War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2919

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2919 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่ 2,919 : สถานการณ์ของมู่หรงปิง
 
ถึงแม้เถี่ยไท่เหอจะพอรู้มาบ้างว่าต้วนหลิงเทียนเคยมีเรื่องราวกับนิกายอมตะสือหัง แต่มันก็ไม่ทราบว่าที่แท้เป็นเรื่องราวอันใดกันแน่ แล้วหมางใจกันมากหรือไม่
 
ก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้มันถามออกไปแบบนั้น
 
นอกจากนี้ถึงแม้ว่าเถี่ยไท่เหอจะไม่ได้ไปเข้าร่วมงานสมัชชาเต๋าโอสถครั้งล่าสุดกับพวกต้วนหลิงเทียน แต่มันก็ยังได้รับทราบจากปรมาจารย์โอสถทั้ง 3 ว่าประมุขนิกายอมตะสือหังเคยส่งคนไปตามฆ่าต้วนหลิงเทียนมาก่อน
 
ทว่าฟังจากที่ซือถูหมิงเล่ามา ดูเหมือนปรมาจารย์โอสถต้วนจะไม่ได้ติดใจเอาความเรื่องนั้น
 
มันก็เลยไม่ทราบว่าการมาเยือนนิกายยอมตะสือหังครั้งนี้ของต้วนหลิงเทียน ที่แท้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่
 
“บุกเข้าไปเลย”
 
ได้ยินคำถามของเถี่ยไท่เหอ สองตาต้วนหลิงเทียนก็ทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่ง จากนั้นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดสุดไพศาลขุมหนึ่งก็แผ่มาปกคลุมฮ่วนเอ๋อกับเถี่ยไท่เหอไว้ในฉับพลัน
 
จากนั้นร่างของทั้ง 3 ก็อันตรธานหายไปทันที!
 
พอปรากฏตัวอีกครั้ง ก็อยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่ รอบๆเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ แว่วเสียงสกุณาเจื้อยแจ้วขับขานทั่วสารทิศ ให้บรรยากาศสงบรื่นรมย์สมกับเป็นแดนเซียนโดยแท้
 
และภายในอาณาบริเวณสงบแห่งนี้ มองไปเบื้องหน้าก็พบเห็นขุนเขาสูงใหญ่อยู่ไม่ไกล มันตั้งตระหง่านราวยักษ์ปักหลั่น ให้ความรู้สึกโออ่าน่าเกรงขามอยู่บ้าง
 
“ข้าต้วนหลิงเทียน บุรุษของมู่หรงปิง…มาเยือนนิกายอมตะสือหังวันนี้ เพื่อท้าประลองขุนนางอมตะ 10 ทิศของนิกายอมตะสือหัง!”
 
และในขณะที่เถี่ยไท่เหอกำลังจะเอ่ยทักคนของนิกายอมตะสือหังตามธรรมเนียม เสียงของต้วนหลิงเทียนพลันดังก้องเข้าหูของมันเสียก่อน
 
และเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน เถี่ยไท่เหอก็ตกตะลึงอึ้งไปครู่หนึ่ง!
 
ถึงแม้มันจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว ว่าปรมจารย์โอสถต้วนของนิกายอมตะไท่อีมัน…มีสัมพันธ์สนิทสนมกับมู่หรงปิง ศิษย์อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของนิกายอมตะสือหัง
 
ทว่ามันไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ
 
ว่าที่ต้วนหลิงเทียนมานิกายอมตะสือหังวันนี้ เพื่อท้าทายขุนนางอมตะ 10 ทิศของนิกายอมตะสือหังในฐานะบุรุษของมู่หรงปิง!
 
และไฉนต้วนหลิงเทียนทำอะไรแบบนี้ ก็ไม่ยากที่มันจะคาดเดาได้ออก
 
อาจารย์ของมู่หรงปิง ผู้พิทักษ์ลำดับสองของนิกายอมตะสือหัง ‘หวางตันเฟิ่ง’ มีชื่อเสียงขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิต!
 
และเหตุผที่ไฉนหวางตันเฟิ่งขึ้นชื่อเรื่องความอำมหิตโหดเหี้ยมนั้น ไม่เพียงแต่การลงมืออย่างเหี้ยมโหดต่อศัตรูในโลกภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะหวางตันเฟิ่งได้ประหารชีวิตลูกศิษย์ของตัวเองจนตายคามือ!
 
สาเหตุที่นางฆ่าศิษย์อย่างอำมหิต เพียงเพราะศิษย์นางไปรักกับบุรุษด้านนอกเท่านั้น…
 
ทั้งหมดเพราะนางมุ่งหวังให้ศิษย์ของตัวเองขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขนิกายอมตะสือหังรุ่นต่อไป อนิจจาศิษยสายตรงของนางคนนั้นกลับไปมีสัมพันนธ์กับบุรุษที่ด้านนอก ทำให้สิ้นคุณสมบัติจะขึ้นดำรงตำแหน่งประมุข
 
‘ดูเหมือนว่าปรมาจารย์โอสถต้วนกับแม่นางมู่หรงปิงคงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว…ทำให้แม่นางมู่หรงปิงหมดโอกาสจะขึ้นดำรตำแหน่งประมุขสืบไป’
 
‘และไม่พ้นปรมาจารย์โอสถต้วนกลัวว่าแม่นางมู่หรงปิงจะประสบชะตากรรมเดียวกันกับศิษย์พี่ของนางในอดีต ถูกอาจารย์เข่นฆ่าซ้ำรอย เช่นนั้นจึงเดินทางมานิกายอมตะสือหังเพื่อคิดขัดขวางหวางตันเฟิ่ง!’
 
‘อีกทั้งการที่ปรมาจารย์โอสถต้วนเลือกจะท้าทายบิดาของหวางตันเฟิ่งตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศเพียงหนึ่งเดียวของนิกายอมตะสือหังเช่นนี้ ย่อมทำให้หวางตันเฟิ่งและนิกายอมตะสือหังแตกตื่นกันยกใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัยเลย’
 
ในห้วงเวลาดุจฟ้าแล่บ เถี่ยไท่เหอคาดเดาเรื่องราวได้มากมาย
 
“พี่หลิงเทียน…”
 
และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนประกาศตัวออกมาว่าเป็นบุรุษของมู่หรงปิงนั้น ฮ่วนเอ๋อที่อยู่ข้างๆก็เผยความอิจฉาออกมาทันที
 
และเป้าหมายความอิจฉาของนางก็คือมู่หรงปิงเป็นธรรมดา!
 
ตอนนี้แม้ฮ่วนเอ๋อจะใกล้ชิดสนิทสนมกับต้วนหลิงเทียน แต่เนื่องจากต้วนหลิงเทียนจงใจเว้นระยะห่างเรื่องความสัมพันธ์เอาไว้ นางจึงเสมือนตบมือข้างเดียวเท่านั้น
 
เรื่องนี้นางเองก็ผิดหวังมาก
 
พอเห็นต้วนหลิงเทียนยอมรับมู่หรงปิงออกมาแบบนี้ ในใจนางยิ่งทววีความผิดหวังมากขึ้น และยังอิจฉามู่หรงปิงมากยิ่งขึ้น
 
‘คงเป็นเรื่องดียิ่ง หากตำแหน่งข้าในใจของพี่หลิงเทียนจะเท่าเทียมกับพี่สาวมู่หรงปิง’
 
ฮ่วนเอ๋อลอบทอดถอนอยู่ในใจ สองตากระจ่างใสบัดนี้ฉายแววสลดหดหู่ออกมาอย่างน่าเวทนา
 
ขณะเดียวกัน เสียงต้วนหลิงเทียนนั้น ด้วยแฝงเร้นไปด้วยพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอันลึกล้ำ มันย่อมแพร่กระจายออกไปฉับไว พริบตาก็ได้ยินกันทั่วนิกายอมตะสือหัง
 
“ข้าต้วนหลิงเทียน บุรุษของมู่หรงปิง…มาเยือนนิกายอมตะสือหังวันนี้ เพื่อท้าประลองขุนนางอมตะ 10 ทิศของนิกายอมตะสือหัง!”
 
และเมื่อทุกคนตระหนักได้ถึงความในวาจาของต้วนหลิงเทียน จะระดับสูงหรือต่ำของนิกายอมตะสือหังก็ผงะไปตามๆกัน
 
เรียกว่าจะเป็นอาวุโสระดับสูงหรือแม้แต่ศิษย์ระดับต่ำที่สุด ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจจนชักสีหน้าเหรอหรา
 
หลังจากอึ้งไปพักหนึ่ง ทั้งหมดจึงค่อยดึงสติกลับมาได้
 
“นี่ๆ พวกเจ้าได้ยินเสียงนั่นกันไหม…ข้ามิได้กำลังฝันอยู่หรอกนะ?”
 
“เจ้ามิได้ฝันไปหรอก ข้าเองก็ได้ยินเหมือนกัน…เป็นเสียงบุรุษผู้หนึ่งประกาศอ้างตัวเป็นบุรุษของศิษย์พี่หญิงมู่หรงปิง ที่สำคัญยังกล่าวว่าจะท้าทายผู้พิทักษ์สูงสุดของพวกเราด้วย”
 
“ผู้พิทักษ์สูงสุดเป็นบิดาของผู้พิทักษ์ลำดับสอง อีกทั้งยังเป็นบุรุษเพียงผู้เดียวในนิกายอมตะสือหังเรา…ด่านพลังยังบรรลุถึงขุนนางอมตะ 10 ทิศแล้ว เจ้านั่นมันมาท้าผู้พิทักษ์สูงสุดเช่นนี้ จะไม่รนหาที่ตายไปหน่อยหรือ?”
 
“ข้าอยากรู้ยิ่ง…ว่าศิษย์พี่หญิงมู่หรงปิงไปมีบุรุษอยู่ด้านนอกตั้งแต่เมื่อใด อีกทั้งมิใช่ศิษย์พี่กำลังจะสืบทอดตำแหน่งประมุขหรือ นางมีความรักได้เหรอ?”
 
“ข้าก็ไม่รู้อ่า…พวกเรารีบไปชมดูกันเร็ว”
 
“แล้วบุรุษผู้นั้นเป็นใครกันนะ คงไม่ใช่คนเสียสติกระมัง?”
 
“แต่ข้าว่าไม่แน่อาจเป็นคนเสียสติจริงๆก็ได้นะ…ใครให้ศิษย์พี่หญิงมู่หรงปิงงดงามถึงขนาดนั้นเล่า บุรุษจะหลงหัวปักหัวปำก็ไม่แปลกหรอก”
 

 
ไม่นานเสียงที่ดังระงมไปทั่วนิกายอมตะสือหังก็เริ่มไปในทิศทางเดียวกัน สตรีน้อยใหญ่ทั้งหลายล้วนคิดว่าที่ต้วนหลิงเทียนประกาศออกมาแบบนั้น ไม่พ้นต้วนหลิงเทียนต้องหลงใหลในรูปโฉมของมู่หรงปิงจนสติเลอะเลือนไปแล้วแน่แท้
 
อีกทั้งบุรุษผู้นั้นอาจมีพลังฝีมือแค่พอตัว ทว่าคิดแสดงความเก่งกาจและความจริงใจให้ศิษย์พี่หญิงมู่หรงปิงของพวกนางรับทราบ ถึงได้เลอะเลือนทำเรื่องเกินตัว ไปท้าขุนนางอมตะ 10 ทิศแบบนี้…
 
ทว่าพวกนางกลับลืมนึกถึงเรื่องหนึ่งไปอย่างสิ้นเชิง
 
หากบุรุษผุ้นั้นมีพลังฝีมือแค่พอตัว ไหนเลยจะบุกเข้ามาในนิกายอมตะสือหังของพวกนางได้?
 
แล้วจะเป็นไปได้อย่างไร ที่อีกฝ่ายจะมีโอกาสประกาศวาจาเหลวไหลเช่นนี้ ต่อหน้าเหล่าศิษย์และอาวุโสหน่วยสาดตระเวนของนิกายยอมตะสือหัง?
 
อย่างไรก็ตาม เหล่าศิษย์สตรีของนิกายอมะตสือหังมากมาย ก็พากันเหินร่างขึ้นไปบนฟ้า มุ่งหน้าตรงไปยัทิศทางต้นเสียงเร็วไว
 
และในขณะที่พวกนางแต่ละคนพากันเหินบินไปเร็วไว มองจากสายตาอยากรู้อยากเห็นของพวกนางแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคิดไปชมดูบุรุษที่หาญกล้าผู้นั้น
 
กระทั่งในแววตาของบางคนยังฉายแววดูแคลน คล้ายเห็นภาพบุรุษผู้นั้นตกตายภายใต้น้ำมือของผู้อาวุโสนิกายอมตะสือหังแล้วก็ไม่ปาน
 
“ช้าก่อน…พวกเจ้าได้ยินหรือไม่ที่เมื่อครู่บุรุษผู้นั้นบอกว่ามันชื่อต้วนหลิงเทียน? ไฉนข้ารู้สึกว่าชื่อต้วนหลิงเทียน…มันคุ้นหูนักเล่า?”
 
“เดี๋ยวนะ…ต้วนหลิงเทียนเหรอ? นั่นมิใช่ชื่อปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงคนใหม่ที่ได้รับอันดับ 1 ใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้เราในงานสมัชชาเต๋าโอสถที่พึ่งผ่านมาหรือไร?”
 
“ฮ้า พอเจ้าพูดขึ้นมาข้าก็นึกได้เหมือนกัน ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น เป็นหัวหน้าปรมจารย์โอสถของนิกายอมตะไท่อีจากพื้นที่รกร้าง อีกทั้งยังเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงทั้งๆที่ยังอายุไม่ถึง 100 ปีอีกด้วย”
 
“แถมลือกันว่า แม้จะเป็นแค่ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูง แต่ในแง่ความสามารถของการหลอมโอสถแล้ว กระทั่งปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับขุนนางของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับยังสู้ไมได้เลย”
 
“ฮั้ย ดูเหมือนบุรุษผู้นี้จะเสียสติไปแล้วจริงๆ ไม่เพียงเพ้อไปว่าศิษย์พี่หญิงมู่หรงปิงเป็นสตรีของตัว ยังเพ้อว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์โอสถอัจฉริยะของนิกายอมตะไท่อีอีก!”
 
“ฮึ! การกระทำของมันครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะดูหมิ่นศิษย์พี่หญิงมู่หรงปิง แต่ยังดูหมิ่นผู้พิทักษ์สูงสุดอีกด้วย…วันนี้มันได้ตายแน่!!”
 

 
ยิ่งมาเหล่าศิษย์ของนิกายยอมตะสือหังยิ่งคิดว่าผู้ที่มาประกาศเหิมเกริมนั้นเป็นคนเสียสติ อย่างไรก็ตามพวกนางยังคงเร่งรุดเหินร่างไปชมดูเรื่องราวอย่างไม่รอช้า
 
เป็นธรรมชาติของผู้คนที่ชมชอบเรื่องราวบันเทิง
 
เหล่าศิษย์สตรีของนิกายอมตะสือหังก็ไม่เว้น
 
อีกทั้งด้วยความที่พวกนางเป็นอิสตรี ความสนใจในเรื่องทำนองชู้สาวนับว่ามีมากกว่าบบุรุษเสียอีก แค่ประเด็นนี้ก็ทำให้พวกนางคุยกันน้ำไหลไฟดับได้หลายวันแล้ว
 
“คนบ้าจากที่ใดหาญกล้าดูหมิ่นผู้พิทักษ์สูงสุด?”
 
“มันยังบ้าถึงขั้นละเมอคิดไปว่า มู่หรงปิง ศิษย์ของผู้พิทักษ์ลำดับสองเป็นสตรีของมันเชียวหรือ เหลวไหลใหญ่แล้ว!”
 
“ที่สำคัญมันบ้าถึงขั้นคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าปรมาจารย์โอสถของนากยอมตะไท่อีจากแดนร้างที่พึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือขึ้นมาใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้เรา!”
 
“ข้าคิดว่ามันเบื่อจะมีชีวิตอยู่แล้ว!”
 

 
ที่พักของชนชั้นอาวุโสทุกแห่งของนิกายอมตะสือหัง ก็ปรากฏร่างสตรีเหินทะยานขึ้นฟ้ามามากมาย ต่างพากันมุ่งหน้าไปยังทิศทางต้นเสียงของต้วนหลิงเทียนด้วยใบหน้าขุ่นเคือง
 
“ต้วนหลิงเทียน?”
 
“นี่มัน…ดูเหมือนจะเป็นเสียงของหัวหน้าปรมจารยย์โอสถของนิกายอมตะไท่อีผู้นั้นจริงๆนี่?”
 
เหล่าคนของนิกายอมตะสือหังที่ติดตามประมุขนิกายไปร่วมงานสมัชชาเต๋าโอสถครั้งที่ผ่านมา มีหลายคนที่ได้พบเจอกับต้วนหลิงเทียนและได้ยินเสียงของต้วนหลิงเทียนมาแล้ว พอได้ยินเสียงคุ้นๆหู ก็จดจำได้ว่านี่เป็นเสียงของต้วนหลิงเทียน หัวหน้าปรมาจารย์โอสถของนิกายอมตะไท่อีจริงๆ!
 
นอกจากนั้นในงานสมัชชาเต๋าโอสถ คนเหล่านี้ยังเห็นท่าทีของต้วนหลิงเทียนที่มีต่อมู่หรงปิงแล้วเช่นกัน ทำให้พวกนางตระหนักได้ความสัมพันธ์ระหว่างต้วนหลิงเทียนกับมู่หรงปิงนั้นไม่ธรรมดา!
 
“แต่ปรมาจารย์โอสถต้วนผู้นั้นหาญกล้าท้าทายผู้พิทักษ์สูงสุดเชียวหรือ? มัน…มันบ้าไปแล้วหรือไร!?”
 
“ไม่รู้สิ…พวกเราก็รีบไปดูเถอะ”
 

 
เหล่าปรมจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงของนิกายอมตะสือหังที่ได้ยินเสียงของต้วนหลิงเทียน ก็เร่งออกจากที่พักและมุ่งหน้าไปยังต้นเสียงทันที
 
“ต้วนหลิงเทียน?”
 
“มันมาที่นี่ทำอะไร หรือมันอยากตาย?”
 
หลินหรู ผู้พิทักษ์อันดับ 1 ของนิกายอมตะสือหังเองก็ได้ติดตามหนานกงซิ่วไปงานสมัชชาเต๋าโอสถครั้งที่ผ่านมาเช่นกัน พอได้ยินเสียงต้วนหลิงเทียนก็จดจำได้ทันที
 
อีกทั้งหลังงานสมัชชาเต๋าโอสถจบลง นางเองก็ได้รับทราบเรื่องราวระหว่างต้วนหลิงเทียนกับมู่หรงปิงจากปากของหนานกงซิ่วแล้วด้วย
 
ในเวลานั้นนางเองก็เหมือนกันกับหนานกงซิ่ว พอได้ยินเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนอาจเป็นลูกหลานจากตระกูลใหญ่ในภาคกลางอย่าง ตระกูลต้วนนภาล่อง นางก็รู้สึกว่าบางทีนิกายอมตะสือหังอาจมีไม้ใหญ่ให้พึ่งพิง และอาจถีบตัวยกระดับฐานะขึ้นไปได้ครั้งใหญ่…
 
ที่สำคัญงานวิวาห์ระหว่างต้วนหลิงเทียนกับมู่หรงปิง ไม่พ้นต้องเป็นงานมหามงคลที่จะต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของนิกายอมตะสือหังแน่นอน
 
กระทั่งหลังจากจบงานสมัชชาเต๋าโอสถแล้ว พอกลับมาถึงนิกายอมตะสือหัง นางกับหนานกงซิ่วก็พากันไปโน้มน้าวหวางตันเฟิ่งผู้พิทักษ์ลำดับ 2 ของนิกายอมตะสือหังทันที
 
เป็นธรรมดาว่าทันทีที่ได้รู้เรื่องนี้ หนานกงซิ่ว ย่อมมีโมโหเป็นอย่างมาก และคิดจะลงมือสำเร็จโทษมู่หรงปิงให้ตกตายในบัดดล
 
อย่างไรก็ตามพอนางล่วงรู้ว่าต้วนหลิงเทียนอาจเป็นตัวตนที่มาจากตระกูลใหญ่ในภาคกลาง นางก็บังเกิดความหวั่นเกรงและไม่กล้าลงมือทำอะไรทั้งสิ้น
 
ทว่าเมื่อไม่นานมานี้นางกลับได้ข่าวจากสายที่อยู่ในพื้นที่ก้าวข้าม ว่านิกายอมตะสราญรมย์ได้สืบพบความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนเรียบร้อยแล้ว
 
ต้วนหลิงเทียนนั้น ที่แท้มิใช่ลูกหลานของตระกูลใหญ่ในภาคกลางแต่อย่างไร ทว่าเป็นแค่ผู้ที่พึ่งขึ้นสวรรค์มายังหลิงหลัวเทียนเท่านั้น
 
พอได้ยินข่าวดังกล่าว หวานตันเฟิ่งจึงบังเกิดจิตคิดสังหารมู่หรงปิงขึ้นมาอีกรอบ
 
ทว่านางกลับถูกหนานกงซิ่วประมุขนิกายอมตะสือหังหยุดไว้
 
กระทั่งหนานกงซิ่วยังกล่าวออกมาอีกว่า
 
อาจเป็นได้ไม่ใช่หรือ ที่นิกายอมตะสราญรมย์ผิดพลาด?
 
จากนั้นหวางตันเฟิ่งก็เลยกักบริเวณมู่หรงปิงเอาไว้ ขณะเดียวกันก็สั่งให้หน่วยข่าวกรองของนิกายอมตะสือหังเร่งขุดคุ้ยความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนทันที
 
และทันทีที่นางพบว่าต้วนหลิงเทียนนั้นไร้ความเป็นมายิ่งใหญ่จริงๆ นางจะฆ่ามู่หรงปิงให้ตาย!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด