War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2601

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2601 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่ 2,601 : ความมั่นใจของเจี่ยนชิวผิง!
 
หุบเขาเทพสงครามนั้น เป็นสถานที่ให้เหล่าทหารของกองทัพมังกรดำประลองแลกเปลี่ยนฝีมือกัน
 
แน่นอนว่าหากมีผู้ใดในกองทัพมังกรดำมีเรื่องบาดหมางถึงขั้นต้องฆ่ากันให้ตายไปข้าง ก็สามารถทำข้อตกลงประลองเป็นตาย ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้บัญชาการได้ทุกเมื่อ และเมื่อได้รับการอณุมัติก็ต้องมาฆ่ากันให้ตายไปข้างภายในหุบเขาเทพสงคราม!
 
โดยปกติแล้ว หุบเขาเทพสงครามก็เต็มไปด้วยความคึกครื้น
 
เนื่องจากมีทหารกองทัพมังกรดำมากมายที่บ่มเพาะพลังถึงจุดรอคอย พากันมาประมือเพื่อหาแรงบันดาลใจและข้อบกพร่องของตัวเองตลอดเวลา…
 
แต่แน่นอนว่าวันนี้หุบเขาเทพสงครามได้ทวีความครึกครื้นยิ่งกว่าครั้งใด
 
เพราะวันนี้ เจี่ยนชิวผิงที่พึ่งสูญเสียตำแหน่งแม่ทัพไป ได้กล่าวท้าประลองแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำ ต้วนหลิงเทียน และยังนัดมาประลองกันที่หุบเขาเทพสงคราม!
 
เช่นนั้นแล้วเหล่าทหารในทัพมังกรดำทั้งหลายที่ไม่มีภาระหน้าที่หรือปิดด่านบ่มเพาะอยู่ ก็แห่กันมายังหุบเขาเทพสงครามเพื่อรอดูชมผู้คนตีกันด้วยความคึกคักทันที
 
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
 

 
สำเนียงเสียงแหวกอากาศฉับไวดังขึ้นถี่ยิบ ภายในหุบเขาเทพสงครามที่เดิมมีผู้คนไม่หนาแน่น ก็ปรากฏร่างทหารกองทัพมังกรดำเข้ามาเรื่อยๆ
 
ทั้งหมดมาเป็นสักขีพยานในการประลองชิงตำแหน่งแม่ทัพตระหว่างเจี่ยนชิวผิงกับต้วนหลิงเทียน!
 
เรียกว่าหลังประกาศออกไปไม่นาน น่านฟ้าเหนือหุบเขาเทพสงครามก็แน่นขนัดไปด้วยผู้คน มองไปเสมือนแพเมฆดำปิดฟ้าบังตะวัน
 
“จึกๆๆ คนเยอะจริงๆ”
 
ทหารของกองทัพมังกรดำหลายคนที่พึ่งมาถึง อดไม่ได้ที่จะจุ๊ปากเมื่อเห็นว่ามีผู้คนมารวมตัวกันมากมายเพื่อรอดูชมการประลอง
 
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว ค่ายทัพมังกรดำพวกเรามีเรื่องตื่นเต้นเช่นนี้ทุกวันที่ไหน…ในที่สุดก็มีเรื่องดีๆให้พวกเราชมดู แถมเรื่องแบบนี้เพียงพบเจอด้วยโชคและจังหวะเวลา อยากหาดูก็ไม่ได้!”
 
“อดีตแม่ทัพเจี่ยนชิวผิง…กับต้วนหลิงเทียนแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำเรา ไม่ทราบจริงๆว่าผู้ใดจะชนะผู้ใดจะพ่ายแพ้…”
 
“ถึงมีหลายคนบอกว่าเจี่ยนชิวผิงต้องชนะแน่ แต่ผู้ที่บอกว่าต้วนหลิงเทียนมีโอกาสชนะมากกว่าก็ไม่น้อย…แต่ข้ารู้สึกว่าเจี่ยนชิวผิงสมควรมั่นใจนัก หาไม่แล้วไฉนมันต้องยอมแพ้ฉินอวี่ทั้งที่ยังไม่ได้สู้ด้วย? ไม่ใช่เพราะคิดรักษาสภาพสมบูรณ์พร้อมหรือไร?”
 
“ก็จริง หากไม่มั่นใจไหนเลยจะยอมแพ้ฉินอวี่ทันทีแบบนั้น…เพราะอย่างไรก็ตามการยอมแพ้ฉินอวี่ที่เป็นไป่ฟูฉางโดยไม่สู้ก็เป็นเรื่องน่าขายหน้านัก!”
 
“ใช่ เจี่ยนชิวผิงนั้นปกติมันถือดีทั้งรักษาหน้าตัวเองเป็นที่สุด…วันนี้มันยอมแพ้แต่โดยดี สมควรมีความคิดอะไรบางอย่าง!”
 
“ตอนนี้ความคิดของมันก็เผยให้ผู้คนทราบกันถ้วนหน้าเรียบร้อย…มันก็แค่อยากเอาชนะแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำเรา และชิงตำแหน่งแม่ทัพกลับคืนเท่านั้น”
 

 
เหล่าทหารที่มารวมตัวกันก็รู้ดี
 
ว่าลองเจี่ยนชิวผิงกล้าท้าต้วนหลิงเทียนแบบนี้ ย่อมหมายความว่ามีความมั่นใจถึงที่สุด
 
หาไม่แล้วคงไม่ประกาศท้าทายอย่างเอิกเกริก!
 
เพราะสุดท้ายแล้วเกิดมันแพ้พ่ายขึ้นมา มันก็ต้องหน้าแตกยับไม่เหลือชิ้นดี…
 
นอกจากนี้มันยังเป็นฝ่ายยอมแพ้ฉินอวี่และส่งมอบตำแหน่งแม่ทัพให้โดยไม่ทันสู้อีก หากมันต้องมาแพ้พ่ายการท้าประลองรอบนี้อีกล่ะก็ ไม่พ้นมันต้องกลายเป็นตัวตลกในกองทัพมังกรดำไปอีกนานแสนนาน…
 
ด้วยเหตุนี้ทหารของกองทัพมังกรดำหลายคนจึงคิดว่าเจี่ยนชิวผิงต้องชนะแน่
 
“ฮึ่ม! คิดจะเอาชนะแล้วชิงตำแหน่งแม่ทัพของพวกเราหรือ ตัวโง่งม!”
 
“ฟังจากที่มันพูดก่อนหน้า…เห็นชัดว่ามันคิดสั่งสอนบทเรียนให้กับพวกเรา หากมันเอาชนะและกลายมาเป็นแม่ทัพของพวกเราได้!”
 
“หากมันคิดจะสั่งสอนอะไรพวกเรา…ก็ต้องดูด้วยว่ามันมีปัญญาเอาชนะท่านแม่ทัพของพวกเราหรือไม่!”
 

 
เหล่าทหารภายใต้บัญชาของต้วนหลิงเทียนก็มาถึงหุบเขาเทพสงครามแล้วเช่นกัน และพอได้ยินความคิดเห็นของทหารทัพมังกรดำคนอื่นๆ พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะเย้ยเยาะ เพราะไม่คิดว่าแม่ทัพคนใหม่ของพวกมันจะแพ้พ่ายเจี่ยนชิวผิง!
 
“อะไรกัน? ฟังจากที่พวกเจ้าพูด…หรือแม่ทัพคนใหม่ของพวกเจ้าจะไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าเจี่ยนชิวผิง?”
 
ทหารบางคนยังกล่าวถามทหารของต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยความสงสัย
 
“อย่าไปถามพวกมันเลย…ถามไปพวกมันก็อวยแม่ทัพคนใหม่ของพวกมันว่าเหนือกว่าอยู่ดี!”
 
ก่อนที่ทหารใต้สังกัดต้วนหลิงเทียนจะทันได้ตอบอะไร ก็มีทหารคนอื่นชิงพูดออกมาซะก่อน “เจ้าไม่รู้หรือไร ว่าก่อนหน้าพวกมันแยกย้ายกันไปป่าวประกาศว่าแม่ทัพคนใหม่ของพวกมัน หาได้ง่ายดายเหมือนเซียนอมตะสวรรค์จันทร์ม่วงทั่วไปไม่!”
 
“อย่างไรก็ตาม ถึงเรื้องที่พวกมันพูดอาจจะเป็นความจริง แต่เรื่องนี้ก็ยากจะเชื่อได้ลงคอ!”
 
“วันนี้เกิดเจี่ยนชิวผิงเอาชนะแม่ทัพคนใหม่ของพวกมันได้…คำพูดของพวกมันก็จะย้อนกลับมาตบหน้าพวกมันอย่างจัง!”
 
“ช่างน่าดูชมยิ่ง!”
 
“เทียบกับพวกมัน…ข้ายังคงเชื่อในตัวเจี่ยนชิวผิงมากกว่า อย่างไรเจี่ยนชิวผิงก็เป็นแม่ทัพของพวกเรามาหลายปี และก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยได้ยินว่ามันลงมือทำอะไรทั้งที่ไม่มั่นใจมาก่อน”
 
“ที่เจ้าว่ามันก็จริง…เทียบกับแม่ทัพคนใหม่แล้ว เจี่ยนชิวผิงน่าเชื่อถือกว่ามาก”
 

 
ไม่นานนักภายในหุบเขาเทพสงคราม ก็หลงเหลือแต่เพียงทหารใต้บังคับบัญชาต้วนหลิงเทียนเท่านั้น ที่ยังรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนจะไม่แพ้!
 
ส่วนเหล่าทหารมังกรดำอื่นๆ กว่า 9 ส่วนล้วนเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนต้องแพ้แน่!
 
แม้กระทั่งทหารที่คิดว่าต้วนหลิงเทียนมีโอกาสชนะมากกว่าในตอนแรก สุดท้ายหลังได้ยินการวิเคราะห์ของทหารคนอื่นๆมากเข้า พวกมันก็เริ่มเปลี่ยนใจ และไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนสามารถเอาชนะได้อีกต่อไป
 
อุปทานหมู่มันน่ากลัว! พวกที่คิดต่างไม่นานก็ทยอยกันถูกล้างสมองไปทีละคนๆ…
 
“ไป่ฟูฉาง เจี่ยนชิวผิง มาถึงแล้ว!”
 
ครู่ต่อมา ใครก็ไม่ทราบตะโกนออกเสียงดัง
 
ทันใดนั้นเหล่าทหารทัพมังกรดำที่ลอยล่องเหนือหุบเขาก็เริ่มหันรีหันขวาง สุดท้ายก็ชะงักลงเมื่อมองไปยังทิศตะวันออก เพราะเห็นร่างหนึ่งกำลังเหินมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน
 
เจ้าของร่างนี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นเจี่ยนชิวผิง หนึ่งในตัวเอกของวันนี้!
 
ถึงแม้ก่อนหน้าจะมีไป่ฟูฉางมากมายทยอยกันมาถึง
 
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเสียงฮือฮาอะไรมากมาย
 
แต่การมาของเจี่ยนชิวผิงช่างทำให้เกิดเสียงอึกทึกนัก!
 
หนึ่งเพราะมันเป็นหนึ่งในตัวเอกของวันนี้
 
อย่างที่สองเพราะ เจี่ยนชิวผิงอย่างไรก็เป็นตัวตนขอบเขตจินเซียนอันแข็งแกร่ง และก่อนหน้านี้ก็ดำรงตำแหน่งแม่ทัพในทัพมังกรดำของพวกมัน
 
ฟุ่บ!
 
พริบตาร่างเจี่ยนชิวผิงก็เหินไปลงจอดยังลานศิลาขนาดใหญ่ใจกลางหุบเขา มันคือสังเวียนประลองของหุบเขาเทพสงคราม!
 
หลังจากขึ้นสังเวียนแล้ว เจี่ยนชิวผิงก็ยืนเอามือไพร่หลัง สองตาหลับลงเพื่อสงบจิตใจรอให้ต้วนหลิงเทียนมาถึงอย่างเงียบงัน…
 
“เจ้าดูท่าทางเจี่ยนชิวผิงเถอะ….ช่างแลดูมั่นใจยิ่งนัก”
 
“ก็ไม่ใช่เจ้าพูดไว้เองแต่แรกหรือ ว่าหากไม่มั่นใจไหนเลยเจี่ยนชิวผิงจะกล้าท้าทายแม่ทัพคนใหม่ มาตอนนี้เห็นชัดว่ามันมั่นใจในนชัยชนะจริงๆ!”
 
“อืม ตอนนี้ก็เหลือแค่รอให้แม่ทัพคนใหม่มาถึงเท่านั้น”
 

 
หลังจากที่เจี่ยนชิวผิงมาถึงแล้ว เหล่าทหารกองทัพมังกรดำทั้งหลายในหุบเขาเทพสงคราม ก็พากันตั้งหน้าตั้งตารอให้ต้วนหลิงเทียนมาถึง
 
“แม่ทัพฉินอวี่ก็มา!!”
 
ราวๆ 1 เค่อต่อมาหุบเขาเทพสงครามก็เดือดขึ้นอีกครั้ง แต่ละคนหันไปจับจ้องร่างที่กำลังเหินข้ามฟ้ามาแต่ไกล
 
ที่นั่นปรากฏร่างในชุดคลุมสีดำที่ลัดฟ้ามาอย่างไม่รีบไม่ร้อน
 
และคนผู้นี้ก็คือ ฉินอวี่ ผู้ที่พึ่งได้รับตำแหน่งแม่ทัพมาสดๆร้อนๆ!
 
ฉินอวี่ตอนที่อยู่ในชุดเกราะสีดำสนิทของกองทัพมังกรดำนั้น แลดูประหนึ่งวีรบุรุษผู้กล้า โดดเด่นเหนือใครแม้จะอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารของกองทัพมังกรดำที่มีชุดเกราะเหมือนๆกัน
 
มาตอนนี้พอใส่ชุดลำลอง ก็ยิ่งแลดูไม่ธรรมดามากขึ้น
 
ก่อนที่ฉินอวี่จะปรากฏตัว ในหุบเขาเทพสงครามมีไป่ฟูฉางเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ก่อให้เกิดเสียงฮือฮาขณะมาถึง
 
และแม้ไป่ฟูฉางทั้งสองจะไม่ร้ายกาจเท่าไป่ฟูฉางหน้าใหม่อย่างเจี่ยนชิวผิง แต่พวกมันก็เป็นไป่ฟูฉางที่บรรลุขอบเขตจินเซียนเช่นกัน!
 
ดังนั้นการปรากฏตัวของพวกมันย่อมเรียกร้องความสนใจของผู้ชมได้หลายส่วน
 
ในขณะที่ทหารภายในหุบเขาเทพสงครามกำลังฮือฮากันเพราะการมาถึงของฉินอวี่นั้นเอง…
 
“ฉินอวี่!!”
 
ไป่ฟูฉางเจี่ยนชิวผิงที่ยืนหลับตาอย่างสงบบนสังเวียนใจกลางหุบเขาเทพสงครามได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
 
“เจ้า…มาประกาศศักดิ์ดางั้นรึ”
 
เจี่ยนชิวผิงแต่เดิมก็เป็นคนอ่อนไหวเรื่องหน้าตาอยู่แล้ว พอเห็นฉินอวี่ปรากฏกายสีหน้ามันก็มืดครึ้มลงทันที เสียงกล่าวยังเย็นชานัก
 
“อย่าได้เข้าใจผิดไป ไป่ฟูฉางเจี่ยนชิวผิง”
 
ฉินอวี่มองเจี่ยนชิวผิงพลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “ข้ามาที่นี่เพื่อดูหน้าตาแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำเราเท่านั้น…แน่นอนว่าหากไป่ฟูฉางเจี่ยนชิวผิงสามารถเอาชนะแม่ทัพคนใหม่ได้ ก็ถือซะว่าข้ามาเป็นสักขีพยานในการหวนคืนสู่ตำแหน่งแม่ทัพของเจ้าก็ได้…”
 
“ฮึ่ม!”
 
เจี่ยนชิวผิงแค่นคำเสียงเย็น ก่อนที่จะเลิกสนใจฉินอวี่และหลับตาลงอีกครั้ง
 
อย่างไรก็ตามเจี่ยนชิวผิงพึ่งหลับตาลงได้ไม่ทันไร เสียงอุทานทักคุ้นหูด้วยความเคารพก็ดังขึ้นเข้าหู ทำให้มันต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้งทันที
 
“ใต้เท้าผู้บัญชาการ!”
 
“ใต้เท้าผู้บัญชาการ!”
 

 
ผู้คนภายในหุบเขาเทพสงครามพอเห็นร่างชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่เหินนำหน้าร่างทั้ง 4 ที่ติดสอยห้อยตามมาด้านหลังเข้ามาใกล้มากพอจะแลเห็นหน้าค่าตาว่าเป็นใคร พวกมันก็เร่งประสานมือโค้งคารวะทักทายออกไปด้วยท่าทีเคารพทันที
 
“ใต้เท้าผู้บัญชาการ!”
 
“ใต้เท้าผู้บัญชาการ!”
 

 
นอกจากเหล่าทหารแล้ว เจี่ยนชิวผิงบนสังเวียนกลางหุบเขาเทพสงคราม ไม่เว้นแม่ทัพคนใหม่อย่างฉินอวี่ ก็เร่งประสานมือกล่าวทำความเคารพผู้มาใหม่ออกไปอย่างไม่รอช้า
 
เพราะชายวัยกลางคนอันมีหนวดเคราเฟิ้มเต็มใบหน้าราวมหาโจรดุร้ายผู้นี้ ก็คือผู้บัญชาการกองทัพมังกรดำของพวกมัน!
 
เฉินเฉวียนป้า!
 
“นับว่านานมากแล้ว ที่ข้าไม่เห็นที่นี่แลดูคึกคักมีชีวิตชีวาแบบนี้”
 
เฉินเฉวียนป้าที่เหินร่างนำพาต้วนหลิงเทียนกับแม่ทัพอีก 3 คนมาถึงหุบเขาเทพสงคราม ก็หันไปกวาดมองรอบๆด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่สายตาจะไปหยุดลงบนร่างฉินอวี่ที่ลอยโดดเด่นบนฟ้าก่อนใคร ทักออกไปว่า “ฉินอวี่ ขอแสดงความยินดีกับการเลื่อนตำแหน่งของเจ้าด้วย ตอนนี้เจ้าก็คือแม่ทัพของทัพมังกรดำของพวกเราอย่างสมภาคภูมิแล้ว”
 
“ขอบคุณใต้เท้าผู้บัญชาการ”
 
ฉินอวี่ที่เร่งรุดมาถึงเบื้องหน้าเฉินเฉวียนป้า ก็ประสานมือกล่าวขอบคุณออกไปเร็วไว
 
ฉากเรื่องราวที่ทุกคนในหุบเขาเทพสงครามแลเห็นก็คือ ร่างเฉินเฉวียนป้าที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยแม่ทัพทั้ง 4 คนรวมถึงต้วนหลิงเทียนดั่งดาวล้อมเดือน
 
“อ่อ นี่คือแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำเรา ต้วนหลิงเทียน…พวกเจ้าทำความรู้จักกันไว้เถอะ”
 
เฉินเฉวียนป้าหันศีรษะไปเหลือบมองต้วนหลิงเทียนด้านข้าง ค่อยเอ่ยบอกฉินอวี่
 
“แม่ทัพต้วนหลิงเทียน ข้าเรียกว่า ฉินอวี่”
 
ฉินอวี่กล่าวทักทายต้วนหลิงเทียนเสียงเรียบ
 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด