War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2385
ตอนที่ 2,385 : สองข่าวร้าย! “ไม่คิดเลย ข้าไม่คิดเลยจริงๆ…ก่อนหน้าพอข้าได้รับทราบเรื่องที่มีเซียนอมตะเสเพลดำรงอยู่ในโลก ข้ายังคิดว่าในเผ่ามังกรของพวกเราอาจจะมีเซียนอมตะเสเพลอยู่ด้วย แต่ไมคิดเลยว่าจะมีเซียนอมตะเสเพลอยู่จริงๆ!” “ใช่! แถมยังเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์!” “อย่างไรก็ตามพอได้รู้เรื่องนี้ ข้ากลับไม่ดีใจแม้แต่น้อยที่เผ่ามังกรเรามีเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์…” “นั่นสิ เซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ของเผ่ามังกรเรากลับถูกผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้บีบคั้นจนต้องคุกเข่าโขกหัวขอความเมตตา…พวกเราเผ่ามังกรไหนเลยไม่มีโมโหได้ ยังมารู้สึกยินดีอะไร!?” … ท่ามกลางสมาชิกเผ่ามังกร ก็พากันจ้อถึงเรื่องนี้ไม่น้อย ต่างพากันประหลาดใจนักที่ได้รู้ว่าในเผ่ามังกรของพวกมันมีเซียนอมตะเสเพลดำรงอยู่ด้วย และเดือดดาลเรื่องที่ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้อย่างต้วนหลิงเทียนบีบคั้นให้เซียนอมตะเสเพลของเผ่ามังกรพวกมันคุกเข่าโขกหัวนัก! สาเหตุที่คนเผ่ามังกรเหล่านี้ไม่ล่วงรู้ว่าในเผ่ามังกรมีเซียนอมตะเสเพลดำรงอยู่นั้น… เพราะในเผ่ามังกรของภูมิภาคเบื้องบน ได้แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายนั่นคือฝ่ายนอกกับฝ่ายใน ฝ่ายในนั้นมีแต่ตัวตนเผ่ามังกรที่บรรลุถึงขอบเขตเซียนอมตะเสเพลเท่านั้น สำหรับฝ่ายนอกแล้วก็มีเพียงอาวุโสระดับสูงไม่กี่คนที่ล่วงรู้ว่าในเผ่ามังกรมีเซียนอมตะเสเพลดำรงอยู่ กระทั่งยังมีมากมายนัก อย่างไรก็ตามพวกมันก็ไม่ได้รู้เลย ว่าเซียนอมตะเสเพลของเผ่ามังกรนั้น ยังถูกแบ่งออกได้อีก 2 ประเภท หนึ่งก็คือเซียนอมตะเสเพลของเผ่ามังกรเอง ส่วนอีกประเภทก็คือเซียนอมตะเสเพลของ 3 ลัทธิใหญ่ที่ถูกจับมากักกันไว้ในเผ่ามังกร! ถิ่นฐานของเผ่ามังกรนั้น ได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน หนึ่งคือส่วนที่เปิดเผยต่อสาธารณะชน ส่วนที่สองก็คือส่วนของเซียนอมตะเสเพลของเผ่ามังกร ส่วนสุดท้ายก็คือส่วนที่ไว้กักกันเซียนอมตะเสเพลจาก 3 ลัทธิใหญ่! นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นได้ประการหนึ่ง ฝ่ายในของเผ่ามังกรนั้นย่อมมีมังกรที่เป็นผู้นำของเหล่าเซียนอมตะเสเพลของเผ่ามังกรเช่นกัน ในสายตาของคนนอกผู้นำเผ่ามังกรก็มีแค่คนเดียว ทว่าในความเป็นจริงนั้น เผ่ามังกรกลับมีผู้นำ 2 คน! หนึ่งคือผู้นำเผ่ามังกรฝ่ายนอกที่พลังฝึกปรือมักอยู่ในขอบเขตเซวียนสวรรค์ ส่วนอีกหนึ่งคือผู้นำเผ่ามังกรฝ่ายในที่เป็นเซียนอมตะเสเพลอันร้ายกาจ และมีสถานะเป็นดั่งผู้นำที่แท้จริง…ประมุขเผ่ามังกร! โดยทั่วไปแล้ววผู้นำฝ่ายในของเผ่ามังกรอย่างตัวประมุข ประหนึ่งสัญลักษณ์ของพลังอันเข้มแข็งของเผ่ามังกรทุกรุ่นก็ว่าได้ และเป็นเช่นนี้มาโดยตลอดโดยไม่มีข้อยกเว้น ในโลกที่เคารพนับถือในตัวผู้เข้มแข็ง เผ่ามังกรก็ย่อมยึดถือกฏนี้เช่นกัน มีเพียงเซียนอมตะเสเพลของเผ่ามังกรที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น ถึงจะได้รับการยอมรับนับถือจากเหล่าเซียนอมตะเสเพลของเผ่ามังกร ให้เป็น ‘ผู้นำ’ ที่แท้จริงของเผ่ามังกร! “ตี้เฉิน…มันถึงกับกล้าคุกเข่าโขกหัวให้ต้วนหลิงเทียนเพื่อร้องขอชีวิต?” “งามหน้านัก! มันทำให้เกียรติภูมิของเผ่ามังกรเราย่อยยับหมดแล้ว!!” “สารเลวนั่น ไม่มีศักดิ์ศรีแม้แต่น้อย!!” … เมื่อข่าวลือดังกล่าวแพร่มาถึงเผ่ามังกร ไม่เพียงฝ่ายนอกของเผ่ามังกรจะปั่นป่วน กระทั่งฝ่ายในของเผ่ามังกรยังไม่มีใครนั่งเฉยอยู่ได้! เรียกว่าหลังเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายของเผ่ามังกรฝ่ายในได้รับทราบการกระทำไร้ศักดิ์ศรีของตี้เฉิน ทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะมีโทสะและบังเกิดความไม่พอใจอย่างถึงที่สุด อดก่นด่าสาปแช่งตี้เฉินกันอย่างดูแคลนไม่ได้! “หากตี้เฉินนั่นมันตายๆไปเสียยังจะดีกว่า! เพราะอย่างน้อยมันก็รักษาชื่อเสียงเอาไว้ได้…แต่นี่มันกลับขี้ขลาดกลัวตาย! หลังจากนี้ต่อให้มันตายชื่อเสียเหม็นเน่าของมันยังจะฉาวโฉ่ไปอีกพันหมื่นปี!!” “ตี้เฉินนั่นเสียทีที่เป็นสายเลือดราชวงศ์และเป็นมังกรเทพยดาสีทอง 7 กรงเล็บยิ่งนัก…คราวนี้มันไม่เพียงทำตัวเองเสียชื่อ มันยังทำให้เผ่ามังกรทั้งเผ่าของพวกเราเสื่อมเสีย!!” “หากข้าเป็นมันป่านนี้ข้าฆ่าตัวตายไปแล้ว ยังจะมีหน้ากลับมาเผ่ามังกรเราที่ไหน!” “ชู่ว…พวกเจ้าเบาหน่อยเถอะ! หากอาวุโสสูงสุดมาได้ยินวาจาของพวกเจ้าเดี๋ยวก็ได้งานเข้ากันหมดหรอก…” …… เมื่อมีสหายกล่าวเตือน เหล่าเซียนอมตะเสเพลของเผ่ามังกรก็ได้แต่กระซิบกระซาบบ้างก็ส่งเสียงผ่านพลังคุยกันแทน เพราะอย่างไรบิดาตี้เฉินก็คือผู้อาวุโสสูงสุด! ในเผ่ามังกรของพวกมันมีอาวุโสสูงสุดแค่ 3 คนเท่านั้น นอกเหนือจากผู้นำเผ่ามังกรแล้ว ที่มีอำนาจสูงสุดก็คืออาวุโสสูงสุดทั้ง 3 เรียกว่าในฝ่ายในของเผ่ามังกร อาวุโสสูงสุดล้วนเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงนัก ถึงขั้นที่สามารถฆ่าเซียนนอมตะเสเพลคนไหนก็ได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรายงานให้ผู้นำฟัง… เช่นนั้นพอตระหนักได้ว่าบิดาตี้เฉินอย่างไรก็เป็น 1ในอาวุโสสูงสุดที่ว่า พวกมันจะไม่ระวังได้อย่างไรไหว… ภายในถิ่นฐานเผ่ามังกร ภายในหุบเขาแห่งหนึ่งอันเต็มไปด้วยมวลหมู่บุปผาและฝูงสกุณา ปรากฏลานกว้างแห่งหนึ่ง… และสถานที่แห่งนี้ก็คือที่อยู่อาศัยของมังกรเทพยดาสีทอง 7 กรงเล็บ ตี้เฉิน ภายในห้องพักของอาคารหลังใหญ่ ปรากฏร่างหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงในห้องนอน ส่วนอีกคนกำลังยืนมองร่างที่นั่งขัดสมาธิบนเตียงด้วยสีหน้าเศราหมองไม่ทราบคิดอะไรอยู่ ผู้ที่นั่งขัดสมาธิบนเตียงก็คือตี้เฉิน สำหรับผู้ที่ยืนมองอยู่ข้างเตียงนั้นรูปลักษณ์ของมันเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างแข็งแรง หว่างคิ้วละม้ายคล้ายเหมือนตี้เฉินกว่า 6 ถึง 7 ส่วน โดยเฉพาะเค้าโครงใบหน้าของมันแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกับของตี้เฉินก็ว่าได้ หากมีคนอื่นๆในเผ่ามังกรมาอยู่ที่นี่คงจดจำมันได้ทันที ชายวัยกลางคนผู้นี้ก็คืออาวุโสสูงสุดของเผ่ามังกร ตี้ฮ่วน! ยังเป็นบิดาของตี้เฉิน “ท่านพ่อ ข้าทำไม่ได้…ข้าไม่มีทางทำได้เลย…” ทันใดนั้นร่างที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงเบื้องหน้าตี้ฮ่วนก็ลืมตาตื่นขึ้นมา มันไม่ใช่ใครอื่นเป็นตี้เฉินเองและตอนนี้สีหน้าของมันยังซีดลงอย่างหนัก หลังลืมตาแล้วมันก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ค่อยกล่าวออกด้วยน้ำเสียงท้อแท้ “มารในใจครานี้…ข้าไม่อาจขจัดมันทิ้งได้จริงๆ!” “คงมีเพียงให้ข้าเห็นว่าต้วนหลิงเทียนมันตายตกเท่านั้น…ข้าจึงจะขจัดมารในใจนี้ไปได้!” เสียงกล่าวตี้เฉินดังขึ้นอีกครั้ง ขณะกล่าวคราวนี้สองตายังเผยประกายดุร้ายเยียบเย็น “ต้วนหลิงเทียน!” ได้ยินคำของตี้เฉิน แววตาของตี้ฮ่วนก็ฉายเจตนาฆ่าฟันออกมาให้เห็นเด่นชัด ทั่วร่างยังปรากฏแรงกดดันพลังอันน่ากลัวเริ่มแผ่ซ่านออกมา จนทำให้ข้าวของในห้องหับสั่นไหวสะเทือน “ท่านพ่อ ท่านต้องฆ่ามันให้ข้า! ข้าอยากให้มันตาย!ข้าอยากให้มันตาย!!” ตี้เฉินมองตี้ฮ่ววนพลางกล่าวออกด้วยน้ำเสียงอาฆาต ตอนนี้นอกจากความอาฆาตแล้วก็มีแต่ความปราถนาอันล้นปรี่! ในสายตาของมัน หากต้วนหลิงเทียนไม่ตกตาย มันไม่มีวันขจัดมารในใจนี้ออกไปได้เลย! ลูกตาตี้ฮ่วนกระพริบสองสามครั้ง ค่อยกล่าวออกมาด้วยความลังเลว่า “เฉินเอ๋อ พ่อรู้ว่าเจ้าแทบทนรอฆ่าต้วนหลิงเทียนทั้งเผาร่างมันให้กลายเป็นขี้เถ้าไม่ไหวแล้ว…แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่านประมุขเผ่าได้ขอให้ผู้อาวุโสอ้านไปตรวจสอบดูว่าต้วนหลิงเทียนใช่นักรบมังกร 9 กรงเล็บจริงหรือไม่…” “พ่อเองก็อยากฆ่ามันเพื่อขจัดมารในใจให้เจ้า! แต่หากพ่อลงมืออย่างบุ่มบ่ามเกรงว่าท่านประมุข…” ตี้ฮ่วนกล่าวถึงจุดนี้ก็เงียบไปไม่พูดต่อ เพราะมันรู้ว่าลูกชายของตัวย่อมเข้าใจดีว่ามันจะสื่ออะไร “ท่านพ่อ” พอได้ยินคำของตี้ฮ่วน ตี้เฉินก็ฉายชัดถึงความกังวล “ครึ่งปี…ข้าเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งปีเท่านั้น! หลังจากผ่านไปครึ่งปี หายนะเซียนอมตะเสเพลของข้าจักมาถึง หากถึงวันนั้นข้ายังมิอาจขจัดมารในใจนี้ไปได้ ข้าต้องตายแน่นอน! ข้าต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน!!” “หรือ…ท่านพ่อคิดยืนมองข้าตกตายในหายนะเซียนอมตะเสเพลครานี้เพราะมิอาจขจัดมารในใจได้?” ใบหน้าตี้เฉินตอนนี้ฉายชดถึงความไม่ยินยอมพร้อมใจ ในแววตายังทอประกายดุร้ายหนึ่งกล่าวต่อว่า “สำหรับเรื่องที่ท่านประมุขให้ไปตรวจสอบนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังมิมีหลักฐานแน่ชัดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บจริงๆ…แต่ไม่ว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่ เพียงท่านพ่อฆ่ามันและทำลายศพเสีย!คราวนี้ถึงแม้ท่านประมุขจะล่วงรู้ในภายหลังแต่ก็มิอาจเอาผิดท่านได้เพราะไร้หลักฐาน!!” “ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังมีเหตุผลในฆ่ามันได้อย่างชอบธรรม! ท่านประมุขย่อมไม่มีเหตุผลที่จะหยุดท่าน!!” ตี้เฉินกล่าวต่อ หลังได้ยินคำของตี้เฉิน สองตาตี้ฮ่วนก็ทอประกายเรืองวาบประหนึ่งดารากลางฟ้ายามราตรีกาล ถูกแล้ว! ลูกมันพูดถูก! ตอนนี้ประมุขเผ่าของพวกมันยังไร้หลักฐานยืนยันแน่ชัด ว่าต้วนหลิงเทียนเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บจริงหรือไม่! หากมันชิงฆ่าอีกฝ่ายก่อนแล้วทำลายศพให้เรียบร้อย แม้ประมุขเผ่าจะมารู้ภายหลังแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะลงมือกับมัน อีกทั้งมันยังลงมือเพื่อล้างแค้นให้ลูกชายอย่างชอบธรรม! “ผู้มีพลังอำนาจจะอย่างไรก็มีอิทธิพลต่อผู้อื่นนัก…” ตอนนี้ตี้ฮ่วนยังตระหนักได้ว่าสาเหตุที่ทำให้มันลังเลทั้งหมดเป็นเพราะคำสั่งที่ให้ไปตรวจสอบของประมุข ยังส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของมันตลอดเวลา ถึงแม้ตัวมันจะเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ ยังเป็น 1 ในอาวุโสสูงสุดทั้ง 3 ของเผ่ามังกรและพลังฝีมือก็ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าอาวุโสสูงสุดอีก 2 เลย ทว่ามันยังไม่อาจนับเป็นตัวอะไรต่อหน้าประมุขเผ่ามังกร… หากประมุขเผ่ามังกรคิดฆ่ามัน ยังง่ายดายประหนึ่งเหยียบมด! ด้วยเหตุนี้จิตใต้สำนึกของมันจึงสั่งไว้ไม่ให้ต่อต้านและแข็งข้อประมุขตลอดเวลา… เพราะสุดท้ายแล้วการที่มันคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนแบบนี้ ย่อมไม่ต่างใดจากขัดต่อสิ่งที่ประมุขเผ่าสั่งว่าให้อาวุโสสูงสุดอีกคนไปตรวจสอบต้วนหลิงเทียนให้แน่ชัดก่อน… “เฉินเอ๋อพ่อจะออกจากเผ่ามังกรไปหาตัวต้วนหลิงเทียนนั่น เจอเมื่อไหร่พ่อจะฆ่ามันแล้วตัดหัวมันมาให้เจ้า!” ตี้ฮ่วนมองกล่าวกับตี้เฉินด้วยสายตาอ่อนโยนมากความรักความเอ็นดู “ท่านพ่อ!” ลูกตาตี้เฉินเปล่งแสงสว่างจ้าออกมาทันใด แต่ในขณะที่มันมีความสุขความยินดี มันก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวเตือนบิดาด้วยกังวล “ท่านพ่อ ตอนสู้กับข้าต้วนหลิงเทียนนั่นเพียงสำแดงพลังที่ทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์เท่านั้น! ซึ่งนั่นมิใช่อันใดสำหรับท่าน…แต่ข้ามิแน่ใจว่าพลังที่แท้จริงของมันจะสามารถเทียบเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ได้หรือไม่?” กล่าวถึงเรื่องนี้ทีท่าของตี้เฉินก็แลดูจริงจังนัก “พ่อเองก็คิดถึงเรื่องนี้ไว้แล้ว” ตี้ฮ่วนกล่าว “เช่นนั้นคราวนี้พ่อเลยคิดชวนอาโจวกับลุงฉินของเจ้าออกไปตามหาต้วนหลิงเทียนด้วยกัน! หามันเจอเมื่อไหร่พวกเราจะล้างแค้นให้เจ้าเอง!” “เว้นแต่ต้วนหลิงเทียนนั่นจักมีพลังทัดเทียมกับฟงชงหยางในปีนั้น…หาไม่แล้วมันต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!” “และหากมันคิดจะบรรลุถึงขอบเขตพลังฝีมือของฟงชิงหยางในปีนั้น ย่อมไม่ต่างใดจากฝันลมๆแล้งๆ!” “เจ้าเองก็สมควรรู้จากบันทึกลายลักษณ์อักษรที่ส่งต่อกันมาของบรรพบุรุษเผ่ามังกรของเรา สาเหตุที่ปีนั้นเซียนกระบี่ฟงชิงหยางมันร้ายกาจถึงขั้นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ได้ด้วยพลังฝึกปรือครึ่งก้าวเซียนอมตะ และพลังฝีมือของมันยังเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ทั้งหมดเพราะมันบังเอิญได้เข้าไปยัง ‘แดนลับ’ และพบพานโชควาสนาครั้งใหญ่!” ตี้ฮ่วนกล่าวออกมารวดเดียวจบ “ลุงฉิน?” ได้ยินคำของตี้ฮ่วน สองตาตี้เฉินก็ทอประกายสว่างจ้าขึ้นมาทันที! เพราะมันรู้ดีว่า ลุงฉินที่บิดามันกล่าวถึงนั้น ยังเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าบิดาของมันเสียอีก…เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์! “ฮ่าๆๆๆ…ต้วนหลิงเทียน หากเซียนอมตะเสเพล 8ทัณฑ์อย่างลุงฉินลงมือ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะยังไม่ตาย!!” ตี้เฉินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเป็นบ้าเป็นหลัง แลดูมีความสุขนัก … หนึ่งเดือนต่อมา ณ ยอดเขาไร้นามอันปกคลุมไปด้วยหิมะลูกหนึ่งในภาคเหนือ ฐานที่มั่นชั่วคราวของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ วันนี้คู่แฝดหนานกงผู้สืบทอด ‘คนคู่’ หานเฉวี่ยไน่ ผู้สืบทอด ‘ธุลีแดง’ ก็ได้กลับมาถึงแล้ว ความจริงนี่สมควรเป็นวันดี ที่ต้วนหลิงเทียนจะได้พร้อมหน้าพร้อมตากับสหายที่ไม่ได้เจอกันนาน… หากทว่าหานเฉวี่ยไน่กลับนำ 2 ข่าวร้ายมาบอกต่อเขา… “ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับ 3 จอมเผด็จการ กู่ลี่…กับผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับ 4 เงาทมิฬ เยว่อู๋หยิ่ง…” “ทั้งคู่ตกตายแล้ว!!”
คอมเม้นต์