War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1698
ตอนที่ 1,698 : ความตายของฉีจิ้ง! ฉีจิ้งที่ชักสีหน้าจริงจังหลังตระหนักถึงความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน พอมาได้ยินวาจานี้ของต้วนหลิงเทียนหน้ามันพลันเปลี่ยนเป็นถมึงทึงทันที! ยิ่งได้ฟังน้ำเสียงเรียบเฉยไร้แยแสนั่น โทสะถึงกับปะทุออก! ต้องทราบด้วยว่าการปะทะกันเมื่อครู่…เป็นมันที่มีเปรียบ!! และไม่ใช่แค่ฉีจิ้งเท่านั้นที่คิดแบบนี้ เริ่นจง หลิวหงกวง ฉีเสิ่นรวมถึงทุกๆคนที่ชมการประลองก็คิดเห็นเช่นเดียวกัน! แต่พวกมันไม่ได้รู้เลย… ว่านี่เป็นสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนต้องการ! หลังจากที่เห็นว่าแววตาของฉีจิ้งกลับมาเผยความรังเกียจดูแคลนอีกครั้ง ต้วนหลิงเทียนก็ลอบแสยะยิ้มในใจ…แผนเขาสำเร็จแล้ว! เมื่อครู่เขาไม่ได้ลงมือเต็มกำลังแต่อย่างใด! ทั้งหมดเพื่อให้ฉีจิ้งตายใจ! มีเพียงกระทำเช่นนี้เขาถึงจะมั่นใจได้ว่าสามารถฆ่าฉีจิ้งได้แน่ๆ ก่อนที่มันจะกล่าวยอมแพ้! ถึงแม้ฉีจิ้งมันจะหยิ่งผยองลำพองใจเต็มไปด้วยความถือดี แต่ถ้ามันรู้ว่าต้วนหลิงเทียนแข็งแกร่งกว่า มันคงไม่สนหน้าตาและเร่งกล่าวคำยอมแพ้ออกมาเพื่อเอาตัวรอดแน่นอน! นั่นไม่ใช่อะไรที่ต้วนหลิงเทียนอยากจะเห็น ดังนั้นหลังจากที่ประมือกันเมื่อครู่ การปะทะกันครั้งต่อๆมา ต้วนหลิงเทียนก็ออมรั้งยั้งมือเอาไว้ ทว่าสีหน้าท่าทางกลับแสดงออกมาให้เห็นว่าลำบากไม่น้อย กระทั่งยังตกเป็นรองมากขึ้นทุกขณะอย่างไร้ใดผิดสังเกต เมื่อเห็นว่าสุดท้ายลี่เฟิงก็ได้แต่ใช้กระบี่เบี่ยงเบนมังกรวายุ ไม่อาจต้านรับตรงๆได้เลยสักครั้ง ผู้ฝึกตนพเนจรที่ชมดูอยู่ก็อดใจสั่นไปเสียไม่ได้ ! “พิกลนัก ลี่เฟิงผู้นี้เห็นชัดว่ามิอาจรับมือฉีจิ้งได้ ไฉนมิรีบยอมรับความพ่ายแพ้เสียที?” “นั่นสิ…หรือเขาจะคิดว่าสามารถเอาชนะฉีจิ้งได้ หากฉีจิ้งพลาดพลั้งไปเองจนเปิดช่องว่าง? แต่นั่นไม่มีทาง! เป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่นานคงได้ถูกฉีจิ้งฆ่าแน่!!” “หากข้าเป็นเขาข้าคงยอมรับความพ่ายแพ้ไปนานแล้ว ลี่เฟิงเห็นว่าศักดิ์ศรีสำคัญกว่าชีวิตหรือไร?” …… เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรที่หวั่นใจไม่ได้รู้เลยว่าต้วนหลิงเทียนเพียงละเล่นกับฉีจิ้งอยู่เท่านั้น และตอนนี้ด้านเริ่นจงกับหลิวหงกวงถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นท่วมกาย สีหน้าเคร่งเครียดหวาดเสียวไม่น้อยขณะมองต้วนหลิงเทียนพยายามต้านทานฉีจิ้ง “นายน้อยคฤหาสน์! ฆ่ามัน!!” ไม่ทราบว่าเป็นใครในคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องที่ตะโกนออกมาคนแรก แต่สุดท้ายทั้งหมดก็พร้อมใจกันตะโกนออกมาเสียงดัง “ฆ่ามัน!!” “ฆ่ามัน!!” …… เสียงตะโกนด้วยอำมหิต ยิ่งเร่งเร้าเจตนาฆ่าฟันของฉีจิ้งที่กำลังลงมืออยู่ไม่น้อย ทันใดนั้นสายตาที่ฉีจิ้งใช้มองต้วนหลิงเทียนก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเย็นลงปานจะแช่แข็งผู้คน ในใจคิดไปด้วยอำมหิต ‘ได้เวลาจบเกมแล้ว!’ ทันทีที่ฉีจิ้งคิดเรื่องนี้ แววตาของมันก็เผยประกายอำมหิตออกชัด ต้วนหลิงเทียนที่ตระหนักได้ ลึกลงไปในแววตาพลันเผยประกายเรืองขึ้นมาวูบหนึ่ง ในที่สุดโอกาสของเขาก็มาถึงแล้ว! เมื่อเห็นว่าฉีจิ้งเลือกที่จะปะทุพลังทั้งหมดจ่ายส่งไปยังมังกรวายุ หมายสังหารเขาให้ตายในกระบวนเดียว ต้วนหลิงเทียนก็เผยสีหน้าหวาดกลัว ชิงหันหลังเหินร่างถอยหนีออกไปทันที “คิดหนีงั้นเหรอ!?” เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวทั้งท่าทางกุลีกุจอถอยหนีของต้วนหลิงเทียน ดวงตาของฉีจิ้งเผยความดูแคลนออกมาวูบหนึ่ง มันระเบิดพลังทั่วร่างพุ่งเข้าไป พร้อมควบคุมมังกรวายุให้กระโจนเข้าหาต้วนหลิงเทียนด้วยอีกทาง! ฮู่มมม!! ราวกับเสียงคำรามของมังกรที่แท้จริงก็ไม่ปาน ฉีจิ้งปะทุพลังทั้งหมด เค้นปราณแรกกำเนิดจากเขตแดนผสานลงสู่มังกรวายุ! ทั้งรีดเค้นปราณแรกกำเนิดของมันใช้ออกด้วยวรยุทธ์เวียนอีกชุด! จนมือมันปรากฏกรงเล็บพลังมีสภาพ พุ่งแหวกฟ้าจี้ตรงเข้าไปหาต้วนหลิงเทียน ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าความเร็วในการถอยหนีของต้วนหลิงเทียน!! และเพียงเสี้ยวพริบตามังกรวายุที่ปะทุพลังแกร่งกล้าก็บรรลุถึงด้านหลังต้วนหลิงเทียน! เมื่อฉีจิ้งเห็นว่ามังกรวายุของมันซัดปะทะเข้าที่กลางหลังของต้วนหลิงเทียนอย่างจัง มุมปากของมันก็เผยรอยยิ้มแสยะเหี้ยมเกรียม ร่างยิ่งพุ่งเข้าหาฉับไวพร้อมกรงเล็บพลังมีสภาพ หมายบั่นหัวอีกฝ่ายให้ตายตก!! ปงงงงงงง!! เสียงระเบิดดังสนั่นลั่นออก เป็นมังกรวายุที่กระแทกแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนอย่างจังปลดปล่อยพลังทำลายมหาศาลออกมากระแทกเข้าร่างต้วนหลิงเทียน! พลังดังกล่าวยังทำให้ความว่างสะท้านสะเทือน หากไม่ใช่เซียนขัดเกลาขั้นสูงสุด เกรงว่าคงต้องตกตายคาที่! อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนเพียงเทียบได้แค่เซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดจริงๆหรือ? กล่าวให้ชัด พลังป้องกันของร่างต้วนหลิงเทียนเพียงเทียบได้กับเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดจริงๆหรือ? ต้องทราบด้วยว่าร่างกายของต้วนหลิงเทียน หากอยู่ในขอบเขตพลังเดียวกัน ยังเหนือกว่ามังกรเทพยาดา 6 กรงเล็บเสียอีก!! แน่นอนว่าตอนนี้เป็นเพราะพลังฝึกปรือที่แท้จริงของต้วนหลิงเทียนยังอยู่แค่เซียนดั้งเดิมขั้นกลางเท่านั้น แม้ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่ง แต่เผชิญกับการโจมตีนี้ของฉีจิ้ง ถึงจะใช้ปราณสุริยันแรกกำเนิดผสานกับพลังกระบี่ที่บรรลุจากขั้นที่ 2 ของยอดใจกระบี่อย่างเงากระบี่สัมพันธ์ใจแล้ว เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บไม่น้อย! และในขณะที่ร่างต้วนหลิงเทียนเซไปทั้งคล้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ฉีจิ้งที่ง้างกรงเล็บพลังมีสภาพเข้ามาหมายซ้ำ พลันแสยะยิ้มกว้าง สองตาวาวโรจน์ จิตสังหารปะทุถึงขีดสุด!! ฟุ่บ!! เสียงหอนของกระบี่ที่พุ่งทะลวงแหวกอากาศพลันแว่วดังขึ้น ปานเสียงกระพือปีกของจั๊กจั่นในยามคำคืนที่เงียบสงัด… ในสายตาของเริ่นจง หลิวหงกวงรวมถึงฉีเสิ่น ทั้งหมดเห็นชัดว่าต้วนหลิงเทียนที่ปลิวไปคล้ายเสียหลัก กลับลอบยิงรังสีพลังกระบี่สีทองลอดรักแร้ออกมาด้วยความเร็วสูง…ความเร็วของรังสีพลังที่พุ่งยิงออกมาจากปลายกระบี่ ยังเร็วเป็น 2 เท่าของทุกการโจมตีที่ต้วนหลิงเทียนเคยใช้ออก! ยิ่งไปกว่านั้นรังสีพลังสายนี้ ยังเร็วกว่ามังกรวายุของฉีจิ้งคนละชั้น!! จังหวะนี้หากพวกมันยังไม่รู้ว่าที่แท้ก่อนหน้าต้วนหลิงเทียนออมมือมาตลอด พวกมันคงใช้ชีวิตมาอย่างเสียเปล่าแล้วจริงๆ!! “นายน้อย!!” หน้าฉีเสิ่นเปลี่ยนไปใหญ่หลวง มันเร่งตะโกนออกมาหมายจะกล่าวเตือนฉีจิ้ง! อนิจจาเนื่องจากฉีจิ้งอยู่ในห้วงแห่งความยินดีที่กำลังจะฆ่าศัตรูที่บาดเจ็บสาหัสได้ กว่ามันจะพบรังสีพลังกระบี่สายนี้ ก็ต่อเมื่อรังสีพลังกระบี่ห่างจากมันแค่ไม่กี่คืบแล้วเท่านั้น… และในสายตาทั้งความรู้สึกของมัน แสงสีทองที่กำลังพุ่งมาไม่คล้ายรังสีพลังกระบี่เลย แต่ให้ความรู้สึกเหมือนแสงอาทิตย์ที่สาดลอดช่องลมของหน้าต่างเข้ามา ให้ความรู้สึกอุ่นร้อนแสบตาเท่านั้น… ดังแสงสุริยันอาบไล้ใบหน้า… สึบบ!! โลหิตพวยพุ่งกระฉุดออกมาน่ากลัว หว่างคิ้วฉีจิ้งปรากฏหลุมเลือดหลุมหนึ่ง!! หากแต่บนหน้าของมันยังเผยยิ้มแสยะฉีกกว้างคล้ายกำลังพึงพอใจอย่างถึงที่สุด และใบหน้านี้ก็ถูกลิขิตให้เป็นสีหน้าสุดท้ายในชีวิตของมัน! “อั๊ค!!” ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนที่ถูกพลังซัดกลางหลังจนบาดเจ็บไม่น้อยก็อดไม่ได้ที่จะกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง โลหิตพ่นทะลักออกปาก พร่างพราวกลางหาวปานบุปผาสีชาดเบ่งบาน อย่างไรก็ตามแม้จะบาดเจ็บสาหัส แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ลืมสะบัดมือใช้พลังดูดรั้งเก็บแหวนพื้นที่ของฉีจิ้งเป็นสินสงคราม จนเมื่อต้วนหลิงเทียนเก็บแหวนพื้นที่ของฉีจิ้งไปแล้วพักหนึ่ง พอร่างฉีจิ้งตกลงไปกระแทกกระดานหมากหลิงหลงเบื้องล่าง ผู้คนจึงค่อยฟื้นความรู้สึกกลับมา หากแต่ฉากเรื่องราวยังคงเงียบงันไปอีกพักหนึ่ง “นายน้อยคฤหาสน์!!” สุดท้ายด้วยเสียงตะโกนกู่ร้องของฉีเสิ่น ทุกผู้คนจึงได้สูดลมหายใจเข้าด้วยความตื่นตระหนก และพร้อมกันกับที่เสียงตะโกนของฉีเสิ่นดังขึ้น พลันปรากฏร่าง 2 ร่างวูบมาบังขวางต้วนหลิงเทียนเอาไว้! ทั้งคู่ยังจับจ้องมองฉีเสิ่นไม่วางตา ราวกับกลัวว่าฉีเสิ่นจะลงมือต่อต้วนหลิงเทียน สำหรับคนที่มี ‘คดีเก่า’ อย่างฉีเสิ่น พวกมันย่อมไม่กล้าผ่อนความระวัง แน่นอนว่า 2 คนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเริ่นจงและหลิวหงกวงนั่นเอง! พวกมันยังคงตกตะลึงไม่น้อย ที่ในห้วงวิกฤตอยู่ดีๆ ต้วนหลิงเทียนก็ลงมือสังหารฉีจิ้งได้แบบนี้! อย่างไรก็ตามพอย้อนนึกถึงฉากต่อสู้ระหว่างต้วนหลิงเทียนกับฉีจิ้งตั้งแต่ต้นจนจบ พวกมันก็ตระหนักได้ว่าต้วนหลิงเทียนจงใจออมมือเอาไว้ เพื่อหลอกลวงฉีจิ้งให้ตายใจ! ด้วยเหตุนี้ทำให้ฉีจิ้งลดความระวังลง กระทั่งเลือกจะทุ่มพลังโจมตีอย่างไม่สนใจอะไร สุดท้ายกลับกลายเป็นถูกฆ่าในห้วงเวลาที่มันคิดสังหารผู้อื่น! ‘ลี่เฟิงผู้นี้เหมือนคิดสังหารฉีจิ้งแต่แรก…หาไม่แล้วคงไม่ลำบากเสแสร้งแสดงหลอกฉีจิ้งขนาดนี้’ เริ่นจงลอบคิดในใจ ความคิดในหัวหลิวหงกวงเองก็ไม่ต่างกัน พวกมันเองก็ตระหนักได้ว่า…แม้พลังฝีมือต้วนหลิงเทียนจะเหนือกว่าฉีจิ้ง หากแต่ให้ปะทะต่อสู้กับฉีจิ้งจริงๆคงยากที่จะฆ่าฉีจิ้งได้! เพราะถ้าสู้ตรงๆ เมื่อฉีจิ้งเห็นท่าไม่ดีอะไร มันคงเร่งกล่าวยอมแพ้แต่แรก ไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อมาแบบนี้ สุดท้ายเป็นเพราะการล่อหลอกจนฉีจิ้งตายใจ ถึงขั้นยินดีรับกระบวนท่าทรงพลังน่ากลัวขนาดนั้นไปเต็มๆ กระทั่งอาศัยการลงมือจากจุดอับ ลอบยิงพลังลอดหว่างแขนในขณะที่ร่างเซถลา จึงทำให้ฉีจิ้งต้องตกตายไปอย่างโง่งม!! ตอนนี้ในใจเริ่นจงกับหลิวหงกวงปรากฏความคิดแน่วแน่ขึ้นมาประการหนึ่ง ผู้ฝึกตนอัจฉริยะที่มีเล่ห์เหลี่ยมแถมใจเด็ดแบบนี้ไม่ต้องกล่าวถึงภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า กระทั่งภูมิภาคเบื้องบนยังสมควรมีน้อยคน ตัวตนเช่นนี้หากเข้าร่วมขุมพลังของพวกมันล่ะก็ พวกมันเฝ้านับวันรอที่ขุมพลังของตัวจะยกระดับกลายเป็นขุมพลังกึ่งชั้น 3 ได้เลย! เป็นเพราะเหตุนี้พวกมันถึงเร่งวูบร่างมาบังขวางต้วนหลิงเทียนเอาไว้ เพื่อคุ้มครองต้วนหลิงเทียน! “ลี่เฟิง! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้ลงมือสังหารนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องของข้า!!” เมื่อเห็นเริ่นจงกับหลิวหงกวงมาปกป้องคุ้มครองต้วนหลิงเทียนแบบนี้ ฉีเสิ่นรู้ดีว่าอาศัยมันคนเดียว คงไม่มีทางลงมือทำอะไรต้วนหลิงเทียนได้แน่แล้ว ความหวัง ของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องของมันถูกดับลงด้วยน้ำมือของลี่เฟิง! มันไม่สงสัยเลยว่าทันทีที่เรื่องนี้รู้ถึงคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องเมื่อไหร่ ลี่เฟิงต้องกลายเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องแน่! “มันคิดฆ่าข้า หรือข้าคิดฆ่ามันบ้างไม่ได้? น่าขำนัก!” หลังจากรับประทานโอสถเซียนรักษา ทั้งปาดเช็ดโลหิตที่มุมปากแล้ว ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าววาจาเหน็บแนมออกมาอีกรอบ “หรือคนคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องของเจ้า เจ็บไม่ได้ตายไม่เป็น?” หากเป็นคนธรรมดาเผชิญหน้ากับวาจาขู่ข่มของฉีเสิ่นอาจจะหวาดกลัว แต่วันนี้ต้วนหลิงเทียนปลอมตัวมาฆ่าฉีจิ้งโดยเฉพาะ เขายังจะกลัวทำอะไร? ‘เฉวี่ยไน่พี่ใหญ่เก็บฉีจิ้งให้เจ้าแล้ว…จากนี้ไปเจ้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขไร้กังวลเหมือนกาลก่อน’ ทันใดนั้นเงาดรุณีน้อยแสนซนพลันวาบขึ้นมาในใจ ยิ้มแสยะหลังกล่าวเหน็บแนมพลันกลับกลายเป็นยิ้มยินดีแทน แน่นอนสำหรับคนอื่นๆที่เห็น รอยยิ้มยินดีนี้คล้ายรอยยิ้มเยาะเย้ยไม่มีผิด “ขะ…เขาฆ่าฉีจิ้งจริงๆ?” ตอนนี้เองผู้ชมโดยรอบที่สติกลับมาอยู่กับร่องกับรอยแล้วพลันกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ค่อยกล่าวออกขณะมองต้วนหลิงเทียนยิ้มโง่งม รอยยิ้มยินดี พอมาปรากฏบนใบหน้าเย็นชาไม่รับแขก ย่อมแลเหมือนยิ้มโง่งมจริงๆ… แต่ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้สักคน ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่ลี่เฟิงฆ่าฉีจิ้ง! คนของวัดฟ่านเทียนกับศาลเจ้าชุนหยางเผยรอยยิ้มยินดีทั้งตื้นตันออกมาขณะมองไปยังต้วนหลิงเทียนที่ยืนยิ้มอย่างโง่งม “ขอบคุณสหายลี่เฟิง!” “ขอบคุณประสพลี่” มีเสียงผ่านปราณแรกกำเนิดดังขึ้นในหูต้วนหลิงเทียนพร้อมๆกัน 2 เสียง พอต้วนหลิงเทียนหันไปมองก็พบว่าไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นผู้นำนักพรตของศาลเจ้าชุนหยาง กับเจ้าอาวาสวัดฟ่านเทียนนั่นเอง เขาฆ่าฉีจิ้งแบบนี้ ก็เหมือนล้างแค้นให้จิ้งชวีชื่อและหลวงจีนลายบุปผาทางอ้อม “ลี่เฟิง!” “ลี่เฟิง!” …… ตอนนี้เองเหล่าผู้ฝึกตนพเนจรยังกู่ก้องร้องตะโกนชื่อเขาออกมาเสียงดังสนั่น ทุกคนต่างเผยความตื่นเต้นยินดีออกมาราวจะคลั่งกันไปแล้ว ต้วนหลิงเทียนฆ่าฉีจิ้งก็เสมือนแก้แค้นให้จงกู้ด้วยเช่นกัน พวกมันย่อมตื่นเต้นยินดีเป็นธรรมดา!
คอมเม้นต์