War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1622
ตอนที่ 1,622 : อ๋องหรง ทว่าตอนนี้จวนอ๋องเฉียนกลับส่งคนมาหาซือถูหมิง เพื่อให้มันไปเข้าเฝ้าที่จวนอ๋อง! แต่ถ้าหากซือถูหมิงตอบรับคำเชิญแล้วไปจวนอ๋องเฉียนล่ะก็ น่ากลัวว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีในสายตาของผู้อื่น! เพราะบรรพบุรุษตระกูลซือถูได้ตัดสินใจแล้ว ว่าทางตระกูลจะเข้าร่วมกับองค์ชายรอง! หากขัดคำสั่งของบรรพบุรุษล่ะก็ ขับออกจากตระกูลสถานเดียว!! “โปรดนำความของข้าไปเรียนต่ออ๋องเฉียนด้วย ว่าข้าขอบคุณในความปรารถนาดีครั้งนี้ของท่านอ๋อง..แต่เกรงว่าข้าคงมิอาจสะดวกไปเข้าเฝ้า” ซือถูหมิงกล่าวกับชายวัยกลางคนที่มาจากจวนอ๋องเฉียนตรงๆ “องค์ชาย 4 รู้แต่แรกแล้วว่าเจ้าจะกล่าวปฏิเสธเช่นนี้…เช่นนั้นท่านจึงให้ข้ามาบอกต่อเจ้า ว่าตอนนี้อี้เฟิงรอพบเจ้าอยู่ที่จวนอ๋องเฉียน” ชายวัยกลางคนกล่าวสืบต่อ อี้เฟิง! ได้ยินคำนี้ของชายวัยกลางคนหัวล้าน ลูกตาของซือถูหมิงหดเล็กลงทันที กระทั่งซือถูจั๋ว และอาวุโสทั้งหลายของตระกูลซือถูที่อยู่ในโถงประชุม ก็ตกใจกันไม่น้อย นามอี้เฟิง ย่อมไม่ใช่นามแปลกหูสำหรับพวกมัน! อี้เฟิง ประมุขนิกายหยินหมิง! วันนี้พวกมันพึ่งได้รับทราบข่าวกันว่า อาวุโสสูงสุดนิกายหยินหมิงถูกสังหารตกตาย ส่วนประมุขอย่างอี้เฟิงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย…นิกายหยินหมิงจึงเหลือแต่ชื่อ ทว่าตอนนี้คนของจวนอ๋องเฉียนกลับบอกว่า อี้เฟิงอยู่ที่จวน!? ‘อย่าได้บอกข้าเชียวว่านิกายหยินหมิงไปเผลอล่วงเกินอะไรอ๋องเฉียนเข้า!’ พอคิดถึงเรื่องนี้ ใจของซือถูหมิงก็เต้นรัวขึ้นมาทันที มันมองชายวัยกลางคนทั้งเร่งกล่าวออกมา “ใต้เท้าโปรดนำความข้าไปรายงานต่ออ๋องเฉียนด้วย ว่าถึงแม้ข้าจะมีความสัมพันธ์กับนิกายหยินหมิง หากแต่การกระทำอื่นใดของนิกายหยินหมิงนั้น มิมีอันใดเกี่ยวข้องกับข้า!” จังหวะนี้เห็นได้ชัดว่าซือถูหมิงคิดจะตัดสัมพันธ์กับนิกายหยินหมิง “รองผู้นำซือถูหมิง เรื่องนี้เจ้าต้องไปอธิบายกับท่านอ๋องเฉียนด้วยตัวเอง ข้าเกรงว่ามิอาจนำความนี้ไปส่งแทนเจ้าได้” ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “นอกจากนี้องค์ชาย 4 ยังฝากข้ามาบอกเจ้าอีกด้วย ว่าหากเจ้าไม่เต็มใจจะตามข้าไปจวนอ๋อง…เจ้าก็แบกรับความเสี่ยงเอาเองเถอะ!” แบกรับความเสี่ยงเอาเองเถอะ! ทันทีที่ชายวัยกลางคนกล่าวคำนี้ออกมา ซือถูหมิงและทุกคนในโถงประชุมก็หน้าเบี้ยวไปทันที ซือถูหมิงยังหันไปมองซือถูจงทันที “ไปเถอะ” ซือถูจงพยักหน้าให้ซือถูหมิง ค่อยกล่าวเสริม “ในเมื่อเรื่องราวมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ท่านก็มิมีทางเลือกอีกต่อไป อ๋องเฉียนมิใช่คนใจกว้าง” ซือถูหมิงได้ฟังก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆทันที มันรู้ดีว่าเรื่องถึงขั้นนี้แล้ว มันสิ้นไร้หนทางเลือกอื่นอีก หากไม่ไปก็เป็นการผิดใจกับอ๋องเฉียนแน่! ถึงแม้ว่าตระกูลซือถูจะมีองค์ชายสนับสนุนเช่นกัน แต่น่ากลัวว่าองค์ชายผู้นั้นอาจจะไม่เต็มใจเผชิญหน้ากับอ๋องเฉียนเพื่อช่วยเหลือมัน! “ตกลงใต้เท้า ข้าจะไปกับท่าน” สุดท้ายซือถูหมิงก็สงบใจและตัดสินใจออกมา “เช่นนั้นก็ไปกันเลยเถอะ” ชายวัยกลางคนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงคล้ายเบื่อหน่าย ถึงแม้มันจะเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียน แต่เพราะมันมีหน้าที่จัดการดูแลเรื่องราวในจวนอ๋องเฉียน ถึงแม้จะเผชิญหน้ากับตัวตนในขอบเขตเซียนอย่างซือถูหมิงมันก็ไม่กลัว ยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ มันเป็นสุนัขรับใช้ของพยัคฆ์ ใยต้องกลัวจิ้งจอก? เรื่องก็มีเท่านี้! ด้วยการนำพาของชายวัยกลางคน ไม่นานซือถูหมิงก็ออกจากตระกูลซือถู กระทั่งเดินทางมาถึงจวนอ๋องเฉียน ทว่าในขณะที่ซือถูหมิงติดตามชายวัยกลางคนหัวล้านเข้าไปในจวนอ๋องนั้น ปรากฏร่างที่ปกปิดตัวเองอยู่ข้างนอกจวนอ๋องเฉียน เร่งรุดออกจากที่หลบซ่อนและมุ่งหน้าไปยังจวนอ๋องอีกแห่งที่ใหญ่โตไม่แพ้กันทันที “ซือถูหมิงแห่งตระกูลซือถู ไปหาน้องสี่งั้นเหรอ?” อ๋องหรง ชายวัยกลางคนที่แลดูสง่างามมากบารมี พลันขมวดคิ้วยู่ย่นหลังจากได้ยินคำรายงานจากสายสืบที่มันส่งไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่จวนอ๋องเฉียน “เจ้าแน่ใจหรือไม่..ว่าดูให้แน่ชัดแล้วถึงมารายงาน?” ด้านหลังอ๋องหรง ปรากฏชายหนุ่มในชุดคลุมดำผู้หนึ่ง…เป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของอ๋องหรง มันกล่าวถามสายลับที่คุกเข่ารายงานออกมาเสียงเย็น แม้รูปร่างหน้าตาของชายหนุ่มในชุดคลุมดำจะแลดูธรรมดา หากแต่ดวงตาของมันกลับเฉียบคมไม่น้อย ยามจ้องไปยังสายสืบคนดังกล่าว แววตายิ่งทวีความดุร้ายปานพยัคฑ์ มีอานุภาพขู่ขวัญผู้คนนัก! “ข้ามั่นใจ ว่ามองคนมิผิดแน่!” หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สายสืบที่เร่งกลับมารายงานก็กล่าวตอบออกไปอย่างมั่นใจ “เช่นนั้นเจ้าจงไปยังตระกูลซือถู แล้วถามซือถูฮ่าวมันดู..ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่! แล้วบอกให้มันหาคำตอบที่น่าพอใจมาอธิบายที่จวนอ๋องหรงภายใน 3 วัน!” ชายหนุ่มในชุดคลุมดำกล่าวออกอีกครั้ง “ทราบ” สายสืบคนดั่งกล่าวเร่งรุดรับคำ ก่อนที่จะจากไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อผู้นำตระกูลซือถูอย่างซือถูฮ่าวได้รับทราบเรื่องนี้ สีหน้ามันก็คล้ายคนตายทันที “ซือถูหมิงมันกล้าเดินทางไปยังจวนอ๋องเฉียนกลางวันแสกๆ…นี่มันคิดจะทำอันใดกันแน่!?” “ผู้นำตระกูลซือถู ข้านำความมาส่งถึงท่านแล้วนับว่าหน้าที่ข้าจบเพียงเท่านี้ และโปรดไปมอบคำอธิบายให้ท่านอ๋องหรงพึงพอใจในเร็ววัน” สายสืบที่มาแจ้งเรื่องราถึงตระกูลซือถู วางตัวสูงส่งและไม่เห็นหัวผู้ใดแม้แต่น้อย ผิดกับท่าทีเรียบๆร้อยๆ ไม่กล้าหืออือยามอยู่ต่อหน้าอ๋องหรงและหัวหน้าหน่วยข่าวกรองปานคนละคน! ในจวนอ๋องหรงมันก็เสมือนลูกอ๊อดตัวน้อย หากแต่เมื่ออยู่ในตระกูลซือถู มันก็คือผู้ส่งสารของจวนอ๋องหรง! ไม่ต้องก้มหัวให้ผู้ใดทั้งสิ้น!! หลังจากที่คนจากจวนอ๋องหรงกลับไป สีหน้าซือถูฮ่าวยิ่งกลายเป็นมืดดำไปกันใหญ่ ส่วนทางด้านอ๋องเฉียน ในที่สุดซือถูหมิง ก็ได้พบกับอ๋องเฉียน หรือองค์ชาย 4 แห่งประเทศฝูเฟิง “ข้าซือถูหมิง ขอคารวะองค์ชาย 4” ต่อหน้าอ๋องเฉียน ซือถูหมิงไม่กล้าไม่สุภาพ “รองผู้นำหมิงอย่าได้มากพิธี นั่งลงเถอะ” อ๋องเฉียนยิ้มรับคำทักทายเล็กน้อย ค่อยผายมือให้ซือถูหมิงนั่งลง อย่างไรก็ตามซือถูหมิงไม่กล้านั่ง “อะไร? หรือรองผู้นำหมิงไม่คิดไว้หน้าข้า?” รอยยิ้มของอ๋องเฉียนหยุดลงทันใด กล่าวถามออกด้วยใบหน้าเย็นชา “มิกล้า! มิกล้า!!” ซือถูหมิงที่หวาดกลัวจับใจเร่งนั่งลงทันที ตอนนี้มันรู้สึกอึดอัดไม่น้อย! “รองผู้นำหมิง ได้ข่าวว่าพักนี้ที่ตระกูลซือถู เจ้าก็มิได้มีความสุขอันใดมากมายใช่หรือไม่?” อ๋องเฉียนมองซือถูหมิงพร้อมถามด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋องเฉียนล้อข้าเล่นแล้ว ในฐานะรองผู้นำตระกูลซือถู ไหนเลยข้าจักอยู่ในตระกูลอย่างมิมีความสุขได้?” ซือถูหมิงหัวเราะออกมา ถึงแม้ว่าพักนี้มันไม่ค่อยมีความสุขในตระกูลซือถูจริง แต่เรื่องนี้มันยังพูดออกมาต่อหน้าอ๋องเฉียนได้หรือ? เพราะจะอย่างไรสุดท้ายแล้วตระกูลซือถู ก็อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับจวนอ๋องเฉียน! “ดูเหมือนว่ารองผู้นำหมิงยังคงระแวงข้า…” อ๋องเฉียนส่ายหน้าไปมา ก่อนที่จะยกมือขึ้นมาตบ ทันใดนั้น คนที่รออยู่หน้าห้องโถงคนหนึ่งก็เข้าใจสัญญาณดังกล่าว มันเร่งเข้ามาในห้องโถงทันที และเมื่อเห็นหน้าผู้ที่พึ่งเข้ามาในห้องโถง ซือถูหมิงก็ถึงกับต้องลุกขึ้นยืน สองตาของมันเผยประกายเย็นชา ส่งเสียงผ่านปราณกล่าวถามไปอย่างไม่รีรอ “อี้เฟิงเจ้าเสียสติแล้วหรือไรที่มาที่นี่ หรือเจ้ามิรู้ว่าตระกูลซือถูของข้ากับอ๋องเฉียนอยู่คนละฝ่าย?” “รองผู้นำตระกูลซือถู ข้ารู้ดีว่าตระกูลซือถูอยู่คนละฝ่ายกับท่านอ๋องเฉียน” อี้เฟิงไม่ได้ส่งเสียงตอบ หากแต่เลือกที่จะกล่าวออกมาโดยตรง ทันใดนั้นหน้าซือถูหมิงก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เร่งส่งเสียงกล่าวถามไปอีกรอบ “อี้เฟิง นี่เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?” “อ่า ข้าก็มิได้คิดจะทำอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่อยากให้ท่านทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันเท่านั้น…ตอนนี้ที่ตระกูลซือถูไม่มีที่ให้ท่านยืนอีกต่อไป สิ่งที่ท่านกระทำได้คือพาคนของตระกูลซือที่อยู่ฝ่ายท่านมาเข้าร่วมกับจวนอ๋องเฉียงเพื่อหลบภัยเท่านั้น” อี้เฟิงก็ยังคงกล่าวออกมาโต้งๆ เหมือนเดิม
คอมเม้นต์