War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1989
ตอนที่ 1,989 : กระบี่อยู่ที่ใจ แน่นอนว่าหยางเหวินไม่อาจฆ่าต้วนหลิงเทียนได้ในตอนนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ฆ่าต้วนหลิงเทียนในวันหน้า! เหตุผลที่วันนี้มันไม่ฆ่าต้วนหลิงเทียน ก็เพราะหวาดกลัวกฏของลัทธิบูชาไฟ แต่วันหน้า ตราบใดที่มันสบโอกาสเหมาะๆในการฆ่าต้วนหลิงเทียนล่ะก็ มันจะฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตาย! เอาเลือดอีกฝ่ายมาเซ่นสังเวยดวงวิญญาณน้องชายมันให้จงได้!! “นั่นศิษย์พี่หยางเหวินทำอันใดอยู่กัน?” “ดูเหมือน…กำลังรอให้ต้วนหลิงเทียนออกมารึเปล่า?” … ขณะเดียวกัน การกระทำดังกล่าวของหยางเหวิน ก็ดึงดูดความสนใจของเหล่าศิษย์ชั้นยอดไม่น้อย พวกมันตระหนักได้ว่า หยางเหวินสมควรมาหาศิษย์ใหม่อย่างต้วนหลิงเทียนโดยเฉพาะ! อย่างไรก็ตามพวกมันทั้งหมดเห็นได้ชัดตา ว่าหยางเหวินคงไม่ได้มาหาต้วนหลิงเทียนเพราะคิดจิบชาสนทนายามบ่ายอะไรทำนองนั้นแน่นอน จากทีท่าดุร้ายและความอาฆาตในแววตา พวกมันรู้ดีว่าหยางเหวินมาร้าย! “แล้วนี่ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งมา…จะไปมีเรื่องราวอันใดกับศิษย์พี่หยางเหวินได้กัน? ไฉนจิตมุ่งร้ายของศิษย์พี่หยางเหวินถึงรุนแรงนักเล่า?” “ข้าเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย…จะว่ามีเรื่องกันที่แท่นบูชาเต่าทมิฬก็ไม่ใช่ เพราะศิษย์พี่หยางเหวินออกจากแท่นบูชาเต่าทมิฬก่อนต้วนหลิงเทียนมาก็หลายปี หนึ่งอยู่แท่นบูชาเต่าทมิฬอีกหนึ่งอยู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์…ไม่น่าจะเคยเจอกันด้วยซ้ำ…” “นั่นสิ แล้วนี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” … หลังได้เห็นว่าเจตนาการมาของหยางเหวินสมควรไม่ใช่เรื่องดีอันใด เหล่าศิษย์ชั้นยอดหลายคนย่อมอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เพราะพวกมันไม่รู้ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่? “เฮ่ยๆๆ นี่พวกเจ้าไปอยู่ไหนกันมาหา? อย่าบอกข้านะว่านี่พวกเจ้าไม่รู้จริงๆว่าศิษย์พี่หยางเหวินมีเรื่องอันใดกับต้วนหลิงเทียน?” ทว่าทันใดนั้นเอง มีศิษย์ชั้นยอดคนหนึ่งโพล่งคำออกมาด้วยความประหลาดใจ ยังมองหน้าเหล่าศิษย์ที่ไม่รู้เรื่องราวด้วยแววตาทำราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ “อะไร? แล้วเจ้ารู้รึไงว่าทั้งคู่มีเรื่องอะไรกัน?” ทันใดนั้นสายตาของเหล่าศิษย์ชั้นยอดหลายคนก็หันไปตกกลงยังร่างของศิษย์ที่กล่าวทักออกมา “แล้วพวกเจ้าจำได้หรือไม่…ว่าตอนที่ต้วนหลิงเทียนมาถึงแท่นบูชาเต่าทมิฬวันแรก ต้วนหลิงเทียนได้เขม่นกับหลี่อัน อาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬ?” ศิษย์ชั้นยอดคนนี้ไม่กล่าวตอบ แต่เลือกจะเกริ่นถามดั่งโยนหินถามทาง “ย่อมจำได้!” และไม่ทันที่คำถามของศิษย์ชั้นยอดคนนั้นจะดังจบคำดี ศิษย์ที่ไม่รู้เรื่องราวก็กล่าวออกมาเสียงดัง พร้อมกล่าวสืบต่อ “ข้าจำได้ว่าวันนั้นต้วนหลิงเทียนเขม่นกับอาวุโสหลี่อัน เพราะต้วนหลิงเทียนฆ่าลูกชายของสหายสนิทอาวุโสหลี่อัน” ศิษย์ชั้นยอดที่ไม่รู้เรื่องคนอื่น พลันพยักหน้าเห็นด้วย พวกมันเองก็ได้ยินเรื่องนี้มาเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ในใจของพวกมันอดไม่ได้ที่จะชื่นชมต้วนหลิงเทียน เพราะน้อยคนนักที่จะหาญกล้าผิดใจกับอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงลัทธิบูชาไฟ! “ในเมื่อพวกเจ้าก็รู้เรื่องนี้ดี แล้วนี่พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า…ใครเป็นสหายสนิทของอาวุโสหลี่อัน?” ศิษย์ชั้นยอดคนก่อนหน้ากล่าวถามออกมาอีกครั้ง “ผู้ใดเล่า?” “บัดซบ ที่แท้น้ำเต้าเจ้าขายยาอันใดรีบกล่าว จักลีลาทำเพื่อ!?” “ใช่ น้ำเต้าเจ้าขายยาอันใดรีบกล่าว! หากยังไม่รีบบอกหรือคิดว่าพวกเราไม่กล้าเค้นความจากเจ้า?เลือกเอาเถอะเจ้าจักดื่มสุราคารวะหรือสุราจับกรอก!!” …… เมื่อเห็นว่าศิษย์ที่สมควรรู้ความกลับยึกๆยักๆคล้ายคิดโก่งราคายาในน้ำเต้า เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่ไม่รู้ความก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา เพราะอีกฝ่ายยั่วเก่งเหลือเกิน! ถึงแม้ศิษย์ชั้นยอดๆคนอื่นที่ไม่รู้ความไม่ได้กล่าวโวยวายอะไรออกมา แต่สายตาที่ใช้มองศิษย์ที่เหมือนจะรู้เรื่องคนนี้ก็คมกล้าขึ้นไม่น้อย ราวกับหากมีคนเปิดพวกมันจะตามไปยัดเยียดฝ่าเท้าประทับหน้าตัวยั่วนี่สักครา “ข้าจำได้แล้ว สหายสนิทของอาวุโสหลี่อันใช่เรียกว่าหยางชงหรือไม่?” ทว่าก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามบานปลาย พลันมีศิษย์ขั้นยอดคนหนึ่งโพล่งออกมาเพราะจดจำได้แล้ว “หยางชง? จริงด้วยข้าจำได้แล้ว เรียกว่าหยางชงนี่เอง!” “ใช่ๆ ดูเหมือนคนที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าไปวันนั้น เห็นว่าเป็นบุตรชายคนรองของหยางชง!” เมื่อมีศิษย์ชั้นยอดคนหนึ่งกล่าวชี้นำความจำ ทั้งหมดจึงเริ่มนึกออกทันที “หรือศิษย์พี่หยางเหวินจะมีความสัมพันธ์อันใดกับหยางชงสหายสนิทของอาวุโสหลี่อัน?” ขณะเดียวกันศิษย์ชั้นยอดหลายคนก็เริ่มสันนิษฐานไปในแนวทางดังกล่าว ศิษย์ชั้นยอดที่ไม่รู้เรื่องราวชัดเจนตอนนี้ก็ได้แต่มองจ้องไปยังศิษย์ชั้นยอดที่คล้ายจะแสร้งลี้ลับโก่งราคายาในน้ำเต้าไม่วางตา บ้างยังเริ่มยกมือขึ้นมาหักนิ้วดังกร๊อบแกร๊บ… ศิษย์ชั้นยอดที่รู้ความคล้ายสัมผัสได้ว่ามันเล่นมากเกินไป จนกลายเป็นยั่วอารมณ์ผู้อื่นให้หงุดหงิดขึ้นมาแล้ว ก็ไม่คิดจะเลยเถิดมากไปกว่านี้อีก รีบเปิดประตูเห็นภูผากล่าวออกทันที “ศิษย์พี่หยางเหวินเป็นลูกชายคนโตของหยางชงอาวุโสลำดับ 5 ของวังอุดรไพศาลคนนั้น…และหยางหวู่ที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าไป ก็เป็นน้องชายแท้ๆของศิษย์พี่หยางเหวิน” โอ! เมื่อวาจาเฉลยความของศิษย์ชั้นยอดคนนั้นดังจบคำ เสียงอุทานด้วยความตกใจพลันระงมขึ้นมาทันที จากนั้นทุกคนก็อึ้งไปพักใหญ่… “ศิษย์พี่หยางเหวิน…ที่แท้เป็นถึงบุตรชายคนโตของอาวุโส 5 แห่งวังอุดรไพศาลหยางชงผู้นั้นหรือนี่?” “มารดามันเถอะ! เรื่องนี้ข้าพเจ้าพึ่งรู้นะเนี่ย!” “ข้าเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยเหมือนกัน” …… พอเหล่าศิษย์ชั้นยอดได้รับทราบว่าที่แท้ศิษย์พี่หยางชงของพวกมันก็คือบุตรชายคนโตของอาวุโส 5แห่งวังอุดรไพศาล พวกมันก็แปลกใจไม่น้อย… เพราะก่อนหน้านี้พวกมันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าหยางเหวินจะเป็นบุตรชายคนโตของหยางชง! “ศิษย์พี่หยางเหวินช่างเก็บงำได้ดียิ่ง…ที่แท้ศิษย์พี่เป็นถึงบุตรชายคนโตของอาวุโส 5 แห่งวังอุดรไพศาลเชียวหรือ!” “ในอดีตข้าเองก็ได้ยินมาว่าศิษย์พี่หยางเหวินนั้นมีความภาคภูมิใจในตัวเองสูงจนเรียกว่าหยิ่งถึงที่สุด…ตอนนี้ข้าเชื่อแล้วว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะกระทั่งฐานะตัวเองก็ไม่เปิดเผย แต่เลือกจะใช้ฝีมือตัวเองสร้างชื่อ! นับว่าหยิ่งจนไม่คิดพึ่งบารมีบิดา!!” … เหล่าศิษย์ชั้นยอดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์บังเกิดความรู้สึกชื่นชมหยางเหวินไม่น้อย ที่ไม่คิดพึ่งพาอำนาจของบิดา แต่ใช้พลังฝีมือส่วนตัวแผ้วทางสร้างชื่อตัวเองขึ้นมา “หากเป็นแบบนี้เรื่องที่ไฉนศิษย์พี่หยางเหวินมาหาต้วนหลิงเทียนด้วยเจตนาไม่ดีก็อธิบายได้ง่ายดายนัก…ต้วนหลิงเทียนฆ่าน้องชายไปทั้งคน ยังจะให้มาดีได้อย่างไรไหว!” “นั่นสิ แม้ลัทธิบูชาไฟเรามีกฏเข้มงวดห้ามฆ่าหรือทำให้พิการ จนทำให้ศิษย์พี่หยางเหวินไม่อาจฆ่าต้วนหลิงเทียนได้…แต่เรื่องทรมานต้วนหลิงเทียน ไหนเลยศิษย์พี่หยางเหวินจะไม่กระทำ! จะอย่างไรก็ไม่ถือว่าขัดต่อกฏอันใด และเหมือนทุบตีกันในฐานะศิษย์คนหนึ่ง!” “นี่ไม่ใช่ต้องกล่าวว่า…ต้วนหลิงเทียนถึงคราวซวยแล้วรึ?” “ไม่ถึงคราวซวยธรรมดา แต่ข้าว่าถึงขั้นดวงกุดเลยมากกว่า! ถึงแม้จากคำร่ำลือพลังฝีมือของมันจะไม่ใช่ชั่ว กระทั่งหาผู้ที่อยู่ใต้ขอบเขตเซียนสวรรค์เทียบติดยาก…แต่กับศิษย์พี่หยางเหวินที่บรรลุเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนแล้ว ยังมีความต่างของพลังฝีมือมากโข!” “เหอะๆ…ไม่มากโขธรรมดาๆด้วย ความต่างระหว่างครึ่งก้าวเซียนสวรรค์กับเซียยนสวรรค์ 1เปลี่ยน ให้ใช้คำว่าห่างกันพันลี้ยังไม่เกินเลย! พลังฝีมือต้วนหลิงเทียนสมควรไม่นับเป็นอะไรต่อหน้าศิษย์พี่หยางเหวิน!” “คราวนี้ข้าว่าต้วนหลิงเทียนเจ็บหนักแน่ ต่อให้ไม่ตายหรือพิการ แต่ต้องมีถลกหนังไม่ก็นอนซมเป็นผักแรมปีกันบ้าง” … หลังจากได้รับทราบอัตลักษณ์ของหยางเหวินแล้ว ศิษย์ชั้นยอดในที่นี้ทั้งหมดก็ไม่แปลกใจเลยว่าไฉนหยางเหวินถึงได้แลดูมีเจตนาร้ายต่อต้วนหลิงเทียนเช่นนั้น ความแค้นฆ่าน้องชายไหนเลยจะไร้น้ำหนัก!พวกมันยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารต้วนหลิงเทียนขึ้นมา!! ถึงแม้พวกมันจะเคยได้ยินมาจากข่าวลือว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนนั้นเทียบได้กับ ครึ่งก้าวเซียนสวรรค์ อย่างไรก็ตามครึ่งก้าวเซียนสวรรค์ก็ไม่ใช่เซียนสวรรค์ ยังมีความต่างอยู่หลายขุมหากจะเทียบกับขอบเขตเซียนสวรรค์ที่แท้จริง! ดังนั้นแล้ว ในสายตาของพวกมัน ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คู่มือของหยางเหวินแม้แต่น้อย เนื่องจากค่ายกลปิดกั้นเสียงรบกวนของบ้านลานนั้นทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ศิษย์ชั้นยอดด้านนอกจะฮือฮาเสียงดังกันเพียงใด แต่ต้วนหลิงเทียนที่อยู่ภายในชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติที่ตั้งในห้องบ่มเพาะอีกที ก็ไม่แม้แต่จะได้ยินอะไรสักนิด ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนยืนนิ่งหลังตรงอยู่บนชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ มองไปคนคล้ายหอกเล่มหนึ่ง! ต้วนหลิงเทียนยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวปานรูปปั้น ไม่ทราบกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ เวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน หนึ่งวันผ่านไป สองวันผ่านไป … จนกระทั่งผ่านพ้นไปเดือนหนึ่งเต็มๆ ต้วนหลิงเทียนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ค่อยบังเกิดความเคลื่อนไหว มือขวายกขึ้นเบาๆ ก่อนจะปรากฏกระบี่ 3 ฉื่อที่แลดูธรรมดาหนึ่งวูบโผล่จากความว่างเข้ามือ มันคือกระบี่นิลสวรรค์! แว่บแรกที่ปรากฏ กระบี่นิลสวรรค์ก็ไม่ต่างอะไรจากกระบี่ธรรมดาๆเล่มหนึ่ง วู้ม! อย่างไรก็ตามเมื่อมันถูกกระชับถืออยู่ในมือของต้วนหลิงเทียน และกวัดแกว่งไปมา มันก็คล้ายจะแผ่กลิ่นอายคมกล้าที่ปานจะสะบั้นได้กระทั่งสวรรค์และโลก! ปราณกระบี่โปร่งใสที่ฉาบเคลือบตัวกระบี่นิลสวรรค์ เผยแรงกดดันอันมหาศาลขุมหนึ่งออกมากดดันในบรรยากาศ “กระบี่สัมพันธ์ใจ…เงากระบี่สัมพันธ์ใจ…กระบี่อยู่ที่ใจ…กระบี่ใจกระจ่าง…ใจกระบี่หนึ่งเดียว…” ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ หากแต่ปากของต้วนหลิงเทียนค่อยๆกล่าวพึมพำอะไรบางอย่างออกมา เป็นขอบเขตทั้ง 5 ของยอดใจกระบี่! ปากของเขายังคงกล่าวพึมพำขอบเขตทั้ง 5 ของยอดใจกระบี่ออกมาวนซ้ำไม่หยุดหย่อน คล้ายไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เนิ่นนานผ่านไปยังไม่หยุด วันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งเดือนผ่านไป หลังต้วนหลิงเทียนกวัดแกว่งกระบี่ไม่กี่ครั้งเมื่อเดือนที่แล้วก่อนจะหยุดไป ในที่สุดกระบี่ในมือของเขาก็เริ่มแกว่งไกวอีกครั้ง หนึ่งเดือนที่แล้วตอนหยิบกระบี่ออกมากวัดแกว่ง เขาฟันฟาดมันตามแนวนอนไม่กี่ครั้ง ฟั่บ! ฟั่บ! คราวนี้กระบี่นิลสวรรค์ในมือ ถูกตวัดวาดฟาดผ่าในแนวตั้งอยู่ไม่กี่ครั้งค่อยหยุดไป หลังจากนั้นวันเวลาก็ได้ผ่านพ้นไปอีก 1 เดือน ทว่าคราวนี้ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง กระบี่นิลสวรรค์ยังคงกระชับถืออยู่ในมือ มองไปคล้ายรูปปั้นถือกระบี่รูปหนึ่ง “ช่างเป็นพลังกระบี่อันร้ายกาจนัก!” ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใดแต่ตอนนี้ร่างผู้เฒ่าหั่วพลันปรากฏขึ้นในชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลงอย่างเงียบงัน จับจ้องมองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนที่ยืนตรงกลางอากาศ และอยู่ดีๆลูกตาของผู้เฒ่าหั่วก็หดเล็กลง! ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะยืนถือกระบี่อย่างเงียบงันไม่เคลื่อนไหว ทว่าผู้เฒ่าหั่วย่อมมองเห็นได้อย่างชัดเจน ถึงกลิ่นอายพลังกระบี่ที่แผ่พุ่งออกมา! ไอพลังเผยอานุภาพสะท้านสะเทือนความว่างเปล่า ราวกับจะมีพลังอำนาจกรีดสะบั้นได้ทุกสรรพสิ่ง!! หากมองให้ละเอียดยังพบอีกว่า รอบตัวของต้วนหลิงเทียนยามนี้ อากาศที่วนเวียนไหลผ่านคล้ายจะถูกพลังไร้สภาพขุมหนึ่งปัดป้อง พวกมันไม่อาจแตะต้องถูกตัวต้วนหลิงเทียนได้เลย ถูกซัดกระเด็นออกมาตลอดเวลา “สมควรใกล้บรรลุแล้ว! หวังว่าคราวนี้เจ้าหนูจักทำได้สำเร็จ หากบรรลุขอบเขตต่อมาของยอดใจกระบี่นั่นได้ พลังอำนาจของมันสมควรเหนือกว่าวรยุทธ์เซียนจู่โจมใดๆในระนาบโลกียะแห่งนี้…ไม่สิ กระทั่งสมควรเหนือกว่าแม้จะเป็นระนาบโลกียะใดๆ!!” ผู้เฒ่าหั่วกล่าวพึมพำด้วยความตกใจจบคำ ก็เพียงมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาลึกล้ำอีกครั้ง ก่อนที่ร่างจะเลือนหายไปจากชั้น 4 ของเจย์หลิงหลง 7สมบัติอย่างเงียบงัน ราวกับไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน หลังจากผู้เฒ่าหั่วจากไป อากาศรอบกายของต้วนหลิงเทียนก็ยังเหมือนถูกพลังไร้สภาพซัดกระเด็นออกมาไม่หยุด หลังผ่านไปอีก 10 วัน คราวนี้มวลอากาศโดยรอบไม่คล้ายถูกซัดอีกต่อไป พวกมันปริแตกแยกฉีก ราวกับมีพลังไร้สภาพคมกริบขุมหนึ่งฟันผ่า! “กระบี่อยู่ที่ใจ…เข้าใจแล้ว! ข้าเข้าใจแล้ว!!” ทันใดนั้นสองตาของต้วนหลิงเทียนพลันเบิกโพลง ประกายระยับดั่งดาราในราตรีอันมืดมิดเปล่งประกายฉายออก แววตาช่างกระจ่างใสนัก ขณะเดียวกันมวลอากาศรอบตัวของต้วนหลิงเทียนก็เริ่มรวมตัวหวนคืนสู่สภาพเดิม ไม่ถูกพลังอะไรฟันฉีกอีกต่อไป ครู่ต่อมา ร่างต้วนหลิงเทียนก็เริ่มเคลื่อนไหว ต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆคลายการกระชับกระบี่นิลสวรรค์ในมือ และทันใดนั้นเองกระบี่นิลสวรรค์ก็คล้ายแปรเปลี่ยนเป็นเส้นแสง วูบวาบฟันฟาดกรีดอากาศเสียงหวิว! ความเร็วของกระบี่เพิ่มพูนสูงขึ้นเรื่อยๆไม่หยุดยั้ง สุดท้ายมันก็อันตรธานหายไปราวกับผสานหลอมรวมไปกับอากาศธาตุโดยรอบ!! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ! … หลังกระบี่นิลสวรรค์อันตรธานหายไป เสียงแหวกฝ่าอากาศฉับไวของกระบี่พลันดังระงมขึ้นก้องชั้น 4ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติไม่หยุด! เสียงกระบี่กรีดฝ่าอากาศดังขึ้นอยู่ราวๆเค่อหนึ่ง ในที่สุดค่อยหยุดลง! และแทบจะพร้อมเพรียงกับเสียงกระบี่แหวกอากาศหายไป กระบี่นิลสวรรค์ที่อันตรธานหายไปก่อนหน้า ก็ปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่าอีกครั้งปานภูตผี!!
คอมเม้นต์