War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1558
ระเบิดสังหาร! ถึงแม้ว่าไท่หวู่จะเป็นระดับสูงของตลาดมืดหยินชานสาขา 9 พันธมิตร แต่จะอย่างเสีย..ไม่ว่าก่อนหน้าที่มันจะย้ายมาสาขานี้ หรือหลังจากที่อยู่สาขานี้แล้ว ตัวมันก็ยังถือเป็นนักฆ่าคนหนึ่ง และตราบใดที่เป็นนักฆ่าของตลาดมืดหยินชาน จำต้องกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าจะไม่เปิดเผยฐานะออกไปเด็ดขาด! หาไม่แล้วพวกมันก็ต้องถูกอัสนีฟ้าพิฆาตตายตก! “ข้ากับเจ้าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน แล้วทำไมเจ้าต้องฆ่าข้าด้วย?” ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดหยีลงเมื่อได้ยินคำของไท่หวู่ “เจ้าข้าเราท่านแม้ไร้ความแค้นบาดหมาง แต่อย่างไรเสียเจ้าเคยได้ยินคำนี้หรือไม่ ‘คนไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยก’ ข้าต้องการกระบี่เล่มนั้นของเจ้า!” ไท่หวู่เผยยิ้มเย็นเยือกออกมาน่ากลัว แววตาเผยความโลภให้เห็นเด่นชัด “กระบี่เหรอ?” ได้ยินคำของไท่หวู่ต้วนหลิงเทียนก็ถึงกับอึ้งไปทันที อย่างไรก็ตามไม่นานเขาก็ตระหนักได้ว่าไม่พ้นมันต้องตาพึงใจกระบี่นิลสวรรค์แน่นอน “อย่าได้แสร้งโง่งมตีหน้าเซ่ออันใด! อาศัยเจ้าที่ยังมิได้ตัดผ่านไปถึงขอบเขตเซียน กลับมีพลังสามารถสังหารเฉียนคงได้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะกระบี่เล่มนั้นของเจ้ามิใช่หรอกรึ? ถึงเฉียนคงมันจักเป็นสัดใส่ข้าวที่ใช้การมิได้แต่มันก็เป็นขอบเขตเซียนคนหนึ่ง!” ไท่หวู่กล่าวเย้ยหยันออกมา “อ้อ เจ้าหมายถึงกระบี่เล่มนี้เหรอ?” เมื่อต้วนหลิงเทียนยกมือขึ้น กระบี่นิลสวรรค์ก็ผุดโผล่ออกมาจากความว่างเข้ามือ พอได้เห็นกระบี่นิลสวรรค์ในมือของต้วนหลิงเทียน สองตาไท่หวู่ก็ลุกวาวขึ้นมาทันใด “แล้วเจ้าก็ไม่บอกข้าแต่แรก เอาสิ…หากเจ้าอยากได้ข้าก็จะมอบมันให้เจ้า…แต่นั่นเจ้าต้องสามารถใช้มันได้ก่อนนะ” ต้วนหลิงเทียนโยนกระบี่เบาๆ ก่อนที่จะจับปลายกระบี่เอาไว้แล้วยื่นด้ามกระบี่ไปให้ไท่หวู่ คล้ายคิดมอบกระบี่ให้มันแต่โดยดีแล้วจริงๆ “ไอ้หนูเจ้าคิดจักทำอันใดกัน?” เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนกลับให้ความร่วมมือแต่โดยดี ไท่หวู่จึงอดระแวงไปเสียไม่ได้! มันระแวดระวังตัวและไม่คิดเอื้อมมือไปรับกระบี่ต้วนหลิงเทียนอย่างวู่วาม!! “ข้าจะไปทำอะไรได้เล่า?” ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาเบาๆ “หากข้ามีลูกไม้อะไรคิดใช้ออก ข้าคงไม่มัวมาเสียเวลาพูดเยอะอย่างกับเจ้าหรอกหน่า… เจ้าเองก็เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนที่ร้ายกาจไม่ใช่รึไง? อย่าบอกว่าเจ้ากลัวจนไม่กล้ารับกระบี่ที่ข้ายื่นให้?” วาจาท้ายประโยคต้วนหลิงเทียนยังเน้นคำว่า ‘ยื่นให้’ เป็นพิเศษ ได้ยินวาจานี้ของต้วนหลิงเทียนไท่หวู่พลันคืนสติ และตระหนักได้ว่าทั่วกายของต้วนหลิงเทียนตอนนี้อ่อนแอนัก ไม่น่าจะมีปราณแท้เปิดใช้งานกระบี่ได้อีก และเป็นอย่างที่ต้วนหลิงเทียนว่า หากมีกลวิธีอันใดไฉนต้องมากล่าววาจาให้มากความ ก่อนหน้านี้เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนใช้กระบี่ฆ่าเฉียนคงอย่างไร มันก็เห็นชัดถนัดตา กระบี่เล่มนี้แม้แลดูเรียบง่ายสามัญ หากแต่พลังอำนาจกลับน่าสะพรึงถึงขีดสุด! กลิ่นอายพลังที่ตัวกระบี่แผ่ออกมา ทรงพลังเสียจนสามารถสะกดลมหายใจของมันได้! หากกระบี่เล่มนั้นตวัดจี้ใส่มัน มันไม่อาจไม่ตาย! เรื่องนั้นมันไม่คิดสงสัยแม้แต่น้อย เมื่อตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ ไท่หวู่พลันผ่อนคลายความระวัง เอื้อมมือไปรับกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนยื่นมอบให้แต่โดยดี อย่างไรก็ตามหน้ามันจำต้องเปลี่ยนสีกลับกลายในพริบตา นั่นเพราะมันพบว่า กระบี่ที่แลคล้ายจะเบาปานขนนกยามอยู่ในมือของต้วนหลิงเทียน ยามมันกอบกุมไว้แล้วต้วนหลิงเทียนปล่อยมือ กระบี่กลับหนักจนมันถือไม่ไหวยังพาลทำให้ร่างมันล้มคะมำหัวทิ่ม แถมตัวกระบี่ยังทับมือมันให้เจ็บปวดนัก! แม้มันจะพยายามเอามือออกมาจากการกดทับของกระบี่ได้ แต่ไม่ว่ามันจะใส่แรงมากมายเพียงใด มันก็ไม่อาจยกกระบี่ขึ้นมาได้เลย!! “ไอ้หนู นี่มันอันใดกัน!? ไฉนเจ้าที่เป็นสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่กลับใช้กระบี่ที่หนักถึงเพียงนี้ได้อย่างง่ายดาย ทว่าข้ากลับมิอาจยกมันขึ้นมาได้!?” หลังจากลองพยายามหยิบยกกระบี่จนหน้าดำคร่ำเครียด ไท่หวู่ก็จนปัญญาได้แต่ถลึงตามองจี้ถามต้วนหลิงเทียนเสียงแข็ง ในความคิดของมัน ต้องมีความลับบางประการที่ทำให้ต้วนหลิงเทียนใช้กระบี่เล่มนี้ได้! และหากคิดจะหยิบยกใช้งานกระบี่เล่มนี้ จำต้องเข้าใจความลับที่ว่าเสียก่อน! “ข้ามอบกระบี่ให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่อาจยกมันขึ้นมาใช้งานได้ไหวเอง…เรื่องนี้เจ้าโทษข้าไม่ได้นา” ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ก่อนที่จะถอนหายใจคล้ายจะบอกว่าช่วยไม่ได้… ขณะเดียวกันไท่หวู่ก็พบว่าในแววตาของต้วนหลิงเทียน ไร้ซึ่งความกลัวเกรงอะไรมันแม้แต่น้อย สงบนิ่งคล้ายเผชิญเรื่องไร้สำคัญ! ราวกับอยู่ดีๆอีกฝ่ายก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลงทางความคิดครั้งใหญ่! “ไอ้หนู เจ้าต้องเล่นกลอันใดสักอย่าง!” ใบหน้าไท่หวู่สะท้านทั้งมืดลงทันใด ตะคอกเสียงออกมาดังลั่น “ข้าแนะนำให้เจ้าเร่งกล่าวบอกความลับของกระบี่เล่มนี้ออกมาเสียแต่โดยดี…หาไม่แล้วข้าจักฆ่าเจ้าให้ตายแม้ข้าจักมิอาจล่วงรู้ความลับนั่นก็ตาม!” วาจาท้ายประโยคยามกล่าว ทั่วร่างไท่หวู่ยังเผยจิตฆ่าฟันอันอำมหิตออกมา “ข้าจะไปเล่นกลอะไรได้เล่า?” ต้วนหลิงเทียนยังคงส่ายหัวไปมาอย่างช่วยไม่ได้ แววตาท่าทางไม่ได้มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความหวาดกลัว คล้ายไม่แยแสการคุกคามของไท่หวู่แม้แต่น้อย “ไอ้หนู ใช่เจ้ากำลังคิดว่าข้าอยากได้กระบี่เล่มนี้มากจนมิกล้าฆ่าเจ้าอยู่หรือไม่?” หน้าไท่หวู่จมลงทันใด กล่าวถามออกมาเสียงเย็น ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มบางๆ แต่ไม่ไดตอบคำอะไร “ไอ้หนูข้าสามารถทำลายอนาคตเจ้าหรือฆ่าเจ้าให้ตายได้ง่ายดายนัก…ข้าจักเตือนเจ้าไว้ว่าสมควรให้ความร่วมมือกับข้าเสียแต่โดยดี หากเจ้าเชื่อฟังดีๆ ทำให้ข้าอารมณ์ดีข้าอาจจะเมตตาปล่อยเจ้าไปทั้งมีชีวิต!” ไท่หวู่กล่าวเย้ยออกมา “เจ้าจะทำลายอนาคตข้ายังไงกัน?” ได้ยินคำของไท่หวู่ ต้วนหลิงเทียนชักสีหน้าเหรอหราตาปริบๆ คล้ายไม่รู้ว่าไท่หวู่พูดอะไร “เจ้าต้องมิทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในสำนักจันทร์จรัสแสง ก่อนที่เจ้าจะกลับไปใช่หรือไม่?” ไท่หวู่ยิ้มกล่าว “ถึงแม้ข้ามิรู้ว่าไฉนเฉียนคงถึงได้ลงมือสังหารเจ้าเช่นนั้น แต่ต่อให้เจ้ามิได้ฆ่าเฉียนคง น่ากลัวว่าสำนักจันทร์จรัสแสงก็มิมีที่เหลือให้เจ้ายืน! เพราะโทษของสำนักจันทร์จรัสแสงร้ายแรงนัก ฆ่าอาวุโสฝ่ายในคนหนึ่งก็ต้องรับโทษตายสถานเดียว!” “ฆ่าอาวุโสฝ่ายในสำนักจันทร์จรัสแสง? เจ้าหมายถึงหลิวฮ่วนงั้นเหรอ?” ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว ยิ่งมายิ่งสับสนด้วยไม่รู้ไท่หวู่กำลังพล่ามอะไร “ข้ามิรู้ว่าหลิวฮ่วนคือใคร แต่อาวุโสที่เจ้าฆ่าไปก่อนหน้ามันบรรลุสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ เช่นนั้นมันสมควรเป็นอาวุโสฝ่ายในของสำนักจันทร์จรัสแสง” ไท่หวู่กล่าวด้วยใบหน้าเย้ยเยาะ “เจ้าอาจมิรู้ตัว แต่ข้าได้บันทึกฉากการสังหารของเจ้าเอาไว้หมดสิ้น และข้าได้ใช้ยันต์เต๋าม่านกระจกฉายลักษณ์ ฉายภาพเรื่องราวทั้งหมดกลางน่านฟ้าสำนักจันทร์จรัสแสงก่อนที่เจ้าจะกลับมา” อย่างไรก็ตามไท่หวู่ไม่ทราบเรื่องหนึ่ง หากต้วนหลิงเทียนไม่ได้ฆ่าเฉียนคง ต่อให้ฆ่าหลิวฮ่วนไป เขาก็ไม่ต้องรับโทษทัณฑ์อะไร หลิวฮ่วนตกตาย ก็เพราะมันสมควรแล้ว ต่อให้หลิวฮ่วนตายไป สำนักจันทร์จรัสแสงก็ไม่คิดลงโทษอะไรเขาแม้แต่น้อย ยังไม่มีใครคิดเห็นใจหลิวฮ่วน เพราะมันรนหาที่ตายเอง สำหรับเจียงเว่ยและอาวุโสขอบเขตเซียนคนอื่นๆ ยังเห็นต้วนหลิงเทียนเป็นสมบัติล้ำค่าด้วยซ้ำ…หากไม่เกิดเรื่องฆ่าเฉียนคงขึ้น น่ากลัวว่าตำแหน่งเจ้าสำนักรุ่นต่อไปคงถูกประเคนมาให้ต้วนหลิงเทียนแล้ว “อ้อ…ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง” ได้ยินคำของไท่หวู่ ในที่สุดข้อข้องใจก่อนหน้าของต้วนหลิงเทียนก็กระจ่างชัด “ข้าไม่แปลกใจเลยที่ทำไมอยู่ๆเฉียนคงถึงตั้งเป้าสังหารมาที่ข้า…ที่แท้เพราะมันพบพลังฝีมือข้าแล้วนี่เอง มันคงคิดว่าข้าเป็นคนฆ่าจ้าวเฟิงงั้นสินะ…” ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยความเข้าใจ “เจ้าหนูข้าจักให้เวลาเจ้าอีก 1 เค่อ…หลังผ่านไป 1 เค่อหากเจ้ายังไม่บอกความลับที่สามารถทำให้ใช้กระบี่เล่มนี้ได้ ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตาย!” หลังจากกล่าวแล้ว คล้ายไท่หวู่จะเพิ่มความน่าเกรงขาม มันถึงกับสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าทันที เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! …… หลังจากกล่าวคำสาบานแล้ว ไท่หวู่ก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้าเสมือนคนถือไพ่เหนือกว่า คล้ายไร้กังวลว่าต้วนหลิงเทียนไม่มีทางที่จะไม่บอกความลับให้มันแน่ “ฮ่าๆๆๆ…!!” ทว่าพอเห็นไท่หวู่กล่าวคำสาบานแบบนี้ออกมา ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะขบขันจนหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “เจ้าหัวเราะอะไร!?” ไท่หวู่รู้สึกเสียหน้าไม่น้อย “หัวเราะในความไม่รู้ของเจ้ายังไงล่ะ” หลังจากยิ้มบางๆกล่าวตอบไท่หวู่ ต้วนหลิงเทียนพลันเอ่ยออกอย่างเฉยเมย “ก็นะ…ในเมื่อเจ้าชอบกล่าวคำสาบานนัก ข้าจะกล่าวคำสาบานเล่นเป็นเพื่อนเจ้าแล้วกัน” หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็เริ่มกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าทันที “หากข้ามีวิธีที่ทำให้ไท่หวู่สามารถใช้กระบี่เล่มนี้ได้ตอนนี้ ขอให้ฟ้าพิฆาตข้าตายตก!” นี่เป็นคำสาบานที่ต้วนหลิงเทียน กล่าวสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า หลังจากที่กล่าวคำสาบานจบจนอัสนีฟ้าลั่นดัง 9 คำรบตอบรับ กลับไม่ยักกะมีสายฟ้าผ่าหัวต้วนหลิงเทียนแต่อย่างไร! เผยให้เห็นชัดว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้โกหกมันจริงๆ… “เจ้าไม่มีวิธีทำให้ข้าใช้กระบี่ได้งั้นเหรอ ไม่จริงน่า! เป็นไปมิได้! แล้วเจ้าที่อยู่ในขอบเขตสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่จักใช้กระบี่เล่มนี้ได้อย่างไร! กระทั่งข้าบรรลุขอบเขตเซียนยังไม่แม้แต่จะยกมันได้!?” เมื่อตระหนักได้ว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้โกหก หน้าไท่หวู่ก็เปลี่ยนสีทันที แรกเริ่มเดิมทีภาพฝันของมันนับว่าสวยหรูนัก… ตราบใดที่มันได้กระบี่ในมือต้วนหลิงเทียนมา มันจะออกจากเขตปกครอง 9 พันธมิตร กลับไปยังตลาดมืดหยินชานสาขาที่มีระดับสูงกว่านี้ มันไม่เพียงแต่คิดย้อนกลับไป ยังจะกลับไปฆ่าคนที่เคยต่อต้านมันกระทั่งบีบคั้นขับไล่มันมาให้ตาย! อนิจจาตอนนี้ความจริงกลับเผยให้เห็นชัด ว่ามันไม่มีวิธีใช้กระบี่เล่มนี้ได้ “สวรรค์และโลกกว้างใหญ่สุดไพศาล ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้” ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเรียบ “เนื่องจากข้าใช้มันมิได้ เจ้าก็ไม่อาจใช้มันได้เช่นกัน! ตายเสีย!!” ไท่หวู่หยีตามองต้วนหลิงเทียนด้วยเจตนาฆ่าฟัน หลังจากที่ฝันมันสลาย มันก็คับแค้นจนอยากฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตาย “ฆ่าข้า? น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีโอกาสนั้น” ในขณะที่ไท่หวู่มีโทสะและกำลังจะลงมือฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตาย ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวออกมาอย่างไร้แยแส พร้อมสะบัดมือปาป้ายศิลาหนึ่งออกไป ป้ายศิลามุมแหว่งหนึ่งผุดโผล่จากความว่างเข้ามือ และหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเขวี้ยงปาออกไป คล้ายมันจะระเบิดพลังขึ้นมาอย่างคึกคักปานถูกฉีดเลือดไก่! พุ่งจี้เข้าหาไท่หวู่ด้วยความเร็วสูงล้ำ!! ปงงง!! ก่อนที่ไท่หวู่จะทันได้ลงมืออะไร ป้ายศิลาดังกล่าวก็กระแทกกลางหน้าของมันอย่างแรง… วินาทีต่อมานอกจากดั้งที่หักแล้วไท่หวู่ก็คล้ายไร้บาดแผลอื่นใดอีก หากทว่าแววตาของมันที่เคยถลึงมองมาอย่างดุร้ายกลับเลื่อนลอยไร้ประกายดั่งปลาตาย ดวงวิญญาณของมันสาบสูญไปจากร่างเสียแล้ว กล่าวให้ชัดคือดวงวิญญาณของมันถูกสะกด แน่นอนว่าสิ่งที่สะกดวิญญาณของมันเอาไว้ก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากตราผนึกมาร! ตอนที่ไท่หวู่โรยตัวลงมาและเปิดเผยความต้องการช่วงชิงกระบี่นิลสวรรค์ กลิ่นอายพลังของมันก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนรับทราบแล้ว ว่ามันเป็นผู้ฝึกมารคนหนึ่ง… และทันทีที่รู้ว่าไท่หวู่เป็นผู้ฝึกมารเขาก็ไม่ได้หวาดกลัวมันแม้แต่น้อย ด้วยด่านพลังฝึกปรือขอบเขตสู่เซียนของเขา ผู้ฝึกมารในขอบเขตเซียนด่านแรกๆ ย่อมไม่มีทางรอดพ้นชะตาดับอนาถต่อหน้าตราผนึกมารได้เลย ขอบเขตเซียนนั้นก็แบ่งออกได้หลายระดับ ก่อนหน้านี้ต้วนหลิงเทียนก็ได้ยินป๋ายลี่หงกล่าวบอกเอาไว้ ว่ายอดฝีมือขอบเขตเซียนที่ร้ายกาจที่สุดใน 9 พันธมิตรนั้น เพียงบรรลุจุดสูงสุดของขอบเขตเซียนระดับแรกเท่านั้น ผู้ที่ทรงพลังระดับนั้น ว่ายตามองทั่ว 9 พันธมิตรน่ากลัวว่าจะมีแค่ 2 คน ‘ผู้นำ’ ตลาดมืดหยินชานสาขา 9 พันธมิตรนับเป็น 1 ในนั้น
คอมเม้นต์