War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1539
มหาอำนาจที่มิอาจล่วงเกิน…นิกายบูชาไฟ! เฉินเฉ่าช่วยกับคนที่เหลือต่างเป็นผู้ที่มาเยือนผาน้ำตกครั้งแรก ล้วนถูกคำ ‘กระบี่’ บนผาน้ำตกดึงดูดความสนใจไปสิ้น ต้วนหลิงเทียนหันไปกล่าวกับเฟิ่งหวู่เต้า ซื่อหม่าฉางฟง กับฉงเฉวียนเสียงเข้ม “ผู้ที่ทิ้งคำกระบี่ไว้บนผาน้ำตก…เป็นยอดคนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าจริงๆ เรื่องนี้ข้ายืนยันได้แน่ชัดแล้ว” ถึงแม้คำ ‘กระบี่’ จะเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ แต่ตอนแรกต่างก็คิดว่าวาจาที่เหลือไว้มันเกินจริงไปหน่อย ไม่ต้องกล่าวถึงพวกเฟิ่งหวู่เต้ากับคนอื่น ตอนนั้นกระทั่งต้วนหลิงเทียนยังไม่อยากจะเชื่อ จนกระทั่งวันก่อนพอเขาได้เห็นอาการของตี้จิ่ว ต้วนหลิงเทียนก็พบได้ทันทีว่าเซียนกระบี่ฟงชิงหยางนั้นร้ายกาจถึงเพียงใด นั่นทำให้เขาพลันตระหนักถึงคุณค่าของผาน้ำตกนี่เพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน ด้านพวกเฟิ่งหวู่เต้าพอได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ ในเมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวยืนยันออกมาเอง พวกมันก็ไม่คิดคลางแคลงสงสัยอะไรอีก หันไปจับจ้องมองคำ ‘กระบี่’ อีกครั้งทันที หมายได้รับความเข้าใจเพิ่มเติม ต้วนหลิงเทียนพาทั้งหมดมาที่นี่ด้วยเหตุผล 2 ประการ หนึ่งเพื่อมาดูมรดกที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางทิ้งไว้อีกครั้ง ส่วนประการที่สองก็เพื่อซ่อนตัวจากตี้จิ่ว เขาเชื่อมั่นว่าหากเป็นที่นี่ต่อให้ตี้จิ่วมาถึงทวีปเมฆาล่อง ให้มันตระเวนหาไปทั่วก็ยากที่จะพบเจอพวกเขา! นั่นเพราะหุบเขาแห่งนี้มีพลังอันยากหยั่งถึงที่เอ่อล้นออกมาจากคำ ‘กระบี่’ ปกคลุม มันสามารถระงับพลังวิญญาณทั้งมวลที่แผ่ลงมาสำรวจได้ โดยที่ไม่ทำให้เจ้าของพลังวิญญาณสัมผัสถึงความผิดปกติ ด้วยเหตุนี้เขาจึงคิดใช้ที่แห่งนี้เป็นที่ซ่อนตัว เพราะมันปลอดภัยที่สุด และดั่งที่ต้วนหลิงเทียนคิดไว้ไม่มีผิด ตี้จิ่วนั้นได้ออกตระเวนล่าตัวต้วนหลิงเทียนไปทั่วทั้งทวีปมนุษย์! ตอนนี้อาการบาดเจ็บของมันก็หายดีหลายส่วน ถึงแม้จะยังไม่ฟื้นฟูถึงขั้นสมบูรณ์พร้อม แต่คงใช้เวลาเพียงไม่นานในการตรวจสอบทั้งทวีปมนุษย์! เวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน ไม่กี่เดือนต่อมา ทวีปเมฆาล่องก็ถูกตี้จิ่วตรวจสอบทุกตารางนิ้ว อนิจจากลับไม่พบร่องรอยต้วนหลิงเทียนกับคนอื่นๆเลย จังหวะนี้อดไม่ได้ที่มันจะพิโรธเดือดดาลหนักข้อ! ตี้จิ่วเลือกที่จะย้อนกลับไปยังเกาะป้านเยว่ ก่อนที่จะระบายโทสะแค้นด้วยการซัดพลังทำลายเกาะป้านเยว่! ปง! ปง! เปรี๊ยง! ตูม!! …… ภายใต้การซัดพลังระบายแค้นอย่างคุ้มคลั่ง เกาะป้านเยว่ก็ไม่อาจทานทนรับไหวสืบไป รากฐานพังทลาย ตัวเกาะจมลงสู่ก้นสมุทร! บัดนี้เกาะป้านเยว่ที่เคยดำรงอยู่ กลับไม่มีอีกต่อไป คงเหลือเพียงห้วงสมุทรอันว่างเปล่าเท่านั้น! “ต้วน หลิง เทียน!!” เมื่อคิดถึงชายหนุ่มชุดม่วงที่ปั่นหัวมัน ตี้จิ่วได้แต่คำรามออกมาด้วยความคับแค้น ขบเคี้ยวฟันจนหลั่งเลือด อนิจจามันยังจะทำอะไรได้ เกลียดชังเคียดแค้นปานใด หาตัวไม่เจอก็เท่านั้น… “จากไหวพริบของสารเลวน้อยนั่น ยงเอ๋อมิพ้นถูกมันล่อลวงเข้าไปในเจดีย์ จนถูกนกไฟสีทองประหลาดนั่นฆ่าตายไปแล้วแน่!” ตี้จิ่วยิ่งคิดก็รู้สึกว่าฆาตกรตัวจริงสมควรเป็นต้วนหลิงเทียนไม่ผิดเพี้ยน! ด้วยความเคียดแค้นสังหารบุตรชาย ใจมันยิ่งทวีความอาฆาตต่อต้วนหลิงเทียนถึงขีดสุด มิอาจอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันได้สืบไป! “ต้วนหลิงเทียน ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องหาเจ้าเจอแน่! ถึงตอนนั้นข้าจะทรมานจนเจ้าร่ำร้องขอความตาย!!” หลังคำรามออกด้วยโทสะจนห้วงสมุทรปั่นป่วนอีกรอบ ตี้จิ่วก็จากไป มันมุ่งหน้าขึ้นเหนือ กลับสู่ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า จุดหมายปลายทางของมันคือเผ่าพันธุ์มังกร! ในขณะที่มันนึกแค้นต้วนหลิงเทียนจนอยากจับจับอีกฝ่ายมาแล่เนื้อเถือหนังบดกระดูก ใจตี้จิ่วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงร่างสตรีนางนั้นขึ้นมา สตรีนางนั้นย่อมเป็นชือเม่ย “นิกายบูชาไฟคืออันใดกัน ใยข้าถึงมิเคยได้ยินนามของขุมพลังนี้มาก่อน…ทว่ากลับสร้างยอดฝีมือเช่นนางขึ้นมาได้ เช่นนั้นไม่สมควรไร้ชื่อเสียงบนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้” ขณะที่พึมพำใจตี้จิ่วก็อดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความสับสน “ฟังจากที่นางว่า คล้ายผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรจักล่วงรู้เรื่องนิกายบูชาไฟ” พอนึกถึงเรื่องนี้ ใจตี้จิ่วก็คิดว่า พอกลับไปถึงจะถามผู้นำให้รู้ความ อย่างไรก็ตามในขณะเดินทาง ส่วนมากอารมณ์ของมันยังเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะต้วนหลิงเทียนคนเดียว! มันว่ามันก็ระวังตัวและรอบคอบมากแล้ว แต่ยังตกหลุมพรางของต้วนหลิงเทียนเสียได้! เรื่องนี้ทำให้มันเจ็บใจทั้งโกรธแค้นนัก! ชั่วชีวิตมัน ไหนเลยยังเคยถูกผู้คนปั่นหัวแบบนี้? ซ้ำร้ายผู้ที่ปั่นหัวมัน เผลอๆจะเป็นฆาตกรฆ่าบุตรชายของมันอีกด้วย! ในฐานะ ‘มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ’ ศักดิ์ศรีมันยังสำคัญกว่าชีวิต! ไหนเลยจะทำใจยอมรับได้..ว่าถูกปั่นหัวเล่นเช่นนั้น!! ด้วยเหตุนี้แม้กระทั่งมันกลับมาถึงเผ่ามังกรแล้ว ใจมันก็ยังเต็มไปด้วยโทสะยากระงับ “ตาแก่ เจ้าเคยได้ยินเรื่อง ‘นิกายบูชาไฟ’ หรือไม่?” หลังจากที่กลับมาถึงเผ่าพันธุ์มังกร ตี้จิ่วก็ตรงไปหาผู้นำเผ่าพันธุ์ อันเป็นมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บ แต่ต่างสายพันธุ์กับมันก่อนอื่นใด “จะ…เจ้าไปได้ยินนาม ‘นิกายบูชาไฟ’ มาแต่ที่ใด!?” พอได้ยินคำถามของตี้จิ่ว สีหน้าผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรเปลี่ยนไปทันที ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความหวาดผวาพรั่นกลัว ลูกตาสั่นไหวเลื่อนลอยคล้ายเห็นผี ความหวาดกลัวของผู้นำ ตี้จิ่วย่อมเห็นได้ชัด อา! ทำให้ผู้นำหวาดกลัวได้ถึงขั้นนี้ นิกายบูชาไฟ ที่แท้คืออะไรกันแน่? “ตาแก่ นิกายบูชาไฟ ร้ายกาจมากหรือ?” ตี้จิ่วถามออกไปทันที “บอกข้ามา! เจ้าไปได้ยินนามนิกายบูชาไฟมาได้อย่างไร!? พูด!!” ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรไม่ตอบ แต่เลือกที่จะถามซ้ำ ขณะถามน้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้อนรนใจไม่น้อย ราวกับคำตอบนี้สำคัญใหญ่หลวง! เมื่อเห็นผู้นำจริงจังร้อนใจขนาดนี้ ตี้จิ่วก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย จึงกลายเป็นตึงเครียดขึ้นมาเช่นกัน ยกเว้นเรื่องเจดีย์ 7 ชั้นประหลาดนั่น มันเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนเกาะป้านเยว่โดยไม่ปิดบังอะไรเลย รวมถึงสตรีที่กล่าวว่ามาจากนิกายบูชาไฟนั่นด้วย สาเหตุที่มันไม่กล่าวถึงเจดีย์ประหลาด 7 ชั้นนั่น ล้วนเป็นเพราะความโลภในใจและความเห็นแก่ตัวของมันทั้งสิ้น ในสายตาของมัน ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะหลอกมันได้ แต่เจดีย์ 7 ชั้นนั่นไม่ใช่ของปลอม! พลังอำนาจที่ขับไล่มันออกจากเจดีย์เป็นอะไรที่มหาศาลยากหยั่งถึง สุดที่มันจะต้านทานได้จริงๆ! ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะเป็นเจ้าของเจดีย์ดังกล่าว ในความคิดของมัน เจดีย์ประหลาดนั่นสมควรยังอยู่ที่ก้นเหวลึกใต้สมุทร เพียงแค่มันยังหาวิธีเรียกออกมาไม่เจอเท่านั้น ตอนนี้ในเมื่อมันเห็นเจดีย์นั่นแล้ว เช่นนั้นเจดีย์นั่นคือของมัน มิอาจให้ใครแตะต้องได้! ‘มรดกของเซียนกระบี่ฟงชิงหยางต้องเป็นของข้าตี้จิ่วแต่เพียงผู้เดียว! มีแต่ข้า ตี้จิ่ว! ที่สมควรเป็นผู้สืบทอดของเซียนกระบี่!!’ นี่คือความทะยานอยากของตี้จิ่ว! หลังได้ฟังเรื่องราวจากปากตี้จิ่ว ผู้นำเผ่าพันธุ์พอได้ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ดูเหมือนว่านางจะไม่ติดใจถือสาหาความอันใดกับเจ้ารวมถึงเผ่าพันธุ์มังงกรของพวกเรา ขอบคุณสวรรค์!” ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรที่ยังเต็มไปด้วยความกลัว กล่าวออกมาด้วยความโล่งใจ “ตาแก่ นี่เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลยว่านิกายบูชาไฟนั่นมันคืออะไรกันแน่ ไฉนถึงได้กลัวนักเล่า? แถมข้าเองก็ไม่เคยเห็นได้ยินเรื่องนิกายนี้มาก่อน ทำไมกระทั่งเจ้ายังกลัวได้ขนาดนี้…” ในเรื่องนี้ตี้จิ่วอดไม่ได้ที่จะสงสัยนัก “ตี้จิ่ว เจ้ายังมิได้เป็นผู้นำของเผ่าพันธุ์มังกร เช่นนั้นเรื่องนี้ข้ายังมิอาจบอกเจ้าได้…แต่ข้าขอกล่าวบอกเจ้าไว้คำเดียว…นิกายบูชาไฟ เป็นมหาอำนาจที่เผ่าพันธุ์มังกรเรามิอาจล่วงเกินได้โดยเด็ดขาด!” ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรกล่าวออกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ตาแก่เจ้าหมายความว่า…เรื่องนิกายบูชาไฟ เป็นอะไรที่รู้ได้เฉพาะผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรงั้นเหรอ?” ตี้จิ่วสูดลมหายใจเข้าด้วยความตกใจ ก่อนที่จะกล่าวถาม “มิผิด” ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรกล่าวออกด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ที่จริงไม่ใช่แค่เจ้า กระทั่งอาวุโสในเผ่าพันธุ์เราก็อาจมิมีใครเคยได้ยินเรื่องนิกายบูชาไฟมาก่อน แต่ข้าก็ไม่ได้มั่นใจเต็มสิบส่วน…บางทีพวกมันอาจเคยได้ยินเรื่องนี้มาจากที่ไหนก็ได้” “แต่เจ้าจดจำคำของข้าไว้เสียให้ดี…แม้เจ้าจะถูกคนของนิกายบูชาไฟหยามหมิ่นให้อัปยศอดสูเพียงใด เจ้าก็ทำได้แค่ก้มหัวยอมรับกล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้เงียบๆอย่าได้ริอาจต่อต้านเด็ดขาด…เพราะเจ้าคือผู้นำคนต่อไปของเผ่าพันธุ์มังกร เจ้าต้องตระหนักถึงภาพรวมและรับผิดชอบคนทั้งเผ่า!” ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรยังกล่าวกำชับย้ำเตือนออกมา วาจาของผู้นำชราล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นี่ทำให้ตี้จิ่วเองก็รู้สึกหวั่นใจไม่น้อย ด้านหนึ่งก็ยิ่งอยากรู้เรื่องของนิกายบูชาไฟให้มากกว่านี้ ด้านหนึ่งก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา ถึงแม้ว่ามันจะไม่ล่วงรู้เรื่องของนิกายบูชาไฟ แต่ตอนนี้มันตระหนักได้อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ…แม้พวกมันจะเป็นเผ่าพันธุ์มังกร แต่ก็ไม่อาจล่วงเกินอีกฝ่ายได้! “จากที่เจ้าเล่ามา เช่นนั้นเจ้าก็ยังมิแน่ใจว่าผู้ใดฆ่าลูกเจ้ากันแน่?” ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรกล่าวถามเปลี่ยนเรื่องออกมา “ถึงแม้ว่าข้าจะยังไม่แน่ใจ แต่สารเลวน้อยที่เรียกว่าต้วนหลิงเทียนนั่นสมควรมีแรงจูงใจมากที่สุด” ลูกตาของตี้จิ่วเผยความเคียดแค้นออกมาทันใด เร่งกล่าวออกเสียงเข้ม “ตาแก่ เรื่องนี้ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยข้าด้วย ส่งคนของเผ่าพันธุ์มังกรเราออกไปตามหาตัวบัดซบนั่น! ลากคอสารเลวน้อยต้วนหลิงเทียนนั่นมาให้ข้า!!” ได้ยินคำของตี้จิ่ว ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรขมวดคิ้ว “ตี้จิ่ว จากที่ข้าฟังมา คนผู้นั้นสามารถหนีรอดไปได้ใต้เงื้อมมือเจ้า คิดว่าเป็นเรื่องง่ายที่คนของเผ่าพันธุ์มังกรเราจะหาตัวมันหรือ…ถึงแม้จะหาพบแต่เจ้าคิดว่าคนของพวกเราเต็มใจจับมันรึไร?” “ตาแก่ที่มันหนีไปได้ล้วนเป็นเพราะข้าประมาทเอง!” ตี้จิ่วกล่าวยืนกรานออกมา เพราะความเห็นแก่ตัวของมันที่ไม่กล่าวถึงเรื่องเจดีย์ประหลาด 7 ชั้น ทำให้ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรคิดว่าต้วนหลิงเทียนสามารถหนีรอดไปได้ต่อหน้าต่อตา “ตี้จิ่ว เจ้าควรรู้ไว้ ว่าเรื่องนี้เผ่าพันธุ์มังกรเรามิอาจช่วยเจ้าได้…เจ้าอย่าได้ลืมไป ในสายตาของผู้คนในเผ่า ต้วนหลิงเทียนคนนั้นนับเป็นผู้มีพระคุณของเผ่าพันธุ์มังกรเราก็ว่าได้ ที่ช่วยกำจัดมังกรมาร…เจ้าคิดว่าคนในเผ่าจะช่วยเจ้าจับตัวผู้มีพระคุณได้หรือ?” ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรส่ายหัว “ตาแก่เจ้าไม่ต้องบอกคนอื่นว่าหาตัวมันเพราะฆ่าลูกข้าก็ได้ เพียงหาข้ออ้างอื่นไปเถอะ…หรือเรื่องแค่นี้เจ้ายังทำไม่ได้?” ได้ยินวาจาของผู้นำชรา ตี้จิ่วเป็นกังวลไม่น้อย พลังฝีมือของมันอาจจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ตัวคนเดียว ถึงแม้คนของเผ่าพันธุ์มังกรจะไม่ได้มีมากมายอะไร แต่ถ้าแยกย้ายกันตามหา ก็ย่อมดีกว่ามันหาอยู่คนเดียว “อะไร? นี่เจ้าถึงขั้นให้ข้าหลอกลวงผู้คนเลยงั้นเรอะ!?” หน้าผู้นำชราจมลงทันใด กล่าวถามออกมาเสียงเข้ม “ตาแก่ หากเจ้าจะคิดว่าหลอกลวงก็หลอกลวงเถอะ” หน้าตี้จิ่วไม่สะทกสะท้าน ปานหมูตายไม่กลัวน้ำเดือด “หากข้าปฏิเสธเล่า?” ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรหยีตากล่าวถาม
คอมเม้นต์