War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2141
ตอนที่ 2,141 : อยู่หรือตายไปด้วยกัน! “พวกเจ้าด่วนยินดีกันเกินไปแล้ว…” ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนเดียวที่กระจ่าง ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมสีเงินผู้หนึ่ง พลันกล่าวออกด้วยใบหน้าเคร่งเครียดคิ้วย่นเป็นปมว่า “ในกลุ่มพวกเรามียอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนกับ 8 เปลี่ยนจริง แต่พวกเจ้าคิดหรือว่าอีก 2 กลุ่มที่เหลือจักไม่มีตัวตนระดับนี้?” “ถึงแม้ตอนนี้ทางเข้าจักปิดไปแล้ว…แต่พวกเจ้าคิดหรือว่าก่อนที่มันจะปิดตัวลง ไม่มียอดฝีมือคนใดเข้ามาอีกแล้ว? คิดว่าตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนหรือเหนือกว่านั้นมีแค่ใต้เท้าไป๋ลี่กับมหาธรรมราชาเหวยสั่วแค่ 2 คนจริงๆ?” ชายวัยกลางคนพูดจาฉะฉาน และวาจาที่มันกล่าวออกนั้นก็เสมือนถังน้ำเย็นราดรดลงหัวทุกคนที่กำลังฝันกลางวันให้ตื่นขึ้นมาทันที “มันพูดถูก! คนที่เข้ามาในนี้ มีมากกว่า 2 คนที่บรรลุเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนหรือเหนือกว่านั้น” “ใช่ ไม่ต้องพูดถึงลัทธิอารามทมิฬ เอาแค่ในนครแห่งบาปเรา ก็มีผู้ฝึกตนสันโดษราว 10 คนที่บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนกระทั่งเหนือกว่านั้น…และเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ ไม่พ้นทั้งหมดต้องมาที่นี่ด้วยแน่!” “อย่าได้บอกเชียวนะว่าทุกคนมาด้วยกันหมด…แต่ไฉนในกลุ่มพวกเรากลับไม่มีใครเลยนอกจากใต้เท้าไป๋ลี่กับใต้เท้าเหวยสั่วเล่า? เช่นนั้น…มิได้หมายความว่าคนอื่นๆกระจายกันไปอยู่กับอีก 2 กลุ่มรึ!?” “เจ้าจะบอกว่า…การทดสอบรอบที่ 2 นี้ กลุ่มของพวกเราก็ไม่แน่ว่าจะได้เปรียบผู้อื่นงั้นหรือ?!” “ถึงตัวข้าเองจะไม่อยากยอมรับแค่ไหน…แต่ไม่ผิด! สมควรเป็นเช่นนั้นจริงๆ” …… เมื่อทุกคนได้ข้อสรุปแล้ว ต่างก็เงียบไปทันที บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นมาไม่น้อย ‘เจ้านั่น…ดูๆไปหน้าตามันก็คล้ายๆนายน้อยพันธมิตรพันสารทตงกั๋วจื่ออยู่บ้าง’ ในขณะที่คนอื่นๆกำลังกระซิบกระซาบกันนั้น สองตาต้วนหลิงเทียนก็มองจ้องไปยังชายวัยกลางคนที่มองเห็นถึงเรื่องนี้และกล่าวออกมาตรงๆ หว่างคิ้วของมันกลับให้ความรู้สึกละม้ายคล้ายนายน้อยพันะมิตรพันสารท ตงกั๋วจื่อไม่น้อย ‘แถมภาวะผู้นำของมันมาเต็มแบบนี้…ไม่พ้นต้องรับตำแหน่งผู้นำหรือตำแหน่งระดับสูงๆมาเป็นเวลานาน! หรือว่ามันจะเป็น…’ ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังคาดเดาตัวตนของชายวัยกลางคนผู้นี้ พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของเขา… “นั่นมิใช่ผู้นำพันธมิตรพันสารท ตงกั๋วอี้ หรอกรึ!?” นี่เป็นคำอุทานที่ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของต้วนหลิงเทียน เจ้าของเสียงเป็นผู้ฝึกตนอิสระคนหนึ่งจากนครแห่งบาป ทันใดนั้นก็มีคนจดจำชายวัยกลางคนได้มากขึ้น ‘เป็นมันจริงๆ…’ และเสียงนี้ก็ยืนยันข้อสันนิษฐานของต้วนหลิงเทียนได้พอดี เขาเองก็พึ่งคุ้นๆตาว่าชายคนนี้ละม้ายคล้ายตงกั๋วจื่อไม่ทันไร และท่าทีของมันก็แลดูมีภาวะผู้นำสูงเขาจึงคาดเดาตัวตนของมันขึ้นมาในใจ ผู้นำพันธมิตรพันสารท ตงกั๋วอี้! เซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน! ผู้ที่ติดอยู่ในอันดับที่ 51 ของรายนามยอดเซียน! อันที่จริงในถ้ำแห่งนี้มีหลายคนที่สามารถจดจำตงกั๋วอี้ได้ทันทีตั้งแต่แรกเห็น แต่ทว่าด้วยความที่มีผู้ยิ่งใหญ่อย่างไป๋ลี่และเหวยสั่วอยู่ ทำให้มันถูกละเลยไป… โดยปกติแล้ว ด้วยฐานะของผู้นำพันธมิตรพันสารท 1 ใน 3 กองกำลังพันธมิตรผู้ฝึกตนอิสระที่แข็งแกร่งที่สุดในนครแห่งบาป พร้อมฐานะยอดฝีมืออันดับที่ 51 ในรายนามยอดเซียน ตงกั๋วอี้ สมควรเป็นจุดสนใจของผู้คน อนิจจาต่อหน้าไป๋ลี่ ผู้ฝึกตนอสระที่เป็นดั่งตัวตนระดับเทพของนครแห่งบาป และ 1 ใน 4 มหาธรรมราชาอย่าง จ้าวค้างคาวปีกเขียวเหวยสั่ว ตงกั๋วอี้ล้วนถูกรัศมีทั้งคู่กลบมิด…ไม่คู่ควรให้กล่าวถึง! เช่นนั้นจึงมีหลายคนที่ไม่ทันสังเกตเห็นมัน ที่เห็นก็มองข้ามมันไปหมด หลายอย่างที่น่ากลัว คนกลัวสุดคือถูกเปรียบเทียบ…คำนี้จริงดังวว่า ตงกั๋วอี้ นั้น ต่อหน้าไป๋ลี่กับเหวยสั่วมันแทบกลายเป็นมดตัวกระจ้อย…เลือกได้มันย่อมไม่อยากมาอยู่ในสถานที่เดียวกับทั้งคู่ให้ถูกกลบรัศมีเช่นนี้ “หืม? นี่มิใช่ประมุขพรรคธุลีลืมเลือน เหอเฟยยี่ หรอกรึ?!” หลังจากนั้นไม่ทันไรความสนใจของผู้คนก็ละออกจากตงกั๋วอี้ผู้นำพันธมิตรพันสารท ไปหยุดยังร่างคนอีกคน ชายผู้นี้มีรูปลักษณ์เป็นชายวัยกลางคนแต่งตัวคล้ายนักวิชาการมากความรู้ หน้าตาแลดูธรรมดา ดั่งธุลีคลีไร้สำคัญ ทว่ายามมองไปกลับให้ความรู้สึกไร้ร่องรอยดั่งสายลมยามวสันต์อยู่บ้าง ‘ประมุขพรรคธุลีลืมเลือน เหอเฟยยี่ งั้นหรือ…ไม่ธรรมดาอีกคนแล้ว?’ ในขณะที่สายตาหลายคู่หันไปจับจ้องยังร่างชายวัยกลางคนที่แลคล้ายนักวิชาการนั่น ต้วนหลิงเทียนก็มองสำรวจมันเช่นกัน ประมุขพรรคธุลีลืมเลือน เหอเฟยยี่ คนนี้ ต้วนหลิงเทียนก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของมันมาเช่นกัน จึงรู้ด้วยว่าไม่เพียงแต่มันจะเป็นประมุขพรรคที่จัดได้ว่าเป็นขุมพลังชั้น 1 แต่พลังฝีมือยังรั้งอยู่ในอันดับที่ 55 ของรายนามยอดเซียน นับว่าไม่ใช่ตัวตนที่อ่อนด้อยอีกคน! ด่านพลังฝึกปรือของมันก็ทัดเทียมกับผู้นำพันธมิตรพันสารทตงกั๋วอี้…เซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน! อย่างไรก็ตามพลังฝีมือโดยรวมของมัน นับว่าอ่อนด้อยกว่าตงกั๋วอี้อยู่เล็กน้อย และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมอันดับของมันในรายนามยอดเซียนถึงไม่อาจเทียบตงกั๋วอี้ได้ นอกเหนือจากเป็นผู้นำขุมพลังชั้น 1 แล้ว พรรคธุลีลืมเลือนของมันก็ตั้งรกรากอยู่ไม่ห่างจากนครแห่งบาปมากเท่าไหร่ เช่นนั้นการที่ เหอเฟยยี่ จะมาปรากฏตัวที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และเหอเฟยยี่ก็รีบมาที่นี่ทันทีที่ได้รับทราบข่าว หลายคนอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเมื่อพบว่าเหอเฟยยี่อยู่ในกลุ่มด้วยเช่นกัน เช่นนั้นแล้วในกลุ่มของพวกมันก็มีเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนอยู่อีก 2 คน! “ชายชุดดำ! นั่นชายชุดดำนี่!!” ทันใดนั้นเองพลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นทำลายความสงบที่พึ่งจะคงอยู่ได้ไม่ทันไร และเป็นผู้ฝึกตนอิสระคนหนึ่งของนครแห่งบาปที่กำลังมองมาทางต้วนหลิงเทียนพร้อมกล่าวโพล่งออกมาด้วยความแปลกใจ “ชายชุดดำ?” ทันใดนั้นผู้ฝึกตนในถ้ำก็หันมาให้ความสนใจต้วนหลิงเทียนทันที ใบหน้าทั้งหลายเผยความประหลาดใจไม่น้อย “ชายชุดดำผู้นี้สามารถผ่านการทดสอบรอบแรกมาได้ แถมยังอยู่ในกลุ่มพวกเราด้วย!?” “เดิมทีข้าคิดว่าชายชุดดำที่ออกพิทักษ์คุณธรรมในนครแห่งบาป อย่างมากก็มีพลังฝึกปรืออยู่ที่ขอบเขตเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนเสียอีก…ตอนนี้ดูเหมือนเป็นข้าที่ดูเบาผู้กล้าผิดไป พลังฝีมือชายชุดดำสมควรอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนขึ้นไป!!” … ยามผู้ฝึกตนกล่าวถึงต้วนหลิงเทียน ฟังดูก็พบว่าพวกมันประหลาดใจกันอยู่บ้าง “ชายชุดดำ?” ในขณะที่คนอื่นๆมองไปยังต้วนหลิงเทียนนั้น เหล่าผู้มีชื่อเสียงก่อนหน้าก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยความสนใจเช่นกัน แน่นอนว่าไป๋ลี่กับเหวยสั่วเองก็ด้วย และในขณะที่สายตาของทั้ง 2 คนหันไปตกยังร่างต้วนหลิงเทียนนั้นเอง เป็นเหวยสั่วที่เปล่งพลังกดดันไร้สภาพขุมหนึ่งโถมถันไปครอบร่างต้วนหลิงเทียนเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าเจตนาทดสอบ! ‘ไอหน้าหนูนี่!’ ต้วนหลิงเทียนสบถด่าคนอยู่ในใจ ขณะเดียวกันก็เริ่มโคจรพลังวิญญาณตามเคล็ดบำเพ็ญจิตเต๋ากระบี่สูงสุด ‘ยอดใจกระบี่’ ทันที! สภาวะคนเปลี่ยนไปในฉับพลัน คล้ายกลับกลายเป็นกระบี่ไร้ฝักอันแหลมคมหนึ่ง ตั้งตระหง่านท้าฟ้าดิน สะบั้นทำลายแรงกดดันไร้สภาพของเหวยสั่วได้อย่างไม่ยากเย็น!! และร่างเขาที่ยืนตระหง่านหลังตรงนี้ ให้ความรู้สึกราวต่อให้ไท่ซันถล่มลงตรงหน้าก็ไม่แยแส “หืม!?” เหวยสั่วที่ตระหนักได้ทันทีว่าพลังกดดันที่แผ่พุ่งออกไปกลับไร้ผลกระทบใดๆทั้งสิ้น ก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกเฮือกหนึ่ง ค่อยมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาลึกซึ้งพลางกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องชายชุดดำในนครแห่งบาปมานานแล้ว…วันนี้ได้พบพานนับว่าช่างสมคำร่ำลือนัก!” “มหาธรรมราชาเหวย ท่านกล่าวชมข้าเกินไปแล้ว…” ถึงแม้ในใจต้วนหลิงเทียนจะบังเกิดความไม่พอใจทีท่าเสมือนตบหัวแล้วลูบหลังของเหวยสั่วอยู่บ้าง ทว่าตอนนี้เขาก็ได้แต่อดทนระงับโทสะในใจ แสร้งปั้นหน้ายิ้มกล่าวตอบคำออกไปเท่านั้น เหวยสั่วไม่เพียงแต่จะเป็น จ้าวค้างคาวปีกเขียว 1 ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬ แต่ยังเป็นถึงผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนอีกด้วย! อาศัยพลังฝึกปรือของเขาในตอนนี้ คิดงัดกับอีกฝ่ายย่อมไม่ต่างใดกับเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ลูกผู้ชายยืดได้หดได้ เพียงฝากไว้ก่อนเถอะ! ไม่ว่าจะโมโหแค่ไหนตอนนี้ทำได้แค่จำทน! “การทดสอบรอบที่ 2 นี้เรียกว่า…อยู่หรือตายไปด้วยกัน!” ทันใดนั้นเองเสียงของ เจิ้งตงจี๋ 1 ใน 3 ผู้สร้างระนาบเทียมแห่งนี้พลันดังขึ้นชัดถนัดหูต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆ อยู่หรือตายไปด้วยกัน! จังหวะนี้ใจต้วนหลิงเทียนและคนในถ้ำอดไม่ได้ที่จะสะท้านขึ้นมา “การทดสอบรอบที่ 2 นี้ มีการทดสอบหลายชุด…และแต่ละชุดหากมีใครในกลุ่มตายตก คนที่เหลือก็จะถูกค่ายกลสังหาร ที่พวกข้าจัดตั้งไว้ในพื้นที่แห่งนี้ฆ่าตายด้วย!” “จนเมื่อมีกลุ่มหนึ่งถูกฆ่าตายหมดสิ้นแล้ว อีก 2 กลุ่มจึงจะผ่านเข้าสู่การทดสอบรอบที่ 3 ได้!” “ก่อนที่จะมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตายตก การทดสอบรอบที่ 2 จักดำเนินต่อไปเรื่อยๆไม่หยุด!” เสียงของเจิ้งตงจี๋กล่าวถึงตรงนี้แล้วก็เงียบไป… ทันใดนั้นผู้คนในถ้ำก็เงียบกริบ… สีหน้าท่าทางของทุกคนไม่เว้นต้วนหลิงเทียนกลายเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันที แม้จะเป็นยอดฝีมืออย่างไป๋ลี่และเหวยสั่ว ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าตึงขึงขังไม่ต่าง ลูกตายังเผยความหนักใจไม่น้อย หากให้พวกมันฉายเดี่ยว ย่อมไร้ซึ่งแรงกดดันอันใด อย่างไรก็ตามฟังจากวาจาของเจิ้งตงจี๋แล้ว การทดสอบรอบที่ 2 นี้ไม่เพียงต้องดูแลตัวเอง ยังต้องคอยดูแลผู้อื่นอีกด้วย! หากมีคนในกลุ่มตกตายสักคน ที่เหลือล้วนต้องกอดคอกันลงนรกไปตามๆกัน!! และการทดสอบจะดำเนินต่อไปไม่หยุดจนกว่า จะมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งใน 3 กลุ่มตายตกหมดสิ้น! หลังจากนั้นอีก 2 กลุ่มถึงจะผ่านเข้าสู่การทดสอบรอบที่ 3! “พวกเจ้าทุกคนคอยอยู่ใกล้ๆข้ากับใต้เท้าไป๋ลี่ไว้ให้ดี อย่าได้แยกตัวไปลงมือคนเดียวเด็ดขาด!!” เหวยสั่วกวาดตามองคนทั้งหมดในถ้ำไม่เว้นต้วนหลิงเทียนพลางกล่าวออกเสียงเข้ม เมื่อต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆในถ้ำได้ยินน้ำเสียงจริงจังของมัน ต่างก็ไม่คิดโต้แย้งอะไร แถมยังเห็นด้วยทันที เพราะตอนนี้เสมือนทุกคนลงเรือลำเดียวกัน เมื่อการทดสอบรอบที่ 2 เป็นการอยู่หรือตายด้วยกันแบบนี้ หมายความว่าเส้นชีวิตของทุกคนเสมือนถูกผูกเข้าด้วยกันแล้ว… หนึ่งตาย ที่เหลือก็ต้องตายตกร่วมกัน! “หลังจากนี้มิว่าเจอกับบททดสอบอันใด…ยกเว้นข้า ใต้เท้าไป๋ลี่ ผู้นำตงกั๋ว และประมุขเหอ ลงมือ…คนอื่นๆไม่จำเป็นอย่าได้คิดเปิดฉากลงมือทำอันใดเด็ดขาด!” หลังต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆเริ่มขยับเข้าไปยืนใกล้ๆเหวยสั่วและป๋ายลี่ เหวยสั่วก็กล่าวสั่งออกมาอีกครั้ง ทุกคนไม่มีใครเห็นค้านการตัดสินใจนี้ของเหวยสั่ว เพราะสุดท้ายแล้วการทดสอบนี้เกี่ยวพันถึงความเป็นตายของทุกคน และประเด็นสำคัญคือเอาตัวให้รอด ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่จะผ่านบททดสอบเร็วหรือช้า สิ่งที่ทุกคนต้องกระทำคืออดทนให้มากที่สุด รักษาชีวิตให้นานจนกว่าอีก 2 กลุ่มจะมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตกตาย! และไม่ว่าการทดสอบใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นการดีที่สุดที่จะให้ผู้เข้มแข็งทั้ง 4 ผนึกกำลังกันรับมือ! “มาแล้ว!” ทันใดนั้นเองเสียงเข้มของไป๋ลี่พลันดังขึ้น ต้วนหลิงเทียนและคนอื่นที่กังวลและหวั่นใจอยู่เป็นทุน พอได้ยินเสียงเคร่งเครียดของไป๋ลี่ดังขึ้น ประสาททุกคนก็ขึงตึงทันที ยิ่งกังวลหนักข้อขึ้นไปอีก! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! … ทันใดนั้นเองเสียงกลองหนักๆให้จังหวะบีบคั้นหัวใจ พลันดังขึ้นมาแต่ไกล
คอมเม้นต์