War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2376
ตอนที่ 2,376 : เพียงหนึ่งเดือน! “ลัทธิบูชาไฟที่แท้กลับมีตัวตนอย่างเซียนอมตะเสเพลดำรงอยู่!” “เซียนอมตะเสเพลของลัทธิบูชาไฟผู้นั้นเรียกว่าหลี่ปิง เมื่อ 4,000 ปีก่อนเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าผู้พิทักษ์ ยังรั้งอยู่ในอันดับที่ 3 ของรายนามยอดเซียน…เพราะมันล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ไปเมื่อ 4,000 กว่าปีก่อน สุดท้ายจึงกลายเป็นเซียนอมตะเสเพล!!” “ในเมื่อล้มเหลวไปตั้งแต่เมื่อ 4,000 กว่าปีก่อน แล้วยังมีชีวิตอยู่แบบนี้…เช่นนั้นมันก็เป็น เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!?” “ให้ตายเถอะ ลำพังแค่เซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ก็ทรงพลังเหนือกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว…เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ยิ่งร้ายกาจกว่านั้น!” … ตอนแรกทั้งในลัทธิบูชาไฟเองแล้วก็เขตตะวันตกไม่เว้นกระทั่งดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ก็ตะลึงกับการปรากฏตัวของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ในลัทธิบูชาไฟไม่น้อย อย่างไรก็ตามพออีกข่าวแพร่มาตามติด ก็ทำให้ทุกผู้คนถึงกับตกใจครั้งยิ่งใหญ่! “ต้วนหลิงเทียน ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 หมอกพิรุณ และยังเป็นผู้นำแห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้…ฆ่าเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ของลัทธิบูชาไฟ!?” ข่าวดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าดั่งไฟลามทุ่ง เรียกว่าก่อนหน้าแดนดินได้เงียบไปพักใหญ่ ที่แท้กลับเป็นความเงียบสงบก่อนพายุจะเข้า! หลังจากไร้เรื่องราวอะไรอยู่นาน ตอนนี้ทั้งหมดกลายเป็นวุ่นวายกันไปหมด! “เป็นไปได้ยังไงกัน!? ต้วนหลิงเทียนคนนั้นมิใช่ว่าเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะหรอกหรือ กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์มันสมควรก็สู้ไม่ได้แล้ว จะไปฆ่าเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ได้อย่างไร!” “นั่นสิตั้งแต่เรื่องเซียนอมตะเสเพลแพร่ออกมา ก็มีเรื่องราวที่ได้รับการยืนยันแพร่ออกมาเรื่อยๆ ป่านนี้ยังมีผู้ใดไม่รู้ว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะยังมีพลังด้อยกว่าเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์? แล้วมันจะไปมีพลังมากพอฆ่าเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ได้อย่างไร?!” “ล้อกันเล่นเหรอ!?” …ในขณะที่ผู้คนกว่า 9 ส่วนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบนกำลังกังขากับข้อเท็จจริงของเรื่องราว อีกข่าวก็แพร่ออกมาและทำให้ผู้ที่กังขาทั้งหลายถึงกับไร้คำจะพูด ในอดีตเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง เคยใช้พลังฝึกปรือขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์มาแล้ว! ข่าวนี้ไม่ทราบเริ่มแพร่ออกมาจากที่ไหนกันแน่ ทว่าเมื่อมันแพร่กระจายออกมา ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะทำให้ทั่วทั้งแดนดินบังเกิดความรู้สึกตื่นตระหนกครั้งใหญ่ “อาศัยพลังฝึกปรือครึ่งก้าวเซียนอมตะ แต่ฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์…เซียนกระบี่ฟงชิงหยางน่าสะพรึงถึงเพียงนี้เลยหรือ!?” “หากนี้เป็นเรื่องจริง…ต้วนหลิงเทียนจะฆ่าเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ได้ด้วยขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะก็ไม่แปลก เพราะอย่างไรก็เป็นผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณ ผู้นำแห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้เช่นกัน” “อีกทั้งข้าได้ยินมาว่า…ต้วนหลิงเทียนได้รับสืบทอดมรดกเคล็ดกระบี่ของเซียนกระบี่ฟงชิงหยางมาด้วย!” … หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ได้ทั้งๆที่ด่านพลังยังเป็นเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะ ก็ไม่มีใครคิดกังขาในพลังของต้วนหลิงเทียนอีก อย่างไรก็ตามความตกใจของทุกคนก็ไม่ได้ลดลงไปแม้แต่น้อย “หากต้วนหลิงเทียนผู้นำแห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้ มีพลังอำนาจถึงขั้นเข่นฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์…เช่นนั้นแล้วในบรรดา 3 ลัทธิใหญ่ ยังมีผู้ใดต่อกรได้บ้าง?” “นั่นสิ หากใน 3 ลัทธิใหญ่ไร้ผู้ใดมี่สามารถต่อกรกับต้วนหลิงเทียนได้…มิใช่ว่าหากต้วนหลิงเทียนคิดจะทำลาย 3 ลัทธิก็ลำบากเพียงยกมือหรือไร?” “จ้าวลัทธิบูชาไฟนั้นกล่าวไปก็เป็นพี่สาวภรรยาของต้วนหลิงเทียน เช่นนั้นมันย่อมไม่คิดทำลายลัทธิบูชาไฟแน่นอน…ทว่ากับลัทธิอารามทมิฬกับลัทธิชะตาฟ้าเล่า? ในบรรดา 2 ลัทธิใหญ่นี้ยังมีผู้ใดสามารถรับมือต้วนหลิงเทียนได้บ้าง?” … ในขณะที่ทั่วทั้งดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบนกำลังจมไปด้วยบทสนทนาดังกล่าว ภายในลัทธิอารามทมิฬกับลัทธิชะตาฟ้าเอง ก็ปรากกฏบทสนทนาทำนองเดียวกันดังขึ้นไม่ต่าง หากแต่บรรยากาศช่างเคร่งเครียดยากจะสงบลงได้… ลัทธิอารามทมิฬ “ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น…มิคาดกลับมีพลังถึงขั้นฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์จริงๆ?” อาวุโสสูงสุดของลัทธิอารามทมิฬ หล่างเชียนจิน ชักสีหน้าเคร่งเครียด แววตาของมันฉายชัดถึงความหวาดกลัวแตกตื่น อย่างไรก็ตามลึกลงไปในแววตายังเผยให้เห็นถึงความไม่อยากจะเชื่อประการหนึ่ง “พึ่งจะผ่านไปกี่ปีกัน…ไฉนมันมีพลังร้ายกาจขนาดนี้แล้ว!” หล่างเชียนจินยังคงจดจำได้เป็นอย่างดี ครั้งสุดท้ายที่ลัทธิอารามทมิฬของพวกมันยกพวกไปบุกลัทธิบูชาไฟหมายร้องขอมือสังหารอย่างต้วนหลิงเทียนมาลงโทษนั้น ตัวต้วนหลิงเทียนเองยังต้องพึ่งพิงถังซวนอยู่เลย… เรียกว่าวันนั้นแม้พลังฝีมือต้วนหลิงเทียนจะไม่ใช่ชั่ว แต่ต่อหน้าเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนอย่างมันยังไม่อาจนับเป็นอะไรได้ ยังทำได้แค่เอาชนะเหาฉ่วง และชิงนามอันดับ 1 ใต้เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนไปครองเท่านั้น… ทว่าพึ่งจะผ่านไปได้ไม่กี่ปีเท่านั้น ไม่เพียงแต่จะเข่นฆ่าจ้าวลัทธิบูชาไฟอย่างถังซวนได้แล้ว…ยังฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ของลัทธิบูชาไฟที่เร้นกายอย่างเงียบงันมานาน!! “กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ยังตายตกเพราะมัน…แต่ลัทธิอารามทมิฬเรากลับไม่มีเซียนอมตะเสเพลแม้แต่คนเดียว!” ขณะนี้สีหน้าหล่างเชียนจินมืดดำปานจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก! “แต่…ไฉนข้าถึงมิเคยได้ยินมาก่อนเลยว่าในลัทธิบูชาไฟมีตัวตนอย่างเซียนอมตะเสเพลด้วย? หลี่ปิงนั่นมันผุดโผล่มาจากที่ใดกัน?” หล่างเชี่ยนจินยังงุนงงในเรื่องนี้ไม่น้อย เรียกว่าตอนนี้ระดับสูงของลัทธิอารามทมิฬเองก็สีหน้าบิดเบี้ยวถมึงทึงไม่ได้ต่างอะไรจากหล่างเชียนจินแม้แต่น้อย กระทั่งบางคนได้รู้ว่าต้วนหลิงเทียนร้ายกาจขนาดไหนแล้ว ความคิดสละเรือยังผุดโผล่ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ด้วยความหวาดกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะบุกมาเข่นฆ่าสังหาร จึงเร่งรุดถอนตัวออกจากลัทธิอารามทมิฬกันให้วุ่น! เพราะสุดท้ายแล้วหากต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่าสังหารบุกมาจริง พวกมันไม่มีทางรอดพ้นชะตาตายตกได้เลย! ภายใต้รังที่พังทลาย ยังมีไข่ฟองใดสมบูรณ์? ณ ลัทธิชะตาฟ้า “ถ่ายทอดคำสั่งข้าลงไปเดี๋ยวนี้…ยกเลิกภารกิจค้นหาล่าตัว 7 ทวาราเที่ยงแท้ให้หมด! นับตั้งแต่วินาทีนี้ไปอย่าได้ไปตอแยยั่วยุ 7 ทวาราเที่ยงแท้เด็ดขาด!!” มหาปุโรหิต โม่เชวียน เร่งถ่ายทอดคำสั่งลงมาเป็นการด่วน! ด้านโม่เชวียนเองบัดนี้ก็ได้รับทราบข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาคตะวันตกเรียบร้อย จึงรู้ว่าต้วนหลิงเทียนมีพลังอำนาจถึงขั้นฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์! เช่นนั้นมันจึงไม่กล้าให้คนของลัทธิชะตาฟ้าไปตอแย 7 ทวาราเที่ยงแท้อีก!! ได้รับคำสั่งเร่งด่วนดังกล่าวไม่เพียงแต่คนของลัทธิชะตาฟ้าจะไม่แปลกใจ ทั้งหมดยังอดโล่งใจไม่ได้! “มีคำร่ำลือกันว่ายามใดที่ 7 ทวาราเที่ยงแท้อุบัติผู้นำอย่างผู้สืบทอดหมอกพิรุณขึ้นมา ยามนั้น 7 ทวาราเที่ยงแท้จักผงาดเหนือใครในแดนดิน ถึงขั้นไร้ผู้ใดหาญกล้าต่อกร…ในอดีตก็มีตัวตนอย่างเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง มาในปัจจุบันยังปรากกฏคนอย่างต้วนหลิงเทียนขึ้นมาอีก…” “ต้วนหลิงเทียนร้ายกาจเกินไป! อาศัยพลังฝึกปรือครึ่งก้าวเซียนอมตะแต่ฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์…แถมยังมิมีผู้ใดล่วงรู้ด้วยซ้ำว่าพลังฝีมือสูงสุดของมันที่แท้เป็นเช่นไรกันแน่…หรือจะเทียบได้กับเซียนกระบี่ฟงชิงหยางแล้ว?” … ลัทธิชะตาฟ้ายามนี้เสมือนมีหมอกดำแห่งความหวาดวิตกปกคลุม บรรยากาศกลายเป็นอึมครึมเคร่งเครียดนัก ฟุ่บ! หลังถ่ายทอดคำสั่งแล้ว มหาปุโรหิตอย่างโม่เชวียนก็เหินร่างออกจากลัทธิชะตาฟ้าอย่างเร่งด่วน หลังจากที่มันออกจากลัทธิชะตาฟ้า โม่เชวียนก็มุ่งหน้าไปยังลัทธิอารามทมิฬด้วยความเร็วสูงสุด ถึงแม้มันจะถ่ายทอดคำสั่งห้ามมิให้คนของลัทธิชะตาฟ้าตอแยหรือวุ่นวายอะไรกับคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้แล้ว แต่ยังมีผู้ใดบอกมันได้ว่าคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้จะบุกมาเข่นฆ่าสังหารพวกมันหรือไม่? เช่นนั้นมันจึงคิดจะไปยังลัทธิอารามทมิฬ เพื่อหารือกับหล่างเชียนจินเป็นการเร่งด่วน เพื่อหามาตรการรับมือ หาก 7 ทวาราเที่ยงแท้คิดก่อการขึ้นมา… ณ หุบเขาเปลี่ยวร้างไร้ผู้คนในมุมหนึ่งของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบน “นี่มันยังพึ่งผ่านไปกี่ปีกัน…ไฉนเจ้าต้วนหลิงเทียนนั่นถึงกลายเป็นร้ายกาจขนาดนี้ได้?!” ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะเอาชนะมันได้นั้น ในอดีตเหาฉ่วงก็คืออันดับ 1 ใต้เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน! หลายปีผ่านไปไม่เพียงมันสร้างร่างเนื้อเสร็จสมบูรณ์ ด่านพลังยังสามารถทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา! เดิมทีมันคิดตามหาตัวต้วนหลิงเทียนเพื่อล้างแค้น แต่พอได้รับทราบข่าวเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่าถังซวนจ้าวลัทธิบูชาไฟ รวมถึงปลิดชีพเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ได้ง่ายดายจากสหายที่ส่งข่าวมาให้ เหาฉ่วงถึงกับหันหลังกลับแทบไม่ทัน! ยังเร่งลบความคิดล้างแค้นต้วนหลิงเทียนให้หมดออกไปจากหัวอย่างไว!! ล้อกันเล่นรึไง!? ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่มันพึ่งบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนด้วยซ้ำ ต่อให้มันทะลวงถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้วจะอย่างไร? ยังมีปัญญาสู้ต้วนหลิงเทียนได้หรือ? ต้วนหลิงเทียนนั่นไม่ใช่ครึ่งก้าวเซียนอมตะธรรมดา! แต่เป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะที่ฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!! “จากนี้ไป…ต่อให้บีบคอข้าให้ตาย ข้าก็ไม่มีวันไปตั้งตัวเป็นศัตรูกับเจ้าตัวประหลาดต้วนหลิงเทียนนั่นอีก!!” เหาฉ่วงตัดสินใจละวางความแค้นทั้งมวลได้อย่างเด็ดขาด ไม่คิดไปแหยมอะไรกับต้วนหลิงเทียนอีกชั่วชีวิต! ในขณะเดียวกันก็มีมากหน้าหลายตาในภูมิภาคเบื้องบนที่เคยมีความแค้นกับต้วนหลิงเทียน และตอนนี้ทั้งหมดไม่ว่าผู้ใด ก็ได้แต่เลือกลบเลือนความแค้นและไม่คิดไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับต้วนหลิงเทียนอีกต่อไป… เพราะพวกมันรู้ดี พวกมันไม่ยุ่งกับต้วนหลิงเทียนนานเท่าไหร่ ก็มีชีวิตอยู่ได้นานเท่านั้น! หากยังคิดล้างแค้นต้วนหลิงเทียนต่อไป ย่อมไม่ต่างใดจากย่ำเดินสู่ทางตัน! … “สัตว์ประหลาด! สัตว์ประหลาดชัดๆ!!” “ความแข็งแกร่งของน้องหลิงเทียนไฉนผิดมนุษย์มนาได้ขนาดนี้! นี่ยังมิได้เข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่เลยมิใช่หรือไร!?” “ข้ายังคิดอยู่เลย ว่าหากน้องหลิงเทียนออกจากแดนลับเซียนกระบี่เมื่อใด หากโชควาสนามิเลวร้ายจนเกินไป…ต่อให้จะไม่ร้ายกาจเท่าอาวุโสเซียนกระบี่ที่ฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ แต่อย่างๆน้อยสมควรเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์หรือ 7 ทัณฑ์ได้อย่างมิมีปัญหา!” “ทว่าตอนนี้ดูเหมือนหากน้องหลิงเทียนได้เข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่ ขอเพียงไม่อับโชคถึงที่สุด พลังฝีมือย่อมเทียบกับอาวุโสเซียนกระบี่ในปีนั้นได้แน่!” กู่ลี่ ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 3 จอมเผด็จการได้แต่เดาะลิ้นกล่าวชมต้วนหลิงเทียนไม่หยุด หลังได้รับทราบวีรกรรมล่าสุดของต้วนหลิงเทียน! ก่อนหน้านี้ถึงมันจะไม่รู้เลยว่าผู้สืบทอดหมอกพิรุณที่แท้เป็นน้องหลิงเทียนของมัน แต่มันก็ล่วงรู้ถึงการคงอยู่ของแดนลับเซียนกระบี่ และรู้ได้ทันทีว่าหากผู้สืบทอดหมอกพิรุณได้เข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่ที่ว่า ตราบใดที่ไม่โชคร้ายจนเกินไปพลังฝีมือต้องก้าวหน้าขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด! ถึงจะไม่ร้ายกาจทัดเทียมกับอาวุโสเซียนกระบี่ฟงชิงหยางในอดีต แต่ก็คงไม่อ่อนด้อยไปกว่ากันสักเท่าไหร่… ทว่าตอนนี้พอได้รู้ว่าไม่เพียงแต่ผู้สืบทอดหมอกพิรุณที่แท้จะเป็นน้องหลิงเทียนของมัน แต่พลังฝีมืออีกฝ่ายยังสูงถึงขั้นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ได้ง่ายดาย… เช่นนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่มันจะจินตนาการได้ออก ว่าหากน้องหลิงเทียนของมันกลับออกมาจากแดนลับเซียนกระบี่พลังฝีมือจะสูงล้ำถึงขนาดไหน! น่ากลัวว่าต้องไม่ต่างใดจากผู้นำรุ่นก่อนอย่างเซียนกระบี่ฟงชิงหยางในปีนั้นแน่!! และผู้นำรุ่นก่อนอย่างเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง ก็คือตัวตนที่สามารถฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ได้แม้จะตกอยู่ในวงล้อม! ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ที่เหลือ แม้จะอยู่กันคนละที่แต่ก็ได้รับทราบข่าวดังกล่าวเช่นกัน และหลังจากได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในภาคตะวันตก ทั้งหมดก็ตะลึงงันไม่ต่างใดจากกู่ลี่! ทั้งหลายยังรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนต้องเดินตามรอยเท้าผู้อาวุโสเซียนกระบี่ฟงชิงหยางได้ทันแน่! … เรียกว่าข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าในเวลาแค่ไม่ถึงหนึ่งเดือน หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่าหลี่ปิงที่ลัทธิบูชาไฟ นับว่าข่าวเรื่องนี้แพร่ไปได้รวดเร็วนัก! สาเหตุที่ไฉนมันแพร่ไปรวดเร็วถึงขนาดนี้ต้องยกความดีความชอบให้เหล่ายอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนขึ้นไปที่ช่วยกันแพร่ข่าวลือกลับไปยังขุมกำลังและสหายต่างๆ ไม่งั้นในเวลาแค่เดือนเดียวคงยากที่ข่าวเรื่องราวจะแพร่ไปทุกซอกทุกมุมของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบน … ณ เผ่ามังกร “ใต้เท้าตี้เฉิน เรื่องนี้ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแน่ชัดแล้วขอรับ…” ณ หุบเขาที่เต็มไปด้วยบุปผานานาพรรณทั้งมวลหมู่วิหกเสียงพริ้ง ปรากฏร่างชายคนหนึ่งกำลังคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าบันไดขึ้นศาลาไม้หลังหนึ่ง กล่าวรายงานให้ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่นั่งอยู่ด้านในศาลาด้วยความเคารพ…
คอมเม้นต์