War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2095
ตอนที่ 2,095 : เห็นเจ้าแล้วมันขัดตา! ทันทีที่เห็นการลงมือของชายชุดดำคนนั้น ต้วนหลิงเทียนก็รู้ถึงพลังฝึกปรือมันทันที อ่อนแอกว่าผู้ฝึกเต๋าในตอนที่มีสภาพร่างกายสมบูรณ์! อนิจจาตอนนี้ผู้ฝึกเต๋าคนนั้นได้รับบาดเจ็บหนักนัก พลังฝีมือจึงตกลงกว่าตอนที่มีสภาพสมบูรณ์พร้อมกว่า 7 ส่วน สุดท้ายจึงถูกศรพรากชีวิตไปได้อย่างง่ายดาย หลังจากฆ่าผู้ฝึกเต๋าได้แล้ว ชายชุดดำก็ริบแหวนพื้นที่ของผู้ฝึกเต๋าทันที สำหรับแหวนพื้นที่ของผู้ฝึกตนก่อนหน้าที่ตายตกเพราะผู้ฝึกเต๋า มันก็ริบเอาไปด้วยเช่นกัน “พวกเจ้าล้วนแล้วแต่ตัวโง่งมทั้งคู่! สู้กันทำอันใด…สุดท้ายทั้งหมดล้วนตกเป็นของบิดา!!” หลังจากที่ฆ่าผู้ฝึกเต๋าได้แล้ว ชายชุดดำก็ไม่ได้เร่งรีบจากไปไหน เพียงแสยะยิ้มกล่าวดูแคลนทั้งด่าทอร่างไร้วิญญาณทั้ง 2 อย่างย่ามใจ ค่อยจากไปอย่างหยิ่งผยอง ตั้งแต่ต้นจนจบผู้คนที่ชอมดูเรื่องราวโดยรอบไม่มีใครกล่าวอะไรออกมาสักคำ “คนของอีกาทมิฬช่างไร้ยางอายเสียจริง…ตอนนี้ไม่ว่าที่ใดในนครแห่งบาปหากบังเกิดการต่อสู้ ไม่พ้นถูกคนของอีกาทมิฬเข้ามาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ดั่งเฒ่าประมงแทบทั้งสิ้น” “ผู้ฝึกเต๋าเมื่อครู่ก็นับว่าโชคร้ายนักที่ดันมาเจอคนของอีกาทมิฬเข้า…หาไม่แล้วคงไม่ต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่หรอก” “หากสภาพของมันสมบูรณ์ไหนเลยคนของอีกาทมิฬจะทำอะไรมันได้…น่าเสียดายที่คนของอีกาทมิฬนั่นมันฉวยโอกาสได้ดีนัก ลงมือฆ่าผู้อื่นตอนสิ้นเรี่ยวแรง!” หลังจากชายชุดดำจากไปสักพัก ผู้คนโดยรอบก็เริ่มสนทนาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หลายคนยังอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ‘คนของอีกาทมิฬ? กองกำลังของเจ้านั่นเรียกว่าอีกาทมิฬงั้นรึ’ ต้วนหลิงเทียนหยีตา จากบทสนทนาโดยรอบ เขาก็ได้ทราบถึงตัวตนของชายชุดดำผู้ลงมือเมื่อครู่ ว่าอีกฝ่ายเป็นคนของกองกำลังอีกาทมิฬในนครแห่งบาป และกองกำลังอีกาทมิฬนี้เห็นว่าชมชอบประพฤติตัวเป็นเฒ่าประมง!(เฒ่าประมงจาก นกกระสากับหอยกาบสู้กัน เฒ่าประมงได้ประโยชน์…) อนิจจาด้วยผู้ลงมือมีอีกาทมิฬหนุนหลังแบบนี้ แม้พวกมันจะมีพลังฝีมือสามารถจัดการได้แต่ก็ไม่มีใครคิดลงมือ เพราะอย่างไรนี่ก็เสมือน ดำกินดำ พวกมันเองก็ไม่ใช่ว่าจะมีพลังฝีมือกล้าแข็งเหนือกว่าขุมพลังเบื้องหลังอีกฝ่าย ‘แบบนี้นี่เอง…พวกอีกาทมิฬนั่นช่างน่ารังเกียจจริงๆ’ ต้วนหลิงเทียนไม่เคยคิดว่าตัวเขาดีเลิศหรือสูงส่งอะไร แต่การกระทำของอีกาทมิฬนับว่าทำให้เขาดูแคลนแล้วจริงๆ ทันใดนั้นเท้าย่ำออกก้าวหนึ่ง ร่างต้วนหลิงเทียนก็วูบหายไปในพริบตา มุ่งหน้าติดตามชายชุดดำเมื่อครู่ไปด้วยความเร็วสูง! ไม่มีใครสังเกตเห็นการจากไปของต้วนหลิงเทียน เพราะสุดท้ายแล้วที่เกิดเหตุก็มีผู้คนอยู่มากมายนัก แน่นอนว่าไม่มีใครคอยให้ความสนใจผู้อื่นอยู่แล้ว ‘ไอ้เจ้านี่มันเกิดมาเพื่อรอเก็บตกรึไง….’ ปรากฏกว่าต้วนหลิงเทียนพึ่งวูบร่างติดตามชายชุดดำมาได้ไม่นานเขาก็แลเห็นแผ่นหลังอีกฝ่ายแล้ว คนผู้นี้ไม่คล้ายรีบร้อนไปที่ใดแต่เหินร่างร่อนไปร่อนมาอย่างเรื่อยเปื่อยคล้ายจะหาเหยื่อแบบเมื่อครู่ ‘แต่ดูเหมือนวันนี้ฟ้าจะลิขิตให้ข้าเป็นพระเอก กำจัดคนพาลผดุงคุณธรรมแทนฟ้าซะแล้ว! สหายนักเลง…พรสวรรค์รากวิญญาณของข้าจะกลายเป็นสีครามหรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วนะ! หวังว่าเจ้าจะทำไม่ทำให้ข้าผิดหวังเล่า!!’ เมื่อคิดถึงจุดนี้ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดจะตามหลังชายชุดดำอีกต่อไป เขาเลือกจะเหินร่างลงตรอกแห่งหนึ่งที่แลดูเปลี่ยวๆไร้ผู้คนสัญจร เมื่อลองตรวจสอบไปรอบๆด้วยสำนึกเทวะและพบว่าไม่มีผู้ใดแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มลงมือทันที ‘เวรกรรมนอกกจากชุดสีม่วงแล้ว…ข้าก็มีแต่ชุดของลัทธิบูชาไฟ’ ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเขาก็พบว่าเสื้อผ้าของเขามีเพียงแค่ชุดสีม่วงตัวเก่งที่ลี่เฟยกับมารดาจัดไว้ให้ก่อนจะขึ้นมาภูมิภาคเบื้องบนเท่านั้น และเขาเองก็ไม่ได้ไปซื้อเพิ่มเติมอะไรที่ไหนเลย ทำให้นอกจากชุดสีม่วงเหล่านั้นก็คงเหลือแต่ชุดของศิษย์ลัทธิบูชาไฟเท่านั้น และชุดศิษย์ลัทธิบูชาไฟที่ว่า เขาก็มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 3 แบบ… หนึ่งนั้นคือชุดศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬแห่งลัทธิบูชาไฟ สองเป็นชุดของศิษย์ชั้นยอดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิบูชาไฟ สุดท้ายเป็นชุดศิษย์ที่แท้จริงในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิบูชาไฟ ส่วนชุดที่เขาใส่ตอนไปรับโทษที่เหมืองลำดับที่ 1นั้นเขาเคยมีเก็บไว้ก็จริง แต่ตอนที่ได้รับชุดใหม่มาวันแรกที่เข้าไปในเกาะหลัก เขาก็ทิ้งของเก่าไปใส่ของใหม่ ‘ใส่ตัวไหนดีนะ…เอาตัวนี้ล่ะยังไงก็เหมือนๆกัน’ ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจเปลี่ยนไปใส่ชุดสำหรับศิษย์ชั้นยอด นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เขาใส่มันอีกครั้งหลังจากกลายเป็นศิษย์ที่แท้จริง เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นปกติ เพราะหลังจากกลายเป็นศิษย์ที่แท้จริงแล้วเขาก็ต้องเปลี่ยนไปใส่ชุดใหม่… “เดี๋ยวนะ…จริงสิ! เปลี่ยนๆใส่ตัวนี้ดีกว่า!” ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนอยู่ๆก็บังเกิดความคิด‘สนุกสนาน’ ขึ้นมาประการหนึ่ง! รีบถอดเสื้อศิษย์ชั้นยอดที่ใส่ออกทันที ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใส่ชุดศิษย์ที่แท้จริงอย่างรวดเร็ว!! หลังจากที่เปลี่ยนไปส่วมใส่ชุดศิษย์ที่แท้จริงเสร็จแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็หยิบกระจกออกมาก่อนที่จะเริ่มปลอมแปลงรูปโฉมด้วยทักษะลับที่ผู้เฒ่าหั่วมอบให้ทันที หากมีศิษย์ของเกาะศักดิ์สิทธิ์สักคนมาเห็นหน้าตาต้วนหลิงเทียนตอนนี้ล่ะก็ พวกมันทั้งหมดคงไม่มีใครที่ไม่อาจจดจำใบหน้านี้ของต้วนหลิงเทียนได้อยู่แน่ๆ! กระทั่งยังต้องทำตาโตเพราะจดจำได้ทันทีตั้งแต่แรกเห็น!! เพราะใบหน้านี้ของเขาก็คือใบหน้าของปู้หง! ศิษย์ที่แท้จริงที่ตกไปอยู่ในอันดับ 3 ของทำเนียบยอดฝีมือ!! ปู้หงนั้นเคยเป็นอันดับที่ 2 ของทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริง แต่เมื่อมันแพ้ต้วนหลิงเทียน อันดับของมันก็ต้องร่วงตกลงไปอยู่ที่ 3 ส่วนต้วนหลิงเทียนก็ชิงที่ 2 มาแทนมัน ยังดีที่ตอนนี้ปู้หงไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนกำลังทำอะไรอยู่ หากมีใครบอกมันว่า ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่จะทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของมันไปแล้ว แต่ยังเปลี่ยนหน้าเป็นมันเพื่อไปก่อเรื่องใน ‘นครแห่งบาป’ อย่างสบายใจเฉิบ เกรงว่ามันคงได้กระอักเลือดตายเพราะความแค้นแน่! ‘จะว่าไปรูปร่างของปู้หงก็ไม่ได้ต่างอะไรจากข้ามากมายซะด้วย…ตอนนี้เกรงว่าต่อให้เป็นคนที่สนิทสนมกับปู้หงมาเห็นข้า คงไม่พ้นคิดว่าข้าเป็นมันล่ะมั้ง?’ คิดถึงจุดนี้ต้วนหลิงเทียนก็ยิ้มร่าด้วยความสนุกสนาน เก็บกระจกกลับไปในแหวนทันที ฟุ่บ! ในเมื่อปลอมแปลงรูปโฉมทั้งเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเรียบร้อยแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดอยู่ในตรอกเปลี่ยวๆแห่งนี้สืบไป ร่างเร่งรุดทะยานขึ้นฟ้าไล่ล่าหาตัวชายในชุดดำที่เป็นคนของอีกาทมิฬต่อ และไม่นานร่างชายในชุดดำอันเป็นคนของอีกาทมิฬก็ปรากฏอยู่ในสายตาต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง “เฮ่ย…ชุดนั่น ศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟมิใช่รึ?” เมื่อต้วนหลิงเทียนเหินร่างออกมาด้วยชุดนี้ ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย เพราะสุดท้ายแล้วผู้ฝึกตนในนครแห่งบาปก็ล้วนเป็นผู้ฝึกตนพเนจรทั้งสิ้น การที่อยู่ๆ คนของ 1 ใน 3 ลัทธิ อันเป็นมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของภูมิภาคเบื้องบนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอย่างลัทธิบูชาไฟมาปรากฏตัวขึ้นแบบนี้ เป็นธรรมดาที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก “ชุดที่มันใส่…เป็นชุดศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟไม่ผิดแน่” และในบรรดาผู้ฝึกตนพเนจรก็มีไม่น้อยที่สามารถจดจำชุดที่ต้วนหลิงเทียนใสอยู่ได้ทันที ว่ามันคือชุดของศิษย์ที่แท้จริง “แล้วนั่นมันกำลังไล่ตามผู้ใดอยู่กัน?” ไม่นานก็มีหลายคนที่สังเกตเห็นท่าทีรีบร้อนของต้วนหลิงเทียน “หึหึๆ…พวกเจ้ายังมิเห็นเหรอ…ดูเหมือนว่าศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟจะตามเจ้านั่นอยู่!” เมื่อพบว่าต้วนหลิงเทียนคล้ายจะกำลังติดตามชายชุดดำคนของอีกาทมิฬ เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรมากมายก็ตาลุกวาวเร่งเหินร่างติดตามไปชมดูเรื่องราวสนุกสนานทันที ฟุ่บ! เฟี้ยว! วูบ! ฟุ่บ! …… เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรมากมายหลายคนเร่งุรดเหินทะยานตามกันไปติดๆ ใบหน้าทุกคนเผยรอยยิ้มสนุกสนานนัก ด้วยอยู่ๆก็มีเสียงลมดังขึ้นเบื้องหลังมากมาย ต่อให้ชายชุดดำที่เป็นคนของอีกาทมิฬโง่งมเพียงใดก็ต้องสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ มันจึงหยุดร่างลงและหันกลับมาชมดูด้วยความสงสัยทันทีว่ามีเรื่องอะไรกันแน่… “ศิษย์ลัทธิบูชาไฟ!?” หันมามองปราดเดียวมันก็เห็นผู้คนมากมายที่ติดตามมา และเห็นคนหน้าสุดได้ชัดถนัดตานัก นั่นเพราะผู้ที่นำอยู่ด้านหน้ากลุ่มคนสวมใส่ชุดศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟ “ยังเป็นถึงศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟเลยหรือ!?” เมื่อเห็นลายปักเปลวไฟอันเป็นเอกลักษณ์บนชุดร่างอีกฝ่ายชัดๆ ลูกตาชายชุดดำคนของอีกาทมิฬอดไม่ได้ที่จะหดเล็กลง เพราะเท่าที่มันรู้ ศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟทุกคน ล้วนเป็นตัวตนที่มีพลังฝึกปรืออยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ขึ้นไปทั้งสิ้น! ไม่ใช่อะไรที่เซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญอย่างมันจะเทียบชั้นได้เลย!! ‘อะไรกัน!? ปะ..เป้าหมายของมันคือข้าหรือ…ทำไมเล่า?’ ในขณะที่คนของอีกาทมิฬกำลังประหลาดใจ ว่าไฉนคนของลัทธิบูชาไฟถึงดูเหมือนกำลังไล่ตามมันอยู่ มันก็พบว่ามีพลังกดดันไร้สภาพขุมหนึ่งเพ่งเล็งมาที่มัน! และมันยังสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟันจากอีกฝ่ายชัดเจน! มันทราบได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคิดฆ่ามัน! “สะ..สหายจากลัทธิบูชาไฟท่านนี้ ข้าคือเจียวถูแห่งอีกาทมิฬของนครแห่งบาป! พะ..พี่ชายคนรองของข้า เจียวจ้านยังเป็นรองผู้นำกองกำลังอีกาทมิฬ…มิทราบสหายมีเรื่องเข้าใจอันใดข้าผิดหรือไม่!?เพราะข้าจำได้ว่ามิเคยรู้จักสหายมาก่อน!?” เมื่อสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟันของอีกฝ่าย อีกทั้งอีกฝ่ายก็เหินร่างเข้ามาใกล้มันมากขึ้นเรื่อยๆ เจียวถูก็เร่งกล่าวถามออกมาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก “เจียวถู!?” “ที่แท้มันคือเจียวถู!” “เหอะๆ เจียวถูผู้นี้ฟังว่ามิใช่ตัวดีอันใด เรื่องดีมันไม่เคยกระทำ แต่เรื่องชั่วใดๆล้วนไม่มีที่ไม่เคยกระทำ!” “ให้ทำอย่างไรได้เล่า…เพราะมันมีพี่ชายที่เป็นรองผู้นำกองกำลังอีกาทมิฬให้ท้ายอยู่แบบนั้น จึงท่ำชั่วได้อย่างที่ไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด” … เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรที่ติดตามต้วนหลิงเทียนมาอยู่ด้านหลังเมื่อได้ยินเจียวถูประกาศนามออกมา ก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงออกมากันทันที บางคนอาจไม่เคยเห็นหน้าเจียวถู แต่ชื่อเจียวถูล้วนดังเข้าหูพวกมันหลายรอบ แน่นอนว่าชื่อเสียงของเจียวถู ล้วนไม่มีเรื่องดีอันใด! “อ้อ ข้าเองก็ไม่รู้จักเจ้าหรอก…” เมื่อเห็นเจียวถูที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลกล่าวคำด้วยสีหน้ากังวลใจ น้ำเสียงยังลุกลี้ลุกลนไม่น้อย ต้วนหลิงเทียนที่ยังคงเหินร่างเข้าไปอย่างไม่รีบไม่ร้อนก็กล่าวตอบคำกลับไปเสียงเรียบ และในขณะที่เจียวถูกำลังโล่งอกเพราะได้ยินวาจาประโยคนี้ของเขาอยู่นั้น ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวสืบต่อออกมา “แต่พอดี…ข้าไม่ค่อยชอบขี้หน้าของเจ้า เลยจะฆ่าเจ้าทิ้งแค่นั้น…” ทันทีที่คำนี้ของต้วนหลิงเทียนดังขึ้น สีหน้าเจียวถูก็แปรเปลี่ยนไปใหญ่หลวง ร่างมันยังสะท้านไปด้วยความตกใจ และทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้เหินร่างอย่างไม่รีบไม่ร้อนอีกต่อไป เขาโคจรใช้ออกด้วยพลังเซียนสุริยันเต็มกำลังโดยที่ไม่คิดจะใช้ปฐมเวทย์กลืนกิน ร่างพลันวูบไปหยุดอยู่เบื้องหน้าเจียวถูในพริบตา! แม้ความเร็วของต้วนหลิงเทียนตอนนี้กล่าวไปจะไม่ได้เหนือกว่าความเร็วสูงสุดของเจียวถูสักเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่เจียวถูไม่ได้หลบหนีเขาจึงบรรลุถึงเบื้องหน้ามันได้ง่ายดาย และสาเหตุที่เจียวถูไม่ได้หลบหนีก็เป็นเพราะจิตใต้สำนึกของมันบอกว่าไม่มีวันหนีรอดภายใต้สายตาของตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์อย่างศิษย์ที่แท้จริงลัทธิบูชาไฟผู้นี้ไปได้! จึงเป็นการดีเสียกว่าที่พยายามใช้วาจาประนีประนอมกับอีกฝ่าย ทำตัวต้อยต่ำให้มากเข้าไว้!! “สหายจากลัทธิบูชาไฟท่านนี้ อย่าได้ล้อข้าน้อยเล่นเลย” หากใจเข้าลึกๆคราหนึ่ง เจียวถูพยายามระงับอารมณ์ตื่นตระหนกทั้งหวาดกลัว ปั้นหน้ายิ้มแย้มออกมาอย่างฝืนๆ “หืม? เจ้าคิดว่าข้าล้อเล่นหรือ?” แววตาต้วนหลิงเทียนเย็นเยียบลงทันตา
คอมเม้นต์