War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 3052
WSSTH ตอนที่ 3,052 : ทองเทพสุดลี้ลับตื่นแล้ว “พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดที่ผสานเข้ากับพลังธาตุไฟ…ดูเหมือนจะทรงพลังกว่าตอนผสานเข้ากับพลังธาตุดินเสียอีก…” พอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่แผ่ซ่านออกมา ต้วนหลิงเทียนก็ระบุเรื่องนี้ได้ทันที เมื่อต้วนหลิงเทียนคิดลองผสานพลังธาตุดินเข้าไปในพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอีกอย่าง เขาก็พบว่าพลังธาตุไฟที่ผสานรวมกับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอยู่ก่อน ได้ผลักไสพลังธาตุดิน! ทำให้มันไม่อาจผสานหลอมรวมได้เลย!! “อ่าว…” พอตระหนักได้ ต้วนหลิงเทียนก็งุนงงอยู่บ้าง จากนั้นก็อดถามเพลิงเทพโกลาหลกับปฐพีเทพแรกกำเนิดไม่ได้ “เจ้าหนู…ก่อนที่เจ้าจะบรรลุถึงขอบเขตเทพและควบรวมร่างแฝดแห่งกฏ ในเวลาเดียวกันเจ้าสามารถเลือกใช้พลังของกฏเพื่อต่อสู้ได้แค่ทีละอย่างเท่านั้น” ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าว “หากเจ้าคิดใช้กฏอีกข้อก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่เจ้าต้องถอนรั้งพลังแห่งกฏที่ผสานอยู่ในพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดออกไปก่อน ถึงตอนนั้นเจ้าก็สามารถผสานพลังของกฏธาตุอื่นเข้ากับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของเจ้าได้…” “เจ้าเองก็สมควรรู้แล้วว่าความลึกซึ้งใดๆก็ตาม จำต้องอาศัยพลังจากความหมายแห่งกฏนั้นๆผสานเข้ากับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของเจ้าเสียก่อน…” “กล่าวได้ว่า ในขณะที่เจ้าผสานพลังธาตุดินเข้ากับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิด เจ้าก็มิอาจใช้พลังจากความลึกซึ้งของกฏอื่นๆได้เลย เจ้าจะใช้ได้ก็แต่พลังจากความลึกซึ้งของกฏแห่งดินเท่านั้น” “หากเจ้าเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป ก่อนที่จะบรรลุถึงขอบเขตเทพ ข้าก็คงแนะนำให้เจ้าเลือกทุ่มเวลาฝึกปรือให้เชี่ยวชาญกฏสักอย่างเท่านั้น” “แต่ด้วยสถานการณ์ของเจ้าตอนนี้ ข้าขอแนะนำให้เจ้าเลือกที่จะทำความเข้าใจกฏธาตุทอง ไฟ และดินไปพร้อมๆกัน เพราะเจ้ามีข้า เพลิงเทพโกลาหล แล้วก็ทองเทพสุดลี้ลับคอยช่วยเหลือ เจ้าย่อมสามารถเข้าใจความลึกซึ้งของกฏทั้ง 3 ได้อย่างรวดเร็ว ยังเร็วกว่าผู้อื่นทำความเข้าใจแค่กฏเดียวเสียอีก เจ้าไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเวลาเปล่าเลย” ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าวแนะนำออกมาอย่างจริงจัง “ด้วยมีพวกเราช่วยเหลือ ก่อนที่เจ้าจะบรรลุถึงขอบเขตเทพ ถึงตอนนั้นเจ้าสมควรเข้าใจความลึกซึ้งของกฏทั้ง 3 ธาตุได้ครบทุกประการแน่!” “อีกทั้งหากเจ้าช่วยยกระดับพัฒนาพวกเราให้บรรลุขั้นสูงๆได้ล่ะก็ เรื่องที่ความลึกซึ้งทุกประการของกฏทั้ง 3 ธาตุจะบรรลุถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่…ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!” ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าวสืบต่อ “แต่จากที่เจ้าว่ามา…สุดท้ายหากข้ายังไม่บรรลุถึงขอบเขตเทพ ยามต่อสู้กับผู้อื่น ก็จะสามารถเลือกใช้พลังได้แค่ทีละกฏสินะ?” ต้วนหลิงเทียนเองก็รู้ดีแก่ใจ ว่าในขณะประมือกระทั่งเข่นฆ่ากับผู้อื่น คงยากที่จะสลับใช้กฏได้ เพราะหากคิดจะใช้พลังของกฏใด ก็จำต้องผสานพลังจากฏนั้นๆลงสู่พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดเสียก่อน ในกฏณีแบบนี้ สมควรเลือกใช้กฏที่ตัวเองเข้าใจมากที่สุดจะดีกว่า “ก็ใช่” ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินเอ่ยตอบ “ดังนั้นก่อนเจ้าบรรลุเทพ เจ้าเข้าใจกฏไหนมากที่สุดก็เลือกใช้กฏนั้นสู้” “อย่างไรก็ตาม ดูจากสถานการณ์ในปัจจุบันของเจ้า ตอนนี้มุ่งเน้นทำความเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟไปก่อน นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด” ถึงแม้ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินจะช่วยให้ต้วนหลิงเทียนเข้าใจความลึกซึ้งประการอื่นๆของกฏแห่งดินได้รวดเร็ว แต่นั่นมันก็ต้องให้ต้วนหลิงเทียนได้วรยุทธ์อมตะกับเวทย์พลังระดับราชาที่สอดคล้องกันด้วย ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็มีวรยุทธ์อมตะระดับราชาธาตุดินที่แฝงความลึกซึ้ง พื้นที่โน้มถ่วง อย่างเดียวเท่านั้น ทำให้ถึงจะเสียเวลาทำความเข้าใจมัน แต่สุดท้ายก็เอาไปใช้งานได้จำกัด กลับกัน ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนได้วรยุทธ์อมตะกับเวทย์พลังระดับราชาธาตุไฟที่มีความลึกซึ้งให้ทำความเข้าใจถึง 5 ประการ หากไม่รวมความลึกซึ้ง ความหมายแห่งไฟ ที่เขาเข้าใจไปเรียบร้อยแล้ว ความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟที่รอให้เขาเข้าใจก็มี สุริยันสาดแสง ท่องอัคคี ลุกโหม ปะทุ เผาไหม้ เรียกว่าหากนับรวมกับความหมายแห่งไฟอันเป็นความลึกซึ้งที่ต้วนหลิงเทียนได้เข้าใจไปแล้ว ก็ทำให้เขาจะเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟได้ถึง 6 ประการ ต่างจากดินที่มีแค่ 2 ประการเท่านั้น ดังนั้นเขามุ่งเน้นทำความเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟก่อนจะดีกว่า “อ่า ในตอนนี้นับว่ากฏแห่งไฟเหมาะกับข้ามากกว่าจริงๆ” ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าเห็นด้วย “อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เจ้าบังเกิดอาการตีบตันยามทำความเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟ…เจ้าก็ย้อนกลับไปทำความเข้าใจพื้นที่โน้มถ่วงของกฏแห่งดินต่อได้ เพราะเมื่อเจ้าบรรลุถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น อย่างน้อยๆเจ้าก็ยังสามารถใช้มันได้เต็มประสิทธิภาพยามจำเป็น” ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินเอ่ยอีกครั้ง “เข้าใจแล้ว” ต้วนหลิงเทียนก็พยักหน้าอีกรอบ “อาวุโสเพลิงตอนนี้เมื่อข้าเข้าใจความหมายแห่งไฟแล้ว หมายความว่าต่อไปข้าก็สามารถเลือกจะทำความเข้าใจความลึกซึ้งประการอื่นๆของกฏแห่งไฟต่อได้เลยสินะ…” พอนึกถึงวรยุทธ์อมตะกับเวทย์พลังระดับราชาทั้ง 5 ที่มี ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกละลานตาอยู่บ้าง จึงเลือกจะถามความเห็นของผู้รู้จริงอย่างเพลิงเทพโกลาหล “เช่นนั้นต่อไปท่านว่าข้าสมควรมุ่งเน้นทำความเข้าใจความลึกซึ้งประการใดก่อนดี?” “เฮ่อ เจ้าหนูเอยเรื่องแค่นี้เจ้าไม่ต้องถามมันข้าก็ตอบเจ้าได้…ความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟที่เจ้าสมควรเข้าใจให้เร็วที่สุดมีอยู่ด้วยกัน 3 ประการได้แก่ ปะทุ ลุกโหม และเผาไหม้!” ไม่ทันที่เพลิงเทพโกลาหลจะทันได้ตอบอะไร ก็เป็นปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินชิงตอบออกมาก่อน “อันดับแรกที่เจ้าควรทำความเข้าใจก็คือความลึกซึ้ง ลุกโหม…” เพลิงเทพโกลาหลเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “ความลึกซึ้งปะทุนั่น ถึงแม้จะได้รับความช่วยเหลือจากข้า แต่เมื่อเทียบกับความลึกซึ้งลุกโหมกับแผดเผาแล้ว เจ้าต้องใช้เวลาทำความเข้าใจนานกว่า” “ในฐานะที่เจ้าเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะ ลักษณะการใช้ไฟที่เจ้าใช้บ่อยที่สุดก็คือการเผาไหม้ กับลุกโหม…สำหรับการปะทุนั้น เจ้าแทบไม่ได้สัมผัสถึงมันเลย” “จึงกล่าวได้ว่า หากเทียบกับความลึกซึ้งปะทุแล้ว ตัวเจ้าจะเข้าใจความลึกซึ้งเผาไหม้กับลุกโหมได้เร็วกว่ามาก พอเจ้าเข้าใจ 2 ประการนี้แล้ว ค่อยเลือกทำความเข้าใจความลึกซึ้งปะทุเป็นลำดับที่ 3” เทียบกับปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน เพลิงเทพโกลาหลย่อมเข้าใจสถานการณ์ของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้มากกว่า เช่นนั้นจึงเลือกจัดลำดับความสำคัญให้ต้วนหลิงเทียนได้ไม่ยาก “ความลึกซึ้ง เผาไหม้ ลุกโหม หนึ่งมุ่งเน้นการโจมตีเป็นหลัก ส่วนอีกหนึ่งมุ่งเน้นความเร็วเป็นหลัก…อย่างไรก็ตามความลึกซึ้งเผาไหม้แม้จะมุ่งเน้นเป็นหลักแต่พลังทำลายที่ได้ยังไม่ถือว่าสุดโต่ง ในเรื่องนี้ความลึกซึ้งปะทุจะทรงพลังกว่า…เช่นนั้นในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างพลังที่เพิ่มขึ้นมาไม่สุดกับความเร็วที่เพิ่มได้เต็มที่ เจ้าสมควรเลือกความลึกซึ้งลุกโหมก่อนจะดีที่สุด” เพลิงเทพโกลาหลกล่าวออกมารวดเดียวจบ “เอาล่ะ ข้าเชื่ออาวุโส” ต้วนหลิงเทียนเห็นด้วย “นอกจากนั้นความลึกซึ้งลุกโหมของกฏแห่งไฟนั้น ไม่เพียงแต่จักทำให้เจ้ามีเปรียบศัตรูในแง่ของความเร็วเท่านั้น…มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่อาจเสริมพลังโจมตีให้เจ้าได้เลย กล่าวไปยังหนุนเสริมให้ไม่ใช่ชั่วอีกด้วย” “เพราะเมื่อเจ้าใช้ความลึกซึ้งลุกโหมผสานเข้ากับกระบวนท่าจู่โจมของเจ้า ก็จะทำให้กระบวนท่าของเจ้าว่องไวทั้งทรงพลังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” “ถึงแม้พลังที่เพิ่มขึ้นมาจะไม่ได้รุนแรงเท่ากับความลึกซึ้งปะทุ เผาไหม้ หรือลุกลาม แต่อย่างไรก็ถือว่าเพิ่ม” เพลิงเทพโกลาหลยังกล่าวสืบต่อ “เข้าใจแล้ว” ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า ที่เพลิงเทพโกลาหลพูดมา เขาเข้าใจได้ทั้งหมด ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ เขาก็ได้เผชิญหน้ากับสุมาฉุนมาแล้ว อีกฝ่ายเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งลม 2 ประการ นอกจากความหมายแห่งลมแล้วก็คือความลึกซึ้ง ‘ลมกรด’ ความลึกซึ้ง ลมกรด นับเป็นความลึกซึ้งที่มุ่งเน้นความเร็วเป็นหลักของกฏแห่งลม อย่างไรก็ตาม มันไม่เพียงทำให้ผู้ใช้มีความเร็วในการเคลื่อนไหวสูงขึ้นเท่านั้น ยังสามารถผสานเข้ากับการโจมตี ทำให้กระบี่ของอีกฝ่ายไม่เพียงแต่จะว่องไวเท่านั้น ยังทรงพลังมากขึ้นอีกด้วย เพราะเมื่อความเร็วสูงขึ้น พลังทำลายก็ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย กระทั่งในโลกเก่าของต้วนหลิงเทียน เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ใครๆก็รู้ หลังได้ฟังคำชี้แนะทั้งหมดของเพลิงเทพโกลาหล ต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจเลือกทำความเข้าใจความลึกซึ้ง ลุกโหม เป็นอันดับแรก แน่นอนว่ายังมีเพลิงเทพโกลาหลคอยช่วยเหลืออีกแรง ไม่ทันไรเวลาก็ล่วงเลยไปอีกเดือน ความเข้าใจในความลึกซึ้งลุกโหมของต้วนหลิงเทียนก็เพิ่มพูนสูงขึ้นด้วยอัตราเร็วน่ากลัว เรียกว่าไม่ทันไรก็เทียบได้กับความเข้าใจที่เขามีต่อความลึกซึ้งพื้นที่โน้มถ่วงแล้ว ถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็สามารถใช้ความลึกซึ้งลุกโหมได้ไม่แตกต่างอะไรจากที่เขาใช้ความลึกซึ้งพื้นที่โน้มถ่วงเลย “ไงทองเทพสุดลี้ลับ ในที่สุดเจ้าก็ตื่นได้ซะทีนะ!” ตอนนี้เอง เสียงปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินก็ดังขึ้นในร่างเขา ทำให้ต้วนหลิงเทียนทราบว่าทองเทพสุดลี้ลับที่หลับไหลไปนาน ในที่สุดก็ตื่นขึ้นมาเสียที วันนั้นเป็นเพราะทองเทพสุดลี้ลับกับเพลิงเทพโกลาหลผนึกกำลังกันลงมือ จึงช่วยเหลือให้พฤกษาเทพกำเนิดชีพสามารถอมรับเขาเป็นนายได้ก่อนที่เขาจะบรรลุถึงขอบเขตขุนนางอมตะ และทั้งคู่ก็เสียพลังไปมากเลยต้องเข้าสู่ห้วงนิทราเพื่อพักฟื้นพลัง แต่ด้วยความที่เพลิงเทพโกลาหลบรรลุถึงขั้นที่ 3 แล้ว มันก็เลยตื่นก่อนทองเทพสุดลี้ลับ ทองเทพสุดลี้ลับ จะอย่างไรตอนนี้ก็เป็นเพียงขั้นที่ 2 เท่านั้น จึงใช้เวลาฟื้นฟูพลังนานกว่าเพลิงเทพโกลาหลถึง 3 เดือน “ปฐพีน้อย ข้าตื่นมาก็เรียกหาข้าทันทีแบบนี้…เจ้ามีอะไรกันแน่?” น้ำเสียงขรึมๆของทองเทพสุดลี้ลับบัดนี้ฟังแล้วเหมือนคนงัวเงียอยู่บ้าง เห็นชัดว่ายังตื่นไม่เต็มที่ “เฮ่ ทองเทพสุดลี้ลับ ข้ามีข่าวดีกับข่าวร้ายอย่างละเรื่อง…เจ้าอยากฟังอันไหนก่อนดีล่ะ?” ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินไม่ได้มีโมโหอะไรที่โดนทองเทพสุดลี้ลับเรียกหาว่าปฐพีน้อย เพราะมันปลงแล้ว เพียงกล่าวถามออกไปด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน “พิรี้พิไรนัก” ทองเทพสุดลี้ลับเอ่ยออกเสียงเฉย “ต่อให้เจ้าไม่บอกข้า เดี๋ยวเพลิงเทพโกลาหลก็เป็นคนบอกข้าอยู่ดี” “งั้นข้าบอกข่าวร้ายให้เจ้าฟังก่อนแล้วกัน” เมื่อได้ยินน้ำเสียงไม่แยแสของทองเทพสุดลี้ลับ ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินก็ไม่คิดยึกยักอะไร ชิงกล่าวออกมาก่อนด้วยกลัวจะไม่ได้พูด “เจ้าหนูนี่มันพึ่งได้วรยุทธ์อมตะกับเวทย์พลังระดับราชาธาตุไฟมา 5 อย่างแหล่ะ…เช่นนั้นหมายความว่าหลังจากนี้มันก็จะมุ่งเน้นทำความเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟ ส่วนกฏแห่งทองเจ้าน่ากลัวจะไม่มีบทอีกนาน…” “หืม? วรยุทธ์อมตะกับเวทย์พลังระดับราชาธาตุไฟ 5 อย่างรึ?” หลังได้ยินปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินพูด ทองเทพสุดลั้บก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย “ดูท่าตอนที่ข้าหลับอยู่…เจ้าหนูจะมีโชคไม่เบา” “แล้วข่าวดีคืออะไร?” สำหรับข่าวร้ายที่ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินพูดมา ทองเทพสุดลี้ลับไม่ได้รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย เพราะต่อให้ต้วนหลิงเทียนได้รับวรยุทธ์อมตะหรือเวทย์พลังระดับราชาธาตุทองมาจริง มันที่ยังอยู่ในขั้นที่ 2 ก็เกรงว่าคงไม่อาจช่วยอะไรต้วนหลิงเทียนได้ “อั้ย! ข้าลืมไป…เจ้ายังพึ่งอยู่ในขั้นที่ 2 นี่นา!” ได้ยินน้ำเสียงเฉยเมยไม่ได้แลดูยินดียินร้ายอะไรขอทองเทพสุดลี้ลับ ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินที่ตระหนักใดได้ น้ำเสียงเด็กน้อยยังไม่หย่านมของมันจึงฟังดูขัดใจอยู่บ้าง และในขณะที่ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกำลังบ่นอยู่ไม่ทันได้ตอบ ทองเทพสุดลี้ลับก็เอ่ยถามออกมาเสียก่อน “เจ้าหนู…หรือว่าเจ้าได้ทองเทพสุดลี้ลับขั้นที่ 1 มาเช่นนั้นรึ?” และยังเป็นการเอ่ยถามกับต้วนหลิงเทียนโดยตรง “โชคข้านับว่าไม่เลว…ข้าช่วยหาทองเทพสุดลี้ลับขั้นที่ 1 ให้ท่านได้ก้อนนึง” ขณะกล่าว ต้วนหลิงเทียนก็สะบัดมือเรียกทองเทพสุดลี้ลับขั้นที่ 1 ออกมาจากแหวนพื้นที่ และทันทีที่เขานำทองเทพสุดลี้ลับขั้นที่ 1 ออกมา ก็ปรากฏพลังสีทองพวยพุ่งออกไปจากร่างเขาฉับไว พริบตาก็ม้วนกลืนทองเทพสุดลี้ลับขั้นที่ 1 หายไปในหนึ่งคำ!
คอมเม้นต์