War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2055

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2055 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่ 2,055 : ยอดศาสตราเซียนอีกชิ้น!
 
จังหวะนี้ต้วนหรูเฟิงตระหนักได้ทันที
 
ว่าหุ่นเชิดปีศาจที่มันอัญเชิญออกมา ไม่อาจต้านทานรับมือหลี่อันในตอนนี้ได้แน่!
 
พลังของหลี่อันยามถือดาบอสุรา มากมายกว่าก่อนหน้ามหาศาลนัก! ถึงขั้นยกระดับขึ้นไปทัดเทียมได้กับ เซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน!!
 
ส่วนหุ่นเชิดปีศาจที่มันอัญเชิญออกมา ก็เป็นเพียงหุ่นเชิดปีศาจระดับเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนเท่านั้น
 
แม้จะปะทุพลังใช้ออกด้วยไอมารที่กักเก็บสั่งสมไว้ทั้งหมด อย่างดีก็ได้แค่ครึ่งก้าวเซียนสวรรค์ 5เปลี่ยนเท่านั้น!
 
ยังอีกห่างไกลนักถึงจะเทียบกันกับ เซียนสวรรค์ 5เปลี่ยนที่แท้จริงได้
 
เป็นธรรมดาที่ตอนนี้ต่อให้ต้วนหรูเฟิงควบคุมหุ่นเชิดเซียนปีศาจได้เสมือนแขนขาของตัวเองแล้ว แต่ยังอ่อนด้อยกว่าหลี่อันที่มีดาบอสุราในมือ!
 
‘ดูเหมือนข้าได้แต่ใช้วิชานั่นเท่านั้น…’
 
เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอำนาจอันครอบงำของหลี่อัน ต้วนหรูเฟิงได้แต่นึกถึงทักษะลับต้องห้ามหนึ่งของเฮยหมิง ที่คล้ายคลึงกับเวทย์พลังสนับสนุนทันที
 
อย่างไรก็ตามผลที่ตามมาหลังใช้ของทักษะลับต้องห้ามดังกล่าว ยังร้ายแรงกว่าผลกระทบของเวทย์พลังสายสนับสนุนไปไกลโข เรียกว่าแทบจะทัดเทียมกับผลกระทบของโอสถต้องห้ามก็ว่าได้!
 
หากไม่มีอันตรายถึงตายจริงๆ ต้วนหรูเฟิงคงไม่คิดใช้ออกด้วยทักษะลับต้องห้ามดังกล่าว! เพราะราคาที่ต้องจ่ายออกไปมันมากมายไม่น้อย!!
 
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ในปัจจุบัน…
 
ตอนนี้ชีวิตของมันไม่ต่างอะไรจากแขวนอยู่บนเส้นด้าย! ขืนลังเลชักช้าเกรงว่าจะสายเกินการณ์และได้ตายตกคาคมดาบของหลี่อันก่อนได้ใช้ทักษะวิชาอันใดแน่!!
 
‘กระทั่งอัญเชิญหุ่นเชิดเซียนปีศาจมายังไม่อาจฆ่าหลี่อันนั่นได้…ไม่คิดเลยจริงๆว่ามันจะมีดาบอสุรา 1ใน 10 ยอดศาสตราเซียนในตำนานไว้ในครอบครองได้แบบนี้!’
 
จังหวะนี้ในใจต้วนหรูเฟิงสั่นไหวไปไม่น้อย หากเลือกได้เขาก็ไม่คิดจะใช้ทักษะลับต้องห้ามนั่น เพราะผลกระทบมันรุนแรงเกินไป!
 
ซู่มมมม!!
 
ทว่าในวินาทีเดียวกันกับที่ประกายตาต้วนหรูเฟิงเปลี่ยนไปเป็นคมกล้า ด้วยคนคิดใช้ทักษะลับต้องห้ามนั้นเอง พลันบังเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกะทันหัน มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากฟากฟ้า!
 
พริบตาต่อมาก็ปรากฏบางสิ่งใหญ่โตมหาศาลก่อเกิดเงาดำทะมึนคลุมฟ้า ร่วงตกลงมาปานอุกกาบาต! เสียงลมกรรโชกพัดแรงปานฟ้าร้อง สิ่งนั้นมองผิวเผินคล้ายจะพุ่งลงมาถล่มทับหุ่นเชิดเซียนปีศาจที่มีต้วนหรูเฟิงผสานร่างควบคุม!!
 
ฟู่ม ฟู่ม ฟู่ม ฟู่ม ฟู่ม
 
……
 
ขณะเดียวกัน คลื่นพลังสะบั้นสีแดงฉานที่หลี่อันใช้ดาบอสุราซัดออก ก็พุ่งแหวกฟ้าผ่าอากาศไปดั่งเส้นแสงเจียนบรรลุถึงร่างหุ่นเชิดเซียนปีศาจที่มีต้วนหรุเฟิงผสานรวมอยู่เต็มที! ประหนึ่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัดก็ไม่ปาน!!
 
ทว่าต้วนหรูเฟิงที่อยู่ภายในร่างของหุ่นเชิดเซียนปีศาจนั้น…กลับไม่ลงมือทำอะไร!
 
เพราะด้วยสำนึกเทวะที่แผ่ออกไปโดยรอบ ต้วนหรูเฟิงย่อมสัมผัสได้ชัดเจนว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น!!
 
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
 
……
 
เป็นเงามหึมาที่ร่วงตกจากฟากฟ้านั่น บรรลุถึงเบื้องหน้าได้ทันกาล! กั้นขวางทานรับพลังสังหารหลายสิบสายของหลี่อันได้อย่างหมดจด ไร้เสี้ยวพลังอันใดซัดทำร้ายถึงหุ่นเชิดตัวเขื่องของต้วนหรูเฟิงทั้งสิ้น!!
 
คลื่นพลังสะบั้นสีแดงฉานปานเสี้ยวจันทร์แตกสลายหายไปดั่งละออง ขณะเดียวกันเงามหึมาปานขุนเขาก็เริ่มหดเล็กลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงวัตถุหนึ่งขนาดเท่ากำปั้นเท่านั้น!
 
มองพินิจให้ดีจะพบว่ามันเป็น ตราประทับหนึ่ง
 
ส่วนล่างของตราประทับนั้นแลดูแบนราบเรียบง่าย ส่วนด้านบนถูกแกะสลักเป็นขุนเขารูปทรงต่างๆมากมายถึงหมื่นขุนเขา!
 
“ประทับหมื่นขุนเขา!?”
 
เมื่อเห็นตราประทับเบื้องหน้า ใจต้วนหรูเฟิงสั่นไหวไปไม่น้อย ขณะเดียวกันก็ล้มเลิกความคิดใช้ทักษะต้องห้ามทันที
 
เพราะในความทรงจำที่เฮยหมิงเหลือทิ้งไว้ ก็มีเรื่องนี้บันทึกไว้เช่นกัน
 
ประทับหมื่นขุนเขานั้น เป็น 1 ใน 10 ยอดศาสตราเซียนที่ติดอันดับในรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังถูกจัดว่าเป็นยอดศาสตราลำดับที่ 3 ของยอดศาสตราเซียนทั้งหมด!!
 
เพราะประทับหมื่นขุนอันนี้ไม่เพียงมีพลังจู่โจมและป้องกันอันน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น ยังสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ตามใจผู้ใช้!
 
ดั่งเมื่อครู่ ที่มันขยายขนาดจนใหญ่ปานขุนเขา บดบังแสงตะวันสร้างเงาดำคลุมฟ้า!
 
ต้วนหรูเฟิงไม่คิดไม่ฝันจริงๆ
 
ว่าวันนี้ไม่เพียงแต่จะได้เห็นยอดศาสตราอย่าง ‘ดาบอสุรา’ ยังจะได้เห็น ‘ประทับหมื่นขุนเขา’ ที่เป็นยอดศาสตราเซียนในตำนาน ติด 10 อันดับแรกของรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่ถึง 2 ชิ้นเช่นนี้!
 
ยิ่งไปกว่านั้นอันดับของยอดศาสตราเซียนอย่างหลัง ยังเหนือกว่า ‘ดาบอสุรา’ มาก
 
“ประทับหมื่นขุนเขา!”
 
ในขณะที่ต้วนหรูเฟิงจดจำประทับหมื่นขุนเขาได้ หลี่อันในฐานะอาวุโสเพลิงเงินของลัทธิบูชาไฟ เป็นธรรมดาว่าต้องจดจำประทับหมื่นขุนเขาได้เช่นกัน ลูกตามันอดไม่ได้ที่จะหดหยีลงทันที!
 
อย่างไรก็ตาม ครู่ต่อมาสองตาที่หดหยีก็เบิกโพลงเผยประกายอันร้อนแรงเปี่ยมความโลภนัก
 
ประทับหมื่นขุนเขานั่น…ยังเป็นยอดศาสตราเซียนที่ร้ายกาจยิ่งกว่าดาบอสุราเสียอีก!!
 
อันดับทั้ง 10 ของยอดศาสตราเซียนในตำนาน อันใดสูงอันใดต่ำมันล้วนทราบดี!
 
ซู่มมม!!
 
ร่างหลี่อันที่ชะงักไปวูบฟนึ่งพลันทะยานออกไปด้วยความเร็วปานฟ้าผ่าอีกครั้ง คิดคว้าประทับหมื่นขุนเขาที่ลอยล่องอยู่เบื้องหน้าไม่ใกล้ไม่ไกลมาถือครองไว้ให้จงได้! มันจะเอา!!
 
อย่างไรก็ตามมันสามารถคว้าจับได้ก็แต่อากาศว่างเปล่าเท่านั้น…
 
เพราะก่อนที่มือมันจะคว้าถูกประทับหมื่นขุนเขา ตัวประทับก็ได้พุ่งวาบไปด้วยความเร็วปานเส้นแสง!
 
หมับ!
 
มาหยุดลงอีกครั้ง ก็ตอนอยู่ในมือของร่างชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำที่มาปรากฏตัว บนฟ้าใกล้ๆตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบ!
 
ชายในชุดคลุมลมดำผู้นี้ เลิกหมวกคลุมเผยใบหน้าอันชั่วร้ายแฝงความเจ้าเล่ห์ไม่น้อยออกมาให้เห็นชัด มือหนึ่งถือประทับหมื่นขุนเขาเอาไว้ สองตาไม่แม้แต่จะเหลือบแลหลี่อันเพียงมองจ้องไปที่ต้วนหรูเฟิงตาเขม็ง
 
กล่าวให้ชัดคือมองจ้องร่างหุ่นเชิดเซียนปีศาจตัวเขื่อง ที่ต้วนหรูเฟิงควบคุมบังคับอยู่
 
“ต้วนหรูเฟิง…นี่เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่?”
 
มองไปยังหุ่นเชิดเซียนปีศาจตัวเขื่อง แววตาของชายหนุ่มชุดดำเผยประกายดุร้ายนัก กล่าวถามออกไปเสียงเย็นเยียบแฝงความคาดคั้น คล้ายหากไม่ได้ยินคำตอบดีๆมันไม่คิดเลิกราเด็ดขาด!
 
“ตู้กู ที่แท้เป็นเจ้า…”
 
เห็นชายหนุ่มในชุดดำ ต้วนหรูเฟิงก็แปลกใจไม่น้อย
 
ฟังจากน้ำเสียงประหลาดใจ คล้ายต้วนหรูเฟิงเองก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าผู้ถือครองประทับหมื่นขุนเขาจะเป็นอีกฝ่ายไปได้
 
“เป็น ตู้กู ผู้นำตลาดมืดหยินชาน…”
 
ขณะเดียวกัน หรงหยวนที่เห็นร่างชายในชุดคลุมลมดำปรากฏตัวขึ้นก็ตื่นตระหนกตกใจไม่น้อย ด้วยไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะมาปรากฏกายที่นี่ได้!!
 
ชายในชุดคลุมลมดำเบื้องหน้า หาใช่คนแปลกกหน้าสำหรับมันไม่
 
อีกฝ่ายคือผู้นำสูงสุดของตลาดมืดหยินชาน! 1 ใน 2ขุมพลังกึ่งชั้น 3 ที่ทรงอำนาจมากที่สุดในภูมิภาคเบื้องล่างดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า…ขุมพลังเดียวที่มีอำนาจทัดเทียมตำหนักเมฆาครามของมัน!
 
การที่อีกฝ่ายมาปรากฏตัวที่นี่ได้ช่างเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายของหรงหยวนนัก
 
ยิ่งไปกว่านั้นมองจากทีท่าและการลงมือเมื่อครู่ของตู้กู น่ากลัวว่าจะมีพลังอำนาจไม่ได้ด้อยไปกว่าจ้าวตำหนักเมฆาครามของพวกมัน ที่อัญเชิญหุ่นเชิดปีศาจมาควบคุมแบบนี้!
 
“ต้วนหรูเฟิงที่ข้าถามเจ้าไม่ได้ยินรึไง…นี่เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่?”
 
ตู้กูกล่าวถามออกเสียงเย็นอีกครั้ง และยังเป็นคำถามเดิม ราวกับหากต้วนหรูเฟิงไม่ตอบเรื่องนี้ มันไม่คิดสนทนาเรื่องอื่น
 
“ข้ารู้ตัวดีว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่…”
 
ต้วนหรูเฟิงที่อยู่ภายในหุ่นเชิดเซียนปีศาจ ในที่สุดก็กล่าวตอบคำตู้กู “ข้ารู้ว่าการทำแบบนี้อาจส่งผลกระทบต่อม่านพลังกั้นมิติระหว่างแดนเนรเทศกับดินแดนของเรา…กระทั่งอาจทำให้ม่านพลังไร้เถียรถึงขั้นถูกทำลาย”
 
“แต่ข้าไม่มีทางเลือก…”
 
“หากข้าไม่ใช้การอัญเชิญหุ่นเชิดเซียนปีศาจจากแดนเนรเทศ ข้าย่อมไม่อาจจัดการอาวุโสลัทธิบูชาไฟคนนี้ได้…จะอย่างไรสุดท้ายแล้วมรดกปีศาจที่ข้าสืบทอดมาก็ต่างจากเจ้า! เจ้าไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังของหุ่นเชิดเซียนปีศาจ แต่ข้าต้องพึ่งมัน!”
 
ฟังจากวาจาก่อนหน้า ต้วนหรูเฟิงไร้ซึ่งความเสียใจอันใดที่กระทำไปเช่นนี้
 
และจากคำของต้วนหรูเฟิง สามารถได้ยินเรื่องราวหนึ่ชัดเจน
 
ไม่ว่าจะเป็นมันหรือผู้นำตลาดมืดหยินชาน ล้วนได้รับสืบทอดมรดกปีศาจมาทั้งคู่!
 
ต้องทราบด้วยว่าแม้มรดกปีศาจกับมรดกมารจะฟังแล้วคล้ายคลึงกัน ทว่าความจริงกลับแตกต่างกันใหญ่หลวง
 
ปีศาจในที่นี้หมายถึงเผ่าพันธุ์ปีศาจที่แท้จริง เป็นเหล่าปีศาจที่มาจากแดนเนรเทศ ปีศาจแต่ละชนิดล้วนมีพลังอำนาจอันน่ากลัวสุดที่มนุษย์ทั่วไปจะต้านทานได้
 
มารนั้น หมายถึงมนุษย์ที่ได้รับมรดกของปีศาจ จนกลายเป็นผู้ฝึกมาร!
 
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ฝึกมารรุ่นแรกก็คือผู้ฝึกตนมนุษย์ที่ได้รับเคล็ดบ่มเพาะหรือมรดกของปีศาจหลังจากที่เอาชนะและเข่นฆ่าอีกฝ่ายได้ในมหาสงครามของยุคมนุษย์ปีศาจ
 
ทว่าเมื่อกาลเวลาผันผ่านไปนานเข้า มรดกปีศาจทั้งหลายก็เริ่มเลือนหายไป คงเหลือแต่มรดกของผู้ฝึกมารเท่านั้น ยิ่งสืบทอดต่อกันมา ผู้ฝึกมารหน้าใหม่ก็ล้วนได้รับเคล็ดพลังจากผู้ฝึกมารรุ่นก่อนเท่านั้น
 
และผู้ฝึกมารส่วนใหญ่ ก็ล้วนเป็นลักษณะนี้
 
แน่นอนว่ายังมีผู้ฝึกมารที่พบพานมรดกของปีศาจที่แท้จริงในยุคสมัยมนุษย์ปีศาจโดยบังเอิญ เพราะปีศาจบางตัวที่บาดเจ็บหนักและไม่อาจรอดชีวิตกลับไปถึงแดนเนรเทศ พวกมันก็เลือกที่จะหาที่ตายอย่างสงบในแผ่นดินนี้ เลือกที่จะใช้พลังเฮือกสุดท้ายสร้างพื้นที่สืบทอดมรดกของตัวเอง เพื่อไม่ให้ทุกสิ่งชั่วชีวิตสลายสิ้นดั่งหมอกควัน…
 
อย่างเฮยหมิง ผู้ฝึกมารอันร้ายกาจที่พยายามยึดครองร่างต้วนหรูเฟิง ก็คือผู้ฝึกมารที่ได้รับสืบทอดมรดกปีศาจโดยตรง!
 
ต่อมาเมื่อเฮยหมิงวิญญาณสลาย ความทรงจำทั้งหมดของมันก็ตกเป็นของต้วนหรูเฟิง ทำให้ต้วนหรูเฟิงก็ประหนึ่งผู้ฝึกมารที่สืบทอดมรดกปีศาจมาโดยตรง
 
และตู้กู ผู้นำตลาดมืดหยินชานก็เหมือนกัน มันได้รับสืบทอดมรดกปีศาจโดยตรง!
 
คนสองคนที่ต่างสืบทอดมรดกปีศาจมา ยามเผชิญหน้ากันครั้งแรกย่อมสัมผัสได้ถึงความคล้ายคลึงกัน ต่างเห็นอีกฝ่ายเป็นเสมือนคู่แข่งโดยอัตโนมัติ และพยายามอยู่เหนืออีกฝ่ายให้จงได้
 
แต่แน่นอนว่าแม้ทั้งคู่จะสืบทอดมรดกปีศาจมาเหมือนกัน แต่ปีศาจที่ทั้งคู่ได้รับสืบทอดมรดกมาก็เป็นปีศาจที่มีพลังฝีมือคนละแนวทางกันอย่างสิ้นเชิง
 
อย่างต้วนหรูเฟิงนั้น ปีศาจเจ้าของมรดกที่เฮยหมิงได้สืบทอดมาตอนนั้น มันคือปีศาจที่เชี่ยวชาญการใช้หุ่นเชิดปีศาจ! มีฝีมือย่อยอันร้ายกาจมากมาย
 
เมื่อเฮยหมิงสืบทอดมรดกปีศาจจากปีศาจที่อยู่ในยุคมนุษย์ปีศาจตนดังกล่าวมา มันก็มีความสามารถในการอัญเชิญหุ่นเชิดปีศาจที่กักเก็บไว้ในแท่นบูชาที่อยู่ในมิติลับใจกลางแดนเนรเทศได้ และหุ่นเชิดเซียนปีศาจที่แข็งแกร่งก็ทัดเทียมได้กับยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน!
 
นี่บอกให้รู้ว่ามรดกปีศาจที่ต้วนหรูเฟิงสืบต่อมาจากเฮยหมิงอีกทอดมันร้ายกาจเพียงใด
 
แต่แน่นอนว่าการอัญเชิญหุ่นเชิดเซียนปีศาจจากมิติลับใจกลางแดนเนรเทศเช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อม่านพลังและกำแพงมิติกั้นแดนไม่น้อย
 
หากม่านพลังที่ฉาบทับกำแพงมิติกั้นแดนไว้ถูกทำลายล่ะก็ เผ่าพันธุ์ปีศาจจากแดนเนรเทศจะกรูกันเข้ามายังโลกใบนี้อีกครั้ง ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอาจต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ดั่งครั้งยุคมนุษย์ปีศาจอีกครา
 
ด้วยเหตุนี้ ตู้กูจึงกล่าวถามต้วนหรูเฟิงเสียงเย็น
 
เพราะการที่ต้วนหรูเฟิงกระทำเช่นนี้ อาจเป็น ‘ต้นเหตุ’ ทำให้เผ่าพันธุ์ปีศาจของแดนเนรเทศบุกรุกเข้ามายังดินแดนนี้ได้!
 
“สืบทอดมรดกปีศาจ?”
 
ได้ยินวาจาของต้วนหรูเฟิง ลูกตาหลี่อันอดไม่ได้ที่จะหดหยีไปทันที
 
มันย่อมรู้ดี ว่าสืบทอดมรดกปีศาจมีความหมายเช่นไร!
 
‘ที่แท้มันได้รับสืบทอดมรดกปีศาจมานี่เอง…มิน่าแปลกใจที่มันจักล่วงรู้วิธีอัญเชิญหุ่นเชิดปีศาจที่อยู่ในแท่นบูชากลางดินแดนศักดิสิทธิ์ของแดนเนรเทศได้’
 
จังหวะนี้หลี่อันสามารถทำความเข้าใจเรื่องราวได้มากมาย
 
ในขณะที่ความขึงขังบนใบหน้าของหลี่อันค่อยๆคลายตัวลง
 
ทันใดนั้นคล้ายมันจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง สีหน้ามันจำต้องเปลี่ยนสีอีกครั้ง
 
นั่นเพราะมันพบว่าชายในชุดดำที่เป็นเจ้าของยอดศาสตราเซียน ‘ประทับหมื่นขุนเขา’ กลับลงมือจู่โจมเข้าใส่มันอย่างไร้ซึ่งการแจ้งเตือนอันใด แววตายังจับจ้องมองมาที่มันอย่างดุร้าย!!
 
เป็นแววตาอันเยียบเย็นไร้แยแส แต่เปี่ยมล้นไปด้วยเจตนาฆ่าฟันอันไร้สิ้นสุด!
 
“ขอบคุณเจ้า ตู้กู”
 
ขณะเดียวกันเสียงต้วนหรูเฟิงก็ดังขึ้นเข้าหูหลี่อัน พาลให้มันหน้าเปลี่ยนสีไปทันที!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด