War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1976
ตอนที่ 1,976 : โอสถต้องห้าม! การโจมตีของหงชวีก่อนหน้านี้ เรียกว่าทั้งผสานกับวรยุทธ์เซียนและเวทย์พลังอันร้ายกาจ เรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนย่อมมองออกอย่างถ่องแท้ แน่นอนว่าเขาย่อมมั่นใจว่าเมื่อครู่ สมควรเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของหงชวีแล้ว ทว่าผลออกมาคือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของอีกฝ่ายกลับพ่ายแพ้ เช่นนั้นหงชวียังจะเหลืออะไรมาสู้กับเขาอีก? ในขณะที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ส่วนใหญ่และต้วนหลิงเทียนคิดว่าหงชวีจะยอมรับความพ่ายแพ้แล้วนั้นเอง ด้านหงชวีกลับไม่กล่าวคำใดเพียงล้วงหยิบขวดหยกหนึ่งออกจากอกเสื้อ ป็อก! เพียงออกแรงเล็กน้อยหงชวีก็ดันจุกขวดหยกดังกล่าวให้หลุดออก ครู่ต่อมาเมื่อเอียงขวด โอสถเม็ดหนึ่งที่มีสีแดงเลือดนกพร้อมแผ่ไอพลังชั่วร้ายน่าสะอิดสะเอียนก็ปรากฏสู่สายตาของผู้คน ไม่รอช้าอะไร หงชวีเลือกจะตบโอสถดังกล่าวเข้าปากทันที! อึก… แทบจะพร้อมกันนั้นเสียงกลืนโอสถของหงชวีก็ดังออกมาให้ทุกผู้คนได้ยิน ‘นั่นไม่ใช่โอสถรักษา’ หน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไป ลูกตายังหดเล็ก เขาย่อมมองออกได้ทันทีว่ามันเป็นโอสถรักษาหรือไม่ ทว่าเม็ดยาที่หงชวีกลืนลงไปนั้น…ไม่ใช่โอสถรักษาแน่นอน! กลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมามันอันตรายเกินไป!! ซู่มมม!! ในขณะที่ศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์กำลังสงสัย อยู่ดีๆพลังเซียนพลันลุกโชนขึ้นมาทั่วร่างของหงชวีอีกครั้ง! อย่างไรก็ตามหากเทียบกับก่อนหน้านี้ พลังเซียนของหงชวีกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่นานระดับพลังก็เป็นอะไรที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง…ตอนนี้กลิ่นอายพลังเซียนของมัน ทำให้ทุกผู้คนไม่เว้นต้วนหลิงเทียนรู้สึกว่าร้ายกาจเกินต้านทาน! ขณะเดียวกัน สองตาของหงชวียามนี้ก็เริ่มกลายเป็นสีแดงฉาน รัศมีพลังทั่วกายที่ลุกโชนขึ้นมาดั่งเพลิงไฟเริ่มปรากฏไอทมิฬเอ่อล้นออกมาตลบไปทั่วร่าง ให้ความรู้สึกชวนขนลุกพิกล! “โอสถต้องห้าม!” ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ที่โพล่งดังออกมา ทว่าวาจาของมันกลับสะท้านใจทุกผู้คนในที่นี้ ดั่งหนึ่งหินหล่นสระก่อเกิดพันระรอกคลื่น พาลให้ทุกคนฮือฮาขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก “อะไร…ศิษย์พี่หงชวี กินโอสถต้องห้าม?” “มิใช่ว่าก็แค่ตำหนักเอกอุรึไร! ไฉนต้องทำถึงขั้นนี้ด้วย?” “โอสถต้องห้ามแม้จะให้ผลคล้ายคลึงเวทย์พลังสนับสนุน ทว่าผลกระทบที่ตกค้างหลังใช้เป็นอะไรที่ร้ายแรงกว่ากันนัก…นี่ศิษย์พี่หงชวีเสียสติไปแล้วหรือไร!?” “กระทั่งยังไม่ลังเลสักนิดที่จะใช้โอสถต้องห้ามนั่น…ว่าแต่มันคุ้มกันแล้วหรือที่จะใช้โอสถต้องห้ามเพื่อตำหนักเอกอุ? ผลกระทบอย่างไรก็ไม่ใช่น้อยๆ ที่แท้คิดอันใดอยู่กันแน่!” … เมื่อหงชวีนำโอสถต้องห้ามออกมาใช้จนไอพลังทั่วร่างบังเกิดความเปลี่ยนแปลง ย่อมทำให้ศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์รู้สึกตามเรื่องราวไม่ทันจริงๆ ฟังจากบทสนทนาโดยรอบแล้ว ไม่มีใครเข้าใจได้เลยว่าไฉนหงชวีถึงใช้โอสถต้องห้ามแบบนี้! “โอสถต้องห้ามงั้นเหรอ?” ได้ยินคำของศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์โดยรอบ สีหน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนเป็นขึงขัง แววตายังเผยประกายประหลาดใจไม่น้อย โอสถต้องห้ามนั้น เป็นธรรมดาที่เขาจะเคยได้ยินมาว่ามันคืออะไร เขารู้ดีว่ามันเป็นโอสถที่น่ากลัวนัก! เพราะมันสามารถยกระดับพลังของผู้ใช้ขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น!! แต่แน่นอนว่าผลข้างเคียงก็ร้ายแรงเช่นกัน! ‘หลังหงชวีกินโอสถต้องห้ามอะไรนั่นเข้าไป ด่านพลังของมันกลับยกระดับจากเซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญบรรลุถึงเซียนนภาขั้นสูงุสด…ที่แท้มันใช้โอสถต้องห้ามชนิดไหนกันแน่?’ เท่าที่ต้วนหลิงเทียนรู้มาโอสถต้องห้ามยิ่งยกระดับพลังให้ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งหาได้ยากและมีค่ามากขึ้นเท่านั้น และโอสถต้องห้ามที่สามารถยกระดับของผู้ใช้ที่เดิมมีฐานพลังเซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญให้บรรลุถึงเซียนนภาขั้นสูงสุดแบบนี้ กระทั่งมองทั่วภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ยังนับเป็นอะไรที่หายาก! ‘หืม? มันคิดฆ่าข้างั้นเหรอ?’ ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็พบว่าดวงตาที่แปรเปลี่ยนเป็นสีเลือดของหงชวี กำลังมองจ้องมาที่เขาด้วยเจตนาสังหาร ทั่วร่างยังเผยกลิ่นอายฆ่าฟันกระหายโลหิตออกมา! คล้ายกับหากมันฆ่าเขาไม่ได้มันจะไม่เลิกรา! วินาทีต่อมาร่างหงชวีพลันเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง! ฟู่ม!! ในสายตาของต้วนหลิงเทียน บัดนี้ร่างหงชวีได้พุ่งทะยานเข้าใส่เขาด้วยความเร็วอันน่ากลัว! เป็นความเร็วที่เหนือกว่าก่อนหน้าหลายขุม! พาลให้เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างยิ่งยวด!! ปีกอีกาทองคำ! ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนพลันเร่งเร้าพลังเซียนสุริยันขุมใหญ่ใช้ออกด้วยปีกอีกาทองคำ พุ่งร่างทิ้งห่างออกมาด้วยความเร็วสูงสุด คิดเว้นระยะห่างจากหงชวีให้ไดมากเท่าที่จะทำได้! อย่างไรก็ตามเมื่อปีกอีกาทองคำปลดปล่อยพลังอำนาจส่งร่างต้วนหลิงเทียนให้พุ่งทะยานออกไปนั้น เขากลับพบว่า… หงชวีที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยเจตนาฆ่าฟัน กลับมีความเร็วเหนือกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก! ยังถึงกับเร็วกว่าเขาเล็กน้อย!! หงชวีกำลังไล่จี้เขาเข้ามาเรื่อยๆ ระยะทางหดกระชั้นลงทุกเวลา! ฉากดังกล่าวเป็นธรรมดาที่ศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์จะมองเห็น “สวรรค์ช่วย! ที่แท้ศิษย์พี่หงชวีคิดจะทำอะไรกันแน่ จิตสังหารนั่น…หรือคิดฆ่าศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน!?” “ช่างเป็นเจตนาฆ่าฟันอันน่ากลัวนัก! นี่ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนไปมีความแค้นอันใดกับศิษย์พี่หงชวีกันแน่ ไฉนถึงทำให้ศิษย์พี่หงชวีจำต้องใช้โอสถต้องห้ามเพื่อฆ่าคนให้ได้แบบนี้?” “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตอนแรกศิษย์พี่หงชวีมาถามหาต้วนหลิงเทียนแต่มิใช่ตำหนักเอกอุ! ที่แท้เป็นคนมาดื่มสุราแต่มิได้ลิ้มรสสุรา! สิ่งที่ต้องการมิใช่ตำหนักเอกอุ แต่เป็นชีวิตของศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน!!” “ข้าก็คิดไว้แล้วเชียว หากเพียงเพื่อต้องการตำหนักเอกอุจะถึงขั้นรับประทานโอสถต้องห้ามเลยหรือ…ที่แท้ต้องการฆ่าต้วนหลิงเทียน!” …… ในขณะเดียวกันเหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ทั้งหลายก็เริ่มพบว่าเรื่องราวผิดท่า! เป็นหงชวีคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนแน่แล้ว!! ศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์หลายคนที่ไวหน่อย ก็เร่งเหินร่างออกจากเขตที่พักไปหาเหล่าอาวุโสประจำเหมืองลำดับที่ 1 ทันที เขตที่พักแห่งนี้ โดยปกติแล้วจะไม่มีอาวุโสคอยเฝ้าดูแลแต่อย่างใด “ต้วนหลิงเทียนเจ้าอย่าได้คิดหนีให้เหนื่อยเปล่า…จุดแข็งของเจ้าคือความเร็ว! เมื่อเทียบกับความเร็วแล้วการโจมตีของเจ้ายังอ่อนด้อยกว่าเสียอีก…ในเมื่อตอนนี้ความเร็วของเจ้าถูกข้าก้าวข้าม เช่นนั้นเจ้าคิดว่าเจ้ายังมีปัญญาต้านทานการโจมตีของข้าได้อยู่หรือ!?” ในระหว่างที่เหินร่างไล่จี้ต้วนหลิงเทียนจนระยะทางหดกระชั้นลงไปเรื่อยๆ หงชวีพลันกล่าวออกเสียงเย็น “พลังของข้าบัดนี้ห่างขอบเขตเซียนสวรรค์เพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น! ในขอบเขตเซียนนภาไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานข้าได้อีก! หากเจ้ายังเป็นเพียงเซียนนภาวันนี้เจ้าไม่มีทางรอดพ้นเงื้อมมือข้าไปได้!!” หงชวีกล่าวออกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่คล้ายมีอารมณ์ความรู้สึกใดๆแฝงอยู่ “หงชวี เพื่อฆ่าข้าแล้ว…นี่เจ้าถึงกับใช้โอสถต้องห้ามอย่างไม่ลังเลเลยงั้นเหรอ?” ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามเสียงเข้ม สีหน้าเผยความตกใจอยู่ไม่น้อย ตอนนี้ในใจต้วนหลิงเทียนเองก็เสมือนมีมรสุมกระหน่ำ ถึงแม้เขาจะตระหนักได้ว่าพลังของหงชวีสมควรเพิ่มพูนขึ้นไม่น้อยหลังใช้โอสถต้องห้าม แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะมากขนาดนี้! ช่างเหลือเชื่อนัก ที่ความเร็วของอีกฝ่ายจะเหนือกว่าเขาที่ใช้ปีกอีกาทองคำได้! “โอสถต้องห้ามที่ศิษย์พี่หงชวีใช้มันคือโอสถต้องห้ามชนิดใดกันแน่ ผลของมันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!” “นั่นสิเดิมก็มีพลังฝึกปรือแค่เซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญเท่านั้น แต่หลังใช้โอสถต้องห้ามนั่นระดับพลังกลับพุ่งสูงไปถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุด ไม่สิแทบจะแตะขอบเขตเซียนสวรรค์อยู่รอมร่อแล้ว…นั่นมิใช่โอสถต้องห้ามธรรมดาๆแน่!” “ใช่! โอสถต้องห้ามทั่วไป หาได้มีผลลัพธ์ร้ายกาจขนาดนี้ไม่!” …… เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ พอได้ยินวาจาของหงชวีก็ตกตะลึงกันไม่น้อย แต่ละคนรู้สึกว่าเรื่องราวครั้งนี้มันเลยเถิดเกินควบคุม! “โอสถต้องห้ามระดับนั้น…มิน่าจะเป็นอะไรที่ศิษย์พี่หงชวีจะมีได้!” “ใช่ ในภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเรา โอสถต้องห้ามระดับนี้สมควรหาได้ยากเย็นยิ่ง เพราะสมควรมีแต่ปรมาจารย์เซียนหลอมระดับกึ่งสวรรค์เท่านั้นที่จักสามารถหลอมมันขึ้นมาได้!” “ข้าได้ยินว่าเบื้องหลังของศิษย์พี่หงชวี เป็นตระกูลขุมพลังชั้น 3 ขุมหนึ่ง…หากมีตระกูลหนุนหลังเรื่องโอสถต้องห้ามก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” … … เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ที่กำลังตะลึงก็อดไม่ได้ที่จะคาดคิดกันไปต่างๆนาๆ “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วข้าก็ไม่กลัวที่จะยอมรับ…ถูกแล้ว! ข้าใช้โอสถต้องห้ามนี้เพื่อจะฆ่าเจ้าโดยเฉพาะ ต้วนหลิงเทียน!” หงชวีคำรามกล่าวออก ขณะที่ร่างก็ยังไล่จี้ต้วนหลิงเทียนใกล้เข้าไปเรื่อยๆ “หากข้าจำไม่ผิด…ไม่ใช่พวกเราพึ่งเจอกันครั้งแรกวันนี้รึไง? ในเมื่อข้ากับเจ้าไร้ความแค้นอะไร ทำไมเจ้าถึงต้องคิดฆ่าข้าด้วย?” ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกด้วยสงสัย ขณะเดียวกันก็พยายามจ่ายพลังเร่งความเร็วเพื่อล่าถอยไม่หยุด “ไว้ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังหลังพวกเราลงนรก!” หงชวีคำรามออกมาเสียงดังอีกครั้ง ซูวว! ตอนนี้สีหน้าของต้วนหลิงเทียนได้แปรเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาได้ยินมันชัด… หงชีวเพื่อฆ่าเขาแล้ว มันกระทั่งยอมตาย! กล่าวอีกอย่าง ต่อให้ต้องตายแต่หงชวีก็จะฆ่าเขาให้จงได้! หงชวีต้องเคียดแค้นชิงชังเขามากขนาดไหนถึงขั้นยอมตายเพื่อฆ่าเขา!? ได้ยินเสียงคำรามของหงชวี เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ก็ตื่นตระหนกไม่น้อย พวกมันย่อมเข้าใจความนัยวาจาของหงชวีชัดเจน! “สวรรค์! นี่ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนไปสังหารบิดาถล่มมารดาฉุดคร่าน้องสาวศิษย์พี่หงชวีมาหรือไรกัน? ไฉนศิษย์พี่หงชวีถึงขั้นยอมตายเพื่อฆ่าศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน!?” “นั่นสิ…สมควรมีเพียงความแค้นสังหารบิดาถล่มมารดากระทั่งฉุดคร่าน้องสาวเท่านั้น ถึงทำให้คนเราเสียสติ!” …… เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์อุทานออกมาด้วยความตกใจ “ประทับราชันดาบ!” แม้ระยะห่างระหว่างต้วนหลิงเทียนกับมันยังเหลืออีกมาก หากแต่หงชวีก็ได้เร่งเร้าพลังใช้ออกด้วยเวทย์พลังจู่โจมขั้นกลางประทับราชันดาบออกมาอีกครั้ง! ทันใดนั้นทั่วร่างของมันก็ปรากฏเงาร่างมหึมาของราชันดาบครอบคลุม! อีกทั้งเงาร่างของราชันดาบรอบนี้ยังมหึมาใหญ่โตเสียยิ่งกว่าเงาร่างประทับราชันดาบก่อนหน้าถึงสองเท่าตัว ยิ่งไปกว่านั้นกลิ่นอายพลังคมกล้าของดาบมหึมาเล่มนั้น ก็คมกล้าเสียดแทงให้ความรู้สึกน่าพรั่นพรึงเหนือกว่าเดิม ราวกับประทับราชันดาบก่อนหน้าอยู่ในระดับที่ต่ำชั้นกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้! เห็นฉากดังกล่าว หน้าต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสีไป เพราะตอนนี้เขาตระหนักได้ชัดเจน หงชวีที่ระดับพลังสูงขึ้นจนแทบจะบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ ไม่เพียงแต่จะมีความเร็วที่เหนือกว่าเดิม กระทั่งพลังโจมตียังรุนแรงกว่าเดิมหลายขุม! ตอนนี้ต่อให้เขาจะบรรลุถึงขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่ แต่เกรงว่าให้รับดาบของหงชวีรอบนี้ตรงๆ เขาทำไม่ได้! “พันเงาทำลาย!!” เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง ดาบร้อยอาคมเซียนในมือหงชวีบัดนี้ปรากฏแสงสว่างเรืองรองขึ้นมาปานดวงจันทร์ ที่กำลังสาดแสงไปยังต้วนหลิงเทียน! ขณะเดียวกันดาบมหึมาของเงาร่างราชันดาบก็เริ่มเคลื่อนไหว! ดาบมหึมาของมันฟัดฟาดตามกระบวนท่าของหงชวี เป้าหมายคือต้วนหลิงเทียน! คลื่นพลังดาบสะบั้นนับร้อยรอบนี้เมื่อปรากฏออกมาดั่งฟ้าจะเปลี่ยนสีก็ไปไม่ปาน ตะวันที่เคยสว่างไสวกลับดูจะหม่นหมองลงไปทันตา! “แย่แล้ว!” ต้วนหลิงเทียนที่ตกเป็นเป้าได้แต่มองคลื่นดาบสะบั้นนับร้อยที่พุ่งแหวกฟ้าตัดอากาศปานจะผ่าสะบั้นได้ทุกสิ่งย่นย่อระยะทางเข้ามาฉับไว! หน้าอกเสมือนมีหินใหญ่พันหมื่นชั่งกดทับ หายใจไม่ทั่วท้อง! อึดอัด! อึดอัดนัก!!
คอมเม้นต์