War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2528
ตอนที่ 2,528 : ไพ่ตายของตู้เวย! ตู้เวยจดจำได้ขึ้นใจว่าวันนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง หลังจากที่ราชันทหารรับจ้างหลิงเทียนถูกระดมยิงจนร่างพรุน และคนได้ล้มลงไปนอนตายจมกองเลือด ตัวมันเองก็เฝ้าดูเรื่องราวทั้งหมดอยู่ด้านหลังกลุ่มมือปืนเช่นกัน… อีกทั้งมันได้ตรวจสอบศพหลิงเทียนด้วยตัวเอง และมั่นใจว่าหลิงเทียนตายคาที่อย่างไม่ต้องสืบแล้วแน่นอน! แต่ตอนนี้กลับมีคนพูดทำนองว่า… หลิงเทียน ราชันทหารรับจ้างคนนั้นยังมีชีวิตอยู่!? มันย่อมไม่เชื่อเป็นธรรมชาติ! อย่างไรก็ตามถึงตู้เวยจะไม่เชื่อเรื่องราวมากแค่ไหน มันก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมามองจ้องชายหนุ่มชุดม่วง ที่พึ่งตอบคำสตรีชุดดำไปเมื่อครู่ เป็นชายหนุ่มในชุดสีม่วงคนนี้เอง ที่กล่าวบอกว่าตัวเองก็คือราชันทหารรับจ้างหลิงเทียนที่ตกตายไปเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน! ‘คนละคนกันจริงๆ…’ เพียงเหลือบมองปราดเดียวตู้เวยก็ระบุได้ทันทีว่าชายหนุ่มเบื้องหน้ากับราชันทหารรับจ้างหลิงเทียนที่มันรู้จัก เป็นคนละคนกันแน่นอน “สายตานั่นมันอะไร? ดูเหมือนเจ้าจะไม่เชื่อสินะ ว่าข้าคือหลิงเทียนคนที่เห็นเจ้าไม่ต่างอะไรจากพี่ชายแท้ๆ แต่สุดท้ายกลับถูกเจ้าขายให้ตายอย่างโง่งมคนนั้น?” ต้วนหลิงเทียนที่มองตู้เวยไม่วางตาแต่แรก พอเห็นอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามองและเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจดังกล่าว ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ “สหายนักสู้…ถึงผมจะไม่รู้ว่าคุณเป็นใครมาจากไหน แต่มาล้อผมเล่นแบบนี้มันไม่สนุกเลย!” ตู้เวยเลิกมองสำรวจต้วนหลิงเทียน และมองสบตาต้วนหลิงเทียนตรงๆ พลางกล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ หากแต่น้ำเสียงยังสุภาพดั่งผู้ฉลาดรู้สถานการณ์นัก! “ล้อเล่นเหรอ?” ได้ยินคำของตู้เวย ต้วนหลิงเทียนก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่สายตาที่ใช้มองตู้เวยจะเฉยเมยไร้แยแสมากขึ้นทุกขณะ “จำได้ว่าก่อนที่จะสอนมวยจิตให้แก สิ่งแรกที่ข้าสอนเพื่อปรับพื้นฐาน ก็คือมวยสากล…” “ข้ายังจำได้ว่า ตำรามวยจิตที่ข้าคัดลอกให้ ข้าได้เซ็นชื่อตัวเองไว้ที่มุมซ้ายบนของหน้าสุดท้าย…” “ข้าจำได้ว่า…” … ต้วนหลิงเทียนที่ยิ่งมายิ่งมองตู้เวยด้วยสายตาชืดชา กล่าวเรื่องราวออกมาเรื่อยๆไม่หยุด และทุกเรื่องราวที่พูดออกมาเพียงฟังก็บอกได้ทันที ว่านอกจากผู้กล่าวกับตู้เวยแล้วไม่น่าจะมีบุคคลที่ 3 ล่วงรู้อยู่อีก… ตั้งแต่ที่ต้วนหลิงเทียนเริ่มกล่าวถึงประโยคที่ 2 สีหน้าตู้เวยก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์แล้ว! และแต่ละสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาหลังจากนั้น ทุกเรื่องราวที่พูด นอกเสียจากจะเป็นราชันทหารรับจ้างตัวจริงที่ตกตายไปเมื่อไม่กี่สิบปีก่อนแล้ว ไม่มีทางที่คนอื่นจะรู้ได้เลย! ตอนนี้สายตาที่ตู้เวยใช้มองต้วนหลิงเทียนได้เปลี่ยนไปจนเพี้ยนผวา ทำราวกับมันเห็นผีกลางวันแสก! “ไม่จริง…ไม่จริง! เรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้…มันเป็นไปไม่ได้!!” ตู้เวยได้ต้องร้องออกมาด้วยความเหลือเชื่อขณะมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด และเสียงร้องของมันก็ขัดต้วนหลิงเทียนที่กำลังพูดอยู่เป็นธรรมดา หลังจากที่ถูกขัด ต้วนหลิงเทียนก็หยุดไปไม่คิดพูดต่อ เพราะเขารู้… ตอนนี้ตู้เวยสมควรยืนยันได้แล้วว ว่าเขาคือ ราชันทหารรับจ้าง หลิงเทียน เมื่อไม่กี่สิบปีก่อนจริงๆ! “กะ…แกตายไปแล้วชัดๆ! ข้าเห็นกับตา ตรวจอยู่กับมือ! แล้วแกจะรอดมาได้ยังไง!?” ตู้เวยรู้สึกว่ามันใกล้จะเป็นบ้าเต็มที! ถึงมันจะเค้นสมองคิดจนหัวแทบแตก แต่ก็ไม่อาจคิดได้ออกจริงๆ… ว่าคนที่ตายไปแล้วเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน จะฟื้นคืนจากความตายและกลับมามีชีวิตแบบนี้ได้ยังไง! ยิ่งไปกว่านั้นทำไมไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาถึงได้ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย! “ฮ้า! เขาคือราชันทหารรับจ้างหลิงเทียนในตำนานเมื่อไม่กี่สิบปีที่แล้วจริงๆเหรอ!?” “หลิงเทียน…หล่อขนาดนี้เลยเหรอ!?” … ด้าน 3 สาวในชุดบีกินี่ตอนนี้พากันลอบมองต้วนหลิงเทียนไม่หยุด เพราะหลังจากที่พวกนางได้ยินคำโวยวายของตู้เวย พวกนางก็รู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มในชุดสีม่วงคนนี้ก็คือ ราชันทหารรับจ้างหลิงเทียน ที่ลือกันว่าตกตายไปเมื่อไม่กี่สิบปีก่อนจริงๆ! ตอนนี้พวกนางพากันคิดไปว่า วันนั้นต้วนหลิงเทียนยังไม่ได้ตายไปจริงๆ และเป็นตู้เวยที่สมควรทำอะไรผิดพลาดแน่นอน! ทว่าตัวตู้เวยรู้ดีแก่ใจ ว่าเรื่องนี้ไม่มีทางผิดพลาดได้เลย! มันเห็นหลิงเทียนถูกยิงจนพรุนเป็นรังผึ้งกับตา…ตายอย่างที่ไม่อาจตายไปมากกว่านั้นได้อีกแล้ว!แถมมันยังอยู่ในตอนที่กำจัดศพหลิงเทียนด้วยซ้ำ!! ทว่าชายแปลกหน้าที่อยู่ตรงหน้าของมัน กลับพูดเรื่องราวที่ในโลกนี้สมควรมีแต่มันกับหลิงเทียนที่ตายไปเป็นสิบๆปีก่อนเท่านั้นที่รู้ออกมาได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน!! “ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้…” ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเรียบ “กะ…แก…แกรอดมาได้ยังไงกันแน่!?” ถึงตอนนี้ตู้เวยจะไม่อยากยอมรับความจริงมากแค่ไหน แต่มันก็จำต้องยอมรับความจริงที่มันยากยอมรับ! เพราะจากสิ่งที่ชายหนุ่มชุดม่วงพูดออกมาเป็นชุดๆเมื่อครู่ มันได้ยืนยันจนมั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์! คนตรงหน้าของมัน คือราชันทหารรับจ้างหลิงเทียนแน่นอน! “ข้าจะรอดมาได้ยังไงไม่ใช่ธุระกงการอะไรของแก…อย่างไรก็ตามข้าอยากรู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับโลกกันแน่ ทำไมโลกถึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขนาดนี้ได้ในเวลาแค่ไม่กี่สิบปี แถมอารยธรรมโลกทำไมอยู่ๆถึงก้าวหน้าไปนับร้อยๆปีจากเมื่อไม่กี่สิบปีก่อนได้?” ตอนนี้เมื่อตู้เวยอยู่ตรงหน้าแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไม่รีบร้อนฆ่ามันแต่อย่างใด เพราะอีกฝ่ายไม่มีวันหนีพ้นเงื้อมมือเขาแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นหากเขาฆ่าตู้เวยง่ายๆ เกรงว่าความแค้นที่มีกับตู้เวยในชีวิตที่แล้วคงอยากจะลบเลือน… ฆ่าตู้เวยให้ตายง่ายๆ ไหนเลยจะบรรเทาความแค้นในใจเขาได้! มีแต่ต้องให้ตู้เวยได้ลิ้มรสความสิ้นหวังถึงขีดสุด และฆ่าตู้เวยตอนที่จิตใจมันพังทลาย! ด้วยเหตุผลดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนจึงเปลี่ยนสีหน้าท่าที เจตนาฆ่าฟันใดๆไม่เผยออกมาแม้แต่น้อย ด้านตู้เวยที่ตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจเหมือนกัน ถึงตัวมันจะไม่รู้ว่าตอนนี้หลิงเทียนแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ไม่ต้องพูดถึงหลิงเทียนด้วยซ้ำ เพราะลำพังสตรีชุดดำข้างๆหลิงเทียนก็ไม่ใช่อะไรที่มันจะต่อกรได้แล้ว! “เรื่องนี้ว่าไปมันก็เกิดขึ้นหลังจากที่แกตายไปได้ไม่กี่ปี…” ด้วยความกลัวที่มีต่อสตรีชุดดำข้างกายหลิงเทียน ตู้เวยย่อมไม่กล้าละเลยคำถามของต้วนหลิงเทียน มันจึงเริ่มเล่าเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลก ในช่วงสามสิบกว่าปีที่ผ่านออกมาทันที ฟังเรื่องที่ตู้เวยเล่า ต้วนหลิงเทียนก็เลยได้รู้… ที่แท้หลังจากที่เขาถูกตู้เวยทรยศจนตาย บนโลกก็เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น! มียานอวกาศหนึ่งมาปรากฏขึ้นบนโลก และยัประกาศตัวว่าเป็นยานอวกาศที่มาจากดาวเคราะห์บางดวงในดาราจักรทางช้างเผือกอันมีระดับอารยธรรมเหนือกว่าโลก! ทั้งมนุษย์ต่างดาว ผู้ที่มากับยานอวกาศดังกล่าว ได้นำอารยธรรมระดับสูงที่ก้าวล้ำความรู้ความเข้าใจของโลกไปหลายร้อยปีมาเผยแพร่ และหลังจากที่เผยแพร่เทคโนโลยีล้ำยุคหมดสิ้นแล้ว มนุษย์ต่างดาวอันมาจากดาวที่มีอารยธรรมเหนือล้ำกว่าโลกคนนั้น ก็ขึ้นยานอวกาศจากไปอย่างไร้ร่องรอย ทำราวกับไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อน… หากไม่ใช่เพราะยังมีอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่บันทึกเทคโนโลยีจากอารยธรรมล้ำยุคที่ก้าวล้ำโลกไปหลายร้อยปีเป็นหลักฐานตั้งอยู่โทนโท่ บางที่คนบนโลกอาจจะคิดว่าทุกคนพร้อมใจกันฝันไปก็เป็นได้… และหลังจากนั้น ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคดังกล่าว อารยธรรมโลกก็ยกระดับขึ้นไปอย่างก้าวกระโดด วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประหนึ่งระเบิดขึ้นในฉับพลัน โลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และในช่วงผลัดเปลี่ยนยุคสมัยนี้ ก็มีคนที่ประสบความสำเร็จ ทั้งคนที่ต้องจบชีวิตไปอย่างสิ้นหวังมากมาย… อย่างไรก็ตาม โลกได้บังเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าคว่ำดินไปแล้วจริงๆ… ทุกคนยังเรียกช่วงเวลานี้ว่า ห้วงแห่งการนิพพาน… และตู้เวยนั้นก็เป็นคนหนึ่งที่สามารถฉกฉวยยุคสมัยได้สำเร็จ ด้วยตำรามวยจิตที่หลิงเทียนทิ้งไว้ให้ มันได้ทุ่มเทฝึกฝนตามคำชี้แนะอย่างสุดแรงใจ สุดท้ายมันก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นนักรบเหนือธรรมชาติระดับแนวหน้า… สุดท้ายยังก่อตั้งองค์กร หัตถ์มาร! “หัตถ์มาร? ไม่เพียงแต่จะเป็นองค์กรมหาอำนาจของโลก ยังเป็นองค์กรนักรบเหนือธรรมชาติที่น่ากลัวที่สุด แถมนอกจากจีนแล้วไม่ว่าประเทศมหาอำนาจไหนๆ ก็มีคนของหัตถ์มารชักใยอยู่เบื้องหลัง?” หลังได้ยินเรื่องราวดังกล่าวที่ตู้เวยเล่า ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ เพราะเขารู้ดีว่านี่หมายความว่าอะไร! นั่นหมายความว่านายหน้าในชีวิตที่แล้วของเขา ตอนนี้ได้ยืนอยู่ณจุดยอดของปิรามิด ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในห่วงโซ่อาหารของโลก! และแม้แต่ผู้นำของประเทศมหาอำนาจทั้งหลาย ยามพบเจอยังต้องก้มหัวให้… “นับว่าดิ้นรนได้ดีนี่…” ต้วนหลิงเทียนมองกล่าวกับตู้เวยพลางคลี่ยิ้มเย็นชา “ทั้งหมด…ต้องขอบคุณ ตำรามวยจิตที่แกทิ้งไว้ให้นั่นล่ะ” ได้ยินวาจาเสียดสีของต้วนหลิงเทียน ใจตู้เวยอดไม่ได้ที่จะฮึดฮัดขึ้นมาอยู่บ้าง แต่ขณะเดียวกันมันก็กัดฟันระงับอารมณ์ เพียงคลี่ยิ้มเย็นกล่าวประชดกลับ “หึ!” ตู้เวยไม่พุดถึงเรื่องนี้ก็แล้วไป แต่พอพูดขึ้นมาต้วนหลิงเทียนก็ยากจะระงับอารมณ์เอาไว้ได้! เขาเองก็สุดที่จะคิดคาดคำนวณได้จริงๆ… ว่าตำรามวยจิตที่เขาคัดลอกพร้อมคำชี้แนะให้ตู้เวยในอดีต หลังจากที่อีกฝ่ายทรยศหักหลังทั้งทำให้เขาพลาดไปติดกับดักจนต้องตายแล้ว มันจะกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้อีกฝ่ายก้าวสู่จุดสูงสุดของโลกได้แบบนี้ เขาย่อมจินตนาการออกได้ไม่ยาก หากเขาไม่ย้อนกลับมา โลกใบนี้สมควรตกอยู่ในกำมือตู้เวยแน่นอน… “ข้ายังอยากรู้เรื่องหนึ่ง…ทำไมตอนนั้นแกต้องหักหลังข้าด้วย?” หลังได้รับทราบเหตุผลที่ทำให้โลกบังเกิดความเปลี่ยนแปลงไปครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวถามเปลี่ยนหัวข้อ ขณะมองตู้เวยด้วยสายตาไม่แยแส ตอนแรกเขาเพียงเห็นตู้เวยเป็นเพื่อนเพราะอีกฝ่ายช่วยชีวิตเขา แต่ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้สุดท้ายหลังจากคบกันไปหลายปี เขาก็เห็นตู้เวยไม่ต่างอะไรจากพี่ชายแท้ๆ “หรือ…ในใจของแก หลิงเทียนคนนี้เป็นแค่เครื่องมือหาผลประโยชน์เท่านั้น?” ขณะกล่าวถามเรื่องนี้ น้ำเสียงต้วนหลิงเทียนก็เย็นลงถึงขีดสุด ด้านตู้เวยก็เงียบไปทันทีหลังได้ฟังคำถามดังกล่าว จังหวะนี้คนอย่างมันก็รู้ดีแก่ใจ ว่าจะกล่าวตอบโกหกออกไปเพื่อทำให้อีกฝ่ายพอใจก็ไร้ประโยชน์… เพราะสุดท้ายแล้วการที่มันทรยศหักหลังอีกฝ่ายแบบนั้น ก็บ่งบอกถึงเรื่องที่มันไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเป็นเพื่อนจริงๆ นับประสาอะไรกับพี่น้อง! “ดูเหมือนแกจะยอมรับมันแต่โดยดี” เมื่อเห็นตู้เวยเงียบไปไม่พูดจา แววตาต้วนหลิงเทียนก็ฉายประกายเยียบเย็นออกมาอีกครั้ง กระทั่งทั่วร่างยังปะทุจิตสังหารอำมหิตออกมาอย่างน่ากลัว! เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันมืดดำ ร่างตู้เวยก็สั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัวทันที “ตอนแรกข้าตั้งใจว่าจะค่อยๆทรมานเจ้าให้ตายอย่างช้าๆ ให้เจ้าได้ตายไปพร้อมกับความสิ้นหวัง!” สำเนียงกล่าวคำต้วนหลิงเทียนพลันเปลี่ยนไป แถมคำพูดด้วยเสียงเรียบเย็นยังอำมหิตชวนให้หนาวยะเยือกนัก “แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว…” “แกข้าฆ่าไม่ได้!!” ทว่าก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะทันได้กล่าวอะไรมากกว่านี้ ตู้เวยพลันกล่าวออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแสยะ “หลิงเทียนถึงข้าไม่รู้ว่าทำไมแกถึงยังมีชีวิตอยู่ แถมไม่เพียงแต่รูปร่างหน้าตาจะเปลี่ยนไป แต่ข้างกายยังมีผู้หญิงที่มีความแข็งแกร่งที่น่าจะเหนือกว่าข้า…” “แต่จะบอกอะไรให้แกรู้ไว้อย่าง…ต่อให้แกกับผู้หญิงชุดดำคนนี้จะร้ายกาจแค่ไหน ก็ไม่มีทางฆ่าข้าได้!!” “ถึงข้า ตู้เวย จะอ่อนแอกว่า…แต่ข้าตู้เวยมีโลกทั้งใบอยู่ในกำมือ! และไม่ใช่อะไรที่พวกแกทั้งคู่จะเทียบได้!!” ในขณะที่กล่าววาจาประโยคนี้ออกมา ตู้เวยชักสีหน้ามั่นใจถึงขีดสุด “วันนี้หากพวกแกกล้าฆ่าข้า…อีก 1 เดือนต่อมาคนในองค์กรข้าจะจุดชนวนระเบิดนิวเคลียที่ องค์กรหัตถ์มารของข้าได้ซ่อนไว้ทั่วทุกมุมโลก! ถึงตอนนั้นโลกทั้งใบจะต้องล่มล่มจมไปกับข้าตู้เวยคนนี้ด้วย!!” “เดิมทีข้าคิดว่า ‘ไพ่ตาย’ ใบนี้ ข้าจะได้ใช้กับไอ้พวกมนุษย์ต่างดาวที่มาจากดวงดาวที่มีอารยธรรมล้ำหน้าโลกไปหลายร้อยปีในทางช้างเผือก ที่อาจจะย้อนกลับมาโลกนี้ได้ทุกเวลาเสียอีก…” “แต่ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะต้องเอามาใช้กับพวกแกก่อน!”
คอมเม้นต์