War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1598
ตอนที่ 1,598 : 7 ทวาราเที่ยงแท้ ด้วยเหตุนี้หลังจากที่ได้รับทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างต้วนหลิงเทียนและเฟิ่งเทียนหวู่ ฟ่งเหินก็ตระหนักได้ทันทีว่าคงมิอาจพึ่งพานิกายคงเฉินชำระแค้นได้แล้ว เพราะนิกายคงเฉินมิอาจตอแยแม่นางเฟิ่งแห่งนิกายอัคคีล่องลอยได้! กระทั่งบิดาของมัน ประมุขนิกายคงเฉิน หากได้รับทราบเรื่องนี้ ก็ไม่พ้นต้องกล่าวให้มันลบลืมความบาดหมางไปเสีย มาตอนนี้ฟ่งเหินจึงรู้ว่าไฉนไป๋หยินถึงให้มันลืมความแค้นไปเสีย หากแต่หัวใจของมันไหนเลยจะยินยอมรับได้โดยง่าย! อนิจจาแม้ใจจะไม่ยินยอมเพียงใด แต่มันก็จำต้องยอมรับโดยสดุดี ในแง่ของพลังฝีมือมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย ด้านพื้นหลังแรงหนุนอะไรก็แลจะอ่อนด้อยกว่าอีกฝ่าย! เรียกว่าผู้อื่นสะกดข่มมันทุกทาง ประหนึ่งขุนเขาใหญ่ถล่มทับลงบนหัว มันไม่อาจโงหัวขึ้นมาเห็นแสงแห่งความหวังอันใดได้เลย เบื้องหน้าสายตาคงเหลือแต่หนทางอันมืดบอด เรื่องที่ฟ่งเหินคับแค้นจำต้องกล้ำกลืนอะไรพวกนี้ แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนไม่รู้เลย ตอนนี้ในเมื่อเฟิ่งเทียนหวู่เป็นคนของนิกายอัคคีล่องลอย เขาก็ได้กลายเป็นแขกกิตติมศักดิ์ของนิกายอัคคีล่องลอยเช่นกัน ซือถูหังกับซือถูโฮ่วก็กลับกลายเป็นผู้ติดตามเขา ในเมื่อทั้ง 3 มาเยือนนิกายอัคคีล่องลอยเป็นครั้งแรก ทางนิกายจึงเตรียมงานเลี้ยงฉลองต้อนรับ แน่นอนทั้งซือถูโฮ่วและซือถูหังทราบดีว่า เป็นเรื่องนี้เป็นอานิสงค์จากต้วนหลิงเทียน ในงานเลี้ยงประมุขนิกายสื่ออวิ๋นนั่งอยู่หัวโต๊ะบ่งบอกถึงความเป็นเจ้าภาพ ส่วนเฟิ่งเทียนหวู่ก็นั่งอยู่ด้านขวาของนาง และสายตาของนางแทบไม่ละออกจากต้วนหลิงเทียน ยังเผยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดงาน พาลให้ใบหน้าที่งามล้ำอยู่แล้วยิ่งตราตรึงใจไปกันใหญ่ รอบข้างคล้ายจะหมองลงถนัดตา เห็นฉากนี้สื่ออวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะลอบทอดถอนในใจ นางเห็นชัดเจน ว่าใจของศิษย์นางให้ผู้อื่นไปหมดแล้วจริงๆ แม้นางจะเป็นอาจารย์ แต่นางก็รู้ตัวดีว่าฐานะของนางในใจเฟิ่งเทียนหวู่ ยังต้อยต่ำกว่าต้วนหลิงเทียนเสียอีก! ถึงจะอิจฉาอยู่บ้าง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้! สตรีเมื่อเติบใหญ่ล้วนต้องออกเรือน! คำกล่าวนี่มันจริงแท้! แน่นอนว่านางรู้ตัวดีว่าไม่อาจเทียบอะไรกับต้วนหลิงเทียนได้ เพราะนางพึ่งได้พบกับเฟิ่งเทียนหวู่เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วเท่านั้น ทว่าศิษย์ของนางรักชอบต้วนหลิงเทียนมาเนิ่นนานแล้ว ในระหว่างงานเลี้ยง ซือถูหังและซือถูโฮ่วก็ยกจอกดื่มคารวะให้สื่ออวิ๋นเพื่อเชื่อมไมตรีอย่างหน้าชื่นตาบาน ด้วยเห็นแก่หน้าเฟิ่งเทียนหวู่ สื่ออวิ๋น จึงไม่คิดปฏิเสธเรื่องสานไมตรีอะไร เรียกว่าเป็นการให้เกียรติอีกฝ่าย หลังจากผ่านไปพักใหญ่บรรยากาศงานเลี้ยงก็ค่อยๆซาลง ซือถูหังกับซือถูโฮ่วก็รับประทานอาหารหมดสิ้นแล้ว เรื่องราวบนโต๊ะจึงกลายเป็นเงียบงัน และพวกมันก็ไม่ใช่ตัวโง่งม ไหนเลยยังไม่รู้งานว่าที่ทั้งหมดเงียบเป็นเพราะมีพวกมันอยู่ด้วย เช่นนั้นแล้วพวกมันจึงขอตัวลาจากไปเพื่อความเหมาะสม หลังจากที่ซือถูหังและซือถูโฮ่วจากไป ในห้องอาหารก็หลงเหลือแค่เพียงสื่ออวิ๋น ต้วนหลิงเทียนและเฟิ่งเทียนหวู่ 3 คน “ข้าต้องขอขอบคุณประมุขสื่ออวิ๋นที่ช่วยดูแลเทียนหวู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา” ต้วนหลิงเทียนลุกขึ้นประสานมือกล่าวกับสื่ออวิ๋นด้วยรอยยิ้มจากใจ “เทียนหวู่เป็นศิษย์ข้า แน่นอนว่าข้าต้องดูแลนางอย่างดี…แล้วเจ้าเล่า ที่แท้เป็นอันใดกับเทียนหวู่กันแน่ถึงได้ขอบคุณข้าแทนนาง?” สื่ออวิ๋นมองต้วนหลิงเทียนด้วยความสนใจ ค่อยเอ่ยถามออกไปเสียงเบา ได้ยินคำถามนี้ของสื่ออวิ๋น ต้วนหลิงเทียนก็นิ่งไปทันที ว่าแต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเทียนหวู่คืออะไรกันแน่? เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แค่เพื่อนอีกต่อไป หากเป็นแค่เพื่อนไหนเลยจะเสียอาการและยินดีขนาดนั้นเมื่อได้พบหน้ากันอีกครั้ง? หรือจะให้เขาปฏิบัติต่อเทียนหวู่ในฐานะน้องสาว? ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แล้ว! ในอดีตเขายังกล่าวได้ว่าเคยยึดถือเฟิ่งเทียนหวู่เสมือนน้องสาวคนหนึ่ง…หากแต่ด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และเป็นนางที่ยินดีสละกระทั่งชีวิตเพื่อช่วยเหลือเขา การเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าคว่ำดินพลันบังเกิดขึ้นในใจ แค่เขายังไม่อาจยอมรับมันได้ในเวลาสั้นๆเท่านั้น หลังจากที่พบเจอเฟิ่งเทียนหวู่อีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานปี เขาจึงไม่อาจระงับความรู้สึกในใจได้อีกต่อไป แน่นอนว่าเขายังไม่คิดจะเปิดเผยความในใจออกไปตอนนี้ หากเขาเร่งเปิดเผยความในใจออกไป เขาจะเผชิญหน้ากับคู่หมั้นทั้งสองที่ไม่รู้เป็นตายร้ายดีได้อย่างไร? “ท่านอาจารย์!” เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนถูกสื่ออวิ๋นจี้ถามจนไปไม่เป็น เฟิ่งเทียนหวู่จึงคิดกล่าวขึ้นมาเพื่อช่วยเขาให้ออกจากสถานการณ์อิหลักอิเหลื่อ “ฮึ่ม! ยาวโถวน้อยโง่งมนี่! เจ้ายังมิทันแต่งกับเขาก็เข้าขางกันเสียแล้ว…หากแต่งกันไปมิใช่เจ้าจะถูกเขารังแกเอารึไร!?” สื่ออวิ๋นกล่าวออกมาอย่างขบขัน เรื่องขบขันนี้ยังทำให้หน้าเฟิ่งเทียนหวู่ขึ้นสีแดงระเรื่อขึ้นมา นางอายม้วนราวกับสาวน้อยที่รอคอยเจ้าบ่าวในห้องหอ “เอาล่ะ ข้าไม่ล้อเจ้าแล้ว” สื่ออวิ๋นที่ยิ้มกล่าวกับเฟิ่งเทียนหวู่ พลันหันมามองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาร้อนแรงค่อยถาม “ท่านต้วน เขตแดนที่เจ้าใช้เมื่อครู่ ดูเหมือนจะเรียกว่าเขตแดนหมื่นกระบี่ใช่หรือไม่?” “ท่านประมุขสื่ออวิ๋น ท่านเป็นอาจารย์ของเทียนหวู่ก็เหมือนกับผู้อาวุโสของข้า…คำ ท่าน ข้ามิกล้ารับ ไหนเลยให้ท่านเรียกหาข้าแบบนั้นได้ ขอท่านเรียกชื่อข้าเถอะ” ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกด้วยรอยยิ้มขื่นขม หลังจากนั้นค่อยกล่าวตอบคำถามก่อนหน้า “ถูกแล้ว เขตแดนของข้าเรียกว่าเขตแดนหมื่นกระบี่จริงๆ” “เจ้าตั้งชื่อให้มันด้วยตัวเองหรือไม่?” สื่ออวิ๋นจี้ถาม “ย่อมไม่ใช่” ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา “หลังจากที่ข้าทะลวงมาถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ ข้อมูลของเขตแดนพลันปรากฏขึ้นมาในหัวของข้าเอง…จากข้อมูลในใจข้าจึงได้รับทราบว่ามันเรียกหาว่าเขตแดนหมื่นกระบี่” “หืม? เจ้ามิได้คิดนามเองงั้นเหรอ?” ได้ยินคำตอบนี้ของต้วนหลิงเทียน สื่ออวิ๋นอดไม่ได้ที่จะลอบสะท้านใจ นางคิดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนตั้งชื่อให้เขตแดนว่า เขตแดนหมื่นกระบี่ ด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนว่านางจะเข้าใจผิด! ‘ถึงแม้จะมีเขตแดนที่เรียกหาคล้ายกัน จากบันทึกข้อความที่อาวุโสลึกลับเจ้าของมรดกหงส์ฟ้าจรัสแสงเหลือทิ้งไว้ในหยกบันทึกเสียง…แต่ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องที่ว่ามีเขตแดนอื่นใด เรียกว่าเขตแดนหมื่นกระบี่มาก่อนชั่วชีวิต!’ ลมหายใจของสื่ออวิ๋นคล้ายปั่นป่วนไปไม่น้อย มองสบตาต้วนหลิงเทียน ค่อยกล่าวออกมาเสียงเข้มตรงๆ “7 ทวาราเที่ยงแท้!” “7 ทวาราเที่ยงแท้?” พอได้ยินคำสามคำที่อยู่ๆสื่ออวิ๋นก็กล่าวออกมา ต้วนหลิงเทียนกลายเป็นงุนงงไม่น้อย “ประมุขสื่ออวิ๋น 7 ทวาราเที่ยงแท้ เป็นหนึ่งในนิกายของประเทศฝูเฟิงหรือ?” ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆ อีกฝ่ายถึงกล่าวคำนี้ออกมา แต่เขาก็อดถามกลับไปเสียไม่ได้ ส่วนเฟิ่งเทียนหวู่นั้นรู้ดีว่า 7 ทวาราเที่ยงแท้คืออะไร อย่างไรก็ตามนางไม่อาจเข้าใจได้ ว่าไฉนอยู่อาจารย์ถึงได้ยกคำนี้มากล่าวถามพี่ใหญ่ต้วนของนาง? 7 ทวาราเที่ยงแท้เป็นขุมพลังอันน่ากลัวในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าครั้งอดีตกาล หากไม่ใช่เพราะอาจารย์ของนางกล่าวบอก นางคงไม่อาจรับทราบว่าในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ามีขุมพลังอันร้ายกาจนี้ดำรงอยู่ นอกจากนี้นางยังรู้อีกว่า เคล็ดบำเพ็ญจิต หงส์ฟ้าจรัสแสง ที่นางได้รับมา ก็เป็นเคล็ดของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ 7 ทวาราเที่ยงแท้ มี 7 ผู้เที่ยงแท้ หงส์ฟ้าจรัสแสง เป็น 5 จาก 7 ลำดับของผู้เที่ยงแท้ “เจ้ามิรู้จัก 7 ทวาราเที่ยงแท้หรือ?” หลังได้ยินคำถามด้วยความสับสนของต้วนหลิงเทียน สื่ออวิ๋นก็กล่าวถามด้วยความแปลกใจ หากต้วนหลิงเทียนเป็นผู้สืบทอด ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 หมอกพิรุณจริง ไหนเลยยังไม่รู้จักนาม 7 ทวาราเที่ยงแท้ได้!
คอมเม้นต์