War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2032
ตอนที่ 2,032 : หอคุมกฏ! หอคุมกฏนั้นตั้งอยู่ในหุบเขาทางตอนเหนือของเกาะหลักดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากสถานะที่พิเศษของมัน ทำให้มีคนแวะเวียนผ่านมาน้อยนิดนัก หอคุมกฏนั้นยังแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ส่วนหอหลัก ส่วนหอลงทัณฑ์ และส่วนหอคุมขัง ใน 3 ส่วนนั้นส่วนหอหลักเป็นดั่งส่วนกลางที่เป็นคอยประสานงานกับทุกฝ่ายก็ว่าได้ ทั้งมีสถานที่เก็บบันทึกสำนวนตัดสินคดี คำฟ้องและคำร้องเรียนต่างๆ รวมถึงเอกสารควบคุมของส่วนอื่นๆ ส่วนหอลงทัณฑ์ก็ตามชื่อของมัน มีไว้ลงทัณฑ์ผู้ที่กระทำความผิด! ไม่ว่าจะเป็นโทษทุบตีทรมาน ทำลายพลังฝึกปรือ กระทั่งโทษตายไม่ว่าจะประหารตัดคอ ทัณฑ์แยกร่าง สับแล่เนื้อ เพลิงผลาญ ก็จะเกิดขึ้นที่นี่ทั้งสิ้น อย่างเช่น เว่ยเหอ ศิษย์เอกของอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 หลี่อันที่ถูกตัดสินโทษประหารจากข้อหาหมิ่นเกียรติหอคุมกฏ โดยการฟ้องร้องอาวุโสกัวฉงว่าใช้อำนาจมิชอบเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ก็ถูกประหารตัดหัวที่นี่! นอกจากนั้นยังมีเครื่องมือทรมานแทบทุกชนิด เรียกว่าสามารถทำให้ผู้คนเจ็บปวดถึงขั้นร่ำร้องหาความตายได้ไม่ยาก ผู้ที่กระทำความผิดสถานหนักเรียกว่าได้รับทราบชัดเจนว่าคำ ‘อยู่ไม่สู้ตาย’ มันเป็นอย่างไร สำหรับหอคุมขัง นั้นก็เป็นดั่งเรือนจำ ซึ่งมีไว้คุมอาวุโสและเหล่าศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่กระทำความผิด นักโทษทุกคนที่มีความผิดร้ายแรง แต่เนื่องจากความผิดเป็นเรื่องที่จะยากตัดสินจำต้องให้จ้าวลัทธิเป็นคนตัดสิน ก็จะถูกคุมขังไว้ที่นี่เป็นการชั่วคราว… เค่อเอ๋อกับต้วนซือหลิงภรรยาและลูกสาวของต้วนหลิงเทียน กระทั่งก่านหรูเยี่ยนพี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อ ก็ถูกขังไว้ที่นี่ ณ หอหลัก ปรากฏร่างหนึ่งก้าวอาดๆเข้ามายังห้องโถง “อาวุโสต่งหลิน” อาวุโสมากมายหลายคนในหอหลักเมื่อเห็นว่าร่างผู้มาใหม่ที่เดินเข้ามาเป็นใคร ต่างก็เร่งกล่าวคำทักท้ายด้วยรอยยิ้ม ผู้ที่มาไม่ใชใครที่ไหน เป็นต่งหลิน ที่พึ่งกลับมาจากวังชินหั่วที่จัตุรัสกลางสดๆร้อนๆ ก่อนที่จะกลับมาถึงหอคุมกฏ มันก็ได้สอบถามเรื่องราวของต้วนหลิงเทียนจากคนของมันเรียบร้อย ในที่สุดก็ได้รับทราบเรื่องราวของต้วนหลิงเทียนมาพอสมควร และหลังได้รับฟังเรื่องราวของต้วนหลิงเทียน มันก็เร่งรุดมายังหอหลักเพื่อไปยังห้องเก็บบันทึกสำนวนตัดสินคดี เพื่อดูข้อมูลที่แน่ชัดของต้วนหลิงเทียนทันที ตอนนี้ข่าวเรื่องราวที่ต่งหลินเกิดเรื่องที่วังชินหั่วยังแพร่มาไม่ถึงหอคุมกฏ แน่นอนว่านี่ก็เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น อีกไม่นานเรื่องอับอายของต่งหลินก็ไม่พ้นต้องแพร่มาถึงหอคุมกฏแน่ ดังนั้นเหล่าอาวุโสในหอคุมกฏทั้งหลายที่ยังไม่ทราบข่าวก็ยังคงปฏิบัติกับต่งหลินเหมือนเป็นปกติ นอกจากนี้แม้ต่งหลินจะเป็นแค่อาวุโสระดับเพลิงทองแดง แต่ด้วยความที่บิดาของมันเป็นถึงชนชั้นรองจ้าวหอคุมกฏ ทำให้อากัปกิริยาของอาวุโสทั้งหลายแม้จะไม่ถึงขั้นประจบประแจง แต่ยังค่อนข้างสุภาพนัก ใครใช้ให้บิดาของต่งหลินเป็นหัวหน้าพวกมันเล่า! วูบ! อย่างไรก็ตามแม้จะได้รับคำทักทายของอาวุโสมากมาย ทว่าต่งหลินกลับไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะสนใจผู้ใด มันก้าวอาดๆผ่านทุกคนไปอย่างไม่แยแส มุ่งหน้าไปยังส่วนหนึ่งของหอหลักทันที “เกิดอันขึ้นกับอาวุโสต่งหลินกัน ไฉนแลดูรีบเร่งเช่นนั้น?” “นั่นสิ ปกติแม้จะไม่ได้เห็นหัวพวกเราสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ยังต้องหันมาพยักหน้าทักทายพวกเราบ้าง…ทว่าจากอาการของมันวันนี้ คล้ายมีใดผิดปกติ!” “หึ ยังจะมีอะไรได้ มันก็แค่ถือดีและเอาแต่ใจตัวเองเหมือนพวกนายน้อยรุ่นที่สองคนอื่นนั่นล่ะ” … ฟังจากวาจาของอาวุโสทั้งหลายในหอคุมกฏ คล้ายพวกมันจะไม่ค่อยมีความประทับใจอันดีกับต่งหลินสักเท่าไหร่ อันที่จริงแล้วก่อนหน้าที่พวกมันชักสีหน้าสุภาพทักทายต่งหลิน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำเพื่อไว้หน้าบิดาอีกฝ่ายทั้งสิ้น หาได้เคารพอะไรในตัวต่งหลินไม่ “เฮ่! ข่าวด่วน! พวกเจ้ายังต้องมิได้ยินเรื่องนี้แน่ อาวุโสต่งหลินของหอคุมกฏเรา…วันนี้ถึงกับต้องก้มหัวขอขมาศิษย์ที่แท้จริงคนหนึ่งกลางวังชินหั่ว!!” ทันใดนั้นปรากฏร่างอาวุโสในชุดคลุมอาวุโสเพลิงทองแดงคนหนึ่งเหินร่างเข้ามายังหอหลักด้วยหน้าชื่นตาบาน คล้ายพบพานเรื่องราวอันสนุกสนานมา อาวุโสเพลิงทองแดงผู้นี้ก็เป็นอาวุโสของหอคุมกฏเช่นกัน หลายคนก็รู้จักมักคุ้นมันดี “ว่าอะไร!?” “อาวุโสต่งหลินน่ะรึ ก้มหัวขอขมาศิษย์ที่แท้จริง?สหาย…เจ้าล้อข้าเล่นรึเปล่า?” “เหอะๆ จากนิสัยของอาวุโสต่งหลินมันไม่บีบคั้นให้ผู้อื่นก้มหัวขอขมามันก็ดีเท่าไหร่…แต่ให้มันไปก้มหัวขอขมาคนอื่น…กระทั่งยังก้มหัวขอขมาศิษย์ที่แท้จริงคนหนึ่งน่ะหรือ? เรื่องพรรค์นี้ให้ตายข้าก็ไม่เชื่อเจ้าหรอก!!” … อาวุโสคุมกฏในหอหลักที่ได้ฟังวาจาของอาวุโสคุมกฏเพลิงทองแดงผู้มาใหม่ ถึงกับส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้มค่อนแคะ แววตาฉายประกายรู้ทันราวกับจะบอกว่า ‘เจ้าหลอกข้าไม่ได้หรอก’ ทั้งหมดไม่เชื่อในคำพูดของมันแม้แต่น้อย “เพ้ย! พวกเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็แล้วไป…แต่อีกไม่นานผู้อื่นต้องกล่าวถึงเรื่องนี้กันหนาหู! คอยดูกันไปเถอะ!!” อาวุโสที่อุตส่าห์เร่งรุดมาแจ้งข่าวเชิดหน้าสะบัดด้วยความไม่พอใจ “สหายเอย…เจ้าจะน้อยใจทำอะไรเล่า พวกเราก็กล่าวไปเช่นนั้นเอง…มาๆ ไหนเล่าให้พวกเราฟังสักนิดเถอะ ที่แท้นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” ผ่านไปครู่หนึ่งอาวุโสหลายคนก็หันหน้ามองตากัน และเห็นว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะล้อเล่นเรื่องนี้ จึงรีบยิ้มกล่าวออกมาเสียงอ่อนราวง้อภรรยา “หึ…พวกเจ้าฟังให้ดีล่ะ! ข้าจะเล่าแค่รอบเดียวเท่านั้น เรื่องมันเป็นเช่นนี้…” หลังจากนั้นอาวุโสที่เร่งรุดมาหอคุมกฏ แน่นอนว่าย่อมคันปากอยากเล่าเป็นทุน ก็ไม่รอช้าเร่งสาธยายเรื่องราวออกมาน้ำไหลไฟดับ ใบจ้างงานที่วังชินหั่ว, ตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียน, ต่งหลิน, หอคุมกฏ เรื่องที่มันเล่าก็วนเวียนอยู่ในหัวข้อเหล่านี้ “อะไร? ต่งหลินถึงกับกล้าใช้อำนาจโดยมิชอบ กันท่าต้วนหลิงเทียนมิให้สมัครเข้าทำงานที่หอคุมกฏเราเลยหรือ? นี่มันไม่กลัวจ้าวหอคุมกฏอาละวาดใส่หรือไร?” “นั่นสิ เรื่องนี้ต่อให้บิดามันเป็นรองจ้าวหอก็ไม่อาจทำอะไรได้ ยามจ้าวหอมีโทสะยังมีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าท่านโมโหร้ายเพียงใด เคยไว้หน้าผู้อื่นที่ไหน!” “แต่มันนับว่าฉลาดไม่เบา…ชิงก้มหัวขอขมาไปก่อนเช่นนี้ ต่อให้จ้าวหอทราบเรื่องราวทีหลัง ก็ไม่คิดลงโทษมันสถานหนักสืบไป” “น่าเสียดายนักที่ข้ออ้างของมันถูกต้วนหลิงเทียนลบล้างได้ง่ายดาย…กล่าวหาว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนเป็นรากวิญญาณสีเหลืองหรือ? พอผลทดสอบออกมาเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงิน ยังต่างอะไรกับตบหน้ามันดังฉาดเล่า!” “ข้าก็ว่าแล้วเชียวว่าไฉนตอนมันเข้ามาถึงได้หน้าบูดเป็นตูดลิง…ที่แท้เพราะมันพึ่งขายขี้หน้าผู้คนจากวังชินหั่วมาหยกๆนี่เอง” … อาวุโสของหอคุมกฏหลังได้ฟังเรื่องราวจากอาวุโสเพลิงทองแดงก็ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น คราวนี้พวกมันก็ตระหนักได้แล้วว่าไฉนตอนต่งหลินมาไฉนใบหน้าถึงได้อัปลักษณ์ปั้นยากทั้งไม่สนใจผู้ใดเช่นนั้น “แต่ว่าก็ว่าเถอะ ข้าไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนผู้นั้นจะร้ายกาจขนาดนี้ ไม่เพียงแต่มีไหวพริบปฏิภาณสูงล้ำ กระทั่งพรสวรรค์รากวิญญาณยังเป็นสีน้ำเงิน…พลังฝีมือของมันสมควรติด 1 ใน 5 อันดับแรกของทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริงด้วยซ้ำ!เรียกมันว่า ‘อัจฉริยะท้าทายสวรรค์คนที่ 8’ นับว่าไม่เกินเลยจริงๆ” “จริง ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นความสามารถนับว่าเจนจัดรอบด้านนัก ไม่ธรรมดาจริงๆ!” “ใช่ ตั้งแต่ที่มันเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟมา แต่ละเรื่องที่มันกระทำล้วนสร้างความประหลาดใจให้ผู้คนทั้งสิ้น…เรื่องคราวนี้ยิ่งเป็นอะไรที่ถูกใจข้านัก นายน้อยรุ่นที่ 2 ของหอคุมกฏเรา…มิคาดกลับมีวันที่ถูกผู้อื่นตบหน้าเข้าให้บ้างเช่นนี้ด้วย!!” “ฟังจากที่เจ้าเล่ามา ต้วนหลิงเทียนคิดเข้าทำงานที่หอคุมกฏเราใช่หรือไม่? ในที่สุดข้าก็จะได้เห็นต้วนหลิงเทียนที่ร่ำลือตัวเป็นๆเสียที!!” “ใช่ ข้าเองก็อยากพบอัจฉริยะผู้นี้สักครั้งเช่นกัน” …… เหล่าอาวุโสของหอคุมกฏกล่าวออกมาด้วยสายตาคาดหวัง แต่ละคนล้วนอยากพบเจอต้วนหลิงเทียนไม่น้อย ดั่งคำกล่าว สิบปากว่ามิเท่าตาเห็น ทั้งหมดล้วนอยากรู้ว่าที่แท้ต้วนหลิงเทียนที่ร่ำลือนั้นเป็นคนเช่นไรกันแน่ ไฉนถึงกล้าก่อวีรกรรมในลัทธิบูชาไฟได้มากมาย อย่างที่ไม่กริ่งเกรงผู้ใด… หอคุมกฏ ลึกเข้าไปในหอหลัก ต่งหลินเมื่อเดินออกจากโถงหลัก มันงก็เดินตรงแด่วไปยังห้องเก็บบันทึกสำนวนคดีทันที เอกสารเหล่านี้นับว่ามีความสำคัญสำหรับหอคุมกฏอย่างยิ่งยวด ดังนั้นโดยปกติแล้วมักมีอาวุโสเพลิงเงินอยู่เวรเฝ้าระวังตลอดเวลา “อาวุโสต่งหลิน?” ภายในห้องเก็บบันทึกสำนวนคดี เมื่ออาวุโสเพลิงเงินอันเป็นชายวัยกลางคนแลเห็นต่งหลินเดินเข้ามา ก็อดแปลกใจไม่ได้ ขณะเดียวกันยังถามออกไปด้วยความส่งสัย “ท่าน…” “ข้าต้องการดูบันทึกสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการตายของเว่ยเหอ!” ต่งหลินเมื่อเข้ามาถึงก็กล่าวสั่งออกไปด้วยน้ำเสียงถือดี โดยลืมไปแล้วว่าอีกฝ่ายอย่างไรก็เป็นอาวุโสเพลิงเงินที่มีลำดับอาวุโสเหนือกว่ามัน และเป็นที่แน่นอนว่าอาวุโสเพลิงเงินดังกล่าวเมื่อได้ยินเสียงสั่งของต่งหลิน สีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมทันที ค่อยกล่าวตอบกลับไปเสียงเย็น “อาวุโสต่งหลินข้าจำไม่ได้แล้วว่าสำนวนบันทึกคดีที่ว่าเก็บไว้ที่ใด…ท่านอยากหาก็เชิญหาเอาเองเถอะ!” ถึงแม้บิดาต่งหลินจะเป็นรองจ้าวหอคุมกฏและยังเป็นผู้บังคับบัญชาของมันโดยตรง… แต่อย่างไรมันก็เป็นถึงอาวุโสเพลิงเงินคนหนึ่ง ย่อมมีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในเกียรติของตัวเอง!ไหนเลยจะยอมให้คนอย่างต่งหลินมาย่ำเหยียบเกียรติมันได้ง่ายๆ!! ถึงแม้เรื่องนี้อาจทำให้มันหมางใจกับรองจ้าวหอคุมกฏภายหลัง แต่มันก็ไม่คิดจะลดศักดิ์ศรีของตัวเองลงไปรับใช้ต่งหลิน!! “อาวุโสหลินทงต้องขออภัยด้วยเมื่อครู่ข้าเสียมารยาทไปแล้ว…พอดีข้ากำลังร้อนใจไม่น้อย จึงเผลอทำกิริยาเช่นนั้นไปอย่างไม่รู้ตัว ขออาวุโสหลินทงอย่าได้ถือสาข้าเลย” ได้ยินคำของหลินทงต่งหลินก็พลันตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายเป็นอาวุโสเพลิงเงินและดูท่าจะไม่พอใจคำพูดเมื่อครู่ของมัน ต่งหลินพลันชักสีหน้าขอขมาเร่งกล่าวคำขอโทษออกไปทันที ล้อกกันเล่นหรือไง! เอกสารในห้องบันทึกสำนวนคดีมีมากมายมหาศาลนัก! เรียกว่าในนี้รวมบันทึกสำนวนคดีตลอดประวัติศาสตร์ของลัทธิบูชาไฟเอาไว้ก็ว่าได้! หากให้มันค้นหาด้วยตัวเอง ต่อให้มันค้นหาติดต่อกัน 3 วัน 3 คืนโดยไม่พัก มันก็ไม่มีทางหาเจอ!! เพื่อที่จะได้เห็นสำนวนบันทึกคดีนั่นโดยเร็วที่สุด ต่งหลินยอมลดทิฐิโค้งหัวแล้วกล่าวขอขมาลาโทษออกไป แน่นอนว่าเป็นการเสแสร้งกระทำเพียงผิวเผินเท่านั้น ลึกลงไปในใจมันลอบก่นด่าอาวุโสหลินทงไม่น้อย เมื่อเห็นต่งหลินยินยอมโค้งหัวขอโทษ ทีท่าของหลินทงแลดูผ่อนคลายลงไม่น้อย ขณะเดียวกันมันก็เริ่มค้นหาบันทึกสำนวนคดีของเว่ยเหอ และส่งมอบให้ต่งหลินแต่โดยดี “อาวุโสหลินทงข้ายังคิดรบกวนท่านอีกเรื่อง ช่วยนำบันทึกการตัดสินคดีของต้วนหลิงเทียนตอนที่มันฆ่าหยวนหงกับยวนค่วงให้ข้าด้วยได้หรือไม่…ข้าอยากเห็นกับตา” ต่งหลินพยายามฝืนยิ้มกล่าวร้องขอหลินทงเสียงอ่อน และเห็นได้ชัดว่าหลินทงเองก็เป็นคนแข็งนอกอ่อนใน เมื่อเห็นต่งหลินขอร้องดีๆมันก็ไม่คิดสร้างความลำบากให้อีกฝ่ายแต่อย่างใด ไปค้นหาเอกสารให้ต่งหลินอย่างไม่อิดออด หลังจากนั้นต่งหลินก็เริ่มเปิดเอกสารอ่านรายละเอียด จากบันทึกคำตัดสินของต้วนหลิงเทียน เห็นได้ชัดว่าต้วนหลิงเทียนนั้นมีรากวิญญาณสีน้ำเงินจริงๆ จึงทำให้รอดพ้นโทษตายตอนสังหารหยวนค่วงมาได้! ทันใดนั้นหน้ามันก็ดำคล้ำลงทันใด ปรากฏว่าเรื่องพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนเป็นสีน้ำเงินมีบันทึกไว้ในหอคุมกฏแล้วจริงๆ!น่าเสียดายที่มันพึ่งกลับมาจากการเดินทางเมื่อไม่กี่วันก่อน จึงไม่ทันได้มาตรวจสอบอะไรแบบนี้!! ‘คราวนี้ทั้งหมดเป็นเพราะตัวโง่งมอย่างเฉินเผิงแท้ๆ ข้าหวังว่ายามท่านจ้าวหอทราบเรื่องนี้ จะเห็นแก่ที่ข้ายอมก้มหัวขอขมาตัวบัดซบต้วนหลิงเทียนไปแล้ว ไม่คิดเอาผิดอะไรข้าอีก…’ จังหวะนี้ต่งหลินได้แต่ลอบภาวนาอธิษฐานในใจถ่ายเดียว ต้วนหลิงเทียนเป็นธรรมดาที่จะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในหอคุมกฏ หลังออกจากวังชินหั่วแล้วเขาก็กลับไปยังบ้านพักของเขาทันที นั่นเพราะกำหนดการณ์ไปรายงานตัวเข้าทำงานของหอคุมกฏมันระบุวันเวลาเอาไว้ว่าเป็นพรุ่งนี้เช้า พอคิดว่าพรุ่งนี้เขาก็จะได้ไปยังหอคุมกฏแล้ว ใจต้วนหลิงเทียนก็บังเกิดความตื่นเต้นไม่น้อย ถึงขั้นที่แม้เขาจะวูบร่างไปอยู่บนชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติได้สักพัก แต่เขาก็ไม่อาจสงบใจบ่มเพาะพลังทั้งทำความเข้าใจเวทย์พลังรวมถึงเคล็ดความของยอดใจกระบี่เพิ่มอยู่นาน…!
คอมเม้นต์