War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 3079

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 3079 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

หลังต้วนหลิงเทียนผสานพลังธาตุไฟเข้ากับพลังเซียนอมตะและใช้พลังจากความลึกซึ้งลุกโหมทับไปอีกชั้น ก็ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนไหวเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่ใช้ยมทูตครอบงำแม้แต่น้อย
 
อย่างไรก็ตาม กฏแห่งความตายนั้นคือ 1 ใน 4 กฏสูงสุด และทรงพลังเหนือกว่ากฏทั่วไป!
 
อย่างเช่นตอนนี้ หลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่ใช้ความลึกซึ้งยมทูตครอบงำนั้น เมื่อเทียบกับต้วนหลิงเทียนที่ใช้ความลึกซึ้งลุกโหมแล้ว มีแต่แข็งแกร่งกว่า ไม่อ่อนด้อยกว่าแน่นอน
 
ความลึกซึ้งลุกโหมของต้วนหลิงเทียน จริงอยู่ที่นอกจากเสริมความเร็วเป็นหลักแล้ว ยังช่วยหนุนเสริมในแง่ของการโจมตีได้ด้วย แต่เป็นธรรมดาว่ามันหนุนเสริมพลังโจมตีได้ด้อยกว่าความลึกซึ้งที่เสริมพลังโจมตีเป็นหลัก
 
ทว่าความลึกซึ้งยมทูตครอบงำของหลิงเจวี๋ยอวิ๋น ไม่เพียงแต่จะเพิ่มพูนความเร็วให้ไม่ด้อยไปกว่าความลึกซึ้งลุกโหมเท่านั้น มันยังเพิ่มพูนพลังโจมตีได้ไม่ต่างอะไรกับความลึกซึ้งที่เสริมพลังโจมตีเป็นหลัก!
 
ด้วยเหตุนี้หากมองในภาพรวมแล้ว ความลึกซึ้งยมทูตครอบงำของกฏแห่งความตาย มันเหนือกว่าความลึกซึ้งลุกโหมขอกฏแห่งไฟ!
 
“ไม่คิดเลยจริงๆว่าเจ้าจะเข้าใจความลึกซึ้งลุกโหมของกฏแห่งไฟ…”
 
เมื่อเห็นร่างต้วนหลิงเทียนที่กลับกลายเป็นลูกไฟพุ่งฉากหลบออกข้างไป และพริบตาก็ฉีกระยะไปนู่น หลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็ประหลาดใจอยู่บ้าง
 
“อย่างไรก็ตาม หากวันนี้นอกจากความลึกซึ้งลุกโหมกับความหมายแห่งไฟแล้ว เจ้าไม่เจ้าใจความลึกซึ้งประการอื่นของกฏแห่งไฟ เจ้าก็มีแต่แพ้กับแพ้!”
 
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นตะเบ็งเสียงลำพองไม่ทันจบคำ ก็ปรากฏร่างหลิงเจวี๋ยอวิ๋นอีกคนแยกออกมาจากตัวมันปานภูตผี!
 
อย่างไรก็ตามหลิงเจวี๋ยอวิ๋นคนนี้ สองตากลับไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ แถมยังแดงฉานปานก้อนเลือด แม้ทั่วร่างจะไม่มีพลังใดๆก็ตาม แต่ยามเหินทะยานออกไป พลังสภาวะของมันไม่คล้ายอ่อนแอกว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นอีกคนเลย
 
หลังจากใช้ออกด้วยความลึกซึ้งยมทูตครอบงำแล้ว หลิงเจวี๋ยอวิ๋นยังใช้ความลึกซึ้งร่างแฝดแห่งความตายออกมาทันที!
 
ต้วนหลิงเทียนเคยได้ยินมาก่อนแล้ว ว่าในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำหลิงเจวี๋ยอวิ๋นได้ใช้ร่างแฝดแห่งความตาย
 
อย่างไรก็ตามเขาจดจำไม่ได้ และไม่ทราบว่าที่แท้ร่างแฝดแห่งความตายมันมีความสามารถอะไรบ้าง
 
จนเมื่อได้ไปหอตำราฝ่าในของนิกายอมตะเป้าผู่
 
ในหอตำรามียันต์อมตะเก็บความทรงจำที่อธิบายความลึกซึ้งของกฏแห่งความตายเอาไว้ชัดเจน จะยมทูตครอบงำก็ดี ร่างแฝดแห่งงความตายก็ดี ลักษณะพลังนั้นเขาเคยอ่านผ่านตามาหมดแล้ว
เขาจึงรู้ว่าร่างแฝดแห่งความตาย ไม่เพียงจะมีรูปลักษณ์เหมือนร่างต้นราวฝาแฝด แต่ยังมีด่านพลังฝึกปรือเท่าเทียมกับร่างต้น อีกทั้งยังสามารถใช้ความลึกซึ้งของกฏแห่งความตายได้ด้วย
 
อย่างไรก็ตามความลึกซึ้งของกฏแห่งตายที่มันใช้ได้นั้น นอกจากความหมายแห่งความตายแล้ว ก็ไม่อาจใช้ความลึกซึ้งอื่นๆได้
 
หากใช้ได้ ไม่ใช่ว่ามันจะใช้สร้างร่างแฝดแห่งความตายได้อย่างไร้สิ้นสุดหรือไร?
 
แต่กระนั้นก็ไม่ได้ลดทอนความน่ากลัวของร่างแฝดแห่งความตายเลย
 
ร่างแฝดแห่งความตายนั้นไม่อาจทำลายได้เว้นเสียแต่จะฆ่าร่างต้น ต่อให้ถูกพลังป่นปี้จนแหลกสลาย มันก็จะกลับกลายพลังแห่งความตายและก่อร่างขึ้นมาใหม่อีกครั้งทันที
 
นอกจากนั้นขณะที่ใช้ความลึกซึ้งร่างแฝดแห่งความตาย ตัวผู้ใช้ยังจะมีพลังและความเร็วเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่งอีกด้วย!
 
ด้วยเหตุนี้ในวินาทีที่ร่างแฝดแห่งความตายปรากฏขึ้น ร่างหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่เปลี่ยนทิศทางโจนทะยานติดตามต้วนหลิงเทียนไป อยู่ๆความเร็วก็พุ่งสูงขึ้นในชั่วพริบตา!
 
ฟุ่บบบ!!
 
เมื่อความเร็วของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นเพิ่มพูนขึ้นในฉับพลัน ร่างมันก็พุ่งไปด้วยความเร็วเหนือกว่าต้วนหลิงเทียนที่ใช้คววามลึกซึ้งลุกโหมอย่างเห็นได้ชัด!
 
ร่างหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่ความเร็วเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด พริบตาก็พุ่งตามไปเจียนบรรลุถึงตัวต้วนหลิงเทียน!
 
ฟุ่บบบ!!
 
ไม่เพียงหลิงเจวี๋ยอวิ๋นกำลังจะไล่ทันต้วนหลิงเทียนเท่านั้น ร่างแฝดแห่งความตายเองก็พุ่งติดตามมาด้านหลังมันราวกับเงาตามตัว!
 
‘วัดกันแต่ความเร็ว ตอนนี้ข้านับว่าด้อยกว่ามันมาก…ร่างแฝดแห่งความตายนั่นเพิ่มความเร็วให้มันพอพอสมควรเลย ต่อให้ข้าใช้ความลึกซึ้งเผาไหม้ตอนนี้ แต่อย่างดีก็เพิ่มความเร็วได้ไม่เท่าไหร่ ไม่เท่าร่างแฝดแห่งความตายของมันแน่’
 
เมื่อเห็นว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นกับร่างแฝดแห่งความตายจี้เข้ามาติดๆ และอีกไม่นานคงตามทัน สองตาต้วนหลิงเทียนพลันหดหยีลงครู่หนึ่ง จากนั้นก็เรืองประกายวาบขึ้นปานฟ้าแล่บ ในใจบังเกิดความคิดประการหนึ่ง!
 
ตอนนี้หากยังคิดจะฉีกระยะหยั่งเชิง ไม่เพียงแต่จะไร้ประโยชน์ แต่ไม่พ้นต้องถูกร่างต้นหลิงเจวี๋ยอวิ๋นพุ่งแซงไปก่อน จากนั้นก็ถูกร่างแฝดแห่งความตายที่ติดตามมาด้านหลังกลุ่มรุมกระหนาบหัวท้ายแน่นอน
 
เนื่องเพราะความเร็วของเขาที่อาศัยความลึกซึ้งลุกโหมอย่างเดียว มันสู้หลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่ใช้ยมทูตครอบงำกับร่างแฝดแห่งความตายไม่ได้เลย
 
เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนจึงล้มเลิกการฉีกระยะหยั่งเชิง และลงมือจู่โจมออกกไปทันที!
 
อาศัยความลึกซึ้งลุกโหมกับเผาไหม้ ก็มากพอจะทำให้เขามีพลังโจมตีเหนือกว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นในตอนนี้แล้ว
 
ความลึกซึ้งลุกโหมของกฏแห่งไฟอาจเพิ่มพูนพลังโจมตีได้ไม่เท่ายมทูตครอบงำของกฏแห่งความตาย
 
อย่างไรก็ตามความลึกซึ้งเผาไหม้นั้น มันสามารถเพิ่มพูนพลังโจมตีให้เขาได้มากกว่าร่างแฝดแห่งความตายหลายขุม!
 
เพราะความลึกซึ้งเผาไหม้เป็นหนึ่งในความลึกซึ้งที่เสริมพลังเป็นหลักของกฏแห่งไฟ!
 
เรียกว่ายามผสานใช้ความลึกซึ้งลุกโหมกับความลึกซึ้งเผาไหม้ พลังโจมตีของเขาจะทรงพลังเหนือกว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่ใช้ความลึกซึ้งยมทูตครอบงำกับร่างแฝดแห่งความตายแน่นอน!
 
“รับมือ!”
 
ในขณะที่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นกำลังจะไล่ตามต้วนหลิงเทียนที่กลายเป็นดั่งลูกไฟได้ทันนั้น อยู่ๆต้วนหลิงเทียนที่กลายเป็นลูกไฟร้อนระอุก็โพล่งคำออกมาอย่างดุดัน!
 
จากนั้นลูกไฟที่พุ่งไปเบื้องหน้าฉับไว คล้ายบังเกิดการระเบิดขึ้น พริบต่าต่อมามันก็วกกลับมาหาหลิงเจวี๋ยอวิ๋นด้วยสภาวะดุร้ายดื้อๆ!
 
ปงงงงงง!!
 
ฟู่มมมม!!
 

 
เสียงระเบิดของพลังหนึ่งก็ดังสนั่นกึกก้องไปทั่วฟ้า ลูกเพลิงอยู่ๆก็เปลี่ยนทิศทางย้อนศรกลับมาอย่างอัศจรรย์! จากนั้นลูกไฟระอุก็คล้ายจะขยายใหญ่ขึ้นในชั่วพริบตา!!
 
ที่สำคัญตอนนี้เปลวไฟที่ลุกโชนนั่นเสมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างน่ากลัว มวลอากาศโดยรอบประหนึ่งจะถูกแผดเผาจนมอดไหม้!
 
“นี่มัน…ความลึกซึ้งเผาไหม้!”
 
เดิมทีหลิงเจวี๋ยอวิ๋นคิดว่าจะอาศัยความเร็วที่เหนือกว่าพุ่งแซงต้วนหลิงเทียนไปแล้ววกกลับมาจู่โจมซึ่งจะทำให้ต้วนหลิงเทียนเสมือนโดนกระหนาบจู่โจมทั้งหัวท้าย แต่อยู่ๆพอเห็นต้วนหลิงเทียนวกกลับมาหน้าตาเฉย ทั้งเปลวเพลิงทั่วร่างก็คล้ายจะทวีความรุนแรงขึ้นในฉับพลัน กอปรกับสัมผัสได้ถึงความร้อนระอุปานบรรยากาศมอดไหม้! ลูกตาหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็หดเล็กลงทันที!!
 
กระทั่งลึกลงไปในแววตา ยังฉายชัดถึงความตกตะลึงเหลือเชื่อขึ้นมา!
 
‘ต้วนหลิงเทียนนั่น…ไม่ใช่ว่ามันเชี่ยวชาญกฏแห่งดินหรือไร!?’
 
‘หรือในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำและตอนประลองกับองค์ชายรองหนันฉี่นั่น มันใช้กฏแห่งดินออกมาเพื่อตบตาทุกคน แต่ที่แท้มันเชี่ยวชาญกฏแห่งไฟมากที่สุด!?’
 
เห็นต้วนหลิงเทียนใช้ความลึกซึ้งลุกโหม ตามมาด้วยความลึกซึ้งเผาไหม้แบบนี้ หลิงเจวี๋ยอวิ๋นไม่อาจไม่แปลกใจ ยังคิดไปว่าที่ผ่านมาต้วนหลิงเทียนจงใจใช้กฏแห่งดินเพื่อปิดบังกฏแห่งไฟ!
 
“หากเจ้าทำได้แค่นี้…ไม่เกิน 10 กระบวนท่าเจ้าแพ้ข้าแน่!”
 
ต้วนหลิงเทียนที่วกร่างโจนทะยานเข้ามาหาหลิงเจวี๋ยอวิ๋นพร้อมเพลิงพลังที่ลุกโชนท่วมร่างอย่างน่ากลัว เอ่ยออกเสียงเรียบ
 
และแทบจะพร้อมกันกับที่กล่าวจบคำ ลูกตาต้วนหลิงเทียนก็หดหีลง จากนั้นเปลวเพลิงมหึมารอบกายก็รวมควบรวมก่อเกิดกระบี่ไฟเล่มแล้วเล่มเล่า!
 
กระบี่ไฟหลายเล่มอุบัติขึ้นในห้วงเวลาชั่วพริบตา พวกมันเหินวนเวียนรอบร่างต้วนหลิงเทียนไม่กี่รอบ ก็พุ่งทะยานเข้าใส่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นปานห่าอุกกาบาต!
 
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
 

 
เสียงหอนกระบี่ดังขึ้นระงม กระบี่เพลิงที่พุ่งไปฉับไวปานลำแส ทะลวงแหวกอากาศมาประหนึ่งห่าพิรุณเปลวเพลิง!
 
ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนที่ควบคุมห่ากระบี่ให้พุ่งใส่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นแล้วเสร็จ ร่างคนก็ปะทุพลังขึ้นอีกขุม จากคนก็โจนทะยานขึ้นฟ้าพลางง้างมือขึ้นแล้วตบฟาดลงมาทันที!
 
เป้าหมายการตบฟายย่อมเป็นหลิงเจวี๋ยอวิ๋น!
 
ในห้วงเวลาพริตาดุจละอองไฟวาบดับ ต้วนหลิงเทียนก็ลงมือจู่โจมออกมา 2 กระบวนท่า!
 
ปงงงง!!
 
ซู่มมม!!
 

 
เสียงระเบิดประหนึ่งฟ้าคำรนดังขึ้นกึกก้อง พร้อมๆกันกับที่ฝ่ามือต้วนหลิงเทียนฟาดตบลงมา มวลพลังเพลิงที่ปะทุขึ้นมาทั่วร่างก็เริ่มผนึกลงสู่ฝ่ามือ จากนั้นก็พุ่งออกไปเป็นสายประหนึ่งธารลาวาเชี่ยวโถมเข้าใส่หลิงเจวี๋ยอวิ๋น!
 
กระบี่เพลิงฉับไวปานประกายแสงหลายเล่ม พร้อมด้วยกระแสพลังร้อนระอุปานธารลาวาเชี่ยวหลั่งไหลจากฟากฟ้า ต่างโถมถันเข้าใส่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นอย่างดุดัน!
 
เผชิญกับกระบวนท่าเปี่ยมล้นไปด้วยพลังทำลายอันน่าพรั่นพรึง 2 กระบวนติด หลิงเจวี๋ยอวิ๋นพลันชะงักร่างลงกลางหาว พร้อมๆกับร่างแฝดแห่งความตายที่พุ่งมาหยุดข้างกายมัน!
 
“ต้วนหลิงเทียน เจ้าซุกซ่อนได้ลึกยิ่ง!”
 
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นเงยหน้าขึ้นมองต้วนหลิงเทียนบนฟ้า ด้วยสีหน้าท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง จากนั้นพลังแห่งความตายที่ม้วนวนรอบร่างมันก็เริ่มปั่นป่วนปานมหาพายุ!
 
ทันใดนั้นพลังเซียนอมตะที่ผสานไปด้วยพลังแห่งความตายดังกล่าว ก็เริ่มมาควบรวมก่อเกิดเป็นเคียวเล่มหนึ่ง!
 
อย่างไรก็ตามเคียวเล่มนี้ยังแลดูหยาบๆ คล้ายยังควบแน่นก่อเกิดไม่สมบูรณ์ ราวกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นยังไม่บรรลุพลังดังกล่าว!
 
วู้ม! ซัว! ซัว! ซัว! ซัว!
 

 
เสียงพลังงกู่ร้องดังขึ้น พร้อมกันนั้นก็บังเกิดเสียงแหวกอากาศดังขึ้นแผ่วเบาระรัว เป็นหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่ปะทุพลังควบรวมก่อเกิดเคียว ได้ตวัดฟันฟาดเคียวออกไปปานจักรผัน ซัดคลื่นพลังหมายต้านทานรับห่าพิรุณกระบี่เพลิงของต้วนหลิงเทียนอย่างไม่หวาดหวั่น!!
 
ปง! ปง!
 

 
พร้อมกันนั้นเองร่างแฝดแห่งความตายของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็ย่ำเท้าเหยียบอากาศอย่างแรงจนมวลอากาศแตกระเบิด ก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นปานจรวด จากนั้น 2 มือก็ตบฟาดขึ้นไปเบื้องบนจนอากาศแตกระเบิดอีกครา ท่าทางมันคิดจะแบกรับธารลาวาเชี่ยวที่โถมถันลงมาของต้วนหลิงเทียนตรงๆ!!
 
พริบตาต่อมา กระบี่เพลิงที่กระหน่ำลงมาปานห่าพิรุณของต้วนหลิงเทียนก็ปะทะเข้ากับคลื่นพลังที่ซัดออกจากเคียวของหลิงเจวี๋ยอวิ๋น
 
พร้อมๆกับกระแสพลังเพลิงระอุดั่งธารลาววาเชี่ยวที่ถล่มลงจากฟากฟ้า ก็สาดโถมลงร่างแฝดแห่งความตาย!
 
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
 

 
เสียงระเบิดสนั่นดังขึ้นถี่ยิบ กระบี่เพลิงดั่งประกายแสงถูกคลื่นพลังจากเคียวของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นปะทะต้านทานอย่างจัง แม้พวกมันสามารถเอาชนะคลื่นพลังจากเคียวได้ กระนั้นพลังก็ลดทอนลงไปหลายส่วน
 
ส่วนอีกด้านกระแสพลังเพลิงระอุที่โถมลงมาดั่งธารลาวาเชี่ยวก็กลืนร่างแฝดแห่งความตายของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นได้ไม่ยากเย็น ร่างแฝดแห่งความตายประหนึ่งถูกหลอมจนสลายเป็นไอพลังสีดำ!
 
อย่างไรก็ตามไอพลังสีดำดังกล่าว ก็ควบรวมก่อเกิดร่างแฝดแห่งความตายอีกครา และยังคงยกฝ่ามือขึ้นฟ้าหมายแบกรับธารลาวาเชี่ยวเอาไว้ ประหนึ่งนักรบเดนตายไร้ความกลัว
 
เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวดำเนินขึ้นถี่ยิบในห้วงเวลาแค่พริบตา
 
จนในที่สุดความเร็วในการควบสร้างร่างแฝดแห่งความตายก็เริ่มช้าลง อย่างไรก็ตามกระแสพลังเพลิงระอุที่หลั่งไหมาปานธารเชี่ยวก็เริ่มช้าลงเช่นกัน
 
ฟุ่บบบ!!
 
ร่างหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่ตวัดเคียวซัดพลังต้านกระบี่เพลิงของต้วนหลิงเทียนเป็นพัลวัน ฉวยโอกาสดังกล่าวพุ่งร่างหลบออกจากจุดเดิมไปด้วยความเร็วฉับไวปานภูตผี!
 
เปรี๊ยง! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
 

 
ห่ากระบี่เพลิงของต้วนหลิงเทียนที่ถูกคลื่นเคียวซัดจนลดทอนสภาววะไปหลายส่วน ก็ได้แต่พุ่งเสียบอากาศอย่างจัง จากนั้นก็ร่วงตกลงไปถล่มทำลายผืนป่าเบื้องล่างจนวินาศสันตะโร! นอกจากนั้นกระแสพลังดั่งธารลาวาเชี่ยวก็พุ่งไปถล่มผืนดินเบื้องล่างจนเกิดหลุมลึก ปรากฏไอร้อนพวยพุ่งขึ้นมาจากก้นหลุมขโมงโฉงเฉง!!
 
“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเข้าใจความลึกซึ้ง เคียวยมทูต ของกฏแห่งความตายแล้วด้วย”
 
ต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างค้างกลางหาว ชุดคลุมสีม่วงโบกสะบัดไปตามแรงลม ก้มลงมองหลิงเจวี๋ยอวิ๋นเบื้องล่างพลางกล่าว แม้สายตาจะเฉยเมยหากแต่น้ำเสียงฟังดูประหลาดใจอยู่บ้าง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด