War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2167
ตอนที่ 2,167 : ความตายของจ้าวราชสีห์ขนทอง! “วาจาที่เขื่องโขโอหังนัก!!” ในขณะที่ร่างวูบไปปานอัสนีวาบ เซี่ยคังฉวินที่โจนทะยานร่างมาถึงครึ่งทางพอได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน ก็อดไม่ได้ที่จะแค่นคำด้วยความผยองทั้งหัวเราะลั่น! ราวกับมันพึ่งได้ยินเรื่องตลกแห่งยุคก็ไม่ปาน! มัน เซี่ยคังฉวิน คือจ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬ พลังฝึกปรือบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน! ให้มองทั้งดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ามันยังเป็นตัวตนระดับแนวหน้า เรื่องนี้ยังสามารถเห็นได้ชัดเจนจากอันดับในรายนามยอดเซียนของมัน! มันเซี่ยคังฉวินผู้นี้ คืออันดับที่ 18 ในทำเนียบสุดยอดฝีมืออย่างรายนามยอดเซียน!! ต้องทราบด้วยว่าในรายนามยอดเซียนไม่ทราบมีกี่คนที่อยู่ในด่านพลังเดียวกับมัน หากแต่ไม่อาจช่วงชิงตำแหน่งนี้ของมันมาได้! ทว่าวันนี้เด็กน้อยขนอุยผู้หนึ่ง กลับกล่าววาจาปรามาสมัน! จะไม่ให้มันมีน้ำโหได้อย่างไร!? “เขื่องโขโอหัง?” หลังได้ยินเสียงหัวเราะเยาะจากเซี่ยคังฉวิน ต้วนหลิงเทียนยิ้มหยันบางๆ พลางกล่าวเสียงเย็นไร้แยแส “โอหังหรือไม่เดี๋ยวเจ้าก็รู้!” “เช่นนั้นก็ให้ข้าชมดูเถอะ!!” เซี่ยคังฉวินคำรามออกมาอีกครา ทั่วร่างปะทุพลังอันเกรี้ยวกราด มือเท้าสลับฉับไววุ่นวาย วรยุทธ์เซียนที่ฝึกปรือทั้งเวทย์พลังที่เชี่ยวชาญสำแดงออกเต็มพลัง คนคล้ายจุดระเบิด! ร่างที่กระโจนเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนปะทุความเร็วที่สูงขึ้นในชั่วพริบตา!! ตอนนี้เซี่ยคังฉวินประหนึ่งสิงโตที่ทุ่มพลังทั้งหมดกระโจนออกไปตะครุบเหยื่อ!! วูบ! แทบจะพร้อมกันกับที่เซี่ยคังฉวินปะทุพลังวูบร่างมาปานจุดระเบิด กระบี่นิลสวรรค์พลันปรากฏขึ้นในมือต้วนหลิงเทียนอย่างเงียบงัน และทันใดนั้นพลังเซียนสุริยันมหาศาลในกายก็ถ่ายทอดลงสู่ตัวกระบี่ฉับไว ตัวกระบี่พลันสำแดงพลังอำนาจออกมาให้โลกหล้าประจักษ์! กลิ่นอายพลังงานอันน่าพรั่นพรึงเปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจทำลายล้างเริ่มกำจายออกไปโดยรอบ พาลให้ผู้ฝึกตนอิสระทั้งหลายอดไม่ได้ที่ร่างจะสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว! “กระบี่นี้ เพราะเจ้าไม่ยอมสั่งสอนลูกชายตัวดีของเจ้าให้เป็นผู้คน!” และเมื่อต้วนหลิงเทียนปริปากกล่าววาจาออกมาอีกครั้ง กระบี่นิลสวรรค์ก็คล้ายจะอันตรธานหายไปจากอากาศบางเบา คงเหลือแต่เพียงเสียงแหวกทะลวงอากาศด้วยความฉับไวสุดยอดเท่านั้น ตัวกระบี่ยามนี้นอกจากบรรจุไว้ด้วยพลังเซียนสุริยันที่ถูกเร่งเร้าถึงขีดสุด ยังเต็มไปด้วยสำนึกกระบี่อันลี้ลับจากเคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจอันเป็นขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่อีกด้วย! ยอดใจกระบี่สำแดงเดช ใช่อะไรที่ใครจะรับได้ง่ายๆหรือ? ที่จริงต้องกล่าวถามว่าในที่นี้ยังมีผู้ใดรับได้! ทุกเรื่องราวบังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเสี้ยวพริบตาเท่านั้น ในสายตาของผู้ฝึกตนอิสระทั้งหลาย กระบี่ที่แลดูธรรมดาๆ หากแต่อยู่ๆก็ปะทุพลังอันน่าพรั่นพรึงในมือของต้วนหลิงเทียน เสมือนอันตรธานหายไปในฉับพลัน คงเหลือแต่เพียงเสียงหวีดหวิวเบาๆยากได้ยิน ทว่าในสายตาของเซี่ยคังฉวินนั้น มันรู้สึกเสมือนมีประกายแสงหนึ่งส่องผ่านมาที่มัน!! ‘ระ…เร็ว!’ นี่เป็นความคิดที่ผุดขึ้นจากจิตใต้สำนึกของมัน ก่อนที่มันจะทันได้รู้สึกตัว และทันทีที่จิตใต้สำนึกบังเกิดความคิดนี้ขึ้นมา ความหวาดกลัวก็เริ่มกอบกุมจิตใจของมันทันที! และวินาทีนั้นเอง อยู่ๆมันก็รู้สึกปวดแปลบที่ไหล หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียง ฉับ เบาๆเข้าหู… และเมื่อมันก้มลงไปมอง มันก็พบว่า… แขนขวาของมันหายไปแล้ว! ขาดด้วนเสมอไหล!! วงเลือดเนื้อแดงฉานยังปรากฏโลหิตทะลักพุ่งออกมาเป็นสายไม่หยุด!! “กระบี่นี้เพราะเจ้าป้ายสีข้าเรื่องยอดศาสตราเซียนสองชิ้น!” เสียงต้วนหลิงเทียนดังขึ้นอีกครั้ง! ฉับ! และก่อนที่เซี่ยคังฉวินจะทันได้รู้สึกตัว มันก็พบว่าแขนซ้ายที่มันคิดจะยกขึ้นมากอบกกุมแขนขวาที่ขาดด้วนเสมอไหล่ บัดนี้ก็ได้ขาดด้วนเสมอไหล่ไปแล้วเช่นกัน! แม้พลังฝีมือความแข็งแกร่งของเซี่ยคังฉวินจะไม่ธรรมดา แต่วินาทีนี้มันยังอดไม่ได้ที่จะกู่ร้องเสียงหลงออกมาด้วยความเจ็บปวด! ร่างที่โจนทะยานของมันสิ้นสูญสภาวะเกรี้ยวกราดลงอย่างมบูรณ์ พลังชั่วชีวิตที่เร่งเร้ามาแต่แรกถูใช้เพื่อรั้งร่าง ค่อยถีบเท้าสุดแรงเพื่อเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศไปหยุดลอยไกลห่างจากร่างต้วนหลิงเทียน! มองมาด้วยสายตาหวาดผวา…ตอนนี้กระทั่งจะคิดใช้พลังดูดรั้งแขนทั้ง 2 ข้างกลับมาต่อก็ไม่มีอยู่ในหัว!! มันไม่แม้แต่จะฝันถึง… ว่าต้วนหลิงเทียนที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของมันในอดีต วันนี้จะมีพลังอันน่ากลัวถึงขั้นลิขิตความเป็นความตายมันได้! เพียงแค่ 2 กระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนสำแดงออกมาเมื่อครู่ ไม่ว่าจะกระบี่ใด…หากคิดฆ่ามันก็เป็นอะไรที่ง่ายดายนัก! ทว่าต้วนหลิงเทียนดูเหมือนจงใจจะหยอกล้อกลั่นแกล้งมัน…ไม่ได้คิดจะเอาชีวิตของมัน! หาไม่แล้วมันคงตกตายไปตั้งแต่กระบี่แรก!! เรื่องนี้มันย่อมรู้ดีแก่ใจ! ‘เป็นไปได้อย่างไรกัน! นี่มันพึ่งจะผ่านไปแค่ 3 ปีเท่านั้น ไฉนมันถึงได้ก้าวหน้าขึ้นมาจนร้ายกาจขนาดนี้ได้!? หรือมันไปพบพานวาสนาปาฏิหาริย์อันใดมา?!’ เซี่ยคังฉวินรู้สึกเหลือเชื่อ ทั้งไม่อาจทำใจเชื่อได้ลงคอ คนที่ไม่ต่างอะไรจากมดปลวกในสายตามันเมื่อวันวาน…วันนี้กลับมีพลังสามารถถึงขั้นฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย! วินาทีมันกระทั่งคิดไปว่าใช่ตัวเองกำลังฝันอยู่หรือไม่… ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! …… ขณะเดียวกันด้านผู้ฝึกตนอิสระโดยรอบ ตอนนี้ก็กลับมาแลเห็นเรื่องราวความเป็นไปอีกครั้ง สองตาทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะเบิกโพลง สูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ! ก่อนหน้านี้ทุกสิ่งมันอุบัติขึ้นด้วยความรวดเร็ว ในสายตาของพวกมัน แต่ต้นจนจบไม่ต่างใดจากฟ้าแลบ ยากจะตอบสนองเรื่องราวอันใดได้ทัน! จนกกระทั่งเซียคังฉวินที่หอบร่างไร้แขนทั้งสองข้างไปหยุดลอยห่างจากต้วนหลิงเทียน และมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาหวาดผวา พวกมันค่อยดึงสติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้สำเร็จ และตกใจกับการลงมือของต้วนหลิงเทียนนัก!! “สะ…สวรรค์! ผะ…ผู้ใดบอกข้าได้บ้าง…ว่านี่ข้าใช่ฝันไปหรือไม่…นี่มันจะไม่เกินจริงไปหน่อยหรือ!?” ผู้ฝึกตนอิสระคนหนึ่งกล่าวออกมาอย่างเลื่อนลอย “ข้าเองก็รู้สึกว่าเรื่องราวช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก…เซี่ยคังฉวิน จ้าวราชสีห์ขนทองแห่ลัทธิอารามทมิฬ ผู้มีพลังฝีมือรั้งอยู่ในอันดับที่ 18 ของรายนามยอดเซียน กลับถูกต้วนหลิงเทียนตัดแขนทั้ง 2 ข้างทิ้ง ก่อนที่มันจะทันได้ทำอะไรต้วนหลิงเทียน?” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าวออกด้วยน้ำเสียงแตกตื่น หันไปมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง สองตายังเบิกโพลงทำราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ ถึงกับมองจ้องต้วนหลิงเทียนอย่างโง่งมอยู่นาน “จะ…จ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาแห่งลัทธิอารามทมิฬ ถูกทำร้ายจนพิการสองแขน!?” “มารดามันเถอะ…ต่อให้เหลือเชื่อเพียงใด แต่เรื่องเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาข้าเช่นนี้…มารดามันต้องเชื่อแล้ว!!” “เหอะๆ โลกนี้พิลึกยิ่ง เมื่อครู่จ้าวราชสีห์ขนทองยังปะทุพลังลงมือดุร้ายเกรี้ยวกราดปานจ้าวราชสีห์อยู่เลย แต่ผ่านไปไม่ทันถึงลมหายใจดี บัดนี้กลับต้องมาหงอยเหงาซึมเซาราวสุนัขชราป่วยใกล้ตาย…” “ดูจากสีหน้าแล้วข้าว่ากระทั่งตัวจ้าวราชสีห์ขนทองเอง ก็ยังตกใจไม่หายด้วยซ้ำ…บางทีตอนนี้มันไม่พ้นกำลังสงสัยอยู่ว่าไฉนอดีตคนที่ไม่ต่างใดจากมดปลวก กลับบรรลุพลังฝีมือสูงส่งเหนือมันได้ในเวลาสั้นๆ…” “จ้าวราชสีห์ขนทองกำลังสงสัย? ข้านี่ล่ะกำลังสงสัยจับใจ!!” … ความแข็งแกร่งที่ต้วนหลิงเทียนปะทุออกมาในห้วงเวลาสั้นๆดั่งฟ้าแลบ ไม่เพียงแต่จะทำให้จ้าวราชสีห์ขนทองทั้งประหลาดใจทั้งหวาดผวา กระทั่งเหล่าผู้ฝึกตนอิสระโดยรอบยังขวัญกระเจิงหมดสิ้น ก่อนหน้าที่สองแขนของจ้าวราชสีห์ขนทองจะถูกสะบั้นขาดด้วนเสมอไหล่ แม้ทั้งหมดในที่นี้จะทราบว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนสมควรไม่เบา แต่ก็ไม่คิดเลยว่าที่แท้ยังสูงส่งเหนือล้ำกว่าจ้าวราชสีห์ขนทองไปไกลแบบนี้! ตอนแรกพวกมันทั้งหลายยังเห็นพ้องต้องกันไปแล้วด้วยซ้ำ ว่าวันนี้ต้วนหลิงเทียนไม่พ้นถูกจ้าวราชสีห์ขนทองทรมานจนตายแน่นอน! ทว่าความจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้า…เสมือนมือที่มองไม่เห็นมือหนึ่ง ฟาดตบลงบนหน้าพวกมันฉาดใหญ่! ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่จะไม่ถูกเซี่ยคังฉวินทรมานจนตาย แต่เซี่ยคังฉวินที่คิดลงมือกับต้วนหลิงเทียน เพียงโจนทะยานเข้าไปไม่ทันไรก็ถูกตัดแขนทั้ง 2 ข้างทิ้ง กลับกลายเป็นคนพิการไปเสียแล้ว! หลังจากที่ดึงสติกลับมาจากอาการตื่นตระหนกเสียขวัญได้สำเร็จ ในที่สุดเซี่ยคังฉวินก็ตระหนักได้แล้วว่าพลังความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนตอนนี้ น่าสะพรึงกลัวเพียงใด และตัวมันไม่อาจเทียบชั้นอีกฝ่ายได้เลย! ‘หนี!’ นี่เป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในของมัน! หนี! หนี! หนี! …… และเมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา มันก็ไม่อาจทนไหวสืบไป ซู่มมม!! ทันใดนั้นร่างเซี่ยคังฉวินก็ปะทุพลังชั่วชีวิต พุ่งทะยานออกไปอีกรอบ หากทว่าคราวนี้ไม่ได้กระโจนเข้าใส่ต้วนหลิงเทียน แต่เป็นทิศทางตรงกันข้ามกับที่ต้วนหลิงเทียนอยู่!! ปง! ปง! ปง! ปง! ปง! …… เสียงสนั่นปานฟ้าลั่นดังขึ้นไม่หยุด เป็นพลังเซียนต้นกำเนิดอันมหาศาลของเซี่ยคังฉวินทำให้ความว่างเปล่าสะท้านสะเทือน จนอากาศถึงกับแตกระเบิดออกมาอย่างไม่อาจทานทน! เรียกว่าตอนนี้เซี่ยคังฉวินได้ปะทุพลังชั่วชีวิต ระเบิดความเร็วสูงสุดออกมาแล้ว! มันต้องหนี!! ตอนนี้มันโยนเรื่องฆ่าคนล้างแค้นให้ลูกออกไปจากหัวจนหมดสิ้น มันหวังเพียงรอดชีวิตไปให้ได้แม้โอกาสจะริบหรี่ก็ตามที! “กระบี่นี้…เพื่อพิสูจน์ให้รู้ว่า….วาจาของข้าก่อนหน้าไม่ใช่เขื่องโขโอหัง!” และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เซี่ยคังฉวินหันหลังปะทุพลังหลบหนี เสียงต้วนหลิงเทียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อผู้ฝึกตนอิสระทั้งหลายโดยรอบได้ยินวาจาประโยคนี้ พวกมันรู้สึกเสมือนมีไอเย็นแล่นวาบสยิวกาย ขนแขนอดไม่ได้ที่จะลุกตั้งชูชัน! ฟั่ฟฟฟ!! เสียงกรีดทะลวงอากาศดังขึ้นสั้นๆอีกครา ยังดังขึ้นแทบจะทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ! และเซี่ยคังฉวินที่ได้ยินเสียงกระบี่แหวกอากาศจากด้านหลัง ร่างก็สะท้านไปดั่งนกหวาดเกาทัณฑ์ ความเร็วของมันถึงกับตกลงครู่หนึ่ง ก่อนที่มันจะกุลีกุจอปะทุพลังชั่วชีวิตเร่งความเร็วอีกครั้ง สึบ! ทว่าก่อนที่ความเร็วในการวูบร่างของเซี่ยคังฉวินจะถูกเร่งเร้าอะไร เสียงทะลวงผ่านเลือดเนื้อพลันดังขึ้น… ภายใต้สายตาของผู้ฝึกตนทุกคน ร่างเซี่ยคังฉวินที่อันตรธานหายไปหลังปะทุพลังหลบหนีพลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่เป็นร่างที่กำลังปลิวไปตามแรงเฉื่อยแถมมีสีแดงฉานทะลักออกจากท้ายทอยหว่างคิ้วมองไปให้ดีก็พบว่าที่แท้มันคือหลุมโลหิตหลุมหนึ่ง! หลุมโลหิตนั่นช่างน่ากลัวนัก นอกจากโลหิตแล้วยังมีมันสมองสีขาวทะลักออกมา…พาลให้เหล่าผู้ฝึกตนอิสระทั้งหลายเงียบไปปานคนตาย จนกระทั่งพวกมันได้เห็นต้วนหลิงเทียนสะบัดมือใช้พลังดูดรั้งแหวนพื้นที่จากแขนข้างหนึ่งของเซียคังฉวินที่ขาดกระเด็นร่วงไปก่อนหน้ามาเก็บไว้ ทั้งร่างของเซี่ยคังฉวินก็ร่วงตกกระแทกหลังคาอาคารหลังหนึ่งและแน่นิ่งไป พวกมันถึงจะรู้สึกตัว… หลังรู้สึกตัวแล้วทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองต้วนหลิงเทียนเป็นสายตาเดียวกัน ตอนนี้บรรยากาศช่างเงียบงันนัก ไร้แม้กระทั่งเสียงลมหายใจ… ลึกลงไปในแววตาที่ทั้งหลายใช้มองต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่จะตื่นตระหนกเท่านั้น ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวถึงที่สุด 2 กระบี่แรกทำร้ายเซี่ยคังฉวินจนพิการ ส่วนกระบี่ที่ 3 ดับชีวิตคนอย่างง่ายดาย… จังหวะนี้ทุกผู้คนอดไม่ได้ที่จะบังเกิดคำถามหนึ่งขึ้นมาในใจอย่างพร้อมเพรียงโดยไม่ได้นัดหมาย… คนที่ต้วนหลิงเทียนพึ่งฆ่าทิ้งไป ใช่เซี่ยคังฉวินจ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬ ยอดฝีมืออันดับที่ 18 ในรายนามยอดเซียนจริงๆหรือ? ต้วนหลิงเทียนที่สังเกตเห็นสายตาของผู้ฝึกตนอิสระโดยรอบไม่ได้แยแสนำพาอะไร ตอนนี้เขาพึ่งกลืนกินพรสวรค์รากวิญญาณของเวี่ยคังฉวินเสร็จสิ้น แน่นอนว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของเขาย่อมได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม…อย่างไรก็ตามแม้พรสวรรค์รากวิญญาณของเซี่ยคังฉวินจะเป็นสีคราม แต่ก็เสมือนเติมหนึ่งหยดน้ำลงถังเท่านั้น… เพราะตอนนี้พรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนก็คือ รากวิญญาณสีม่วง ซึ่งเป็นรากวิญญาณที่เหนือกว่าสีครามมาก! ‘ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่รากวิญญาณสีม่วงอ่อนของ้าจะกลายเป็นรากกวิญญาณสีม่วงปกติ…หากมันยกระดับพัฒนาไปสำเร็จ ความเร็วในการบ่มเพาะของข้าจะได้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นไปอีก!’ ‘ถึงตอนนั้นด้วยมีความช่วยเหลือจากชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ พลังบ่มเพาะของข้าสมควรก้าวหน้าขึ้นด้วยความเร็วสูงล้ำ…ดั่งหนึ่งวันก้าวหน้าพันลี้!’ ต้วนหลิงเทียนรู้สึกคึกคักขึ้นมาไม่น้อยเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ……
คอมเม้นต์