War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2078

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2078 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่ 2,078 : คุกเข่าร้องขอความเมตตา
 
ทันทีที่เห็นอาวุโสลำดับที่ 2 อย่างชิวจื่อ เริ่มประมือกับประมุขตระกูลชิวอย่างชิวอ้านผิง ต้วนหลิงเทียนก็คิดที่จะลงมือแต่แรก
 
แต่เพราะอาวุโสหลักตระกูลชิวกลับกล่าวแทรกขึ้นมาเสียก่อน เขาจึงไม่ได้ลงมืออะไรด้วยอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไร
 
ตอนนี้เมื่อพบว่าสุดท้ายอาวุโสหลักของตระกูลชิวก็ไม่คิดจะทำอะไรชิวจื่อ เขาถึงกับอดหัวเราะเยาะออกมาเสียงดังไม่ได้!
 
“แม่นางชิวเองก็มีความคิดอ่าน ยิ่งไปกว่านั้นบิดาของนางก็ยังมีชีวิตอยู่ เรื่องแต่งงานสมควรมีเพียงบิดาของนางเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้ แล้วไปเป็นธุระกงการอะไรของผายลมเฒ่าที่ไร้ยางอายเช่นเจ้าด้วย?”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างไร้ปราณี
 
ไม่เพียงแต่จะดูหมิ่นว่าชิวจื่อนั้นไร้ยางอายเท่านั้น ยังกล่าวเรียกมันว่าผายลมเฒ่าออกมาอย่างไม่ไว้หน้า
 
“ลี่เฟิง! เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
 
ได้ยินวาจาด่าทออย่างไม่ไว้หน้าของต้วนหลิงเทียน หน้าชิวจื่อเปลี่ยนเป็นถมึงทึงบิดเบี้ยว สองตามองจ้องต้วนหลิงเทียนอย่างเอาเรื่อง พลังเซียนต้นกำเนิดทั่วร่างปะทุออกมาฉาบคลุมไปทั่วร่าง เห็นชัดว่ามันคิดลงมือจัดการต้วนหลิงเทียนแล้ว!
 
ชิวจื่อไม่คิดไม่ฝันเลยว่า…
 
อาศัยผู้ฝึกตนพเนจรไร้รากคนหนึ่ง จะหาญกล้าถึงเพียงนี้! ถึงขั้นกล้าด่าทอต่อว่ามันต่อหน้าผู้คนมากมาย วาจายังไร้ปราณีไม่มีไว้หน้ามันแม้แต่น้อย!!
 
มันโมโหทั้งเดือดดาลถึงขีดสุด!!
 
“ลี่เฟิงเจ้ามันนับเป็นตัวอะไรได้ แต่หาญกล้าดูหมิ่นท่านผู้อาวุโสลำดับ 2 เช่นนั้นหรือ? วันนี้ข้าจะสั่งสอนบทเรียนให้เจ้ารู้ซึ้งถึงมารยาท ก่อนจะส่งเจ้าให้ตระกูลตงฟาง!!”
 
ในขณะที่ชิวจื่อกำลังจะลงมือนั้นเอง พลันมีเสียงเปี่ยมความถือดีหนึ่งดังขึ้น และผู้พูดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
 
มันคือนายท่านรองตระกูลชิว ชิวกังยี่ นั่นเอง
 
พร้อมกันกับที่มันตะโกนกล่าวคำอย่างถือดี ร่างที่ปะทุพลังดั่งเพลิงไฟก็พุ่งทะยานปราดไปด้วยความเร็วสูง มองไปยังคล้ายสายฟ้าฟาด สภาวะแลดูน่ากลัวไม่น้อย!
 
พลังเซียนอันบรรลุถึงจุดสูงสุดขอบเขตเซียนนภาจ่ายออกเต็มกำลังอย่างไม่คิดออมรั้ง ก่อให้เกิดสายลมกรรโชกแรงหอบหนึ่งซัดกวาดไปทั่วโถงหลัก ชุดผ้าผู้คนปลิวสะบัดดังพั่บๆ
 
ซู่ม!
 
เพียงพริบตาร่างชิวกังยี่ก็โจนมาไม่ไกลต้วนหลิงเทียนแล้ว!
 
“ปฐมเวทย์กลืนกิน”
 
ทว่าในขณะที่ร่างชิวกังยี่โจนทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนนั้น พลังเซียนสุริยันที่โคจรพร้อมพรั่งแต่แรกพลันปะทุใช้ออกด้วยเวทย์พลังสนับสนุนทันที!
 
พลังเซียนสุริยันดั่งน้ำหลากหลังทำนบทลาย มันแล่นเชี่ยวไปทั่วชีพจรเซียน 99 สายบรรลุถึงช่องพลังทั่วผิวกายในชั่วพริบตา มวลพลังก่อเกิดเป็นวังวนพลังดูดรั้งอันน่าพรั่นพรึง!
 
วังวนพลังดังกล่าวหมุนคว้างเร็วรี่ แลคล้ายจะสามารถดูดกลืนได้ทุกสิ่ง!
 
เป็นเวทย์พลัง ปฐมเวทย์กลืนกิน!
 
หลังต้วนหลิงเทียนสำแดงปฐมเวทย์กลืนกินออกมา พลังวิญญาณฟ้าดินในโถงหลักอันกว้างใหญ่ก็คล้ายสาบสูญ พวกมันกรูทะลักเข้าร่างต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วอันน่ากลัว ไหลเวียนไปทั่วร่างดั่งพลังเซียนสุริยัน
 
หลังจากนั้นพวกมันก็หลอมผสานเข้ากับพลังเซียนสุริยันด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ!
 
ในขณะที่ร่างชิวกังยี่โจนทะยานห่างร่างต้วนหลิงเทียนไม่กี่ก้าว พลังเซียนสุริยันทั่วร่างของต้วนหลิงเทียนก็ถูกเพิ่มพูนไปจนถึงจุดที่ต้องการ
 
ยกระดับขึ้นไปเทียบได้กับพลังเซียนของขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุด!
 
แทบจะพร้อมกันนั้น สองตาต้วนหลิงเทียนก็เผยประกายเยียบเย็น จิตสังหารอำมหิตแผ่ซ่านออกมาอย่างไม่คิดจะกักเก็บ
 
ทันใดนั้น
 
ฟั่ฟฟฟ!
 
ไม่อาจเห็นได้ว่าต้วนหลิงเทียนเคลื่อนไหวลงมืออย่างไร ทว่าเสี่ยงกระบี่กรีดอากาศพลันแว่วดังขึ้นอย่างแผ่วเบา!
 
ฟังไปยังคล้ายเสียงร้องของผีสาง แว่วดังมาตามลมก่อนจะหยุดหายไปอย่างกะทันหัน
 
ราวกับไม่เคยปรากฏมาก่อน…
 
ทันใดนั้นความเงียบก็กัดกินไปทั่วโถงหลัก
 
ภายใต้สายตาของทุกผู้คน ร่างชิวกังยี่ที่โจนทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราด มิคาดเหลือเพียงไม่กี่ก้าวจะถึงตัวต้วนหลิงเทียน แต่อยู่ดีๆพลังทั่วร่างกลับสาบสูญ คนสิ้นสภาวะดุร้ายอันใด เพียงถลันไปตามแรงเฉื่อยเท่านั้น
 
ต้วนหลิงเทียนเพียงสืบเท้าก้าวหลบออกด้านข้างไปอย่างไร้เรื่องราว พร้อมกันนั้นที่บริเวณลำคอของชิวกังยี่ ที่ร่างถลันผ่านต้วนหลิงเทียนไป ก็ปรากฏเส้นสีแดงเล็กๆหนึ่งล้อมรอบ
 
เส้นสีแดงๆดังกล่าวยิ่งมาก็ยิ่งเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ
 
ซื่อ! ซื่อ! ซื่อ!
 
……
 
เสียงดั่งน้ำพุฉีดพุ่งดังขึ้น วงแดงรอบลำคอชิวกังยี่อยู่ๆก็ปรากฏโลหิตทะลักทลายออกมาเป็นสายธาร!
 
และขณะที่ทุกคนกำลังสนใจกับโลหิตที่ฉีดออกมาจากวงแดงดังกล่าว ศีรษะของชิวกังยี่ก็เคลื่อนหลุดจากตัว หมุนคว้างพร้อมสองตาที่ยังฉายแววถือดีไปตามแรงเฉื่อย ก่อนที่จะลอยไปชนผนังโถงร้อมร่างไร้หัวดังปึงปัง
 
โลหิตฉีดพุ่งออกมาเป็นสาย แลดูพร่างพราวงดงามอย่างประหลาด
 
สุดท้ายร่างไร้หัวก็ชนผนังอย่างแรงก็พิงฟุบไปกับผนัง ลำคอที่ขาดยังมีโลหิตฉีดพุ่งคล้ายจะแต้มสีให้ผนังโถง ด้านข้างปรากฏศีรษะกลิ้นหลุนๆคลุกธารแดงที่เจิ่งนอง
 
ตาย! ยังตายคาที่!!
 
เวลาในโถงหลักคล้ายจะหยุดเดินอย่างไรไม่ทราบ
 
ทุกผู้คนเงียบงันราวคนตาย คงเหลือก็แต่เพียงเสียงโลหิตฉีดปริ๊ดๆ สาดใส่ผนังโถง…
 
ในห้องโถงหลักตอนนี้ ยกเว้นต้วนหลิงเทียนแล้ว ล้วนชมมองร่างชิวกังยี่ที่หัวตัวแยกจากอย่างไม่วางตา
 
ในลูกตากลมกว้างทั้งหลายนอกจากความสยดสยองแล้ว ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวระคนเหลือเชื่อ
 
ฉากเรื่องราวเบื้องหน้าเป็นอะไรที่ต่อให้หลับพวกมันยังไม่อาจฝันถึง…
 
ฟืด! ฟืด! ฟืด!
 

 
ผ่านไปพักหนึ่งทุกคนค่อยดึงสติกลับเข้าร่าง ต่างอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าอย่างเสียขวัญ ความตื่นตระหนกตกใจทาทับบนใบหน้าอยู่นาน
 
กระทั่งผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ทั้ง 6 ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
 
หลังจากนั้นเหล่าผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ทั้ง 6ก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนเป็นสายตาเดียวกัน
 
และตอนนี้สายตาที่พวกมันใช้มอง ยังต่างไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
 
‘เขา…เขา…แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ’
 
ชิวมู่ชิงที่หันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วย บนหน้างามฉายชัดถึงความตกใจเหลือเชื่อ แววตาเผยความเลื่อนลอยราวกับนางกำลังฝันไป
 
เพราะทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันเกินจริงเกินไป!
 
ชายหนุ่มชุดม่วงที่นางรู้สึกว่าแตกต่างจากบุรุษผู้อื่นตั้งแต่แรกพบ ที่แท้กลับมีพลังฝีมือสูงส่งถึงเพียงนี้!กระทั่งลงมือสังหารชิวกังยี่นายท่านรองตระกูลชิวได้อย่างง่ายดายจนคล้ายไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ!!
 
ต้องทราบด้วยว่าชิวกังยี่ไม่ใช่แค่ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเซียนนภาธรรมดา แต่มันคือเซียนนภาขั้นสูงสุด!
 
ความสามารถในการฆ่าชิวกังยี่ได้อย่างง่ายดายไร้เรื่องราวเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าชายหนุ่มชุดม่วงที่นางพึ่งรู้จักกันวันนี้นั้น…เป็นดั่งบิดาของนาง ผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์!
 
“ไม่จริง…ไม่…เป็นไปไม่ได้ เรื่องแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้!”
 
ในขณะที่ชิวมู่ชิงกำลังอื้ออึงกับเรื่องราวด้วยคิดว่ากำลังฝันไปอยู่หรือไม่ ด้านตงฟางฉู่ที่ชมดูอยูก็รู้สึกว่าเรื่องราวเบื้องหน้าสมควรเป็นภาพฝัน มันกล่าวพึมพำออกมาพร้อมส่ายหัวอย่างไม่ยอมรับความจริง
 
มันไม่เพียงยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองดัง เพี๊ยะ!
 
ยังลดมือลงไปหยิกต้นขาอีกรอบ!
 
ความแปลบชาปวดแสบจากใบหน้า และเจ็บจี๊ดจากต้นขาบ่งบอกให้มันรู้…
 
มันไม่ได้ฝันไป!
 
ทุกเรื่องราวที่ฉายชัดอยู่ตรงหน้ามันคือความจริง!
 
ชายหนุ่มชุดม่วงที่สั่งสอนบทเรียนให้มันที่เหลาอาหารวันนี้ เพาะสร้างความเคียดแค้นชิงชังให้มัน…ที่แท้เป็นถึงผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์!
 
‘มันเป็นเซียนสวรรค์แล้วจะทำไม มิใช่ท่านพ่อกับท่านอาวุโสหลักรวมถึงท่านอาวุโส 2 ก็เป็นเซียนสวรรค์ที่ฝีมือร้ายกาจหรอกรึไง?’
 
พอนึกได้ว่ายังมีบิดากับอาวุโสอีก 2 คนที่เป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์อันร้ายกาจ ทันใดนั้นใจของตงฟางฉู่ก็สามารถสงบลงได้
 
ตึก! ตึก! ตึก!
 

 
ในขณะเดียวกันนั้น ต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆก้าวเท้าไปเบื้องหน้าอย่างไม่รีบไม่ร้อน เดินไปหาอาวุโส 2 ของตระกูลชิวอย่างชิวจื่อช้าๆ
 
อย่างไรก็ตามทุกย่างก้าวของเขาตอนนี้ ประหนึ่งจะย่ำเหยียบลงกลางอกชิวจื่อก็ไม่ปาน พาลให้หน้าชิวจื่อเปลี่ยนสีไปไม่หยุดหย่อน
 
ในที่สุดชิวจื่อก็สะท้านไปจนร่างแทบทรุด
 
ในตอนนี้นอกจากตัวชิวจื่อเองแล้ว มีเพียงอีก 5 คนเท่านั้นในโถงที่บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ จึงจะรับทราบว่าตอนนี้ความรู้สึกของชิวจื่อแปรเปลี่ยนไปพลิกฟ้าคว่ำดินขนาดไหน
 
เพราะมีแต่พวกมันเท่านั้นที่ตระหนักถึงความน่ากลัวของกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนฟันออกมาก่อนหน้า!!
 
ต้วนหลิงเทียนพึ่งเดินมาได้ครึ่งทางก่อนที่จะบรรลุถึงร่างชิวจื่อเท่านั้น
 
แต่ทว่าในที่สุดชิวจื่อก็ไม่อาจทานทนความหวาดกลัวในใจได้ไหวสืบไป ความแข็งขืนทรุดลงอย่างศิโรราบ
 
ตึง!
 
พร้อมกันกับที่ใจของชิวจื่อยอมศิโรราบ ร่างมันก็ทิ้งตัวลงคุกเข่าอย่างไม่รอช้า สองเข่ากระแทกพื้นส่งเสียงดังก้องโถง
 
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
 

 
ครู่ต่อมาชิวจื่อที่ทิ้งตัวลงไปคุกเข่า ก็เริ่มโขกหัวลงบนพื้นให้ต้วนหลิงเทียนที่กำลังเดินเข้ามาระรัว
 
ศีรษะของมันยังโขกกระแทกพื้นอย่างแรงจนเลือดตกยางออก
 
ทว่าคล้ายมันสิ้นไร้ความรู้สึกหรือไม่รู้ตัวก็ไม่ทราบ ยังโขกศีรษะต่อไปราวไม่รู้จักความเจ็บปวดและเหนื่อยล้า
 
ฉากเรื่องราวดังกล่าวทำให้ผู้คนในโถงตกตะลึงตาตั้ง
 
โดยเฉพาะชิวมู่ชิง ตงฟางฉู่และอาวุโสตระกูลตงฟางอีก 2 คน พวกมันถึงกับอึ้งไปราวตัวโง่งม
 
เพราะสุดท้ายแล้วพวกมันก็ไม่เหมือนกับตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์อีก 5 คน และชิวจื่อ
 
ถึงแม้พวกมันจะตระหนักได้ว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนฆ่าชิวกังยี่ แต่พวกมันที่ไม่เห็นการลงมือก็เพียงคิดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นแค่ขอบเขตเซียนสวรรค์ธรรมดาๆ
 
แต่พวกมันไม่รู้เลย
 
ว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่เซียนสวรรค์ธรรมดาๆ แต่เป็นเซียนสวรรค์ชนชั้นยอดฝีมือ และมีพลังฝีมือสูงส่งกว่าเซียนสวรรค์ทั้ง 6 ในห้องโถงแห่งนี้มากมายนัก
 
รวมกับชิวจื่ออาวุโส 2 ตระกูลชิว อีก 5 คนที่บรรลุถึงเซียนสวรรค์ในห้องโถงหลักสกุลชิว ย่อมตระหนักได้ว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนร้ายกาจขนาดไหน จากกระบี่สังหารที่พวกมันได้ยินแต่เสียงนั่น
 
พลังฝีมือต้วนหลิงเทียนสมควรสูงส่งนัก และไม่น่าจะใช่เซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยนธรรมดาๆ กระทั่งอาจจะเป็นเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนหรือเหนือกว่านั้น…
 
และในเมืองคงหมิงแห่งนี้ อย่าว่าแต่ขอบเขตเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยน ลำพังแค่เซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยนก็หามีไม่!
 
เช่นนั้นแล้วเมื่อตระหนักถึงพลังฝีมือต้วนหลิงเทียน เหล่าเซียนสวรรค์ทั้ง 6 ถึงได้ตกตะลึงพรึงเพริด
 
โดยเฉพาะอย่างยิงชิวจื่อ อาวุโส 2 ของตระกูลชิวที่คิดฆ่าต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ ตอนนี้พอได้เห็นพลังฝีมือต้วนหลิงเทียน ทั้งเห็นคนเดินเข้าหาทีละก้าวๆ มันยิ่งหวาดกลัวเสียขวัญ ในที่สุดจิตใจก็พังทลายลง
 
หลังจิตใจมันไร้ความคิดต่อสู้และยอมจำนนแล้ว มันก็เร่งคุกเข่าทั้งโขกหัวเพื่อลดโทสะของต้วนหลิงเทียนทันที
 
ด้วยตัวตนระดับต้วนหลิงเทียนนั้น คิดฆ่ามันยังง่ายกว่าตัดหญ้าฆ่าไก่!
 
“ใต้เท้า…ได้โปรด…เมตตาข้าน้อยด้วย…เมตตาข้าน้อยด้วย! ขอใต้เท้าโปรดเมตตาด้วย! ขอใต้เท้าโปรดเมตตาข้าน้อยด้วย!!”
 
หลังโขกหัวไปครบร้อยครั้ง ชิวจื่อรวบรวมความกล้าที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดกล่าวร้องขอความเมตตาออกมาด้วยร้ำเสียงสั่นเครือ
 
ท่าทีนอบน้อมยินยอมถึงที่สุดนี้ของมัน ทำให้ชิวมู่ชิง ตงฟางฉู่ และอาวุโสตระกูลตงฟางอีก 2 คน ที่ยืนอยู่ไม่ไกลอึ้งไปแล้วจริงๆ
 
ชายชราที่กำลังคุกเข่าบนพื้นผู้นี้ ใช่อาวุโส 2 ของตระกูลชิวแน่หรือ?
 
อาวุโส 2 ของตระกูลชิวที่ถือดีและหยิ่งยโสมาตลอด มีด้านนี้ด้วย?
 
เนื่องจากพวกชิวมู่ชิงนั้นไม่อาจเข้าใจความรู้สึกของชิวจื่อตอนนี้ได้ ทำให้ต่างสับสนกันไปพักใหญ่กว่าจะทำใจได้
 
“หากข้าจำไม่ผิด…”
 
ทันทีที่ชิวจื่อเริ่มโขกหัว ต้วนหลิงเทียนก็หยุดเท้าแต่แรก เขามองชิวจื่อที่โขกหัวด้วยสีหน้าเฉยเมยไม่แยแส จนเมื่ออีกฝ่ายร้องขอความเมตตาออกมา เขาก็ค่อยๆกล่าวออกเสียงเบา
 
“เมื่อครู่ไม่ใช่เจ้าบอกว่าข้ารนหาที่ตายรึไง แถมดูท่าแล้วเจ้ายังคิดจะฆ่าข้าด้วยนี่…”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด