ง และไม่อาจแลเห็นการลงมืออันใด ทว่าพลันมีคลื่นพลังไร้สภาพกำจายออกจากร่างเขา! ปะทะเข้ากับมวลพลังไร้สภาพของหงอวิ๋นที่เจียนกระแทกร่างเขาทันที!! บรึมมม!! เสียงระเบิดดังถึงขั้นทำให้ผู้คนทั่วไปอาจหูหนวกได้สนั่นลั่นขึ้น พร้อมกันนั้นคลื่นลมอันรุนแรงก็ซัดกวาดออกมาอย่างน่าเกรงขามทั่วน่านฟ้า สายลมกรรโชกยังแรงมากพอให้ชุดต้วนหลิงเทียนและผู้พิทักษ์หงอวิ๋นสะบัดโบกไม่หยุด ทว่าร่างผู้พิทักษ์หงอวิ๋นยังคงลอยร่างค้างกลางหาวที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน ต้วนหลิงเทียนก็เช่นกัน จังหวะนี้ในบรรยากาศคล้ายมีกลิ่นดินปืนคละคลุ้งขึ้นมา เงียบ ฉากเรื่องราวกลายเป็นเงียบงันไร้สำเนียง “ปะ…เป็นไปได้อย่างไร?” เมื่อผู้พิทักษ์ชิงหั่วดึงสติกลับเข้าตัวได้สำเร็จ มันก็อดไม่ได้ที่จะโพล่งคำอุทานด้วยความตกใจ มันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า… ต้วนหลิงเทียนจะสามารถรับการโจมตีของหงอวิ๋นได้แบบนี้…! ต้องทราบด้วยว่านี่ไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะกระทำได้! เกรงว่ามีแต่เซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้! กระทั่งด้านผู้พิทักษ์สื่อเฟิงเอง ตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเผยความประหลาดใจในแววตาขึ้นมาแล้ว เพราะฉากเรื่องราวตรงหน้าไม่เพียงทำให้ชิงหั่วตกใจ ยังทำให้มันตกใจไม่น้อยเช่นกัน แต่เป็นธรรมดาว่าถ้าจะถามถึงคนที่ตกใจมากที่สุดในตอนนี้ ย่อมไม่ใช่ชิงหั่วกับสื่อเฟิง แต่เป็นตัวผู้ลงมืออย่างหงอวิ๋นนั่นเอง! “ฮึ! เป็นข้าดูเบาเจ้าไปแล้วจริงๆ!” ผู้พิทักษ์หงอวิ๋นลอบสูดอากาศเข้าเฮือกหนึ่ง จากนั้นค่อยมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาที่ราวกกับมีสายฟ้าแลบลั่น กล่าวออกเสียงเข้ม “มิน่าแปลกใจเลยที่ไฉนเจ้าถึงได้หยิ่งผยองทั้งอวดดีเช่นนี้…” กล่าวถึงตอนนี้นางก็หยุดไป ครู่ต่อมา น้ำเสียงของหงอวิ่นก็เปลี่ยนไปทันที “อย่างไรเสียวัวนนี้ข้าก็จะให้เจ้ารับทราบ…มิใช่ว่าพอปีกกล้าขาแข็งเข้าหน่อย ก็สามารถหยิ่งผยองอวดดีไร้สัมมาคารวะต่อผู้อาวุโสได้!!” กล่าวจบคำ ร่างหงอวิ๋นก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที ซู่มมม!! รางบางคล้ายกลับกลายเป็นอีสนีสีแดงเส้นหนึ่ง ฟาดผ่าไปยังต้วนหลิงเทียน ทันใดนั้นยังมีเสียงดุร้ายดังขึ้น “วันนี้หากมิได้สั่งสอนบทเรียนให้เจ้าสำนึก แม่เฒ่าผู้นี้ไม่ยอมเลิกรา!” ในฐานะ เซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน แม้หงอวิ๋นจะยังไม่ทันลงมือด้วยทุกสิ่งที่มี แต่ก็ยังทำให้ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงความกดดันเล็กน้อย “ผู้พิทักษ์หงอวิ๋น เอาจริงเลยเถอะ…” ในขณะที่ร่างหงอวิ๋นทะยานลัดฟ้าปรี่ตรงเข้าใส่ต้วนหลิงเทียน ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมยเหมือนก่อนหน้า ยังเป็นวาจากล่าวเตือนให้หงอวิ๋นเอาจริง! “อวดดี!!” ด้านหงอวิ๋นที่โจนทะยานลัดฟ้ามาถึงครึ่งทาง พอได้ยินวาจานี้ของต้วนหลิงเทียนนางก็โมโหหนัก ใบหน้างามคล้ายมีม่านน้ำแข็งฉาบทับทันใด! ทันใดนั้น ร่างบางพลันสะท้านไปด้วยโทสะ มวลพลังอันยิ่งใหญ่สุดไพศาลพลันปะทุระเบิดออก คลื่นพลังอันน่าหวั่นหวาดซัดกำจายออกมาสะท้านกดดันในบรรยากาศระลอกแล้วระลอกเล่าปานคลื่นทะเลอันไร้สิ้นสุด! ผู้พิทักษ์ชิงหั่วเห็นฉากดังกล่าวก็ได้แต่ส่ายหัว… ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนพึ่งจะสลายพลังไร้สภาพที่หงอวิ๋นแผ่พุ่งออกมาได้ ทว่านั่นก็แค่การลงมือลวกๆส่งๆของหงอวิ๋นเท่านั้น มันไม่อาจจินตนาการได้เลย ว่าต้วนหลิงเทียนจะไปเอาพลังสามารถจากที่ไหนมาต้านทานหงอวิ๋นยามพิโรธได้… ผู้พิทักษ์หงอวิ๋น ก็ถือได้ว่าเป็นศิษย์น้องของมันคนหนึ่ง มันย่อมรู้ดีว่านางมีพลังฝีมือกล้าแข็งขนาดไหน หงอวิ๋น ผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟคนนี้ เป็นเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนที่รั้งอยู่ในอันดับที่ 16 ของรายนามยอดเซียน! แต่แน่นอนว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วอันดับในรายนามยอดเซียนของหงอวิ๋นไม่ได้สูงขนาดนี้ เหตุผลที่ไฉนอันดับในรายนามยอดเซียนของนางสูงขึ้นมาไม่น้อย เป็นเพราะมียอดฝีมือที่มีอันดับเหนือกว่านางตกตายไปมากมายในระนาบเทียมที่ 3 ปีศาจครึ่งก้าวเซียนอมตะเหลือทิ้งไว้! ด้วยเหตุนี้ทำให้อันดับในรายนามยอดเซียนเองก็ต้องปรับปรุงกันยกใหญ่! หลายคนที่เคยมีอันดับต่ำกว่าผู้ที่ตายตก ก็กระเตื้องขึ้นมาหลายอันดับ! เช่นเดียวกับหงอวิ๋น “ปฐมเวทย์กลืนกิน” ในเมื่อเขากล่าวเตือนไปแล้วแต่ผู้พิทักษ์หงอวิ๋นก็ไม่ฟังคำเขา ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดจะกล่าวใดให้มากความ สำแดงเวทย์พลังหนุนเสริม ปฐมเวทย์กลืนกิน ที่เขาชำนาญออกมาทันที และพริบตาที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกิน วังวนพลังขุมหนึ่งอุบัติขึ้นมารอบกายเขา วูววว! วูววว! วูววว! … ช่วงเวลาพริบตาดั่งอัสนีวาบลั่น วังวนพลังที่อุบัติขึ้นพลันเปล่งพลังดูดรั้งอันน่าพรั่นพรึงออกมาราวกับจะดูดกลืนได้ทุกสรรพสิ่ง พาลให้พลังวิญญาณฟ้าดินในอาณาบริเวณถึงกับบังเกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่! โดยมีต้วนหลิงเทียนเป็นจุดศูนย์กลาง พลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบพลันสาบสูญ ด้วยถูกกลืนเข้าร่างต้วนหลิงเทียนในพริบตา! วินาทีนี้ฟ้าดินคล้ายว่างเปล่าไร้ซึ่งพลังวิญญาณอีกต่อไป! และในช่วงเวลาเสี้ยวพริบตานี้เอง พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างต้วนหลิงเทียนก็เพิ่มพูนสูงขึ้น ดั่งมังกรทะยานขึ้นไปสุดฟ้าในคราเดียว บรรลุถึงจุดสูงสุดเท่าที่จะทำได้! วู้มมม!! ทันใดนั้นพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดทั่วร่างเขาก็แผ่พุ่งรัศมีพลังอันน่าเกรงขามออกไปสะท้านสะเทือนโดยรอบ! เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่กำจายออกมาจากร่างต้วนหลิงเทียน ลูกตาผู้พิทักษ์หงอวิ๋นถึงกับหดเล้กลงทันใด “ซะ…เซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน!?” นางย่อมสัมผัสได้ชัดเจน… หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยเวทย์พลังสนับสนุนแล้ว พลังเซียนต้นกำเนิดทั่วร่างต้วนหลิงเทียนกลับแผ่ซ่านกลิ่นอายพลังเซียนต้นกำเนิดของตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนออกมา! แถมยังไม่ใช่เซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนธรรมดาๆ!! เพราะถึงแม้กลิ่นอายพลังที่เอ่อล้นออกมาจากทั่วร่างต้วนหลิงเทียนตอนนี้จะยังไม่ถึงขั้นเทียบได้กับเซียนสวรรค์ 8เปลี่ยน แต่มันก็แทบไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย!! และอย่างน้อยๆ ตอนนี้ถ้านางไม่ใช่เวทย์พลังสนับสนุนบ้าง เกรงว่าระดับพลังเซียนต้นกำเนิดของนางยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าต้วนหลิงเทียนหลายส่วน! “ดี ดี…ดีมาก!!” จังหวะนี้หงอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะย้อนนึกถึง ทีท่ายามกล่าววาจาหยิ่งผยองอวดดีก่อนหน้าของต้วนหลิงเทียน เพราะตอนนี้หากมองจากพลังความแข็งแกร่งที่ต้วนหลิงเทียนเผยออก อีกฝ่ายมีคุณสมบัติครบทุกประการที่จะกล่าววาจากับพวกนางอย่างทัดเทียม! ด้วยวิธีนี้นั่นหมายความว่าการกระทำก่อนหน้าของต้วนหลิงเทียนไม่ได้ถือว่าหยิ่งผยองอวดดีอะไร! ไร้สัมมาคารวะ? นางและผู้พิทักษ์อีก 2 คนที่ยึดถือว่าตัวเองมีอาวุโสเหนือกว่าต้วนหลิงเทียน ล้วนเป็นเพราะพลังฝีมือที่สูงส่งเหนือกว่า! ในโลกฝึกตนแห่งนี้ลำดับอาวุโสในขุมพลังย่อมยึดถือพลังส่วนตัวเป็นหลัก!! ทว่ามาตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกลับเผยพลังความแข็งแกร่งที่ไม่ได้ด้อยกว่าพวกนางออกมา เช่นนั้นก็ไม่เหมาะสมอีกต่อไปที่พวกกนางจะยึดถือว่าตัวมีอาวุโสเหนือกว่าต้วนหลิงเทียน! อวดดี? ด้วยพลังความแข็งแกร่งที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกมาให้เห็นตอนนี้ ไหนเลยยังกล่าวว่าอวดดีได้? ตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งหมดก็แค่ต้วนหลิงเทียนปฏิบัติกับพวกนางอย่างเท่าเทียม ด้วยเห็นว่ามีพลังฝีมืออยู่ในระดับเดียวกันแค่นั้น! เหตุผลที่ไฉนพวกนางไม่พอใจต้วนหลิงเทียนมีเพียงเหตุผลเดียว เพราะต้วนหลิงเทียนในสายตาของพวกนางไม่ได้แข็งแกร่งอะไร ยังถึงกับอ่อนแอกว่ากันมาก! อย่างไรก็ตามพอมาได้เห็นพลังความแข็งแกร่งที่ระเบิดออกมาอย่างกล้าแข็งของต้วนหลิงเทียน ผู้พิทักษ์หงอวิ๋นก็ไม่กล้าคิดแบบเดิมต่อไป แต่ทว่านางก็ไม่คิดรามือแต่อย่างไร ยังบังเกิดความตื่นเต้นคึกคักไม่น้อย ซู่มมม!! พริบตานั้นเองหงอวิ๋นไม่คิดประมาทอีกสืบไป นางเร่งใช้เวทย์พลังสนับสนุนที่ตัวแตกฉานออกทันที เร่งเร้าพลังเซียนต้นกำเนิดของนางให้เพิ่มทะยานสูงขึ้นในพริบตาเช่นเดียวกัน! สุดท้ายแล้วเมื่อนางเร่งเร้าพลังถึงจุดสูงสุด พลังเซียนต้นกำเนิดของนางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าต้วนหลิงเทียนอีกต่อไป! “ปะ…เป็นไปได้อย่างไรกัน!?” ชิงหั่ว กับสื่ออวิ๋น ผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟทั้งคู่ดึงสติกลับมาอยู่กับตัวได้สำเร็จ ทั้งคู่ยังเลือกจะหันมามองหน้าสบตากันทันที ก่อนที่จะแลเห็นถึงความเหลือเชื่อ และความตกใจในสายตาของอีกฝ่าย ในเมื่อหงอวิ๋นสัมผัสได้ ไหนเลยพวกมันจะไม่อาจสัมผัสได้? ด้วยเหตุนี้พวกมันถึงได้ตกใจกับพลังของต้วนหลิงเทียนนัก! “ตอนนี้ดูเหมือนว่า…เจ้าเด็กร้ายกาจนี่มันจะฆ่าเซี่ยคังฉวิน จ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬนั่นมาจริงๆ…” ชิงหั่วอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงผ่านพลังกล่าวกับสื่อเฟิงออกมาอย่างเลื่อนลอย “ให้ตายเถอะ…หากเจ้าหนูนี่มันฆ่าเซี่ยคังฉวินได้ใน 3 กระบี่อย่างที่ลือกันจริงๆ…ข้ากลัวว่าศิษย์น้องหญิงจะสู้มันไม่ได้แล้ว!” ผู้พิทักษ์สื่อเฟิงตอบกลับผ่านพลังเสียงเข้ม “เหอะๆ…” ผู้พิทักษ์ชิงหั่วได้แต่เผยยิ้มเจื่อนๆออกมา ในขณะที่ผู้พิทักษ์ชิงหั่วกับสื่อเฟิงกำลังส่งเสียงสนทนากันนั้น อีกด้าน ต้วนหลิงเทียนกับหงอวิ๋นก็ได้ประมือกันแล้ว ทั้งคู่เลือกสู้กันในระยะประชิดอย่างดุเดือด ไร้วรยุทธ์ทั้งเวทย์พลังอันใด เพียงอาศัยการลงมืออย่างดิบเถื่อนเท่านั้น! ปง! ปง! ตูม! ตูม!! … หมัดเท้าฝ่ามือที่ปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่าของเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนที่เจียนจะบรรลุถึงพลังอำนาจขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนเต็มทีย่อมไม่ใช่เรื่องเล่นๆ! มวลพลังสะท้อน ทั้งคลื่นกระแทกที่เกิดจากการปะทะพลังนับว่าดุร้ายเกรี้ยวกราดนัก! หลังจากต่อยตีกันไปสักพัก เพียงมองก็รู้ได้ว่าทั้งคู่มีฝีไม้ลายมือที่ไม่แตกต่างกันมากนัก เพียงแค่สีหน้าต้วนหลิงเทียนยังคงสงบต่างจากหงอวิ๋นที่แลดูดุดันอยู่บ้าง “นิ…นี่มัน…ดะ…ได้อย่างไร?” ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ หากแต่ตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสลาดตระเวนทั้งหลายที่จากไปก่อนหน้า ได้หวนกลับมาลอยร่างค้างกลางหาวอยู่ไม่ไกลแล้ว! ทั้งหมดกลับมาหลังได้ยินเสียงแตกระเบิดของอากาศ ทั้งสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังมหาศาลอันน่าสะพรึงกลัว 2 ขุมปะทะกันอย่างรุนแรง! พอย้อนกลับมาทั้งหมดก็ได้เห็นภาพที่ยากจะลืมเลือนไปชั่วชีวิต!! ศิษย์ที่แท้จริงต้วนหลิงเทียน…กลับปะทะรับมือ 1 ใน 3 ผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟ หงอวิ๋น ได้ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะเสียเปรียบแต่อย่างไร!! “สวรรค์ ผู้พิทักษ์หงอวิ๋นมิใช่ยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนหรือไร…ยังติดอยู่ในอันดับที่ 16 ของรายนามยอดเซียน! แต่ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นกลับปะทะรับมือนางได้อย่างไม่เสียเปรียบจริงๆ?” จังหวะนี้เหล่าอาวุโสลาดตระเวนทั้งหลายอดคิดไปไม่ได้ว่า พวกมันใช่กำลังฝันอยู่หรือไม่!? ทว่าคลื่นพลังสะท้อนที่ระเบิดเป็นวงในอากาศวงแล้ววงเล่า ขนาดอยู่ไกลถึงเพียงนี้ แต่ยังกระแทกกระทั้นพวกมันจนแทบกระอักเลือดนั่น ได้ตอกย้ำพวกมันเรื่องหนึ่ง… ทุกเรื่องราวเบื้องหน้าหาใช่ภาพฝัน แต่เป็นความจริง! “ปะ…เป็นไปได้หรือไม่ ทะ…ที่ต้วนหลิงเทียนจะฆ่าจ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬได้จริงๆ?” จังหวะนี้อาวุโสลาดตระเวนคนหนึ่งพลันกล่าวถามออกมาอย่างเลื่อนลอย พวกมันทั้งหมดคล้ายถูกอัสนียามแล้งฟาดผ่า ยากจะคืนสติได้อยู่นาน…
คอมเม้นต์