War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1590
ตอนที่ 1,590 : ค่ำคืนที่ไม่อาจหลับไหลของคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหาน พอได้รู้ว่าเค่อเอ๋อเองก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วย สีหน้าของต้วนหรูเฟิงก็แลดูอัปลักษณ์ทันที แต่เดิมมันสมควรมีความสุขเพราะได้รับทราบว่ากำลังจะมีหลานสองคน…แต่ปัญหาก็คือตอนนี้มีหลานเพียงคนเดียวที่ปลอดภัย! ส่วนหลานอีกคนนั้น เป็นตายอย่างไรก็ไม่ทราบ! จากที่ข้อความที่ลูกชายมันต้วนหลิงเทียนฝากไว้ เค่อเอ๋อได้ถูกพี่สาวฝาแฝดของนางพาตัวไป แต่พี่สาวของนางก็ปฏิบัติต่อนางด้วยดี จึงไม่น่ามีห่วงกังวลอะไรกับความปลอดภัยของนาง ทว่าทารกน้อยในครรภ์ของเค่อเอ๋อกลับต่างกันแล้ว! ‘หากเค่อเอ๋อเป็นธิดาเทพของลัทธิบูชาไฟจริงๆ…ถ้าพวกลัทธิบูชาไฟรู้เรื่องนี้ล่ะก็ น่ากลัวจะฆ่าเค่อเอ๋อกับลูกในท้องของนางแน่!’ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้วนหรูเฟิงห่วงที่สุด ถึงแม้มันจะไม่ค่อยรู้เรื่องลัทธิบูชาไฟเท่าไหร่ แต่มันย่อมรู้ดีว่า ธิดาเทพ ของลัทธิบูชาไฟต้องถือพรหมจรรย์! ยังจะนับประสาอะไรกับตั้งครรภ์!! ‘ส่วนพี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อถึงแม้จะไม่ทำร้ายนาง…แต่เพื่อปกป้องนาง น่ากลัวว่าจะคิดเอาเด็กออก!’ พอคิดถึงเรื่องนี้ต้วนหรูเฟิงก็เริ่มกังวลมากขึ้น นั่นคือหลานของมัน! ไม่นานต้วนหรูเฟิงก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆระงับความวิตก กลับมาครองสติแจ่มใสอีกครั้ง มันรู้ดีว่าตอนนี้ร้อนใจไปก็เท่านั้น เรื่องราวทุกอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุมของมัน ตอนนี้มันหวังแค่เพียง ขอให้เค่อเอ๋อได้คลอดทารกอย่างปลอดภัย และถ้าเป็นเรื่องความปลอดภัย หากสามารถเลือกได้แค่ 1 ชีวิตจริงๆ เช่นนั้นขอแค่ตัวเค่อเอ๋อปลอดภัยคนเดียวก็พอ! มันเชื่อว่าให้เป็นบุตรชายของมันอย่างต้วนหลิงเทียน ก็จะคิดแบบนี้ “เฟยเอ๋อเจ้ากลับไปตำหนักเมฆาครามกับข้าก่อนเถอะ น้าหรัวของเจ้า…ไม่สิท่านแม่ของเจ้าคิดถึงเจ้าอยู่ทุกวัน หากนางได้เห็นเจ้าคงมีความสุขนัก” ต้วนหรูเฟิงมองลี่เฟยค่อยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านพ่อแล้วตัวเลว…เอ่อ พี่หลิงเทียนท่านเจอเขาแล้วหรือไม่?” ลี่เฟยคิดเรียกหาต้วนหลิงเทียนว่า ตัวเลวร้าย ตามปกติ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหน้าจะอย่างไรก็เป็นบิดาอีกฝ่าย ก็รีบเปลี่ยนคำเรียกหาทันที “เรื่องเทียนเอ๋อนับว่าซับซ้อนเล็กน้อย พวกเราสนทนากันระหว่างกลับเถอะ” ต้วนหรูเฟิงเอ่ย ลี่เฟยพยักหน้าอย่างเข้าใจ และคล้ายนางนึกอะไรออกจึงมองกล่าวกับต้วนหรูเฟิงออกมา “ท่านพ่อหากข้าออกไปแบบนี้ เฉวี่ยไน่ต้องกังวลมากแน่ยามนางกลับมา…” “กู่มี่เจ้าย้อนกลับไปคฤหาสน์คลื่นขจีอีกรอบเถอะ” ต้วนหรูเฟิงมองกู่มี่ค่อยกล่าวออกมา แน่นอนว่าวาจาที่พูดให้ลี่เฟยได้ยินมีเท่านี้ แต่ที่จริงยังมีการส่งเสียงผ่านปราณไปกล่าวบอกเพิ่มเติม ว่าอะไรควรพูดและอะไรไม่ควรพูด เพราะนี่เกี่ยวพันกับอนาคตของบุตรชายมัน มันจึงไม่คิดไม่เชื่อฟังคำที่ท่านผู้เฒ่าพยากรณ์กำชับเอาไว้ “ทราบแล้วท่านจ้าว” กู่มี่รับคำก่อนที่จะวูบร่างย้อนไปคฤหาสน์คลื่นขจีอีกครั้ง “พวกเราไปกันก่อนเถอะ” ตอนนี้เองต้วนหรูเฟิงพลันหันไปพยักหน้าให้ลี่เฟย ในอ้อมแขนอุ้มทารกน้อยเอาไว้อย่างดี ก่อนที่จะแผ่พุ่งพลังไร้สภาพห้อมล้อมตัวลี่เฟยเอาไว้ พากลับไปยังตำหนักเมฆาครามทันที ด้านกู่มี่พริบตาก็ย้อนกลับมาถึงคฤหาสน์คลื่นขจี มันลอยร่างเหนือขุนเขาฉากหลังเป็นจันทร์เบ้อเริ่ม คนเปล่งเสียงผสานปราณออกมาดังกังวาลไปทั่วคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานปานฟ้าร้อง! “บอกคุณหนูเฉวี่ยไน่ด้วย ว่าฮูหยินของนายน้อยและบุตรชายของนาง กลับไปกับข้าแล้ว” นี่เป็นวาจาที่กู่มี่กล่าว ในขณะที่เสียงของกู่มี่ดังก้องไปทั่วคฤหาสน์คลื่นขจี ร่างคนก็อันตรธานหายไปในอากาศทันที ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของคฤหาสน์คลื่นขจียังไม่อาจจับได้แม้ร่องรอย! นับว่าค่ำคืนนี้ของคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหาน ถูกกำหนดให้พวกมันไม่อาจหลับไหล! ในขณะที่ยอดฝีมือทั้งหลายของคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานได้ยินเสียงของกู่มี่ สุนัขรับใช้ที่หานจิ้นเหนียนขอให้ดูต้นทางระหว่างจัดการลี่เฟยก็สะดุ้งทันที “บอกหานเฉวี่ยไน่…ฮูหยินของนายน้อยกับบุตรชาย?” ได้ยินวาจาดังกล่าว คิ้วของสุนัขรับใช้หานจิ้นเหนียนอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นมาตงิดๆ “ฮูหยินของนายน้อยและบุตรชาย…ยังจงใจบอกคุณหนูเฉวี่ยไน่…” “หรือนั่นจักหมายความถึงสตรีอันเป็นสหายของคุณหนูที่พึ่งคลอดบุตร?” ทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ สุนัขรับใช้หานจิ้นเหนียนก็บังเกิดสังหรณ์อัปมงคล มันรีบวิ่งไปยังห้องของลี่เฟยทันที “นายน้อย! นายน้อยขอรับ!!” สุนัขรับใช้มาหยุดตะโกนหน้าประตูห้องลี่เฟยหลายรอบ หากแต่ไม่มีสัญญาณใดๆตอบกลับ ใบหน้าของมันเริ่มเผยอัปลักษณ์ มันสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพยายามจะพังประตูบุกเข้าไป แต่มันก็พบว่าประตูสามารถเปิดออกได้ง่ายดาย เพียงดันเบาๆก็เปิดอ้า ยามเมื่อประตูเปิดออก มองไปเห็นแสงจันทร์ที่เล็ดรอดหน้าต่าง ฉายส่องให้เห็นเรื่องราวอันน่าตื่นตระหนกในห้องคาตา…ปรากฏร่างชายหนุ่มที่ตามตัวมีรูปุพรุนโลหิตทะลักท่วมพื้น ตามกายเรียกว่ามีรูนับสิบๆอวัยวะภายในทะลักออกมาคาวคลุ้ง แถมศีรษะเองก็เละเทะมันสมองเยิ้มพื้น ยากระบุใบหน้า! อย่างไรก็ตามด้วยความที่มันเป็นสุนัขรับใช้หานจิ้นเหนียนมาหลายปี ไหนเลยยังไม่รู้ได้ว่าซากเลอะเลือนที่กองเลือดท่วมบนพื้นนั่นคือเจ้านายของมัน! “นายน้อย!!” เห็นเช่นนี้สองขาของสุนัขรับใช้แทบไร้เรี่ยวแรงยืนหยัด ตะโกนร้องลั่นบ้านออกมาทันที และทันทีที่มันกรีดร้อง ก็ปรากฏร่างหนึ่งวูบมาฉับไวปานภูตผีหยุดอยู่ด้านหลังของมันทั้งกล่าวออกเสียงเย็น “ไฉนเจ้ามาอยู่นี่ได้?” “อะ…อาวุโสชิงหนู…นะ…นายน้อย” เป็นชิงหนูที่เร่งรุดกลับมา หลังจากที่นางได้ยินเสียงตะโกนดังลงมาจากฟ้า ความคิดแรกของนางย่อมนึกถึงลี่เฟยทันที ใจยังคิดว่ามีคนมาพาตัวลี่เฟยกับลูกชายไป! ดังนั้นนางจึงรีบกลับมาอย่างเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามแม้นางจะรีบกลับมาเร็วที่สุดแล้ว แต่นางก็พบว่าสุนัขรับใช้ของหานจิ้นเหนียนได้เปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนนางทั้งยังร้องดังลั่นบ้าน หน้านางถึงกับเปลี่ยนสีและเร่งเข้ามาดูเรื่องราวในห้องทันที พอเข้ามานางก็ได้เห็นศพหานจิ้นเหนียน ถึงแม้นางจะไม่อาจระบุได้ว่าใช่หานจิ้นเหนียนหรือไม่จากหน้าตา แต่นางยังพอจำชุดที่อีกฝ่ายสวมใส่ได้ ทันใดนั้นใบหน้าชิงหนูก็จมลงโดยพลัน ไหนเลยยังไม่รู้ได้ว่าหานจิ้นเหนียนมาที่นี่ทำอะไร และยามเห็นศพหานจิ้นเหนียนความคิดฆ่าคนก็ปะทุออกมาพาลให้บรรยากาศในห้องเย็นลง เมื่อรู้แล้วว่าผู้ที่ตายเป็นหานจิ้นเหนียน นางก็หันไปมองสุนัขรับใช้ที่ยืนขาสั่น กล่าวถามมันออกมาทันที “นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?” “ข้า…ข้าไม่รู้” สุนัขรับใช้ส่ายหัวเร็วรี่ มันไม่รู้เรื่องอะไรเลย “แล้วไฉนเจ้ากับมันถึงมาที่นี่?” วาจานี้ของชิงหนูทำให้สีหน้าสุนัขรับใช้ยิ่งซีดลงไปอีก ภายใต้สายตาของชิงหนูที่จ้องมาเขม็ง อีกทั้งผู้เป็นนายก็ตายไปแล้ว สุรัขรับใช้เช่นมันไหนเลยจะกล้าอมพะนำ โพล่งความจริงออกมาหมดเปลือก รวมถึงเรื่องที่นายน้อยมันจงใจให้คนเรียกชิงหนูออกไปด้วย… “ฮึ! ตัวอุบาทว์! สมน้ำหน้ามันแล้ว!!” พอได้ฟังความจริงทั้งหมด ชิงหนูก็ไม่สนใจเรื่องที่หานจิ้นเหนียนตกตาย ยังคิดว่ามันสมควรตาย! อย่างไรก็ตาม นางก็อดไม่ได้ที่จะสับสนในใจ ‘ฮูหยินของนายน้อยกับบุตรชาย สมควรเป็นลี่เฟยกับลูกนาง…บุรุษของลี่เฟยสมควรเป็นต้วนหลิงเทียน! ข้าได้ยินมาจากคุณหนูว่าบิดาของต้วนหลิงเทียนผู้นี้สมควรเป็นยอดฝีมือในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า…หรือคนของบิดาต้วนหลิงเทียนจะมาพาลี่เฟยไป?’ ยิ่งชิงหนูคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งคิดว่าสมควรเป็นไปได้อย่างยิ่ง หากเป็นเพราะเรื่องนี้จริงๆ นางย่อมอธิบายให้คุณหนูของนางเข้าใจโดยง่าย “เหนียนเอ้อ!” คฤหาสน์คลื่นขจีพึ่งเงียบลงจากเสียงตะโกนก้องฟ้าได้ไม่ทันไร พลันมีอีกเสียงหนึ่งที่เปี่ยมไปด้วยพลังดังก้องออกมา ทั้งในน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยโทสะอันคับแค้นเจือไว้ด้วยความโศกศัลย์ และนั่นประหนึ่งหินร่วงสระก่อเกิดพันระลอก พาลให้ทั้งคฤหาสน์คลื่นขจีปั่นป่วนไปอีกครั้ง!! “มันรู้แล้ว” เมื่อได้ยินเสียงคำรามด้วยโทสะนี้ ชิงหนูก็บอกได้ทันทีว่าเป็นเสียงของผู้อาวุโสสูงสุดของคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหาน และอาวุโสสูงสุดผู้นี้ก็คือปู่ของหานจิ้นเหนียน แถมหานจิ้นเหนียนยังเป็นหลานชายคนเดียวของมัน พอได้สินเสียงคำรามด้วยโทสะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันรับรู้ถึงการตายของหานจิ้นเหนียนแล้ว กล่าวให้ชัดอาวุโสสูงสุดสมควรพบว่าไข่มุกวิญญาณของหานจิ้นเหนียนแตก! หลังจากที่ชิงหนูมองสำรวจไปรอบๆห้องทั้งบนเตียง นางก็พบว่าไร้ซึงร่องรอยการต่อสู้ใดๆ นางจึงพออนุมานเรื่องราวได้ ว่าไม่พ้นหานจิ้นเหนียนกำลังจะก่อการอุบาทว์ ทว่าคนของบิดาของต้วนหลิงเทียนมาถึงทันเวลา ฆ่ามันและพาตัวลี่เฟยกับลูกชายของนางไป… พอคิดถึงจุดนี้ชิงหนูก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลี่เฟย ไม่เพียงแต่หานเฉวี่ยไน่จะไม่ยกโทษให้นาง กระทั่งนางก็ไม่อาจอภัยให้ตัวเองได้เช่นกัน โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับลี่เฟย สำหรับการตายของหานจิ้นเหนียนนั้นนางไม่ได้แยแสสักเพียงนิด ตัวอุบาทว์นี่นางก็รังเกียจขี้หน้ามันมานาน หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าปู่ของมันคืออาวุโสสูงสุด น่ากลัวนางจะฆ่ามันไปนานแล้ว! “อะ…อาวุโสสูงสุด” สุนัขรับใช้ที่ยืนขาสั่น พอได้ยินเสียงคำรามที่สะท้านไปทั่วคฤหาสน์คลื่นขจี หน้ามันก็ถอดสีโดยพลัน มันย่อมจินตนาการออกได้ ว่าพออาวุโสสูงสุดพบเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลานชาย มันที่เป็นผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้จะมีชะตากรรมอย่างไร เพราะอย่างไรเสียมันก็เป็นคนที่อยู่กับหานจิ้นเหนียนตลอด… ถึงแม้มันจะไม่ใช่คนที่ลงมือทำร้ายอะไร แต่ในฐานะข้ารับใช้ที่อยู่ติดกับหานจิ้นเหนียนตลอด ทว่านายมันเป็นศพแต่มันยังอยู่ดี เรื่องนี้จะให้อาวุโสสูงสุดคิดอย่างไร? พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาใจมันก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง “อาวุโสชิงหนูท่านต้องช่วยข้านะ…ข้ามิเกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องนี้เลย ข้ายังกล่าวเตือนนายน้อยแล้วว่าอย่าได้ยุ่งกับสหายของคุณหนูเฉวี่ยไน่ แต่นายน้อยดื้อรั้นมิยอมฟังข้า!” สุนับรับใช้เร่งไปคุกเข่าหน้าชิงหนูแล้วร่ำร้องออกมาอย่างสิ้นหนทาง “เรื่องนี้ข้าช่วยเจ้าไม่ได้…รอให้อาวุโสสูงสุดมาแล้วกล่าวเล่าความจริงไปเถอะ” ชิงหนูกล่าวเสียงเรียบ เมื่อกล่าวถึงจุดนี้สองตาชิงหนูพลันทอประกายเย็นเยือก “และหากเจ้ากล้าโกหกอันใดอาวุโสสูงสุด แม้มันจะปล่อยเจ้าไป แต่ข้าก็ไม่มีวันละเว้นเจ้า!” วาจาของชิงหนูทำให้สุนับรับใช้หวาดกลัวจนต้องเร่งก้มหัวลงไปร่ำร้อง “อาวุโสชิงหนู ข้ารู้! ข้าเข้าใจแล้ว!!” ตอนนี้อาวุโสสูงสุดสมควรพิโรธหนัก หากกล่าวเหลวไหลอะไรออกไปน่ากลัวจะร้ายมากกว่าดี ไม่นานห้องที่ลี่เฟยอยู่ ก็ไม่ได้มีแค่ชิงหนูกับสุนัขรับใช้ของหานจิ้นเหนียนอีกต่อไป ผู้พิทักษ์ทั้งซ้ายและขวาของคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหาน รวมถึงผู้อาวุโสสูงสุดก็ได้มาถึงแล้ว แน่นอนว่าหากไม่ใช่เพราะผู้นำคฤหาสน์คลื่นขจีออกไปทำธุระด้านนอก ป่านนี้ก็คงมายืนอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน! “เหนียนเอ้อ!!” อาวุโสสูงสุด เป็นชายชรามาในชุดจอมยุทธ์สีเขียว เมื่อแลเห็นร่างเลอะเลือนที่กองบนพื้น สองตามันก็เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ขณะเดียวกันทั่วกายก็ปรากฏกลิ่นอายพลังทะลักออกมาท่วมห้องหับ พาลให้อุณหภูมิในห้องลดลงทันตา!
คอมเม้นต์