War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2017
ตอนที่ 2,017 : ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย? ต้วนหลิงเทียนคิดจากไป แต่เวินเยี่ยนจะปล่อยให้เขาไปหรือ? คำตอบคือไม่! “คิดหนีงั้นหรือ!?” สองตาเวินเยี่ยนทอประกายเยียบเย็น ขณะเดียวกันกลิ่นอายยะเยือกพลันปะทุออกทั่วร่าง คนทะยานออกไปปานใต้ฝุ่นพัดกรรโชก พริบตาก็บรรลุถึงเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน หยุดขวางเอาไว้กลางหาว! ฉากนี้ช่างละม้ายคล้ายคลึงสำหรับคนที่อยู่ในวังชินหั่วก่อนหน้านี้นัก เพียงแต่ว่าคราวนี้ผู้ที่ขวางทางกับผู้ที่ถูกขวางทางกลับสลับกัน ตอนอยู่ในวังชินหั่วเป็นต้วนหลิงเทียนที่ปราดร่างออกมาขวางเวินเยี่ยน แต่ตอนนี้กลับเป็นเวินเยี่ยนที่พุ่งร่างมาขวางทางต้วนหลิงเทียน “คิดหนี?” ได้ยินเสียงเยียบเย็นของเวินเยี่ยน ต้วนหลิงเทียนแสยะยิ้มมองแคลนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงค่อนแคะ ได้ยินคำกล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนแคะทั้งสายตาดูแคลนที่ส่งมาของต้วนหลิงเทียน โทสะเวินเยี่ยนพุ่งปรี๊ดขึ้นมาอีกรอบ มวลพลังปะทุออกท่วมร่างดั่งเพลิงไฟ คิดลงมือซัดร่างต้วนหลิงเทียนให้ร่วงตกฟ้า! แต่ในขณะที่นางกำลังจะลงมือ ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวต่อออกมาว่า “ข้าแค่จะไปวิหารเป็นตาย…ถ้าหากเจ้ากล้าพอก็ตามข้าไปที่วิหารเป็นตายเพื่อลงนามในสัญญาประลองเป็นตายกับข้า! ข้าคิดว่า…ตอนนี้เจ้าคงอยากฆ่าข้ามากใช่หรือไม่?” “เช่นนั้นข้าก็จะให้โอกาสเจ้า…ได้บรรลุความปรารถนา!” วาจาที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกดั่งอัสนียามแล้งที่ฟาดลงอย่างไร้ซึ่งการตั้งเค้า สะท้านสะเทือนเวินเยี่ยนจนถึงแก่น! ต้วนหลิงเทียนท้าเวินเยี่ยนประลองเป็นตาย!? “วิหารเป็นตาย? ลงนามในสัญญาประลองเป็นตาย?” เสียงของต้วนหลิงเทียนไม่เบากระทั่งยังจัดว่าดัง!นอกจากศิษย์ชั้นยอดทั้งอาวุโสเพลิงทองแดงที่เร่งรุดติดตามออกมาจากวังชินหั่วแล้ว กระทั่งเหล่าศิษย์ในจัตุรัสกลางที่ไม่ทราบว่ามีเรื่องราวอะไรกันยังได้ยินชัดถนัดหู! “อะไร? ต้วนหลิงเทียนคิดไปวิหารเป็นตายอีกแล้วเหรอ?” “ให้ตายเถอะ! แล้วคราวนี้ต้วนหลิงเทียนคิดลงนามในสัญญาประลองเป็นตายกับใครกัน!?” …… เหล่าศิษย์ชั้นยอดบางคนที่ไม่รู้เรื่องราวมาก่อน ก็เพียงได้ยินแค่เรื่องต้วนหลิงเทียนคิดประลองเป็นตายเท่านั้น แต่ไม่ทราบว่าจะเข่นฆ่ากับใคร “หือ? คนที่ขวางอยู่ข้างหน้าต้วนหลิงเทียนมิใช่ศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนหรือไร!?” “เป็นศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนจริงๆด้วย! อย่าบอกข้านะว่านี่ต้วนหลิงเทียนคิดท้าศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนประลองเป็นตาย!!” …… จังหวะนี้เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่พึ่งสังเกตเห็นเวินเยี่ยน ก็กล่าวอุทานออกมาด้วยความตกใจ เวินเยี่ยนจะอย่างไรก็เป็น 1 ใน 2 ศิษย์ที่แท้จริงสตรีที่มีพลังฝีมือโดดเด่นในบรรดาศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟ พลังฝีมือรั้งอยู่ในอันดับ 9 ของทำเนียบยอดฝีมือ เป็นธรรมดาที่จะไม่มีศิษย์ชั้นยอดคนใดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่รู้จักนาง! พอเห็นต้วนหลิงเทียนกำลังเผชิญหน้ากับเวินเยี่ยนเช่นนี้ ทำให้เหล่าศิษย์ชั้นยอดในจัตุรัสกลางสับสนงุนงงกันไม่น้อย ไฉนทั้งคู่ถึงไปมีเรื่องมีราวกันได้? ทว่าไม่นานหลังจากนั้นเมื่อเหล่าศิษย์ชั้นยอดที่มาจากวังชินหั่วมาถึงพร้อมกับอาวุโสเพลิงทองแดงหลายคน เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่ไม่รู้เรื่องราวก็พลันได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที “ข้าเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนกับศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนสมควรมีความแค้นกันมาก่อนแน่นอน! หาไม่แล้วคงไม่ทำกับศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนถึงขนาดนี้หรอก!” “ตอนแรกข้ายังสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าไฉนแก้มข้างหนึ่งของศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนถึงได้บวมแดงเป็นรอยมือเช่นนั้น…ที่แท้ก็ถูกต้วนหลิงเทียนตบมานี่เอง…” “ต้วนหลิงเทียนผู้นี้จะไม่ร้ายกาจไปหน่อยหรือ กับหยางเหวินก็ทีนึงแล้ว นี่ยังคิดท้าประลองเป็นตายกับศิษย์พี่เวินเยี่ยนอีก…มันมั่นใจในตัวเองมากนักหรือ?” “ใช่เสแสร้งแสดงขู่ขวัญหรือไม่?” “เหอะๆ ครั้งสุดท้ายไม่ใช่เพราะหยางเหวินมันคิดว่าต้วนหลิงเทียนเสแสร้งแสดงลึกลับหรือไร…แล้วผลคืออะไรเล่า? มันตกตายคาสังเวียนเป็นตายไง! อีกทั้งพวกเรายังต้องกระเป๋าฉีกเสียคะแนนสะสมไปมากมาย!!” “งั้นฟังจากที่เจ้าว่า เจ้าเชื่อว่าที่ต้วนหลิงเทียนกล้าท้าประลองเป็นตายกับศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยน เพราะต้วนหลิงเทียนมีพลังฝีมือสูงพอจะฆ่าศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนงั้นหรือ?” … หลังจากได้รับทราบเรื่องราวความเป็นมาแล้ว เหล่าศิษย์ชั้นยอดก็เริ่มสนทนากันอย่างคึกคักอีกครั้ง ฟังจากวาจาของคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่ง เผยให้รู้ว่าพวกมันคิดว่าต้วนหลิงเทียนมีพลังฝีมือสูงพอจะฆ่าเวินเยี่ยนได้จริงๆ แต่คนส่วนใหญ่ยังคงเห็นว่าต้วนหลิงเทียนยังห่างไกลเกินกว่าจะเทียบชั้นเวินเยี่ยนได้ สำหรับพวกมันแล้ว… เวินเยี่ยนทรงพลังกล้าแข็งเหนือกว่าต้วนหลิงเทียนมาก เพราะพลังฝีมือของนางหยั่งรากลึงลงในหัวใจพวกมันมานานแล้ว “ข้าไม่รู้จริงๆว่าศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนจะกล้ารับคำท้าประลองเป็นตายของต้วนหลิงเทียนหรือไม่?” “น่าจะรับแหล่ะข้าว่า…อย่างไรต้วนหลิงเทียนก็หยามศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนให้ได้รับความอัปยศต่อหน้าผู้คนมากมาย ตอนนี้หากนางไม่กล้ารับ ต่อไปจะให้นางเอาหน้าไปไว้ที่ใด” “เหอะ! หากต้วนหลิงเทียนมันกล้าลงนามในสัญญาประลองเป็นตายกับศิษย์พี่เวินเยี่ยนจริงๆ วันนี้มันได้ตายแน่!” …… เหล่าศิษย์ชั้นยอดส่วนใหญ่ไม่มีใครดูดีข้างต้วนหลิงเทียนเลย ทว่าทันใดนั้นเองศิษย์ชั้นยอดที่เฝ้าจับตามองเวินเยี่ยนมาโดยตลอด พลันสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง เร่งกล่าวออกทันที “เฮ่ยสหาย…พวกเจ้าไม่เห็นนั่นหรือไง ศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนชักหน้าเครียดใหญ่แล้ว!” “ท่าทางนางกำลังคิดหนักทั้งระวังตัวไม่น้อย ดูท่าคงไม่คิดรับคำท้าประลองเป็นตายกับต้วนหลิงเทียนง่ายๆหรอก!” วาจาของศิษย์ชั้นยอดคนนี้ ทำให้สายตาของศิษย์ชั้นยอดทุกคนหันไปจับจ้องมองสีหน้าของเวินเยี่ยนเป็นสายตาเดียวกัน แน่นอนว่าหลังได้ยินเรื่องประลองเป็นตายจากต้วนหลิงเทียน สีหน้าเวินเยี่ยนย่อมเคร่งขรึมขึ้นมา นางยังนิ่งไปไม่ตอบอยู่นานสองนาน “ยะ…อย่าบอกข้านะว่าศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนเกิดกลัวต้วนหลิงเทียนมันขึ้นมาจริงๆ?” “ไม่จริงน่า…เรื่องแบบนั้นจะเป็นไปได้ยังไง! จะอย่างไรศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนก็เป็นถึงยอดฝีมืออันดับ 9 ในทำเนียบ! ไหนเลยจะไร้ความกล้าประลองเป็นตายกับศิษย์ที่แท้จริงหน้าใหม่อย่างต้วนหลิงเทียน?” “ข้าจะไปรู้หรือไร…หรือศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนคิดว่าการยอมรับคำท้าประลองเป็นตายกับต้วนหลิงเทียน เป็นการเสี่ยงโดยใช่เหตุหรือไม่?” … เหล่าศิษย์ชั้นยอดกล่าวออกด้วยความผิดหวัง บางคนก็ส่ายหัวไปมา และเป็นอย่างที่ศิษย์ชั้นยอดพวกนี้พูดจริงๆ ตอนนี้เวินเยี่ยนกำลังหวาดกลัว! ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวเรื่องวิหารเป็นตาย และท้าให้นางไปลงนามในสัญญาประลองเป็นตาย ทำให้นางอดคิดถึงหยางเหวินขึ้นมาเสียไม่ได้ ว่าอีกฝ่ายตกตายอย่างไรเมื่อเดือนที่แล้ว… นางย่อมรู้รายละเอียดของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น! จุดเริ่มต้นก็มาจากการที่ต้วนหลิงเทียนท้าหยางเหวินประลองเป็นตายเช่นนี้ ในตอนนั้นไม่เพียงแต่หยางเหวิน กระทั่งศิษย์ชั้นยอดคนอื่นๆในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างก็คิดว่าต้วนหลิงเทียนพลาดบ้าง วู่วามเกินไปบ้าง รนหาที่ตายบ้าง เพราะต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คู่มือของหยางเหวินเลย… ดังนั้นหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนกับหยางเหวินไปลงนามในสัญญาประลองเป็นตายที่วิหารเป็นตายจริงๆ ศิษย์ชั้นยอดเกือบทั้งหมดจึงทุ่มแทงเดิมพันข้างหยางเหวินกันใหญ่ เพราะพวกมันคิดว่าผู้รอดชีวิตลงจากสังเวียนย่อมเป็นหยางเหวินไม่ผิดแน่! อย่างไรก็ตาม ตอนจบเรื่องราวกลับไม่ได้เป็นอย่างที่พวกมันคิด! ต้วนหลิงเทียนฆ่าหยางเหวิน! ศิษย์ชั้นยอดกว่า 9 ส่วนไม่มีใครดูดีต้วนหลิงเทียนที่เป็น ‘ศิษย์ชั้นยอดหน้าใหม่’ สักคน ทว่าต้วนหลิงเทียนกลับฆ่าศิษย์ที่แท้จริงหยางเหวินลงได้! วันนี้ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง! เป็นต้วนหลิงเทียนที่เริ่มกล่าวท้าประลองเป็นตาย! อย่างไรก็ตามคราวนี้เป้าหมายย่อมไม่ใช่หยางเหวิน แต่เป็นนาง เวินเยี่ยน! แน่นอนว่าเวินเยี่ยนย่อมมีความมั่นใจในพลังฝีมือของตัวเอง แต่สำหรับนาง ต้วนหลิงเทียน คล้ายตัวแปรไม่ทราบค่า! เนื่องจากต้วนหลิงเทียนคนนี้ยังพึ่งเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟไม่ถึงปีด้วยซ้ำ กลับสร้างเรื่องราวจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั้งแท่นบูชาจตุรลักษณ์และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้แล้ว นางเองก็ไม่ทราบว่าตอนที่ต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่ากับหยางเหวินเมื่อเดือนที่แล้ว ต้วนหลิงเทียนใช่ยังเหลือไพ่ตายอะไรซุกซ่อนไว้อยู่อีกหรือไม่? ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่กล้าตอบรับคำท้าประลองเป็นตายของต้วนหลิงเทียนออกไปทันที ไม่ว่าใครก็กลัวตาย นางเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เพราะตายไปก็ไม่เหลืออะไรแล้ว! “ทำไม? เจ้าไม่กล้างั้นเหรอ?” เมื่อเห็นว่าเวินเยี่ยนชักหน้าเครียดไปไม่ตอบคำ ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าววาจาออกมาด้วยทีท่าน้ำเสียงหยามเหยียดทันที “ในเมื่อเจ้ากลัวนักก็ไสหัวไปให้พ้นทางข้า! สุนัขดีไม่ขวางทางผู้คน!!” ได้เห็นทั้งได้ยินเรื่องราวบนฟ้า เหล่าศิษย์ชั้นยอดอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมา “ไม่ทราบในใจศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนคิดอะไรอยู่กันแน่…นางกำลังจะเสียโอกาสดีๆในการชำระแค้นไปแล้ว” “บางทีเพราะการตายของหยางเหวิน ทำให้ในใจศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนใช่มีเงาอันใดหรือไม่? เรื่องนี้อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของนางไม่น้อย?” “ศิษย์ที่แท้จริง อันดับ 9 ในทำเนียบยอดฝีมือ…ช่างใช้การไม่ได้นัก! หากเปลี่ยนเป็นศิษย์พี่หญิงใหญ่ก่านหรูเยี่ยนที่อยู่ในอันดับ 7 ของทำเนียบยอดฝีมือ ต้วนหลิงเทียนไม่มีทางได้ใจถึงขนาดนี้หรอก!!” “นั่นมันก็แน่อยู่แล้ว! ศิษย์พี่หญิงใหญ่ก่านหรูเยี่ยนร้ายกาจกว่าศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนตั้งเท่าไหร่!!” … ในขณะที่ศิษย์ชั้นยอดกล่าวซุบซิบนินทา พวกมันยังอดไม่ได้ที่จะกล่าวถึงก่านหรูเยี่ยนพี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อที่มีอันดับ 7 ในทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริงออกมา “ก็เพราะแบบนี้อย่างไรเล่า ศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนถึงไม่อาจเทียบกับศิษย์พี่หญิงใหญ่ก่านหรูเยี่ยนได้เลย” “ลือกันว่า…ที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ก่านหรูเยี่ยนและน้องสาวฝาแฝดของนางถูกจับไปขังที่หอคุมกฏ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนทั้งสิ้น! เป็นนางที่มิอาจต่อกรกับศิษย์พี่หญิงใหญ่ได้ จึงต้องลอบกัดใช้หอคุมกฏเพื่อเขี่ยศิษย์พี่หญิงใหญ่ก่านหรูเยี่ยนออกไปให้พ้นทาง!!” “ข่าวลือนี้มันเชื่อถือได้หรือไม่?” “ข้าคิดว่าสมควรเชื่อถือได้” “หากเป็นเช่นนั้นจริง…ศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนจะต่ำช้าเกินไปแล้ว! ไม่อาจแข่งขันกับศิษย์พี่หญิงใหญ่ก่านหรูเยี่ยนได้ตรงๆ ก็จำต้องลอบกัดกันเช่นนี้หรือ? แพ้อย่างยุติธรรมยังมีศักดิ์ศรีมากกว่าชนะด้วยกลวิธีต่ำช้านัก!!” “ต่อให้ศิษย์พี่หญิงใหญ่ก่านหรูเยี่ยนจะถูกหอคุมกฏลงโทษอันใด แต่ศิษย์พี่หญิงใหญ่จักเป็นเทพธิดาในใจของข้าไปตลอดกาล! ให้ตายชาตินี้ศิษย์พี่เวินเยี่ยนก็ไม่อาจแทนที่นางในใจข้าได้!!” “ข้าด้วย!” … ทันทีที่มีศิษย์ชั้นยอดเปิดประเด็นเรื่องก่านหรูเยี่ยนขึ้นมา ความเห็นของทุกคนก็แทบจะเป็นเอกฉันท์ ต่างเข้าข้างก่านหรูเยี่ยนกันหมดสิ้น และคิดว่าการกระทำของเวินเยี่ยนมันต่ำช้าเกินไป ยังไร้ศักดิ์ศรีนัก! แม้ตอนนี้ศิษย์ชั้นยอดหลายคนจะยังเรียกเวินเยียนว่าศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยน แต่เพียงฟังดูก็รู้ว่าเรียกหาอย่างขอไปที ในใจไม่ได้มีความเคารพอะไรเลย!กลับกันยามเรียกหาก่านหรูเยี่ยนว่าศิษย์พี่หญิงใหญ่ แววตาท่าทางของพวกมันแฝงความเคารพไว้ถึงขีดสุด!! เรียกวาพริบตานี้เสมือนเวินเยี่ยนถูกผลักไสไปถึงสุดขอบเหว! เวินเยี่ยนซึ่งแต่เดิมก็อารมณ์ขุ่นมัวไม่คงที่อยู่แล้ว พอมาได้ยินเสียงซุบซิบนินทาต่อหน้าแบบนี้นางก็ปรี๊ดแตกทันที “หุบปากให้ข้าให้หมด!!” ทันใดนั้นเวินเยี่ยนพลันตะโกนเสียงแหลมเย็นเยียบ คลื่นพลังไร้สภาพขุมหนึ่งปะทุระเบิดออกจากร่างก่อเกิดเป็นแรงกดดันไร้สภาพหนักอึ้งปานขุนเขาซัดกระแทกลงไปยังเบื้องล่าง จนทำให้เหล่าศิษย์ชั้นยอดทั้งหลายถูกซัดจนเซกันถ้วนหน้า เงียบปากกันหมดทันที! อย่างไรก็ตามแม้เหล่าศิษย์ชั้นยอดเหล่านี้จะเงียบปากไม่พูด ทว่าแววตาที่ใช้มองเวินเยี่ยนก็เผยความดูแคลนรังเกียจออกชัด เงียบมองเช่นนี้ยังให้ผลดีกว่ากล่าวคำไม่รู้เท่าไหร่ “ฮึ!” เวินเยี่ยนย่อมรู้สึกอับอายขายหน้าทั้งขุ่นขึ้งใจไม่น้อยเมื่อเห็นสายตาชิงชังหยามหมิ่นที่มองมาของเหล่าศิษย์เบื้องล่าง แต่นางเลือกที่จะไม่สนใจแล้วหันไปมองต้วนหลิงเทียน พร้อมตะคอกคำออกมาเสียงเย็น “ต้วนหลิงเทียนข้าไม่คิดให้เจ้าตายสบายเกินไป! ข้าจะค่อยๆทรมานเจ้าช้าๆให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย!!” สิ้นคำกล่าวพลังเซียนต้นกำเนิดทั่วร่างของเวินเยี่ยนก็พุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง กลิ่นอายพลังกล้าแข็งน่าพรั่นพรึงเริ่มแผ่ซ่านกำจายไปในบรรยากาศ “หึ! แค่ยอมรับว่ากลัวเจ้ายังไม่กล้า? จะพูดเยอะหาข้ออ้างทำอะไร?” พอต้วนหลิงเทียนได้ยินคำตอบของเวินเยี่ยน ก็แค่นคำกล่าวออกด้วยความดูถูกทันที
คอมเม้นต์