War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1915

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1915 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่ 1,915 : สำเร็จ!
 
ถึงแม้ผู้เฒ่าหั่วจะรู้จักทรัพยากรวิญญาณมากมายที่สามารถยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของเขาได้ อีกทั้งยังถ่ายทอดข้อมูลให้จนเขาเข้าใจและรู้ลักษณะของพวกมันดี สามารถนำข้อมูลไปใช้ค้นหามันได้…
 
อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนตระหนักได้แทบจะทันที…
 
ว่าทรัพยากรทั้งหลายนั้นลำพังได้ยินยังไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ! แล้วนับประสาอะไรกับหาพวกมัน!!
 
เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ทันที ว่าการค้นหาทรัพยากรวิญญาณอะไรพวกนั้นเป็นดั่งความฝันลมแล้งๆของเขาในตอนนี้…
 
หากมีวิธีอื่นในการยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณ เขาก็ต้องคิดทบทวนเรื่องหาทรัพยากรใหม่อีกครั้ง…
 
ทว่าตอนนี้ กลับมีหนทางลัดเผยให้เห็นอยู่ตรงหน้า!
 
เป็นเวทย์พลังปฐมเวทย์กลืนกินของเขาเอง! ใช้มันกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของผู้อื่นแล้วมาเสริมสร้างพรสวรรค์รากวิญญาณของเขาเสีย!!
 
อย่างไรก็ตามหนทางลัดแสนโกงนี้เป็นเพียงแนวคิดของผู้เฒ่าหั่วเท่านั้น ไม่ว่าจะทำได้หรือไม่ได้ล้วนขึ้นอยู่กับความสามารถของต้วนหลิงเทียน
 
‘กู่ชุนหากเจ้าจะโทษใครก็โทษตัวเองแล้วกันที่คิดหาเรื่องกับข้า…หาไม่แล้วข้าคงไม่คิดทำอะไรกับพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าแบบนี้!’
 
สองตาต้วนหลิงเทียนก้มมองกู่ชุนที่ถูกเขาซัดจนสิ้นสติด้วยแววตาเฉยชา กล่าวพึมพำกับตัวเบาๆ “เจ้าพาตัวเองมาเป็นหนูทดลองให้ข้าเอง ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ…”
 
“ผู้เฒ่าหั่ว ”
 
ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนพลันส่งเสียงติดต่อไปถึงผู้เฒ่าหั่วทันที “ตอนนี้ข้าต้องทำอย่างไรหรือ แล้วมีอะไรที่ข้าต้องระวังเป็นพิเศษหรือไม่?”
 
การกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณด้วยปฐมเวทย์กลืนกินนั้นเป็นเรื่องใหม่สำหรับต้วนหลิงเทียน สำหรับเขาที่ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไรก็ได้แต่ถามผู้เฒ่าหั่วอย่างเดียว
 
บางทีผู้เฒ่าหั่วเองก็ไม่เคยเห็นปฐมเวทย์กลืนกินดูดกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณคนอื่นๆ เผลอๆอาจกระทั่งไม่เคยเห็นใครใช้ปฐมเวทย์กลืนกินด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยๆผู้เฒ่าหั่วก็ผ่านอะไรมามาก เรื่องราวทำนองนี้อาจพอมีแนวทางที่แน่ชัด
 
“เจ้าวางมือไว้บนหน้าผากมันเสีย จากนั้นก็อย่าได้ขัดขืนปล่อยให้ข้าชักนำสำนึกเทวะของเจ้าล่วงล้ำเข้าไปในดวงจิตของมัน กระทั่งค้นหาพรสวรรค์รากวิญญาณของมันจนเจอ…จากนั้นข้าจะชักนำสำนึกเทวะของเจ้าให้เพ่งเล็งไปที่พรสวรรค์รากวิญญาณของมัน และเจ้าก็ลองหาหนทางใช้ปฐมเวทย์กลืนกินดู”
 
เสียงผู้เฒ่าหั่วดึงขึ้นกล่าวเตือนต้วนหลิงเทียน
 
“ได้!”
 
มีผู้มากประสบการณ์อย่างผู้เฒ่าหั่วชี้นำ ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดอะไรให้มากความลองกระทำตามดูทันที ก้มลงทั้งเอามือขวาไปแตะกระหม่อมกู่ชุนทันที
 
จังหวะนี้หัวใจของต้วนหลิงถึงกับเต้นรัวขึ้นมา ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นระทึกนัก
 
สำหรับเขาแล้วนี่นับเป็นประสบการณ์อันแปลกใหม่ทั้งน่าลุ้นระทึกเป็นอย่างยิ่ง!
 
เพราะหากเขากระทำได้สำเร็จนั่นหมายความว่าเขาอาจจะยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของเขาได้ในเวลาอันสั้น แต่ถ้าหากล้มเหลว ดูท่าแล้วเรื่องยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของเขาคงอีกนานกว่าจะสำเร็จ…
 
การยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณมันเกี่ยวพันถึงความเร็วในการบ่มเพาะฝึกปรือของเขาอย่างลึกซึ้ง!
 
นั่นเพราะพรสวรรค์รากวิญญาณเป็นดั่งขีดจำกัดความเร็วในการบ่มเพาะพลัง! เรียกว่าความเร็วในการบ่มเพาะขึ้นอยู่กับมัน!!
 
ในเมื่อความเร็วในการบ่มเพาะเขาขึ้นอยู่กับมัน หากสำเร็จเขาก็จะก้าวหน้าเร็วขึ้น สามารถช่วยเค่อเอ๋อแม่ลูกได้เร็วที่สุดเท่าที่จะกระทำได้!!
 
หากล้มเหลว ความเร็วในการบ่มเพาะเขาก็จะช้าอยู่เช่นนี้ เรื่องช่วยทั้งคู่ก็จะล่าช้าออกไปเช่นกัน
 
‘ข้าหวังว่ามันจะสำเร็จราบรื่น…ไม่สิ มันต้องสำเร็จ ต้องสำเร็จ!!’
 
ในขณะเดียวกันกับที่คิดอย่างวาดหวังตั้งมั่น สำนึกเทวะของเขาก็ถูกสำนึกเทวะของผู้เฒ่าหั่วชักนำล่วงลึกลงไปในดวงจิตของกู่ชุน
 
จังหวะนี้ในใจของเขาบังเกิดความปรารถนาอันแรงกล้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หมายกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณกู่ชุนให้สำเร็จให้จงได้ และประสบความสำเร็จในการยกระดับพัฒนาพรสวรรค์รากวิญญาณของเขา!!
 
สองสำนึกเทวะค่อยๆล่วงล้ำเข้าสู่ดวงจิตกู่ชุนอย่างเงียบงัน ไม่นานก็บรรลุถึงส่วนลึกในดวงจิตอีกฝ่าย!
 
“พรสวรรค์รากวิญญาณของมันอยู่ด้านหน้า…ด้วยพลังฝึกปรือของเจ้าในตอนนี้คงมิอาจสัมผัสถึงมันได้ด้วยสำนึกเทวะของเจ้า อย่างไรก็ตามด้วยสำนึกเทวะของเจ้าถูกชักนำมาถึงจุดที่มันอยู่แล้ว ขอเพียงเจ้าสงบสติ ตั้งใจแล้วลองสัมผัสมันให้ดี เจ้าจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางเบาสายหนึ่ง…กลิ่นอายบางเบาดังกล่าวนั้นสามารถสร้างแรงกระเพื่อมต่อพลังวิญญาณฟ้าดินในโลกอันมืดมิดกลางดวงจิตแห่งนี้ ลองดูเจ้าน่าจะรู้สึกถึงมันได้…”
 
ในขณะที่สำนึกเทวะของต้วนหลิงเทียนกำลังมืดบอดไร้ทิศทางว่าควรทำอย่างไร เสียงผ่านสำนึกเทวะของผู้เฒ่าหั่วก็ดังขึ้นในใจ ชี้นำหนทางแก่เขา
 
“อืม”
 
ต้วนหลิงเทียนตอบรับอย่างเคร่งขรึม ก่อนที่จะเริ่มสงบใจ ใช้สมาธิเต็มกำลังพยายามจับสัมผัสกลิ่นอายพลังบางเบาที่มีผลต่อพลังวิญญาณฟ้าดินในห้วงแห่งความมืดมิดกลางดวงจิตอย่างที่ผู้เฒ่าหั่วชี้แนะ
 
ตอนแรกสำนึกเทวะของต้วนหลิงเทียนก็ไม่อาจจับสัมผัสสิ่งใดรอบๆได้เลย
 
อย่างไรก็ตามหลังจากได้ผู้เฒ่าหั่วคอยกล่าวชี้นำอยู่เรื่อยๆ ในที่สุดหลังจากงมหาด้วยความยากลำบากไปพักหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็พบเจอพรสวรรค์รากวิญญาณสีเขียวของกู่ชุนได้สำเร็จ!
 
“ข้าเพ่งเล็งไปที่รากวิญญาณของมันได้แล้วท่านผู้เฒ่าหั่ว! ตอนนี้ข้าต้องทำอย่างไรต่อ!?”
 
ต้วนหลิงเทียนพยายามอย่างหนักเพื่อระงับอารมณ์ตื่นเต้นในใจ เร่งถามผู้เฒ่าหั่วออกมาทันที
 
บางทีพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่ชุนคงเป็นอะไรที่ผู้เฒ่าหั่วสัมผัสได้ชัดเจน
 
แต่สำหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว เขาแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย
 
หากไม่ได้รับการกระตุ้นเตือนจากผู้เฒ่าหั่วหลายครั้ง เกรงว่าเขาคงไม่อาจจับสัมผัสถึงรากวิญญาณของกู่ชุนได้
 
ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงตื่นเต้นดีใจนัก เมื่อสำนึกเทวะของเขาสามารถเพ่งเล็งไปที่รากวิญญาณของกู่ชุนได้สำเร็จ!
 
“หลังจากที่สำนึกเทวะของเจ้าเพ่งเล็งรากวิญญาณของมันได้แล้ว ให้เจ้าใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกิน ชักนำให้วังวนนพลังดูดกลืนขับเคลื่อนไปตามสำนึกเทวะของเจ้าจนกระทั่งถึงรากวิญญาณของมัน…ในเมื่อสำนึกเทวะเจ้าเพ่งเล็งไปที่รากวิญญาณของมันอยู่แล้ว ขั้นตอนนี้สมควรไม่ยากสำหรับเจ้า…”
 
ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียนผู้เฒ่าหั่วก็กล่าวตอบออกมาทันที
 
ทันทีที่เสียงตอบของผู้เฒ่าหั่วดังขึ้น ต้วนหลิงเทียนก็กระทำตามที่ว่าไปแล้ว
 
ปฐมเวทย์กลืนกิน!
 
แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้วนหลิงเทียนใช้ปฐมเวทย์กลืนกิน หากแต่ก่อนหน้านี้เขาเพียงใช้มันออกรอบๆกายเพื่อดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินโดยตรงเท่านั้นไร้ซึ่งลูกเล่นอะไร…
 
ทว่าการใช้ปฐมเวทย์กลืนกินคราวนี้เป็นอะไรที่สลับซับซ้อนอยู่บ้าง จำต้องควบคุมกระแสพลังทั้งวังวนดูดกลืนให้ปรากฏในเฉพาะจุด!
 
เพราะสิ่งที่เขากำลังกระทำอยู่ตอนนี้หาใช่การสูบกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินไม่ แต่เป็นการกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณ!
 
พรสวรรค์รากวิญญาณที่ว่ามันอยู่ในส่วนลึกของดวงจิต และหากผู้ใดที่ไม่ใช่ตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ เกรงว่าคงไม่อาจใช้สำนึกเทวะสัมผัสได้ว่ามีสิ่งนี้ดำรงอยู่ในดวงจิตของผู้คน
 
ทว่าตอนนี้ด้วยมีความช่วยเหลือของผู้เฒ่าหั่ว ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็ประสบความสำเร็จในการค้นหาพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่ชุน!
 
กระบวนการดังกล่าว พอได้คำชี้นำจากผู้เฒ่าหั่วก็เป็นอะไรที่ไม่ยากนัก!
 
“กลืนกิน!”
 
เมื่อวังวนพลังสูบกลืนของปฐมเวทย์กลืนกินถูกต้วนหลิงเทียนชักนำให้มาก่อเกิดที่พรสวรรค์รากวิญญาณของกู่ชุนได้สำเร็จ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
 
ขณะเดียวกันเขายังควบคุมวังวนพลังดูดกลืนของปฐมเวทย์กลืนกิน ให้ดูดกลืนเฉพาะสิ่งที่สำนึกเทวะของเขากำลังเพ่งเล็งอยู่…พรสวรรค์รากวิญญาณ!!
 
พรสวรรค์รากวิญญาณของกู่ชุนที่แต่เดิมเปล่งแสงสีเขียวอ่อนจางๆ ไม่นานก็ถูกวังวนพลังดูดกลืนจนหายไปหมดสิ้น…ราวกับมันไม่เคยมีมาก่อนด้วยซ้ำ!!
 
และพรสวรรค์รากวิญญาณของมันที่หายไป ก็ได้ถูกชักนำเข้าไปในดวงจิตของเขา!!
 
“ผู้เฒ่าหั่วข้าดูดกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณของมันมาแล้ว…ตอนนี้ข้ายังชักนำขุมพลังดังกล่าวเข้ามาในดวงจิตของข้า แต่ข้าไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับมันต่อดี…อีกทั้งขุมพลังนี้คล้ายมันกำลังจางหายไปเรื่อยๆ!”
 
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนเร่งส่งเสียงไปกล่าวถามผู้เฒ่าหั่วหลังชักนำพรสวรรค์รากวิญญาณที่กลายมาเป็นพลังขุมหนึ่งเข้ามาในดวงจิตแล้ว เขาก็พบว่าขุมพลังดังกล่าวบังเกิดความเปลี่ยนแปลง มันกำลังอ่อนลงทุกขณะ!
 
พรสวรรค์รากวิญญาณของเขาเองก็อยู่ในดวงจิตเช่นกัน
 
และแม้ว่าผู้เฒ่าหั่วจะไม่บอกว่าเขาควรชักนำมันมาที่ดวงจิตแบบนี้ แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าสมควรต้องทำเช่นนี้
 
“มิยาก เจ้าเพียงชักนำขุมพลังดังกล่าวให้เข้าไปในดวงจิต และเอามันไปใกล้ๆรากวิญญาณของเจ้าเสีย ไม่สำคัญว่าเจ้าจะสัมผัสได้ถึงพรสวรรค์รากวิญญาณของตัวเจ้าเองหรือไม่ เพียงแค่ทำให้ขุมพลังดังกล่าวกำจายไปทั่วใจกลางดวงจิตของเจ้าเสีย”
 
“เจ้ามิต้องกังวล ว่าพลังของปฐมเวทย์กลืนกินของเจ้าจะทำร้ายพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าเอง อีกทั้งขุมพลังที่เจ้าดูดกลืนมาก็ไม่อาจทำอันตรายเจ้าได้ เพียงชักนำมันไปอยู่ใกล้ๆเถอะ เดี๋ยวพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าจะทำการจัดการดูดซับพลังดังกล่าวเข้าไปเสริมสร้างด้วยตัวของมันเอง”
 
เสียงของผู้เฒ่าหั่วพลันดังขึ้น และท้ายประโยคผู้เฒ่าหั่วยังกล่าวเสริมออกมาว่า “ส่วนเรื่องที่พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าจะยกระดับพัฒนาไปได้มากเพียงใด…ข้าเองก็มิอาจรับประกันได้”
 
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าการดูดกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณผู้อื่นมาส่งเสริมพรสวรรค์รากวิญญาณเป็นเพียงแนวคิด หลังเห็นพลังของปฐมเวทย์กลืนกินเท่านั้น
 
ส่วนเรื่องที่การกระทำครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จหรือไม่ ผู้เฒ่าหั่วเองก็ไม่อาจบอกได้…
 
เรื่องนี้ด้านต้วนหลิงเทียนเองก็ตระเตรียมใจเอาไว้แล้วเช่นกัน
 
“จะสำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะนี้ล่ะ!”
 
เมื่อได้ยินวาจาของผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ทันที ว่าตอนนี้ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดได้มาถึงแล้ว!
 
ทุกเรื่องราวเป็นเพียงสิ่งที่ผู้เฒ่าหั่วคาดคิดไว้เท่านั้นว่าจะทำได้…
 
“ผู้เฒ่าหั่ว…พรสวรรค์รากวิญญาณสีเขียวของกู่ชุนที่กลายเป็นขุมพลังได้หายไปแล้ว อีกทั้งวังวนพลังของปฐมเวทย์กลืนกินที่ข้าใช้ชักนำมันมาก็หายไปด้วย…ท่านช่วยดูให้ข้าทีว่าพวกมันสามารถเสริมสร้างพรสวรรค์รากวิญญาณของข้าได้หรือไม่?”
 
สูดลมหายใจเข้าลึกๆคราหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวถามออกมาอย่างวาดหวัง รู้สึกกังวลนักว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร!
 
ในความกังวลดังกล่าวก็มีความหวังอันล้นปรี่!
 
“หากเจ้าอยากรู้ว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้ามันมีความเปลี่ยนแปลงอันใดหรือไม่ ไฉนเจ้าไม่ลองสัมผัสพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบดูเล่า ถึงแม้ขุมพลังจากพรสวรรค์รากวิญญาณสีเขียวนั่นมันจะหายไปบ้างในกระบวนการดูดกลืนพลัง แต่มันก็สมควรส่งเสริมพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าไม่น้อย”
 
เสียงกล่าวของผู้เฒ่าหั่วพลันดังขึ้นอย่างประจวบเหมาะ “หากประสบความสำเร็จแน่นอนว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าก็ต้องมีการพัฒนา ความสามารถในการตรวจจับรับรู้พลังวิญญาณฟ้าดินของเจ้าสมควรเหนือกว่าในกาลก่อน!”
 
เมื่อได้ยินคำกล่าวของผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนก็ลองพยายามสัมผัสถึงพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบทันที
 
“นี่มัน….”
 
ครู่ต่อมาสีหน้าท่าทางของต้วนหลิงเทียนก็กลายเป็นตะลึงลาน กระทั่งยังอึ้งไปราวกลับหลงลืมคำพูด!
 
และหลังจากนั้นไม่นานใบหน้าเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดีถึงที่สุด!!
 
“ผู้เฒ่าหั่ว! ข้าสัมผัสได้ว่าตอนนี้ข้าไวต่อพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบมากกว่าเดิมถึง 2 เท่าจากกาลก่อน! นี่การดูดกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณมายกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของข้ามันประสบผลสำเร็จแล้วใช่หรือไม่!?”
 
เรื่องราวประหลาดใจครั้งนี้มาอย่างที่ต้วนหลิงเทียนไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้เขาตื่นเต้นจนไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดอย่างไรดี!
 
“ให้ข้าลองดูพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าก่อน”
 
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงสำนึกเทวะสายหนึ่งชำแรกเข้าสู่ดวงจิตของเขา แน่นอนว่าเขาปล่อยให้มันชำแรกเข้าไปโดยไร้ขัดขืน และไม่นานมันก็ล่วงลึกถึงกลางดวงจิตเขา
 
“อืม…ประสบความสำเร็จแล้วจริงๆ”
 
เสียงของผู้เฒ่าหั่วพลันดังขึ้นในเวลาต่อมา
 
ได้ฟังคำยืนยันนี้ของผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกตื่นเต้นคึกคักขึ้นมาอีกครา หน้ายังเปลี่ยนไปเป็นสีแดงก่ำ “สำเร็จ! สำเร็จแล้วจริงๆ!!”
 
เพราะเขาหวังเอาไว้อย่างยิ่งว่าการกระทำครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จ พอมันสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีจริงๆ ต้วนหลิงเทียนก็ย่อมดีใจมากเป็นธรรมดา
 
“ประสบผลสำเร็จก็ส่วนหนึ่ง…อย่างไรก็ตามพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้ายังมิได้เปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่เดิมพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้านั้นเป็นสีเหลือง ทว่ายามนี้มันกลายเป็นสีเหลืองเข้มแล้ว  แม้จักมิได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวก็ตามที และหากเจ้าอยากให้มันเปลี่ยนเป็นสีเขียวจริงๆ เจ้าจำต้องกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณสีเขียวของผู้อื่นอีกสักคน!”
 
เสียงของผู้เฒ่าหั่วดังสืบต่อ

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด