War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2334
ตอนที่ 2,334 : เป้าหมาย จากนั้นต้วนหลิงเทียนก็มอบป้ายหยกให้กับชนชั้นผู้นำทั้ง 8 ของ 2 วัง 6 ตำหนักรวมถึงจ้าววังเซียนสัญจรอย่างอวี่เหวินฮ่าวเฉินเก็บไว้เรียบร้อย และป้ายหยกที่ว่าก็คือป้ายหยกที่สลักอาคมแฝดเอาไว้ ตราบใดที่ป้ายหยกในมือของอวี่เหวินฮ่าวเฉินและคนนอื่นๆถูกบด ป้ายหยกคู่แฝดที่เก็บอยู่ในมือเขาก็จะแตกลงทันที ทำให้เขาทราบว่ามีคนต้องการติดต่อ ถึงแม้ว่าอีกไม่นานเขาจะย้อนกลับไปยังภูมิภาคเบื้องบนแล้ว ส่วนทางพวกอวี่เหวินฮ่าวเฉินจะยังคงอยู่ในภูมิภาคเบื้องล่าง แต่ความเชื่อมโยงระหว่างป้ายหยกกที่สลักอาคมแฝดก็จะไม่ถูกตัดขาด อยู่ก็อยู่ด้วยกัน พังก็พังด้วยกัน! “ข้ายังถือว่าติดค้างเจ้าอยู่…วันหน้าข้าจะหาทางตอบแทนเจ้า” หลังมอบป้ายหยกให้พวกอวี่เหวินฮ่าวเฉินเสร็จ ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองหวงเหวินจิ้งกล่าวบอก พลางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม หวงเหวินจิ้งพอได้ยินวาจาประโยคนี้ สายตานางก็เผยความซับซ้อนขึ้นมาทันที ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสูญเสียประการหนึ่ง มันกับนาง… ยังต้องคิดเล็กคิดน้อยด้วย? อย่างไรก็ตามพอนึกถึงพลังความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ นางก็ตระหนักได้ชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างนางกับอีกฝ่าย สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะละอายในใจ จึงทำได้แค่พยักหน้ารับคำอย่างเงียบงัน แต่ในใจนางไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลย ถึงแม้ว่าตอนนี้ทุกสายตากำลังมองมาที่นางด้วยความอิจฉาที่ได้รับความสำคัญ แต่นางไม่ยินดีแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่นางให้ความสำคัญ ไม่ใช่การตอบแทนบุญคุณอะไร…หากแต่เป็นตัวคน! “นาง…กับพี่ชายท่านนี้…เป็นสหายของข้า” ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองอวี่เหวินฮ่าวเฉินพร้อมกับผายมือไปทางหวงเหวินจิ้งและหวงฉี่หลิง กล่าวออกด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “สหายของนายท่าน ข้าย่อมดูแลอย่างดี” จ้าววังอัคคีสีชาดเร่งตอบกลับก่อนใคร ขณะเดียวกันทุกคนก็รีบรับคำรวมถึงอวี่เหวินฮ่าวเฉิน โดยเฉพาะอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ในฐานะจ้าววังเซียนสัญจรยิ่งเห็นดีเห็นงามกว่าใคร รับปากว่าจะดูแลทั้งสองให้ดีที่สุด! ยิ่งไปกว่านั้นด้วยฐานะศิษย์ปิดสำนักของหวงเหวินจิ้ง ต่อให้ต้วนหลิงเทียนไม่บอก มันก็ดูแลนางอย่างดีอยู่แล้ว สำหรับหวงฉี่หลิงนั้น มันรู้สึกว่าอีกฝ่ายช่างโชคดีนักที่มีสหายแบบนี้! “นับจากวันนี้ไปสถานะของหวงฉี่หลิงในวังเซียนสัญจร…น่ากลัวจะสูงกว่าบิดาของมันเสียอีก!” “นั่นมันแน่อยู่แล้ว! ใต้เท้าหลิงเทียนถึงขั้นฝากฝังให้ทุกคนช่วยกันดูแลมันอย่างดี!” “มิใช่ก็เป็นผู้คนเหมือนกันหรือไร ไฉนข้าถึงไม่มีโชควาสนาดีๆแบบนี้บ้างเล่า…” …… เมื่อเหล่าศิษย์และอาวุโสทั้งหลายของวังเซียนสัญจรหันไปมองหวงฉี่หลิงอีกครั้ง ในสายตาของพวกมันฉายความรู้สึกอิจฉาริษยาออกมาอย่างยากจะปกปิด สำหรับหวงเหวินจิ้งที่แต่เดิมเป็นศิษย์ปิดสำนักที่จ้าววังเอ็นดูที่สุด พวกมันย่อมปฏิบัติกับนางด้วยดีมาตลอด หลังจากนี้ก็ไม่ถือว่ามีอะไรเปลี่ยนไป เพราะอย่างไรเสียพวกมันก็ให้อภิสิทธิ์หวงเหวินจิ้งมานานแล้ว กระทั่งชินกับการรับคำสั่งของนาง… ทว่ากับหวงฉี่หลิงนั้นต่างออกไป! หวงฉี่หลิงคนนี้แม้จะเป็นบุตรชายของชนชั้นรองจ้าววังเซียนสัญจร แต่บิดาของมันก็นับวว่าอ่อนด้อยที่สุดในบรรดารองจ้าววังทั้งหลาย… หวงฉี่หลิงไม่คู่ควรให้พวกมันเคารพเชื่อฟัง! ดังนั้นแล้วกระทั่งลูกหลานของเหล่าอาวุโสของวังเซียนสัญจรยังกล้าปีนเกลียวกับหวงฉี่หลิง! ไม่ได้ต่างอะไรกับลูกหลานของอาวุโสทั้ง 3 ที่ถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าทิ้งไป อย่างไรก็ตามหลังจากวันนี้เป็นต้นไป สูงต่ำในวังเซียนสัญจร ย่อมไม่มีใครกล้าตอแยวุ่นวายกับหวงฉี่หลิงอีกต่อไป… ด้วยเพราะมีสัมพันธ์ฉันท์สหายกับต้วนหลิงเทียนเช่นนี้ หวงฉี่หลิงย่อมประหนึ่งทะยานฟ้าในก้าวเดียว! แล้วแบบนี้จะไม่ให้ชนชั้นอาวุโสและเหล่าศิษย์ไม่อิจฉามันได้อย่างไร? “ฮ่าๆๆๆ…ดี ดี! ดี!!” บิดาหวงฉี่หลิงผู้เป็นรองจ้าววังเซียนสัญจรที่พลังฝีมือต่ำต้อยที่สุด ตอนนี้แลดูตื่นเต้นยินดีทั้งคึกคักกว่าใคร สองตามันมองลูกชายอย่างมีความสุขหน้าตาระรื่นนัก! ทำราวกับวาจาที่ต้วนหลิงเทียนเรียกหาหวงฉ่หลิงว่าสหายนั้น กล่าวกับตัวมันเอง และตอนนี้มันก็อดภาคภูมิใจขึ้นมาไม่ได้ที่มีบุตรชายประเสริฐ! “น้องหลิงเทียน…” เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนยังไม่ลืมมัน สองตาหวงฉี่หลิงพลันแดงรื้นขึ้นมาทันที ทั่วร่างยังสะท้านไปเพราะความตื่นเต้น “นอกจากนี้…ยังมีเผิงไหลอีกคน” ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองกล่าวกับอวี่เหวินฮ่าวเฉิน มือผายไปทางเผิงไหลอดีตอาวุโสวังเซียนสัญจรที่แปรพักตร์มารับใช้ต้วนหลิงเทียน “เผิงไหลเป็นคนแรกที่ติดตามข้า…พวกเจ้าคงรู้ดีสินะ ว่าควรปฏิบัติอย่างไร?” แทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ อวี่เหวินฮ่าวเฉินที่จับใจความสำคัญได้ เร่งประกาศด้วยเสียงผสานพลังออกมาทันที “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เผิงไหล จักเป็นรองจ้าววังเซียนสัญจรอีกคนของวังเซียนสัญจรเรา…ในวังเซียนสัญจรไม่ว่าผู้ใดพบเห็นเผิงไหล ให้เคารพเสมือนพบเห็นข้า!!” “หากมีผู้ใดหาญกล้าหยาบคายต่อรองจ้าววังเผิงไหล ก็อย่าได้โทษว่าข้าอวี่เหวินฮ่าวเฉินไร้ปราณี!” ท้ายประโยคน้ำเสียงของอวี่เหวินฮ่าวเฉินยังเยียบเย็นนัก ในฐานะ ครึ่งก้าวเซียนอมตะ ยามกล่าวเสียงเย็นแฝงเจตนาคุกคาม ย่อมพาลให้ทุกคนที่ได้ยินรู้สึกเสมือนฤดูหนาวมาเยือน อดไม่ได้ที่จะหนาวสะท้านจับไขสันหลัง! “หากผู้ใดกล้าแตะต้องรองจ้าววังเผิงไหล ย่อมเป็นศัตรูกับวังอัคคีสีชาดของข้าเช่นกัน!!” แทบจะพร้อมกันกับที่อวี่เหวินฮ่าวเฉินประกาศจบคำ จ้าววังอัคคีสีชาดก็กล่าวผสานพลังออกมาเสียงดุ ด้วยมีจ้าววังอัคคีสีชาดเปิด เหล่าชนชั้นจ้าวตำหนักทั้ง 6 ก็เร่งกล่าวประกาศจุดยืนออกมาตามๆกัน ทันใดนั้นทุกคนที่อยู่ในใจกลางวังเซียนสัญจร ได้แต่หันไปมองเผิงไหลเป็นสายตาเดียวกัน ในแววตายังมากล้นไปด้วยความอิจฉาทั้งริษยานัก! “นายท่าน…” ทว่าด้านเผิงไหลนั้นย่อมตระหนักได้ชัดว่าการฝากฝังนี้หมายความว่าอะไร นายท่านของมันไม่คิดพามันไปด้วยกันอีกต่อไป มันกับอีกฝ่ายสิ้นสุดหนทางแต่เพียงเท่านี้ ทำให้ในใจอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความรู้สึกสูญเสียประการหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม นายท่านของมันยังคงนึกถึงมันและได้แผ้วทางไว้สำหรับอนาคตของมันแล้ว… มันย่อมรู้ดี ด้วยมีวาจารับรองสถานะ ‘ข้ารับใช้คนแรก’ จากนายท่านของมันทิ้งไว้ ฐานะของมันในเผ่าปีศาจมนุษย์ย่อมไม่อาจเรียกว่าธรรมดาได้อีกต่อไป! “ไปกันเถอะ!” เสียงกล่าวเรียบเฉยของต้วนหลิงเทียนพึ่งดังเข้าหูทุกคนไม่ทันไร ร่างเขาก็กระพริบวูบไปหยุดอยู่ข้างๆกลุ่มเค่อเอ๋อ ต้วนซือหลิง และก่านหรูเยี่ยนเรียบร้อย และเพียงแค่ชั่วพริบตา ต้วนหลิงเทียนก็พาร่างทั้ง 3พุ่งหายไปจากสายตาของทุกคน “น้อมส่งนายท่าน!” ขณะเดียวกันด้านอวี่เหวินฮ่าวเฉิน และชนชั้นผู้นำของ 2 วัง 6 ตำหนักทั้งหลาย ก็เร่งกล่าววคำอำลาต่อต้วนหลิงเทียนนออกมา “น้อมส่งนายท่านต้วนหลิงเทียน!” “น้อมส่งนายท่านต้วนหลิงเทียน!” …… ยังมีคนอื่นๆของ 2 วัง 6 ตำหนักที่เร่งกล่าวอำลาออกมาเสียงดังด้วยเช่นกัน ถึงต้วนหลิงเทียนจะอันตรธานหายไปจากสายตาของพวกมันแล้ว แต่ด้วยพลังของต้วนหลิงเทียน พวกมันรู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนต้องได้ยิน “มัน…จากไปแล้ว….” เมื่อต้วนหลิงเทียนอันตรธานหายไปในอากาศว่างเปล่าต่อหน้าต่อตา หวงเหวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสมือนในใจว่างเปล่า สายตาที่เดิมกระจ่างใสราวธารยามสารท บัดนี้กลับหม่นหมองลง คล้ายนางได้สูญเสียสิ่งสำคัญไปอย่างมิอาจรั้งคืน… “ต่อจากนี้ไป…เผ่าปีศาจมนุษย์ทั้งหมด ล้วนขึ้นตรงกับผู้แซ่ต้วน…” หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนจากไป เหล่ารองจ้าววังทั้งอาวุโสทั้งหลายใน 2 วัง 6 ตำหนักอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างสะทกสะท้อน อารมณ์ของพวกมันรู้สึกผสมปนเปยากจะกล่าวนัก… อีกด้านนั้น หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนพาเค่อเอ๋อ ต้วนซือหลิง และก่านหรูเยี่ยนออกจากเขตวังเซียนสัญจร เขาก็พาทั้งหมดมุ่งหน้าออกจากเมืองเหรินโม่เชิ่งทันที หลังออกจากเมืองเหรินโม่เชิ่งแล้ว เขาก็พาทุกคนพุ่งขึ้นเหนือไปด้วยความเร็วสูงสุด ราวกับมีเป้าหมายปลายทางที่แน่ชัด ระหว่างเดินทางสีหน้าต้วนหลิงเทียนก็ฉายความตึงเครียดออกมาไม่น้อย ความคิดหนึ่งแล่นขึ้นในใจ ‘ด้วยพลังของข้าตอนนี้ คิดฉีกความว่างเปล่า เปิดรอยแยกมิติก็ไม่นับว่ายากเย็นอะไร…’ ‘อย่างไรก็ตามหากข้าคิดย้อนกลับไปยังภูมิภาคเบื้องบน จำต้องหาจุดเชื่อมระหว่างภูมิภาคทั้ง 2 ให้พบ ฉีกแยกมิติมั่วๆก็ไม่มีทางพบหนทางไป…’ ‘แต่นี่ก็ไม่ยากเย็น หากข้าฉีกเปิดรอยแยกบริเวณค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามภูมิภาค ไม่เพียงแต่ข้าจะสามารถเลือกไปยังแดนเนรเทศได้ แต่ข้าสมควรย้อนกลับขึ้นไปในภูมิภาคเบื้องบนได้ทันที!’ ‘เพราะจุดเชื่อมต่อบริเวณมหาค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามภูมิภาคนั่น สมควรเป็นจุดเชื่อมระหว่างระนาบแฝด อย่างดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ากับแดนเนรเทศ ส่วนระนาบเทียมอย่างภูมิภาคเบื้องบน ก็เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า…’ ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงเลือกเดินทางมุ่งหน้าขึ้นเหนือทันทีหลังออกจากเมืองเหรินโม่เชิ่ง นั่นเพราะ มหาค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามภูมิภาคนั้น มันตั้งอยู่ที่นั่น ‘หลังออกจากภูมิภาคเบื้องล่างกลับถึงภูมิภาคเบื้องบนเมื่อไหร่…ก็ได้เวลาล้างแค้นให้ผู้เฒ่าหั่วแล้ว!’ ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ หากแต่แววตาต้วนหลิงเทียนก็ลุกโชนจ้าขึ้นมาดั่งเพลิงไฟ ทำราวกับจะแผดเผาสรรพสิ่งให้มอดไหม้! เป้าโทสะอารมณ์ของเขาย่อมไม่พ้นจ้าวลัทธิบูชาไฟ ถังซวน ที่อยู่ในภูมิภาคเบื้องบน! ทั้งหมดเป็นเพราะถังซวน ทำให้ผู้เฒ่าหั่วเลือกที่จะใช้วิธีการบางอย่าง กระทั่งถึงขั้นสละชีวิตเพื่อช่วยเขาและภรรยาอย่างเค่อเอ๋อรวมถึงลูกสาวให้สามารถย้อนกลับมายังภูมิภาคเบื้องล่างได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องตกตายด้วยน้ำมือของถังซวน! แค้นนี้เขาต้องชำระ! เมื่อตระหนักได้ว่า…พลังของเขาตอนนี้สามารถฉีกเปิดรอยแยกมิติ และหวนคืนสู่ภูมิภาคเบื้องบนได้ตามใจต้องการ! ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในใจก็คือ ย้อนกลับไปยังภูมิภาคเบื้องบน และฆ่าจ้าวลัทธิบูชาไฟอย่างถังซวนทิ้งไปเสีย! ล้างแค้นให้ผู้เฒ่าหั่ว!! ทำให้หลังจากจัดการเรื่องในเผ่าปีศาจมนุษย์เสร็จ เข้าจึงตั้งเป้าหมายแรกให้ตัวเอง ฆ่าถังซวน!! ถึงแม้ในภูมิภาคเบื้องล่างนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่เขาคิดกระทำ ตัวอย่างเช่นตามหาบิดา, มารดา, ภรรยาอย่างลี่เฟย, ลูกชายอย่างต้วนเนี่ยนเทียนและสหายคนอื่นๆ… กระทั่งรวมถึงการกวาดล้างปีศาจชนเผ่าอื่นๆนอกจากเผ่าปีศาจมนุษย์ เพื่อปลดแอกให้มนุษย์ชาติในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าไม่ต้องจมอยู่กับฝันร้ายสืบไป… ทว่าสุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็เลือกที่จะย้อนกลับไปยังภูมิภาคเบื้องบนก่อน บุกลัทธิบูชาไฟ ฆ่าถังซวน ล้างแค้นให้ผู้เฒ่าหั่ว!! ‘ตอนนี้พวกท่านพ่อกับท่านแม่สมควรซ่อนตัวอยู่…ไม่ใช่เรื่อง่ายเลยที่จะตามหาพวกท่านพบ…’ ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงสั่งให้พวกอวี่เหวินฮ่าวเฉินคอยหาเบาะแสที่อยู่ของพ่อแม่เขาไม่เว้นคนของตำหนักเมฆาครามคนอื่นๆ ที่สำคัญก็คือภรรยาและลูกชายเขา… สุดท้ายแล้วคนของเผ่าปีศาจมนุษย์ก็มีมากมายนัก ย่อมมีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่จะพบเจอเบาะแสครอบครัวเขา หากให้เขาตระเวนหาคนเดียว ย่อมไม่ต่างใดจากงมเข็มในกองฟาง ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องจะเสียเวลาไปกี่มากน้อยด้วยซ้ำ จะหาเจอหรือไม่ก็ไม่รู้…
คอมเม้นต์