War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2472
ตอนที่ 2,472 : แขกที่ไม่ได้รับเชิญ “วังเซียนหยวน?” “ตาแก่นั่น…มันบอกว่ามาจากวังเซียนหยวนงั้นรึ?” “วังเซียนหยวน…นั่นเป็นขุมพลังลึกลับที่โดดเด่นที่สุดขุมหนึ่งในระนาบเหยียนหวงของพวกเรา แม้จะไม่ค่อยมีผู้คนรู้จักวังเซียนหยวนเท่าไหร่ แต่กระทั่งฮัวกั่วซานกับหุบซือถัวอันเป็นขุมพลังชั้นนำในระนาบเหยียนหวงของพวกเรายังไม่กล้าล่วงเกินด้วยซ้ำ” … หลังพวกเซียนหยวนจื่อทั้ง 3 จากไป เหล่าเซียนอมตะเสเพลที่มาจากระนาบเหยียนหวงอดไม่ได้ที่จะกระซิบคุยกัน แน่นอนว่าพวกมันไม่ค่อยมีใครรู้จักวังเซียนหยวนละเอียดนัก พวกมันแค่รู้ว่าวังเซียนหยวนเป็นขุมพลังเร้นลับหนึ่งที่ค่อนข้างทรงพลังในระนาบเหยียนหวง…เรียกว่ากำลังรบไม่ได้ด้อยไปกว่าขุมพลังระดับแนวหน้าของระนาบเหยียนหวงเลย “จางยี่ ทุกคนไปกันไกลแล้ว…เจ้ายังเหม่อคิดอะไรอยู่?” หลังจากที่พวกเซียนหยวนจื่อทั้ง 3 จากไปจนลับตาเรียบร้อย แต่จางยี่คล้ายยังเหม่อมองอยู่ หานเฉวี่ยไน่จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกมาด้วยสงสัย พอได้ยิน จางยี่ก็ดึงสติกลับมาพร้อมยกยิ้มเอ้อระเหย “ข้าเพียงรู้สึกตื่นเต้นเท่านั้น ด้วยไม่คิดเลยว่าข้าจะได้พบเจอบุคคลที่ร่ำลือกัน…กล่าวไปยังน่าเหลือเชื่อนักที่เซียนหยวนจื่อแห่งวังเซียนหยวนจะยังอยู่ และไม่ได้ขึ้นไปยังระนาบเทวโลกแบบนี้…” “เซียนหยวนจื่อ? ตาแก่นั่นน่ะเหรอ…ทำไม? มันร้ายกาจมากรึ?” พอกล่าวถามประโยคนี้ออกมา หานเฉวี่ยไน่ก็ไม่ลืมนินทาออกมา “แต่มันนับว่าฉลาดไม่เบา รู้จักเข้ามาตี้ซี้กับพี่ใหญ่หลิงเทียนด้วย นับว่าตาแก่นั่นมันอยู่เป็น!” ถึงแม้ว่าหานเฉวี่ยไน่เองก็รู้สึกว่าชายชราเมื่อครู่ไม่น่าจะธรรมดา แต่นางก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นถึง เซียนอมตะเสเพล 9ทัณฑ์! นางคิดว่าชายชราก็แค่เซียนอมตะเสเพล 7ทัณฑ์หรืออย่างดีก็แค่เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์เท่านั้น! “ย่อมร้ายกาจ!” ได้ยินหานเฉวี่ยไน่ถาม จางยี่ก็รีบกล่าวตอบออกมาทันที “เซียนหยวนจื่อผู้นั้นเป็น 1 ใน 2 เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่ร้ายกาจที่สุดในวังเซียนหยวนอันเป็นขุมพลังเร้นลับในระนาบเหยียนหวงของเรา…เจ้าคิดว่ามันร้ายกาจมากไหมเล่า?” “หา! เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!?” หานเฉวี่ยไน่พอได้ยินก็หวาดกลัวไม่หายอยู่พักหนึ่ง ค่อยเอ่ยถามว่า “จางยี่…นี่เจ้าไม่ได้หลอกข้าอยู่แน่นะ! ตาแก่ที่วิ่งเข้ามาตีซี้พี่ใหญ่หลิงเทียนก่อนนั่นมันเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เลยเหรอ!?” หานเฉวี่ยไน่ย่อมรู้ดีว่าตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์หมายถึงอะไร นั่นคือตัวตนสูงสุดในระนาบโลกียะ! ทว่าชายชราแลดูดาษๆไม่โดดเด่นผู้นั้น กลับเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!? “ข้าจะไปหลอกเจ้าทำอะไรเล่า…เจ้าหรูหรือไม่ว่า ‘เสวียนอวิ๋นเจินเหริน’ เป็นผู้ใดในสำนักเทียนซือของข้า? นั่นคือตัวตนที่ทุกคนในสำนักเทียนซือต้องเรียกหาว่าท่านบรรพบุรุษ!” กล่าวถึงตรงนี้สีหน้าจางยี่ก็เคร่งขรึมนัก “ตาแก่นั่น..เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์จริงๆ?” หานเฉวี่ยไน่ยังรู้สึกว่าเหลือเชื่ออยู่บ้าง “แล้วไฉนเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ถึงได้แลดูว่าง่ายนักเล่ายามอยู่ต่อหน้าพี่ใหญ่หลิงเทียน…ยังถึงขั้นมาตี้ซี้กับพี่ใหญ่หลิงเทียนแบบนี้อีก! เรื่องแบบนี้…” “เหอะๆ จะแปลกอะไร ในสายตาคนอื่น ตอนนี้น้องหลิงเทียนก็ไม่ต่างอะไรจากเซียนอมตะเสเพล 9ทัณฑ์คนหนึ่ง ด้วยพลังฝีมือน้องหลิงเทียน ย่อมทำให้เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั้งหลายเกรงใจ!” จางยี่กล่าว “ไม่ต้องอะไรมาก เอาแค่เรื่องที่ก่อนหน้าน้องหลิงเทียนเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 ของระนาบโหมหลัว ก็มากพอแล้วที่จะบอกให้รู้ว่าน้องหลิงเทียนแข็งแกร่งไม่ต่างอะไรไปจากเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ มากพอที่ทุกคนในแดนลับต่างสวรรค์ต้องกริ่งเกรง!” “เมื่อผู้คนทั้งแดนลับต่างสวรรค์กริ่งเกรง ชื่อเสียงย่อมขจรขจายไปทั้ง 5 ระนาบโลกียะ…” “ถึงตอนนั้นผู้คนของ 4 มหาระนาบโลกียะ รวมถึงระนาบเหยียนหวงข้า ย่อมรับรู้ได้ว่าในแดนลับต่างสวรรค์ครานี้มีอัจฉริยะที่ไม่แม้แต่จะสืบทอดมรดกต้าหลัวจินเซียนด้วยซ้ำ แต่กลับร้ายกาจไม่ต่างเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์แล้ว!” ต้องกล่าวเลยว่าจางยี่เข้าใจเรื่องพวกนี้ดี มันยังเชื่ออีกว่า การเปิดออกครั้งนี้ของแดนลับต่างสวรรค์ นามต้วนหลิงเทียนจะกวาดผ่านไปทั่วมหาระนาบโลกียะทั้ง 4 ดุจเดียวกับฟงชิงหยางของระนาบเซียนในกาลก่อน “ใช่แล้ว จะอย่างไรพี่ใหญ่หลิงเทียนก็ฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่มียอดสมบัติสวรรค์ได้…ยิ่งไปกว่านั้นเจ้านั่นยังเป็นเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1ในระนาบโหมหลัวอีก เท่านี้ก็มากพอจะบอกว่าพี่ใหญ่ร้ายกาจทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์แล้วจริงๆ!!” หลังจางยี่กล่าวจบคำไม่นาน หานเฉวี่ยไน่จึงค่อยรู้สึกตัว สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกล่าวออกมา “ทุกครั้งที่พี่ใหญ่หลิงเทียนเผยพลังสูงส่งข้าต้องตะลึงทุกรอบ…ถึงกับลืมนึกไปว่าเมื่อครู่ การลงมือของพี่ใหญ่มันร้ายกาจขนาดไหน…” หานเฉวี่ยไน่คุยกับจางยี่อย่างสนุกสนาน ส่วนอีกด้าน เฟิ่งเทียนหวู่ ก่านหรูเยี่ยน และมู่อีอี ก็งุนงงขณะได้ยินวาจาของทั้งคู่ไม่น้อย ฆ่าเซียนนอมตมะเสเพล 8 ทัณฑ์? นอกจากนั้นยังเป็นเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่มียอดสมบัติสวรรค์!? เป็นเพราะทั้งหมดพึ่งกลับออกมาด้านนอก จึงยังไม่ทันรู้เรื่องราวอะไร จนเมื่อหานเฉวี่ยไน่กับจางยี่คุยกันจึงได้รู้… ที่แท้ก่อนที่พวกนางจะออกมากลับมีการปะทะครั้งใหญ่เกิดขึ้น! ฝ่ายหนึ่งยังเป็นต้วนหลิงเทียนที่ทุกคนคุ้นเคย สำหรับอีกฝ่ายกลับเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 ในระนาบโหมหลัวอันเป็นมหาระนาบโลกียะ! กระทั่งยังถือครองยอดสมบัติสวรรค์ในมือ! เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่มียอดสมบัติสวรรค์ หมายความว่าพลังย่อมเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั่วไป ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่อีกฝ่ายเป็นดันดับ 1 ในด่านพลังของระนาบโหมหลัวด้วยซ้ำ… ตัวตนแบบนี้ยามใช้ยอดสมบัติสวรรค์ เผลอๆเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั่วไปที่ไร้ยอดสมบัติสวรรค์จะพ่ายแพ้เอา! ทว่าตัวตนแบนั้นกลับตกตายด้วยน้ำมือต้วนหลิงเทียน! เรื่องนี้จะไม่ให้พวกนางตกใจได้อย่างไรไหว? “พี่ใหญ่ต้วน แข็งแกร่งถึงขนาดนี้เลยหรือ!?” หน้างามของเฟิ่งเทียนหวู่เต็มไปด้วยความตกใจ สีหน้ามู่อีอีกับก่านหรูเยี่ยนเองก็ไม่ต่างกัน หากจะกล่าวว่าในบรรดาสตรีที่พึ่งออกจากมรดกสถานต้าหลัวจินเซียน ใครที่ยังคงสงบสติอารมณ์อยู่ได้ เห็นทีจะมีแต่เค่อเอ๋อเพียคนเดียวเท่านั้น! สำหรับเค่อเอ๋อแล้ว… บุรุษของนางจะประสบความสำเร็จมากมายเพียงใด ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอีกต่อไป! “หืม?” ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังจะทักเค่อเอ๋อและคนอื่นๆ เพื่อชวนกันออกจากที่นี่ “ร้ายกาจ! ช่างร้ายกาจนัก!!” “ตาแก่นั่นแค่พลิกฝ่ามือก็ถึงกับฆ่า เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ทั้ง 2 นั่นได้!” …. เสียงอันเต็มไปด้วยความตกใจแว่ววดังมาแต่ไกล มีหลายคนกำลังคุยกันอย่างแตกตื่นขณะเหินร่างเข้ามา ต้วนหลิงเทียนที่เงี่ยหูฟังเรื่องราวสักพักจึงได้ทราบว่า ที่แท้หลังจากพวกซูหลี่ เซียนหยวนจื่อและเริ่นหยวนเจี๋ยจากไป ก็มีผู้ที่ลอบสะกดรอยตามทั้ง 3 ไปด้วยหมายฉกชิงยอดสมบัติรวมถึงสมบัติอื่นๆที่ซูหลี่ได้รับมาจากมรดกสถานต้าหลัวจินเซียน! และสาเหตุที่ไฉนก่อนหน้าไม่มีใครลงมือที่นี่แต่แรก เพราะต่างเห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างต้วนหลิงเทียนกับซูหลี่ไม่ธรรมดา ทั้งหลายจึงกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะสอดมือเข้ามาช่วยเหลือ! เพราะอย่างไรตอนนี้พลังของต้วนหลิงเทียนที่เทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป! เซียนอมตะเสเพลมากมายเห็นฉากเข่นฆ่ายอดฝีมือเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 แห่งระนาบโหมหลัวชัดเจน ยังเป็นการลงมือฆ่าอย่างอุกอาจ ช่วงชิงยอดสมบัติสวรรค์ในมืออีกฝ่ายมาด้วย! จึงไม่มีใครคิดตอแยต้วนหลิงเทียน!! ‘ตอนซูหลี่อยู่ที่นี่พวกมันไม่กล้าลงมือเพราะกลัวข้า…แต่หลังซูหลี่จากไปพวกมันจึงค่อยพบพานโอกาสฆ่าชิงทรัพย์ จึงลอบสะกดรอยตามไปลงมือ?’ หลังได้รับทราบเรื่องราวต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวไปมา เขารู้สึกว่าคนที่โลภในทรัพย์ของซูหลี่ช่างโง่เขลานัก! ต้องรู้ด้วยว่าข้างกายซูหล่ยังมีเซียนอมตะเสเพล 9ทัณฑ์อยู่อีกคน! แต่เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ว่าทั้งหมดล้วนเป็นเพราะผู้โง่เขลาเหล่านั้นไม่รู้จักเซียนหยวนจื่อข้างๆซูหลี่… ไม่งั้นพวกมันคงไม่ลอบตามไปลงมือกับซูหลี่อย่างโง่งมหรอก… “อาศัยเพียงพลิกฝ่ามือก็เข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8ทัณฑ์ได้ถึง 2 เลยรึ! เรื่องแบบนี้เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 ที่โดนต้วนหลิงเทียนฆ่าไปยังมิน่าจะทำได้ใช่หรือไม่?” “ต้องดูก่อนหากเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ 2 คนที่ตายไปไร้ยอดสมบัติสวรรค์…เซียนอมตะเสเพล 8ทัณฑ์อันดับ 1 ของระนาบโหมหลัวก็น่าจะสามารถฆ่าพวกมันทั้งคู่ได้ง่ายๆเช่นกัน” “ข้าเกรงว่าเรื่องราวที่เกิดคงมีคนรู้ไม่เยอะหรอก…” … หลังผู้คนที่อยู่ที่นี่ได้รับทราบว่ามีคนลอบสะกดรอยไปลงมือกับซูหลี่ และสุดท้ายผลเป็นอย่างไร พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้าผู้ที่พึ่งกลับมาพลางกล่าวถามด้วยความแตกตื่น เป็นธรรมดาว่ามีหลายคนที่คิดปล้นซูหลี่ แค่พวกมันยังไม่ทันได้ลงมือเท่านั้น ทั้งหมดเพราะหวาดกลัวชายชราข้างกายซูหลี่ “เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่ตายตกไปทั้ง 2 ไม่มียอดสมบัติสวรรค์…แต่ชายชรานั่นก็ใช้มือเปล่าเข่นฆ่าพวกมันเช่นกัน!” “ใช่! ทุกคนล้วนไม่ได้ใช้ยอดสมบัติสวรรค์!” … หลังจากนั้นกลุ่มคนที่พึ่งกลับมาก็เริ่มเผยข้อมูลที่ได้เจอ “ไร้ยอดสมบัติสวรรค์?” ทันใดนั้นทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง “เช่นนั้นก็เป็นไปได้อย่างเดียว…ชายชราผู้นั้น เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!” ไม่นานก็มีคนเอ่ยขึ้น “เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์” ทันใดนั้นหลายคนอดไม่ได้ที่จะตกใจ หน้ายังเปลี่ยนสีไปทันที “ฮึ่ม!” ทว่าทันใดนั้นเองพลันมีเสียงสบถพ่นลมหนึ่งดังขึ้นมาแต่ไกล เข้าหูทุกคนชัดเจน จากนั้นไม่นานทุกสายตาก็หันไปมองต้นเสียง จึงพบร่างสูงใหญ่แลดูทรงพลังหนึ่งเหินข้ามฟ้ามาแต่ไกล และพริบตาร่างดังกล่าวก็ปรากฏกายเบื้องหน้าด้วยท่าทางน่าเกรงขาม! เพียงลอยอยู่เฉยๆ ก็ดั่งหอคอยเหล็กตั้งตระหง่าน! “หากผู้ชรานั่นมิใช่เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์…พวกเจ้าคิดว่ามันจะกล้าทำตัวเป็นกันเองต่อหน้าต้วนหลิงเทียน กระทั่งกล่าวคำอย่างเท่าเทียมหรือไร?” อาคันตุกะแปลกหน้าผู้มาใหม่คนนี้เป็นชายวัยกลางคน เสียงยามกล่าวช่างดังประหนึ่งฟ้าร้องนัก ขณะเดียวกันสองตาแหลมคมปานพยัคฆ์ก็มองจ้องมาทางต้วนหลิงเทียนไม่วางตา ในแววตาเผยให้เห็นเพลิงแห่งความโลภแสนร้อนแรงออกชัด ราวกับจะพุ่งยิงลำแสงความร้อนออกมาอยู่รอมร่อ!
คอมเม้นต์