War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2694
WSSTH ตอนที่ 2,694 : อาการของแต่ละคน ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนที่เป็นเป้าหมายสังหารจะปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ตามหญิงชรากลับไม่รีบร้อนที่จะลงมือเก็บงาน… นั่นเพราะนางมั่นใจถึงที่สุด ว่าตั้งแต่ที่ต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวภายใต้สายตานาง ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะแน่แค่ไหน ก็เสมือนตกอยู่ในกำมือนางเรียบร้อย จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด! เช่นนั้นนางจะต้องกลัวอะไร? อย่างไรก็ตามหญิงชราไม่รีบร้อน ทว่าหวังฉี่หลิงผู้ว่าการมณฑลผิงชานข้างๆนั้นร้อนใจแทบตายแล้ว! แต่เป็นธรรมดาว่าต่อให้มันร้อนใจจนไฟลุก มันก็ไม่กล้ายั่วโทสะของหญิงชราข้างๆอีก! “ต้วนหลิงเทียน…มาจริงๆหรือ?” ขณะเดียวกันเหลาอาวุโสและรุ่นเยาว์ของมณฑลผิงชานด้านหลังหวังฉี่หลิงก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มสลด… “ข้าหลงคิดว่าการประลอง 16 มณฑลครานี้หยางจิ้นจะได้ที่ 2 และทำให้มณฑลผิงชานเราได้รับโอสถต้าหลัว 2 เม็ดเป็นรางวัลแล้วเสียอีก…มาตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เหลือความหวังอันใด…” “นั่นน่ะสิ เมื่อต้วนหลิงเทียนปรากฏตัว…หยางจิ้นก็ถูกลิขิตให้ได้แค่ที่ 3 ของการประลอง 16 มณฑลเท่านั้น” “เฮ่อ…ต้วนหลิงเทียนผู้นี้มันจะมาทำอะไรเอาป่านนี้! ให้พวกเราต้องดีใจเก้อ! แทนที่พวกเราจะได้รับโอสถต้าหลัวว 2 เม็ด…สุดท้ายก็เหลือแค่เม็ดเดียว! น่าตายยิ่ง!!” … ถึงแม้อาวุโสของมณฑลผิงชานจะบ่นกันงึมงำด้วยความไม่พอใจ แต่พวกมันก็ทำอะไรไม่ได้ “ต้วนหลิงเทียน…เจ้าจะมาตอนไหนไม่มา ไยต้องมาเอาตอนนี้…” หยางจิ้นที่ตอนนี้อาการบาดเจ็บทุเลาลงและเริ่มฟื้นตัวแล้ว แม้มันจะถึงเคยเห็นต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างเหนือเวทีประลองเป็นครั้งแรก แต่ในแววตาก็อดไม่ได้ที่จะฉายแววปรปักษ์ออกมา สาเหตุที่ไฉนมันถึงได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับต้วนหลิงเทียนนั้น เพราะพอต้วนหลิงเทียนโผล่มาแบบนี้ มันก็จะได้แค่ที่ 3 เท่านั้น! ยังผลให้ไม่เพียงแต่มณฑลผิงชานของมันจะได้รับโอสถต้าหลัวน้อยลงไปอีกเม็ด กระทั่งตัวมันเองก็จะได้รับรางวัลจากวังฉินน้อยลงไปอีก! เป็นธรรมดาที่มันจะไม่มีความสุข! สถานการณ์ของมณฑลหลิวฟง ก็ละม้ายคล้ายคลึงกับสถานการณ์ของมณฑลผิงชาน เหล่าผู้อาวุโสรวมถึงผู้ว่าการมณฑลหลิวฟง ก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอน เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวขึ้น “โอสถต้าหลัว 3 เม็ด…พอต้วนหลิงเทียนมาก็เหมือนมันปลิวหายไปกับสายลมเม็ดหนึ่ง เหอะๆ…” “บางที…นี่คงเป็นโชคชะตาของพวกเรา…” ฉู่ถิงซวนส่ายหัวไปมา “ช่างเถอะ…อย่างไรเสียโอสถต้าหลัว 2 เม็ดก็ไม่เลวแล้ว พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีย่อมประเสริฐสุด” “นั่นน่ะหรือ…คือต้วนหลิงเทียน?” ร่างบางอันแลดูห้าวหาญที่นั่งอยู่ข้างๆฉู่ถิงซวน สตรีไม่เขียนคิ้ว ฉู่อวี้ ตอนนี้นางเอาแต่มองจ้องต้วนหลิงเทียนไม่วางตา แถมลึกลงไปในแววตายังมีประกายเจิดจ้า เผยให้เห็นถึงความชมชอบประการหนึ่ง ถึงแม้แล้วนางจะห้าวหาญ เข้มแข็ง และดุดันไม่ต่างอะไรจากบุรุษ แต่อย่างไรเสียเนื้อแท้นางก็ยังเป็นแค่สตรีนางหนึ่ง ในอดีตตัวนางเพียงชื่นชมพี่ชายของนางคนเดียวเท่านั้น นางจึงไม่คิดสนใจผู้ใดที่ดีไม่เท่าพี่ชายของนาง! และนางยังรู้สึกว่า…มีแต่บุรุษที่เหนือล้ำยิ่งกว่าพี่ชายเท่านั้น ถึงจะคู่ควรกับนาง จนเมื่อนางได้ยินวีรกรรมของต้วนหลิงเทียนจากมณฑลจิ่วโยว นางจึงตระหนักได้ว่า… ที่แท้ในเขตปกครองของวังฉิน ยังมีบุรุษผู้หนึ่งที่เหนือกว่าพี่ชายของนางดำรงอยู่! แม้หยางจิ้นจากมณฑลผิงชานก็มีพลังฝีมือไม่ใช่ชั่วเหมือนกัน… อย่างไรก็ตามหยางจิ้นผู้นั้น กลับแก่กว่าพี่ชายของนางถึง 20 ปี! จึงกล่าวได้ว่าในแง่ของศักยภาพและพรสวรรค์แล้ว อีกฝ่ายอ่อนด้อยกว่าพี่ชายนางมาก เช่นนั้นนางจึงไม่คิดจะเหลือบแลอีกฝ่ายเลย… ทว่าต้วนหลิงเทียนนั้น ต่อให้จะมีอายุพอๆกับหยางจิ้น แต่ในแง่ศักยภาพกับพรสวรรค์ก็ไม่ใช่อะไรที่พี่ชายนางจะทาบติด… ในเวลานั้น ถึงนางจะไม่เคยพบเจอต้วนหลิงเทียน แต่นางก็ถูกความสามารถและพรสวรรค์ของต้วนหลิงเทียนกระตุ้นให้บังเกิดความชื่นชมเข้าแล้ว แม้เรื่องนี้จะฟังดูเหลวไหลสิ้นดี แต่มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ สตรีมากพรสวรรค์ที่ประสบความสำเร็จมาแต่เด็ก และมีพลังฝีมือไม่ด้อยไปกว่าบุรุษคนไหนในรุ่นเดียวกัน สำหรับนางตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ใดดีพอสำหรับนางเลย…ทำให้ยามเมื่อปรากฏตัวตนอันยอดเยี่ยมเหนือผู้ใดในเขตปกครองของวังฉินขึ้นมา นางก็เสมือนถูกดึงดูดทันที… แต่เป็นธรรมดาว่าถ้าหากตัวจริงของต้วนหลิงเทียนนั้น หน้าตาสารรูปแลดูไม่ได้ ถึงขั้นไม่ผ่านมาตรฐานต่ำสุดของนาง บางทีนางก็อาจจะหมดสิ้นความชื่นชมไปในพริบตา… เรื่องนี้ก็คล้ายดั่งปรากฏการณ์ ‘เห็นแสงสว่างกลางความตาย’ ของชาวเน็ตบนโลกเก่าต้วนหลิงเทียน การสนทนาผ่านเน็ตอาจจะเป็นไปได้ด้วยดี ถึงขั้นถูกคอเหลือเกิน แชทกันไม่กี่วันดั่งรู้จักกันนับสิบปี แต่ทว่าพอนัดเจอตัวจริงแล้ว…อีกฝ่ายกลับไม่เป็นดั่งใจหวังเหมือนหนังไม่ตรงปก ก็ทำการลบเพื่อนบ้าง บล็อคช่องทางติดต่อบ้าง ไม่ยุ่งกันอีกเลย… ทว่าคราวนี้เรื่องราวกลับไม่เป็นเช่นนั้น วินาทีแรกที่ฉู่อวี้เห็นต้วนหลิงเทียน ไม่ว่าจะรูปร่างสูงสมส่วนหน้าตาหล่อเหลาไร้ที่ติ มีสง่ามากราศีแลดูโดดเด่นไม่ใช่ชนชั้นธรรมดา ใจนางก็เริ่มเต้นรัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยังดังโครมครามปานจะกระดอนออกมานอกอกให้จงได้! “ชีวิตนี้ของข้าฉู่อวี้…หากมิใช่เขา ข้าจักไม่แต่งกับผู้ใดอีก!” หลังมองต้วนหลิงเทียนได้พักหนึ่ง ฉู่อวี้ก็ลอบสาบานกับตัวเองอย่างมาดมั่น! ก่อนที่จะได้เห็นตัวจริงต้วนหลิงเทียน แม้วีรกรรมที่ร่ำลือจะทำให้นางชื่นชมและรู้สึกชมชอบต้วนหลิงเทียน ทว่านั่นเป็นแค่ความชื่นชมทั้งชมชอบในพรสวรรค์และความสามารถของอีกฝ่ายเท่านั้น ตอนนี้พอได้เห็นต้วนหลิงเทียนเข้าจริงๆ นางก็รู้ใจตัวเองทันทีว่าเป็นเช่นไร… บางครั้งใจคนเราก็ประหลาดแท้ บทจะหลงก็หลงกันหัวปักหัวปำได้ง่ายๆ ด้านต้วนหลิงเทียนแน่นอนว่าไม่ได้รู้ตัวเลย ว่าตอนนี้ได้ทำให้ผู้อื่นหลงหัวปักหัวปำอีกคนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่กำลังหลงเขาหัวปักหัวปำ กลับเป็นน้องสาวของ ฉู่เหยียน คนที่เขากำลังจะประลองด้วย! หากเขารู้ล่ะก็ คงพูดไม่ออกบอกไม่ถูกแน่นอน เพราะสุดท้ายแล้วตอนนี้ในชีวิตเขาก็มีภรรยาถึง 2 สตรีคนรักอีก 1 และสตรีที่เขาต้องรับผิดชอบอย่างมู่หรงปิง ที่กลายเป็นภรรยาทางกายไปแล้วอีก 1! ซึ่งเท่านี้ก็นับว่าทำให้เขาปวดหัวแทบตาย…!! เขายังจะกล้าไปยุ่งกับสตรีอื่นอีกหรือ? ‘มารดามันเถอะ! ตัวบัดซบเจ้า ป่านนี้แล้วจะมาทำอะไร!!’ ส่วนทางด้านมณฑลหลัวฝูนั้น ตอนนี้ไม่ว่าจะผู้ว่าก็ดีหรือฉิงตงก็ดี สีหน้าของทั้งคู่ช่างบิดเบี้ยวอัปลักษณ์นัก! นั่นเพราะถ้าต้วนหลิงเทียนไม่มา อย่างไรฉิงตงก็ยังติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของการประอง 16 มณฑล… ทว่าตอนนี้เมื่อต้วนหลิงเทียนปรากฏตัว ฉิงตงก็เสมือนถูกอัปเปหิออกจาก 10 อันดับแรก! ซ้ำร้ายด้วยความที่ฉิงตงเป็นไพ่ตายของมณฑลผิงชาน เช่นนั้นไม่เพียงแต่มันจะไม่ได้รางวัลจากวังฉิน มณฑลหลัวฝูของมันยังต้องรับโทษจากวังฉินอีกด้วย!! ตลอด 10 ปีหลังจากนี้…มณฑลหลัวฝูของมันต้องจ่ายภาษีหินอมตะให้วังฉินเพิ่มเป็น 3 เท่า!! ต่างจากมณฑลผิงชาน มณฑลหลิวฟง และ มณฑลหลัวฝูที่แลดูหงอยลงถนัดตา.. ด้านมณฑลจิ่วโยวนั้น บรรยากาศอึมครึมทั้งหดหู่แต่เดิม บัดนี้ได้สลายหายไปหมดสิ้น แต่ละคนรู้สึกคึกคักยินดียิ่งนัก! “ฮ่าๆๆ! ต้วนหลิงเทียนมาแล้ว!!” เถียนจี้หวี่ ผู้ว่าการมณฑลจิ่วโยวถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังร่าอย่างลืมมาด จากนั้นก็ฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันขาวราวเด็กน้อยดีใจ “ข้ารู้แต่แรก ว่าคนเช่นต้วนหลิงเทียนมิมีทางผิดคำพูด…” สีหน้าของเจิ้งชิว อาวุโสฝ่ายในก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “หึ! นับว่ามันยังมีสำนึกอยู่บ้าง!” ผางปิงเอ่ยคำค่อนแคะเสียงเย็น ด้านคนอื่นๆในมณฑลจิ่วโยวก็แลดูยินดีกันถ้วนหน้า ณ อัฒจันทร์ที่นั่งสำหรับบุคคลพิเศษ… “ให้ตายเถอะ! ข้าก็ว่าแล้วเชียวว่าไฉนมันถึงได้กล้าพนันกับรองเจ้าสำนักราชันพิษโจวอันเช่นนั้น! ที่แท้มันก็คือต้วนหลิงเทียนนี่เอง!!” “ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อเลย ที่แท้อาวุโสกิตติมศักดิเทียนหลิงของนิกายมังกรบินจะเป็นไพ่ตายของมณฑลจิ่วโยวต้วนหลิงเทียนไปได้! จึกๆๆ คราวนี้รองเจ้าสำนักราชันพิษโจวอันงานเข้าครั้งใหญ่แล้วจริงๆ!” “เหอะๆ…หินอมตะระดับสูง 500,000 ก้อน! หินอมตะจำนวนนี้ต่อให้เป็นนสำนักราชันพิษ หากต้องควักออกมาจ่ายหนี้ในคราวเดียว ข้าว่าต้องมีกระอักเลือดกันบ้างใช่ไหม?” “ใช้หินอมตะระดับสูง 500,000 ก้อนลงพนันเพื่อหวังหินอมตะระดับสูงจากผู้อื่น 50,000 ก้อน…หลงดีใจคิดว่าตัวเองจะชนะ ทว่าตอนนี้ไม่เพียงแต่จะขโมยไก่ไม่สำเร็จ ยังต้องเสียข้าวสารไปอีกกำมือ!” “หนักแล้ว…คราวนี้สำนักราชันพิษฉิบหายหนักแล้วจริงๆ…” … เสียงนินทาดังขึ้นระงม และตอนนี้หลายต่อหลายคนก็หันไปมองดูอาการโจวอันด้วยความสนใจ แถมแววตาที่แต่ละคนใช้มองโจวอันนั้น ไม่ต่างอะไรกับแววตาที่พวกมันมใช้มองตัวโง่งมแม้แต่น้อย… มาตอนนี้เหล่าผู้คนบนอัฒจันทร์พิเศษค่อยตระหนักได้ ที่แท้ตั้งแต่ที่อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิงของนิกายมังกรบินเริ่มส่อแววจะเล่นพนันกับโจวอัน ผู้อื่นก็มั่นใจว่าจะชนะพนันโจวอันแต่แรก… เพราะตัวอาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิง ก็คือต้วนหลิงเทียนเอง! ในเมื่อตัวเองก็คือต้วนหลิงเทียน เช่นนั้นเรื่องจะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมการประลอง 16 มณฑลมิใช่ว่าขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเองหรอกหรือ? “ฮ่าๆๆ…โอย…ข้าขำจนปวดท้องแทบตายแล้ว! ฮ่าๆๆๆ!!!” รองประมุขนิกายมังกรบิน หวงกวงจี๋ ตอนนี้มือหนึ่งกุมท้อง มือหนึ่งชี้ไปทางโจวอัน พลางหัวเราะน้ำตาเล็ด แลดูมีความสุขถึงขีดสุด “ไอ้หยา! โจวอันอ่า หินอมตะระดับสูง 500,000 ก้อน! นั่นมันหินอมตะระดับสูง 500,000 ก้อนเชียวนะ! ไม่ทราบกลับไปคราวนี้เจ้าจะกลับบอกพี่ชายของเจ้าอย่างไรหรือ? จริงสิ! ข้าต่อโลงให้เจ้าดีหรือไม่ เผื่อถูกพี่ชายตีตายเจ้าจักได้มีใช้เลย?” “ฮ่าๆๆ ดูสีหน้ารองเจ้าสำนักโจวเร็ว ก่อนหน้านี้มันทำราวกับท่านอาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิงของพวกเราเป็นตัวโง่งม มาตอนนี้มันกลับต้องกลายเป็นตัวโง่งมใหญ่!!” “เฮอะ! ก่อนหน้านี้ทำมั่นหน้าคิดว่าแน่! มิใช่เจ้าคิดว่าจะต้องชนะพนันแน่แล้วหรือไร ถึงกล้าใช้หินอมตะระดับสูง 500,000 ก้อนแทงเดิมพันตาไม่กระพริบ…ตอนนี้เป็นอย่าไรเล่า? ไหนบอกอาการให้ข้าพเจ้าฟังหน่อย?” “สหาย ข้าว่าตอนนี้โจวอันคงรู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าเคี้ยวข้าวถูกแมลงวันไม่ผิดแน่…เจ้าคิดว่าไง?” “เคี้ยวข้าวถูกแมลงวัน? ยังน้อยไปเถอะ! เหมือนกลับบ้านไปเจอเมียมีชู้มากกว่า! เจ้าอย่าลืม…นั่นมันหินอมตะระดับสูง 500,000 ก้อนเชียวนะ!” … เหล่าคนของนิกายยมังกรบินเสมือนได้ทีขี่แพะไล่ ตอนนี้แต่ละคนมองโจวอันพลางกล่าวเย้ยออกมาอย่างสนุกสนานสำราญใจ ตอนนี้คล้ายพวกมันจะลืมเลือนไปหมดสิ้น… ว่าก่อนหน้าตอนที่อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิงของพวกมันเลือกจะเล่นพนันกับโจวอันนั้น พวกมันไม่ทราบใช้สายตาแคลงใจสงสัยมองไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เพราะล้วนคิดว่าอาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิงคนนี้ เสมือนส่งมอบหินอมตะระดับสูง 50,000 ก้อนให้โจวอันเปล่าๆ… ด้านผู้คนบนอัฒจันทร์ที่นั่งสำหรับบุคคลพิเศษที่เหลือ ก็มองโจวอันด้วยสายตาสมเพชเวทนา… ด้านคนของสำนักราชันพิษนั้น ได้แต่มองจ้องโจวอันรองเจ้าสำนักของพวกมันเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ หากโจวอันไม่ใช่รองเจ้าสำนักราชันพิษของพวกมัน และเป็นแค่ศิษย์ธรรมดาๆในสำนักล่ะก็ ป่านนี้พวกมันคงรุมด่าอีกฝ่ายว่าตัวโง่งมสมองกลับไปนานแล้ว… โจวอันที่ยืนหัวโด่ทานรับทุกคำเย้ยหยันและสายตาดูแคลนนั้น สีหน้าของมันเรียกว่าอัปลักษณ์ปั้นยากนัก! มันยังจำได้… ตอนที่อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิงของนิกายมังกรบินตอบรับว่าจะเล่นพนันกับมัน มันเสมือนได้เห็นกองหินอมตะระดับสูง 50,000 ก้อน กำลังกวักมือเรียกหามันอยู่เบื้องหน้ารำไร รอให้มันโผเข้าไปกอดด้วยซ้ำ… แต่มันไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำ อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิงของนิกายมังกรบินผู้นั้น…ที่แท้จะเป็นไพ่ตายของมณฑลจิ่วโยว ต้วนหลิงเทียน!! “ไม่! ไม่นับ! การพนันครั้งนี้ไม่อาจนับได้!!” “ในเมื่อตัวมันคือต้วนหลิงเทียนเอง เช่นนั้นมันอาศัยแค่หนึ่งห้วงคิดก็สามารถเลือกได้ว่าจะชนะหรือแพ้พนันแล้วนี่…โกง! มันโกงข้าชัดๆ!!” “ในเมื่อมันโกงข้าเช่นนี้ การพนันระหว่างเราก็ต้องกลายเป็นโมฆะ! ล้มเลิก!!” … ครู่ต่อมาพอโจวอันดึงสติให้กลับมาอยู่กับร่องกับร่อยได้แล้ว มันก็กวาดตามองไปยังผู้คนโดยรอบที่มองจ้องมันด้วยความเวทนาบ้าง สมเพชบ้าง กระทั่งเย้ยหยันบ้าง พลางตะโกนโวยวายออกมาปานคนคลั่ง!! 500,000 หินอมตะระดับสูง! หากสำนักราชันพิษต้องมาสูญเสียหินอมตะระดับสูง 500,000 ก้อนไปเพราะมันแบบนี้…ต่อให้มันจะเป็นน้องชายของเจ้าสำนักราชันพิษ แต่คราวนี้ต่อให้มันไม่ถูกพี่ใหญ่ตีตาย แต่พี่ใหญ่ต้องถลกหนังมันทั้งเป็นแน่!! อีกทั้งยังมีเหล่าผู้อาวุโสระดับสูง ชนชั้นปรมาจารย์ผู้เฒ่าของสำนัก และบรรดาผู้พิทักษ์ทั้งหลายที่พลังฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าพี่ใหญ่มันมากเท่าไหร่อยู่อีก! ทั้งหมดไม่มีวันปล่อยมันไปง่ายๆแน่!! “หึ!” จนเมื่ออ๋อง 3 ที่ยังไม่ทันได้ลอดม่านกลับไปนั่งในชั้นลอย แค่นเสียงสบถเยียบเย็นออกมาคำหนึ่ง โจวอันที่คุ้มคลั่งจึงค่อยตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว…
คอมเม้นต์