War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2081

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2081 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่ 2,081 : วาระสุดท้ายของพ่อลูกตระกูลตงฟาง
 
ถึงแม้ตงฟางฉู่จะไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงอะไรมากนัก ที่ถูกตงฟางเฉียนถีบยันหน้าคว่ำ…
 
ทว่าตอนนี้ตงฟานเฉียนกลับงุนงงไม่น้อยกว่าไฉนอยู่ดีๆมันถึงถูกถีบ…
 
ยิ่งไม่ทราบว่าไฉนบิดาของมันต้องลงมือทำร้ายมันด้วย!
 
ทว่าวินาทีต่อมามันก็ต้องตกตะลึง
 
และแทบจะพร้อมๆกันกับที่มันตกตะลึง สีเลือดบนใบหน้าของมันก็คล้ายจะเหือดหายกลายเป็นซีดขาว
 
นั่นเพราะเบื้องหน้าปรากฏฉากที่มันไม่อาจลืมได้ชั่วชีวิต!
 
สวรรค์!
 
มันเห็นอะไรอยู่!?
 
ด้วยเสียงดังตึงหนักแน่น ร่างประมุขสกุลตงฟาง ตงฟางเฉียนก้าวเข้าไปทิ้งตัวลงคุกเข่าเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน! ภาพตอนชิวจื่อร่ำร้องขอชีวิตดั่งจะฉายวนซ้ำ!!
 
ประมุขที่ยิ่งใหญ่ของสกุลตงฟาง บัดนี้กำลังคุกเข่าราวกับข้ารับใช้แสนต่ำต้อยเบื้องหน้าเจ้านายที่เคารพ!
 
“ใต้เท้า…บุตรสุนัขของข้าโง่งมมิรู้ความ…ขอใต้เท้าผู้ยิ่งใหญ่อย่าได้ถือสา โปรดอภัยให้มันด้วยเถอะ!”
 
ตอนนี้ตงฟางเฉียนที่คุกเข่าเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน พลันกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเสียขวัญ
 
ราวกับเบื้องหน้าของมันไม่ใช่ผู้คน แต่เป็น ‘ความตาย’ ที่จะพรากชีวิตมันไปเมื่อไหร่ก็ได้…
 
“หากข้าเดาไม่ผิด…เมื่อครู่ลูกชายเจ้าคิดกล่าวว่า ที่เจ้าเสนอให้ตระกูลชิวส่งตัวข้าออกมา…นั่นเพราะจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”
 
ต้วนหลิงเทียนมองถามตงฟางเฉียนที่คุกเข้าเบื้องหน้าด้วยสายตาเฉยเมย น้ำเสียงยังคงสงบเรียบปกติ
 
ทว่าในความเรียบเฉยยังแฝงเร้นไปด้วยจิตฆ่าฟันขุมหนึ่ง
 
“ไม่…ไม่ใช่! ไม่ใช่เช่นนั้น!!”
 
ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ตงฟางเฉียนรู้สึกหวาดกลัวจนร่างสะท้านสั่นไปราวจับไข้ เร่งกล่าวคำปฏิเสธออกไปอย่างร้อนใจ
 
“ในเมื่อไม่ใช่…งั้นเจ้าก็กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ให้ข้าฟังเสีย ว่าตั้งแต่ต้นจนจบเจ้าไม่เคยคิดฆ่าข้าเลย…”
 
เห็นได้ชัดว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้เชื่อคำพูดกล่าวอ้างโง่งมของมันแม้แต่นิดเดียว ยังเลือกจะกล่าวสั่งมันออกมาด้วยน้ำเสียงเรียยเฉย
 
ได้ยินคำสั่งของต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงแต่สีหน้าตงฟางเฉียนจะเปลี่ยนไปมหันต์ กระทั่งคนของตระกูลตงฟางไม่เว้นตงฟางฉู่ก็หน้าเปลี่ยนสีด้วย!
 
จุดประสงค์การมาเยือนตระกูลชิววันนี้ ล้วนเพื่อให้ตระกูลชิวส่งมอบชายหนุ่มชุดม่วงตัวปัญหานั่นออกมา…แล้วฆ่าทิ้งเสีย!!
 
เช่นนั้นแล้วตงฟางเฉียนจะกล้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ได้อย่างไร?
 
เพราะหากมันกล่าวคำสาบานออกไป อัสนีฟ้าย่อมฟาดผ่าลงมาพิฆาตร่างมันให้ตายตกทันที!
 
“ประมุขตระกูลตงฟาง ตงฟางเฉียนจบสิ้นแล้ว…”
 
ห่างออกไปไม่ไกล อาวุโส 2 ของตระกูลชิวอย่างชิวจื่อที่ยืนอยู่ด้านหลังชิวมู่ชิง พลันกล่าวออกมาหลังชมเรื่องราวเบื้องหน้า และได้ยินคำสั่งดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน…
 
“ตะ…ใต้เท้า…โปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วย…เป็นข้าน้อยเลอะเลือนไปชั่ววูบ! เป็นข้าน้อยเลอะเลือนไปชั่ววูบเท่านั้น! ขอใต้เท้าได้โปรดเมตตาละเว้นด้วย!ได้โปรดเถิดใต้เท้าผู้ยิ่งใหญ่ ขอท่านละเว้นข้าน้อยสักครา!!”
 
เมื่อเห็นว่าแววตาของต้วนหลิงเทียนยิ่งมายิ่งเยียบเย็น ตงฟางเฉียนย่อมตระหนักได้ถึงวิกฤต มันเร่งโขกหัวพร้อมวิงวอนร้องขอชีวิตออกมาทันที
 
ปึก! ปึก! ปึก!
 
……
 
ตงฟางเฉียนก้มลงโขกหัวราวกับนกหัวขวานคิดเจาะต้นไม้ให้เป็นโพรง! ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดอยู่นาน!!
 
“หึ!”
 
ต้วนหลิงเทียนแค่นคำสบถออกมาเสียงเย็น ใบหน้ายิ่งมายิ่งกลายเป็นไร้อารมณ์ ไม่ได้เผยทีท่าว่าจะเมตตาปราณีตงฟางเฉียนแม้แต่นิดเดียว
 
“ข้าเป็นคนมีหลักการ…”
 
ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวออกเสียงเย็น “หากใครมันคิดฆ่าข้า ข้าก็ไม่คิดจะปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ร่วมโลกใบเดียวกันกับข้าอีกต่อไป…”
 
วาจาประโยคสั้นๆดังกล่าว กลับแผย ‘หลักการ’ของต้วนหลิงเทียนออกมาชัดเจน
 
ใครคิดฆ่าเขา เขาไม่มีวันปล่อยมันไป!
 
“เช่นนั้นเจ้าก็ไปตายเสีย!!”
 
ทันใดนั้นเอง เมื่อตระหนักได้ว่าต้วนหลิงเทียนไม่มีวันไว้ชีวิตมันแน่ ตงฟางเฉียน ก็ไม่คิดจะร้องขอความเมตตาสืบต่อให้เสียเวลา ร่างของมันทะลึ่งพรวดลุกขึ้นมากระโจนออกไปดั่งสายฟ้าฟาด ป้อนกระบวนท่าสังหารทันที!!
 
ซู่มมม!!
 
เสี้ยวพริบตาตงฟางเฉียนที่โขกหัวก่อนหน้าก็คล้ายกระสุนลูกหนึ่ง พุ่งจี้เข้าใส่ต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วสูง!!
 
จากพลังเซียนต้นกำเนิดที่ปะทุออกมาทั่วร่างอย่างกล้าแข็ง เห็นได้ชัดว่ามันโคจรพลังเซียนต้นกำเนิดสั่งสมรอไว้! เตรียมปะทุพลังสังหารออกมาแต่แรกแล้ว!!
 
หาไม่แล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะเร่งเร้าใช้ออกด้วยพลังเซียนต้นกำเนิดมหาศาลขนาดนี้ได้ในชั่วพริบตา!!
 
วู้มมม!!
 
แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ร่างตงฟางเฉียนทะลึ่งพรวดทะยานออกมาจากท่าคุกเข่า ราวมองเห็นภาพอนาคตก็ไม่ปานว่าจะเป็นเช่นนี้ วังวนพลังดูดรั้งพลันอุบัติขึ้นโดยมีต้วนหลิงเทียนเป็นจุดศูนย์กลางขึ้นทันที! มันสูบกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินในห้องโถงหลักตระกุลชิวจนเหือดหายอีกครา!!
 
หนุนเสริมเพิ่มพูนพลังเซียนสุริยันของต้วนหลิงเทียนให้พุ่งทะยานขึ้นไปถึงจุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว!!
 
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ร่างตงฟางเฉียนทะยานมาถึงเบื้องหน้าห่างจากต้วนหลิงเทียนไม่กี่ก้าว พลังเซียนสุริยันของต้วนหลิงเทียนก็เพิ่มพูนขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว…
 
“หากคิดให้ข้าตาย เกรงว่าพลังฝีมือของเจ้าต้องสูงกว่านี้…”
 
แม้จะสัมผัสได้ถึงสายลมแรงที่ตีปะทะเข้าใบหน้าได้ชัดเจน ทว่าต้วนหลิงเทียนยังคงกล่าวออกมาอย่างสงบใจเย็น แววตาสีหน้าไม่บังเกิดความเปลี่ยนแปลงสักกะผีก
 
และแทบจะพร้อมกันกับที่เขากล่าวจบคำ
 
ฟั่ฟฟฟ!!
 
เสียงหอนแหวกอากาศของกระบี่สะท้านใจพลันดังขึ้นอีกครั้ง
 
ครู่ต่อมาทุกคนก็เห็นว่าต้วนหลิงเทียนเพียงถีบเท้าเบาๆส่งร่างให้กระโดดลอยสูงขึ้นจากพื้นราว 3 หมี่
 
และแทบจะพร้อมๆกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกระโดดขึ้นไป
 
เสมือนเดินตามรอยเท้าของนายท่านรองตระกุลชิวอย่างชิวกังยี่ไม่มีผิดเพี้ยน…ประมุขตระกูลตงฟาง ตงฟางเฉียนที่ร่างถลันมาตามแรงเฉื่อย ไม่ทันลอดใต้ข้าต้วนหลิงเทียนไปพ้นดี…หัวตัวของมันก็แยกออกจากกัน! แต่นับว่าพิกลนัก เพราะศีรษะที่หมุนคว้างกลางหาว แววตาได้เปลี่ยนจากอำมหิตเป็นหวาดกลัว…คล้ายมันจะเห็นร่างไร้หัวที่ฉีดพุ่งโลหิตเป็นสายของตัวอย่างไรก็ไม่ทราบ!
 
ตึงงง! ตุบบ!!
 
เสียงร่างกับศรีษะกระแทกผนังอย่างแรงดังขึ้น ก่อนที่หัวตัวจะร่วงตกลงมาตามแรงโน้มถ่วง ศีรษะที่กลิ้นหลุนๆบนธารเลือด…สองตายังเบิกโพลงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
 
เมื่อได้ยินเสียงกระแทกผนังทั้งเห็นฉากนี้ ก็ชวนให้ร่างทุกผู้คนในห้องโถงหลักสั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง
 
นั่นหาใช่ยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุดอย่างชิวกังยี่ไม่…แต่ผู้ที่ถูกตัดหัวครานี้เป็นถึงผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยน ยังเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆของเมืองคงหมิง!
 
ทว่าตอนนี้ยอดฝีมือที่เพียงด้อยกว่าไม่กี่คนในเมืองคงหมิง กลับถูกชายหนุ่มชุดม่วงฆ่าทิ้งในเวลาชั่วพริบตา…ต่อหน้าต่อตาของพวกมัน!
 
จังหวะนี้เสมือนสรรพเสียงในห้องโถงหลักตระกูลชิวจะหายสาบสูญ
 
“ไม่ได้เรื่อง”
 
จนเมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวปรามาสออกมา ทุกคนค่อยดึงสติกลับเข้าตัวได้อีกครั้ง
 
“พ่อ…ท่านพ่อ!!”
 
หลังคุณชายรองตระกูลตงฟางดึงสติกลับมาอยู่กับร่องกับรอยได้ หน้ามันก็ซีดลงถนัดตา แววตายังฉายชัดออกถึงความหวาดกลัวอันไร้สิ้นสุด
 
มันไม่เคยคิดเคยฝันเลย
 
ว่าบิดาที่เป็นดั่งเทพสงครามไร้พ่ายในใจของมันจะถูกฆ่าตายง่ายดายเช่นนั้น!
 
ยังถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของผู้ฝึกตนพเนจร ที่เรียกตัวเองว่า ‘ลี่เฟิง’
 
ขณะเดียวกันในใจของมันก็บังเกิดความเสียใจสุดแสน…
 
เสียใจที่ไฉนมันต้องบังเกิดจิตคิดครอบครองชิวมู่ชิงด้วย เสียใจที่ไฉนมันถึงต้องกระทำแบบนั้นหลังถูกชิวมู่ชิงปฏิเสธ ไปตามตื๊อนางทำอะไร!!
 
หากมันไม่ตามตื๊อนาง วันนี้ไหนเลยจะไปที่เหลาอาหารกับนาง?
 
หากไม่ไปเหลาอาหารนั่น มันจะพบพานกับดาววิบัติดวงนี้หรือ?
 
หากไม่เจอดาววิบัติดวงนี้ ไหนเลยมันจะมีเรื่องบาดหมางกับดาบวิบัติดวงนี้ได้! สุดท้ายไหนเลยเรื่องราวบาดหมางจะลุกลามบานปลายจนร้ายแรงถึงขั้นนี้?!
 
‘หนี!!’
 
เหลือบมองไปยังศพของตงฟางเฉียนอีกรอบ สีหน้าตงฟางฉู่ที่ซีดเป็นกระดาษอยู่แล้วยิ่งซีดลงจนปากขาว มันพยายามปะทุพลังชั่วชีวิตพุ่งร่างไปปานเส้นสายอัสนี หมายออกไปให้พ้นห้องโถงหลักตระกูลชิว จากไปให้ไกล!
 
ตอนนี้มันไม่ขออะไรมากมาย เพียงไปให้พ้นจากห้องโถงผีสางที่มีดาววิบัติอยู่ก็พอ!!
 
ลี่เฟิงนั้นฆ่าบิดามันตาไม่กระพริบ ไร้ซึ่งความเมตตาปราณีอันใด!
 
เช่นนั้นมันก็ไม่คิดว่าลี่เฟิงจะใจอ่อนปล่อยมันไป!
 
ทว่ามันคิดหนี…แต่มันจะหนีได้จริงๆหรือ?
 
“คิดหนี?”
 
ทันทีที่ตงฟางฉู่ปะทุพลังเคลื่อนร่าง คิ้วต้วนหลิงเทียนโค้งขึ้นเบาๆ พลังเซียนสุริยันลุกโชนขึ้นมาครู่หนึ่ง ทว่าต่อมาก็ดับลง ไม่ได้เคลื่อนไหวลงมืออะไร
 
และสาเหตุที่ไม่เคลื่อนไหวอะไร นั่นเพราะมีคนลงมือแทนแล้ว
 
ฟู่มม!
 
เสียงแหวกฝ่าสายลมด้วยความเร็วสูงดังขึ้น ยังรวดเร็วเหนือกว่าตงฟางฉู่เสียอีก พริบตาร่างหนึ่งก็คว้าจับลำคอตงฟางฉู่เอาไว้ราวอินทรีย์คว้าจับลูกไก่
 
“อะ…อาวุโสหลัก ทะ…ทำไม? เพราะอะไร?”
 
ขณะเดียวกันตงฟางฉู่ที่ถูกจับไว้ก็พยายามดิ้นรนราวลูกเจี๊ยบขัดขืนอินทรีย์สุดแรง ทว่ามือที่กอบกุมลำคอมันเอาไว้ดั่งคีมเหล็ก จนเมื่อมันแลเห็นผู้ที่จับมันเอาไว้ มันก็หยุดดิ้นรน ยังกล่าวถามออกมาด้วยความเหลือเชื่อ
 
นั่นเพราะคนที่จับมันกลับมาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอาวุโสหลักตระกูลตงฟาง!
 
อาวุโสหลักตระกูลตงฟางผู้นี้ เป็นชายชราร่างสูงเกือบ 2 หมี่ ยามกอบกุมหิ้วร่างตงฟางฉู่เอาไว้ ยิ่งหนุนเสริมให้มองคล้ายอินทรีย์จับลูกไก่ไปกันใหญ่
 
“ใต้เท้าลี่เฟิง…”
 
อาวุโสหลักตระกูลตงฟางเพิกเฉยตงฟางฉู่ไม่แยแสอะไรทั้งไม่คิดจะตอบคำถามมันแม้แต่น้อย เพียงหิ้วร่างของมันมาก่อนจะหยุดลงเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน ค่อยกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงเคารพยำเกรง “ตงฟางฉู่ผู้นี้…มิทราบใต้เท้าจักให้ข้าจัดการมันเช่นไร?”
 
“จัดการมันอย่างไร?”
 
ต้วนหลิงเทียนมองอาวุโสหลักด้วยสายตาเยียบเย็นค่อยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไร้แยแสว่า “ข้าพึ่งกล่าวไปหยกๆ…หรือเจ้าไม่ได้ยิน?”
 
อาวุโสหลักที่ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียนถึงกับหน้าเปลี่ยนสีทันที ใจมันสะท้านไปด้วยความกลัว เร่งมองไปยังตงฟางฉู่อย่างไม่กล้ารอช้า
 
“ไม่! ไม่นะ!!”
 
เมื่อเห็นสายตาที่มองมาด้วยอำมหิตของอาวุโสหลัก ตงฟางฉู่คล้ายตระหนักได้ถึงบางสิ่ง พาลให้สีหน้าของมันแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง เร่งตะโกนร้องร่ำออกมาอย่างตื่นตระหนก “อาวุโสหลัก…ท่าน…ท่านฆ่าข้าไม่ได้! ท่านไม่อาจฆ่าข้า!!”
 
กร๊อบ!!
 
สุดท้ายอาวุโสหลักก็เลือกที่จะหักคอตงฟางฉู่ทันที ไม่ปล่อยให้มันพล่ามอะไรเสียงดังสืบไป…
 
รวบรัดหมดจด ไร้ปราณี!
 
เห็นฉากดังกล่าวคนของตระกูลชิวอดไม่ได้ที่จะใจสั่นร่างสะท้านขึ้นมา
 
ไม่คิดเลยว่าอาวุโสหลักของตระกูลตงฟางจะอำมหิตถึงเพียงนี้
 
“ใต้เท้าลี่เฟิงที่พวกข้ามาครั้งนี้เป็นเพราะถูกพ่อลูกอย่างตงฟางเฉียนและตงฟางฉู่ยุยงส่งเสริม พวกเราหาได้คิดสร้างปัญหาอันใดให้ใต้เท้าลี่เฟิงแม้แต่น้อย…ข้าเพียงหวังให้ใต้เท้าลี่เฟิงโปรดยกโทษให้พวกข้าด้วย”
 
หลังฆ่าตงฟางฉู่แล้ว อาวุโสหลักตระกูลตงฟางก็เร่งหันไปคุกเข่าลง ประสานมือไว้เบื้องหน้ากล่าวขอขมาลาโทษกับต้วนหลิงเทียนด้วยทีท่าเคารพ
 
“ใต้เท้าลี่เฟิง ข้าเองก็มิต่างใดจากอาวุโสหลัก พวกเรามิได้มีเจตนาจะล่วงเกินสร้างความหมองใจให้แก่ท่าน!”
 
ขณะเดียวกัน อาวุโส 2 ของตระกูลตงฟางก็เร่งก้าวเข้ามาพร้อมคุกเข่าลงประกาศจุดยืนของตัวเช่นกัน
 
ตึง! ตึง!
 
สำหรับอาวุโสทั่วไปทั้ง 2 ของตระกูลตงฟางนั้น ไร้ซึ่งความกล้าไปยืนเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน พวกมันเลือกที่จะหันหน้าไปทางต้วนหลิงเทียนและคุกเข่าลงพร้อมก้มหัวลงไปจรดพื้นร่ำร้องวิงวอนขอชีวิตออกมา “ขอใต้เท้าลี่เฟิงเมตตาละเว้นชีวิตผู้น้อยด้วย!ขอใต้เท้าลี่เฟิงเมตตาละเว้นชีวิตผู้น้อยด้วย!!”
 
ปรากฏเป็นภาพอันชวนฉงนใจนัก
 
ชายหนุ่มในชุดม่วงที่แลดูเยาว์วัยคล้ายพึ่งย่างเข้าเบญจเพสคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น…
 
ทว่าเบื้องกลับปรากฏร่างชายชราหัวขาว 2 คนคุกเข่าลงไปพร้อมประสานมือไว้เบื้องหน้าราวกับกำลังขอขมา
 
ส่วนห่างออกไปไม่ไกลเท่าไหร่ ปรากฏร่างชายชราอีก 2 คนที่ก้มกราบลงไปตัวสั่นระริก ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า…
 
‘ต้วนหลิงเทียน…ที่แท้เขาเป็นผู้ใดกันแน่?’
 
‘ภาพ’ เบื้องหน้าส่งผลให้ดวงตาคู่งามดั่งสารทฤดูของชิวมู่ชิงสั่นไหวไปปานระลอกน้ำ ประกายใส่สว่างในดวงตายิ่งมายิ่งลึกซึ้งอ่อนไหว พาลให้หน้างามยิ่งมายิ่งน่าเอ็นดูไปกันใหญ่
 
ขณะเดียวกันในใจของชิวมู่ชิงก็บังเกิดความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
 
‘ช้าก่อน…ต้วน…ต้วนหลิงเทียนหรือ? เขาคือต้วนหลิงเทียนคนนั้น?’
 
ทันใดนั้นสองตาชิวมู่ชิงพลันเบิกกว้างกลมโต คล้ายนึกอะไรออก หน้ายังเปลี่ยนสีไปเป็นตื่นตระหนก
 
‘ขะ…เขา…เขาคือ…อัจฉริยะท้าทายสวรรค์ของลัทธิบูชาไฟคนนั้นจริงๆ?!’
 
หลังตระหนักถึงพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน ชิวมู่ชิงก็นึกถึงคนๆหนึ่ง
 
อัจฉริยะท้าทายสวรรค์ ที่พึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือขึ้นมาของลัทธิบูชาไฟ!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด