War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2255
ตอนที่ 2,255 : นักรบผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 3! “ใต้เท้าเมตตาละเว้นข้าน้อยด้วย! ขอใต้เท้าโปรดเมตตาละเว้นข้าน้อยด้วย…อู๊ด!!” เมื่อเห็นสายตาไม่แยแสของต้วนหลิงเทียนที่เหลือบแลมาหลังเก็บแหวนพื้นที่ของสหาย ความกล้าของปีศาจสุกรร่างกำยำก็ยวบลงปานน้ำเหลว เร่งทิ้งตัวทรุดลงคุกเข่ากลางหาว กล่าวร่ำร้องขอความเมตตาออกมาเสียงผวา หูหมูใบใหญ่ของมันสั่นพั่บๆไปพร้อมๆกับร่างกาย… “เผ่าปีศาจสุกรของพวกเจ้า…นอกจาก 3 ผู้นำแล้วยังมีชนชั้นอัจฉริยะอะไรอยู่อีกไหม แล้วใครที่มันมีพรสวรรค์สูงสุด?” หลังฆ่าปีศาจสุกรปากเหม็นที่สร้างความขยะแขยงทิ้งไปอย่างไม่ไยดีแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองกล่าวเสียงเรียบกับปีศาจสุกรร่างหนาที่เหลือ “อัจฉริยะ…พรสวรรค์สูงสุดหรือ?” ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน ปีศาจสุกรที่คุกเขาขอความเมตตา ก็เงยหน้าขึ้นมามองถามด้วยอาการสับสน “หืม? เจ้าไม่รู้งั้นเหรอ?” เมื่อเห็นว่าปีศาจสุกรยังทำหน้ามึนไม่ตอบคำ สองตาต้วนหลิงเทียนก็ฉายแววอำมหิตขึ้นมาทันที ทันใดนั้นจิตสังงหารพร้อมกลิ่นอายฆ่าฟันอำมหิต ก็ระเบิดออกจากร่างต้วนหลิงเทียน กวาดไปปกคลุมทั่ววร่างปีศาจสุกร! พริบตาที่กลิ่นอายฆ่าฟันอำมหิตปกคลุมไปทั่วร่างปีศาจสุกร ร่างของมันคล้ายถูกไอเย็นเยียบฉาบเคลือบก็ไม่ปาน มันถึงกับตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า เร่งกล่าวตอบออกมาด้วยความตื่นตระหนก “ใต้เท้าข้าน้อยรู้! ข้าน้อยรู้ใต้เท้า!!” “พูด!” ต้วนหลิงเทียนตะคอกคำเสียงเย็น “นอกจากท่านผู้นำทั้ง 3 แล้ว ในเผ่าปีศาจสุกรของเรายังมี ‘3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่’ ดำรงอยู่! ทั้ง 3 คือสุดยอดอัจฉริยะของเผ่าปีศาจสุกรพวกเรา…” คราวนี้ปีศาจสุกรกล่าวออกเสียงดังฟังชัดอย่างไร้ลังเล ราวกับมันกลัวว่าหากชักช้า…ต้วนหลิงเทียนจะจัดการมันทิ้งอย่างไร้ปราณีเหมือนสหายเมื่อครู่! ความแข็งแกร่งของมันก็ไม่ต่างใดจากสหาย! หากแต่ยอดฝีมือเผ่าปีศาจมนุษย์เบื้องหน้าเพียงโบกมือส่งๆ ก็กำจัดสหายมันดั่งเศษขยะ! หากเป็นมันโดนบ้างก็คงไม่รอดแน่แท้! ด้วยเหตุนี้หลังเห็นสหายถูกระเบิดร่างเป็นผงตกตายไปต่อหน้าต่อตา มันก็ไม่หลงเหลือความกล้าแม้แต่จะหลบหนี! มันรู้ดีว่าต่อให้หนี ก็ไม่มีทางหนีพ้น! “หือ? 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่งั้นเหรอ เจ้าพวกนั้นพรสวรรค์ของพวกมันสูงมากรึ?” ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาขัดคำอีกฝ่าย ก่อนที่จะทันได้พูดจบ ต้วนหลิงเทียนเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาเหมือนกันตอนที่เขายังอยู่เมืองเหรินโม่เชิ่ง เห็นว่าเป็นพวกที่มีชื่อเสียงไม่น้อยในเผ่าปีศาจสุกร แต่ละตนนั้นแม้พลังฝึกปรือจะมีแค่เซียนสวรรค์ 8เปลี่ยน กระทั่งยังห่างไกลจากการบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนชนชั้นยอดฝีมือ… ทว่าด้วยความที่ทั้ง 3 เป็นพี่น้องฝาแฝดกัน ทำให้พวกมันมีกระแสจิตพิเศษสื่อถึงกัน ยามผนึกกำลังกันสามารถระเบิดพลังสามารถที่เหนือกว่าขอบเขตพลัง! ที่สำคัญที่สุดคือพวกมันไม่ใช่พี่น้องฝาแฝดธรรมดา พวกมันคือแฝด 3 ที่นับว่าร้ายกาจกว่าพี่น้องฝาแฝดที่มี 2 คนมากนัก! ด้วยบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดเดียวกัน ฝึกฝนทักษะวรยุทธ์เซียนและเวทย์พลังเดียวกัน…รวมถึงพลังฝึกปรือเท่าเทียมกัน ทำให้ยามพวกมันทั้ง 3 ผนึกกำลังร่วมมือกัน ยังร้ายกาจกว่าฝาแฝดที่มี 2 พี่น้องไม่รู้ตั้งเท่าไหร่! หากนักรบผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 3 นี้ลงมือพร้อมกัน พลังต่อสู้ของพวกมันเรียกว่าเป็นรองก็แค่ผู้นำทั้ง 3 ที่เป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของแต่ละเผ่าย่อยเท่านั้น!! เรียกว่าเป็นที่ทราบกันดีของเผ่าปีศาจสุกร ว่าเมื่อใดที่ทั้ง 3 รวมพลังกัน พวกมันคือตัวตนอันไร้เทียมทานภายใต้ขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน! กระทั่งรองจ้าววังวิญญาณอสุราอย่างชิงหยวนป้า ที่ได้รับการขนานนามว่าอันดับ 1 ใต้เซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนของเผ่าปีศาจมนุษย์ ก็เคยแพ้พ่ายพวกมันทั้ง 3 ที่ผนึกกำลังกันมาแล้ว!! “มิผิดใต้เท้า” ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน ปีศาจสุกรร่างกำยำไม่กล้าลังเลยึกยัก รีบขานรับตอบคำออกมาเร็วไว “พวกมันทั้ง 3 เป็นตัวตนที่เหนือกว่าอัจฉริยะตนใดในเผ่าปีศาจสุกรของพวกเรา! ยังเป็น 3อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์และศักยภาพสูงที่สุดในบรรดาอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของเผ่าปีศาจสุกรเรา!” “หืม ร้ายกาจสุดในบรรดาอัจฉริยะรุ่นเยาว์…3นักรบผู้ยิ่งใหญ่นั่นยังเป็นรุ่นเยาว์รึ?” ต้วนหลิงเทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนหน้าเขาเพียงแต่เคยได้ยินมาว่า 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่ ของเผ่าปีศาจสุกรร้ายกาจมาก แต่ไม่เคยรู้เลยว่าพวกมันยังเป็นรุ่นเยาว์ นับว่าผ่านไปนานพอสมควรแล้วหลังต้วนหลิงเทียนได้กลับมายังภูมิภาคเบื้องล่างแห่งนี้ เขาจึงได้รับทราบเรื่องราวพื้นฐาน และความหมายของคำว่ารุ่นเยาว์ของพวกปีศาจ โดยทั่วไปแล้ว รุ่นเยาว์สำหรับเผ่าพันธุ์ปีศาจทั้งหลาย ก็คือเหล่าปีศาจที่ยังมีอายุไม่ถึง 100 ปี! “ใช่แล้วใต้เท้า” ได้ยินคำถามด้วยสงสัยของต้วนหลิงเทียน ปีศาจสุกรร่างกำยำเร่งตอบคำทันที “3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าปีศาจสุกรเรายังมีอายุน้อยนัก ทั้ง 3 ยังพึ่งมีอายุได้ 50 ปีเศษเท่านั้น!” พึ่ง 50 ปีเศษ!? “เด็กขนาดนั้นเชียว?” ต้วนหลิงเทียนประหลาดใจกับคำตอบของปีศาจสุกรไม่น้อย พวกมันเพียงอายุได้ 50 ปีเศษแต่พลังฝึกปรือบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนแล้ว!? ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องขยันบ่มเพาะพลังด้วยตัวเอง ต่อให้จะอาศัยการกลืนกินแก่นแท้ ปราณโลหิต และพลังชีวิตของผู้อื่นเพื่อบ่มเพาะพลัง แต่หากไร้ซึ่งพรสวรรค์แลศักยภาพอันเลิศล้ำก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุถึงความแข็งแกร่งเช่นนี้ในเวลาอันสั้น! ‘พรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมัน…ไม่พ้นต้องเป็นรากวิญญาณสีครามแน่ และไม่น่าจะใช่รากวิญญาณสีครามธรรมดาๆ!’ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะคาดเดาในใจ ‘แน่นอนว่าอย่างดีก็สมควรเป็นรากวิญญาณสีครามเข้ม…แต่ความเป็นไปได้นี้ก็น้อยนิดนัก…’ ตอนอยู่ในเมืองเหรินโม่เชิ่ง ต้วนหลิงเทียนยังได้รับทราบเกี่ยววกับพรสวรรค์รากวิญญาณโดยเฉลี่ยของเผ่าปีศาจมาบ้าง จึงได้รู้ว่าในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์ปีศาจนั้น มีอัจฉริยะน้อยนิดนักที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีม่วง และที่สำคัญเลยก็คือ…ทั้งหมดยังอยู่ในเผ่าปีศาจมนุษย์ และยังเป็นมนุษย์สายเลือดบริสุทธิ์! กล่าวอีกนัยหนึ่ง… ในบรรดาเผ่าพันธุ์ปีศาจแล้ว นอกเหนือจากเผ่าปีศาจมนุษย์ ยังไม่เคยปรากฏอัจฉริยะตนใดของเผ่าพันธุ์ปีศาจอื่นๆที่มีรากวิญญาณสีม่วงขึ้นมาในประวัติศาสตร์! ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงเข้าใจได้ว่า พรสวรรค์รากวิญญาณสีครามเข้ม สมควรเป็นพรสวรรค์รากวิญญาณสูงสุดของเผ่าปีศาจอื่นๆ! ด้วยเหตุนี้แม้จะยืนยันได้ว่า 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าปีศาจสุกรสมควรมีรากวิญญาณสีคราม แต่เขาก็ไม่คิดว่าพวกมันจะมีรากวิญญาณสีครามเข้ม พวกมันน่าจะมีเพียงพรสวรรค์รากกวิญญาณสีครามธรรมดาๆมากกว่า อย่างไรก็ตาม ถึงกระนั้นต้วนหลิงเทียนก็ประหลาดใจไม่น้อย ‘เจ้า 3 นักรบนั่น…ถึงพรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมันจะเป็นแค่สีครามกระทั่งสีครามอ่อน แต่หลังกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมันได้ ข้ามั่นใจเต็มสิบส่วนว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของข้าจะเปลี่ยนเป็นรากวิญญาณสีดำโดยสมบูรณ์!’ คิดถึงจุดนี้อารมณ์ของต้วนหลิงเทียนก็พุ่งพล่านขึ้นมาทันที จังหวะนี้คล้ายเขาได้แลเห็นพรสวรรค์รากวิญญาณของเขากลายเป็นรากวิญญาณสีดำเรียบร้อยแล้ว! ‘เอาพวกมันนี่ล่ะ!’ ต้วนหลิงเทียนย่อมตัดสินใจระบุเป้าหมายได้ทันที…3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าปีศาจสุกร! กล่าวให้ชัด เขาระบุเป้าหมายโดยตัดสินใจจากพรสวรรค์รากวิญญาณของ 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าปีศาจสุกร! “แล้ว 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่นั่นมาจากเผ่าไหน เผ่าสุกรทมิฬ เผ่าสุกรสายฟ้า หรือเผ่าสุกรสีชาด?” ต้วนหลิงเทียนมองไปยังปีศาจสุกรร่างกำยำที่คุกเข่าอยู่ ค่อยยิงคำถามออกมาอีกครั้ง 3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่นั่น แม้ต้วนหลิงเทียนคิดลงมือจัดการพวกมัน แต่เขาก็คิดว่าคงยากไม่น้อย นั่นเพราะแต่ละเผ่าย่อยทั้ง 3 ล้วนมีตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนพิทักษ์อยู่! ถึงแม้ด้วยพลังความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ ต้วนหลิงเทียนมั่นใจว่าหากใช้ออกด้วยตราผนึกมาร ก็น่าจะสามารถจัดการปีศาจขอบเขตเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนได้… ทว่าทั้งหมดก็เป็นแค่เขาอนุมานไปเอง ไม่ได้มั่นใจว่าจะกระทำได้เต็มสิบส่วน! เว้นเสียแต่เขาจะสามารถใช้ปฐมเวทย์กลืนกินเร่งเร้าพลังเซียนสุริยันให้บรรลุถึงขีดจำกัดขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนไว้ก่อนค่อยใช้ตราผนึกมาร! หาไม่แล้วเขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถจัดการปีศาจขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนได้! จนถึงตอนนี้ตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่เขาเคยเจอ ก็มีแค่ถังซวนจ้าวลัทธิบูชาไฟ กับหล่างเชียนจินอาวุโสสูงสุดของลัทธิอารามทมิฬเท่านั้น วันนั้นทั้งคู่ก็ระเบิดพลังขอบเขตเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนปะทะกัน จึงเผยความน่ากลัวของขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนให้เขาเห็นชัดถนัดตา! กระทั่งตอนนี้พอนึกย้อนไปเขายังอดตัวสั่นไม่หาย เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเป็นตัวตนที่ทรงพลังเข้มแข็งอย่างแท้จริง! ยิ่งไปกว่านั้นต้วนหลิงเทียนยังรู้อีกด้วยว่า… ไม่ว่าจะเป็นถังซวนหรือหล่างเชียนจิน ทั้งคู่ไม่น่าจะเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดใต้ขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะ! ด้วยเหตุนี้ถึงแม้เขาจะครอบครองตราผนึกมาร อันเป็นยอดศาสตราเซียนดาวข่มหมู่มารปีศาจไว้ในมือเขาก็ยังต้องหวั่นเกรงยอดฝีมือปีศาจขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน! ‘ถึงแม้ตอนนี้ข้าสามารถใช้ปฐมเวทย์กลืนกินจนยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดในร่างให้บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนได้ทันที…’ ‘ทว่าต่อให้พลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดของข้าบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนแล้ว แต่ข้าก็ไม่มั่นใจว่าจะใช้ตราผนึกมารจัดการพวกปีศาจขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนทั่วๆไปได้’ ‘กระทั่ง…ต่อให้ยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดด้วยปฐมเวทย์กลืนกินจนบรรลุถึงจุดสูงสุดขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน ข้าอาจจัดการพวกปีศาจขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนทั่วไปได้ก็จริง แต่สำหรับชนชั้นสุดยอดฝีมือนั่นก็ไม่แน่นัก’ ‘เพราะอย่างไรเสียตราผนึกมารตอนนี้ยังอยู่ในสภาพเสียหาย ไม่ใช่ตราผนึกมารที่มีพลังอำนาจสมบูรณ์…’ ‘หากตราผนึกมารอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ข้าเชื่อว่าสามารถจัดการยอดฝีมือปีศาจขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนได้แน่…แต่เพราะมันไม่สมบูรณ์ ก็ยากจะมั่นใจเต็ม 10 ส่วนว่ามันจะจัดการปีศาจระดับนั้นได้…’ ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงหวั่นเกรงที่จะปะทะกับปีศาจขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน! หาไม่แล้วเขาคงเลือกจะยกระดับพลังเซียนสุริยันต้นกำเนิดให้บรรลุถึงขีดสุดเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเสียก่อน แล้วค่อยไปไล่ฆ่าผู้นำของเผ่าปีศาจสุกรทั้ง 3เผาย่อยโดยใช้ตราผนึกมารเรียงตัว… ถึงตอนนั้นต่อให้ผู้นำเผ่าปีศาจสุกรย่อยเผ่าอื่นคิดจะมาช่วยเหลือ แต่ก็คงมาไม่ทันเววลา… นอกจากนั้นต่อให้พวกมันมา เขาที่ประคองระดับพลังเอาไว้ที่ขีดสุดเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนก็สมควรใช้ตราผนึกมารฆ่าพวกมันได้ไม่ยาก.. “เรียนใต้เท้า…3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าปีศาจสุกร มิได้อยู่ในเผ่าย่อยที่ท่านกล่าว…” ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังจมอยู่กับความคิดตึงเครียดในหัว ปีศาจสุกรร่างกำยำ ก็กล่าวออกมาอีกครั้ง “3 นักรบผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้ฝึกตนอิสระของเผ่าปีศาจสุกร ที่มิได้ขึ้นอยู่กับเผ่าใดเป็นพิเศษ…” “หืม? ผู้ฝึกตนอิสระงั้นเหรอ!?” สองตาของต้วนหลิงเทียนถึงกกับฉายแสงสว่างวาบขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำนี้ของปีศาจสุกรร่างกำยำ!
คอมเม้นต์